The King's Speech เรียนภาษาอังกฤษกับหนังดัง


นานๆ ดิฉันจะเขียนเกี่ยวกับหนังที่ชอบและได้ความรู้ภาษาอังกฤษอีกด้วย

พึ่งได้ดูหนังที่ได้รับรางวัลออสการ์มาหมาดๆ ของปีนี้ คือ The King's Speech

เราลองมาดูเรื่องย่อของหนังเรื่องนี้และบางตอนของบทสนทนาด้วยกันเลยค่ะ

นำบางส่วนมาจาก http://www.imdb.com/title/tt1504320/plotsummary

Biopic about England's King George VI (father of present day Queen Elizabeth II) and his lifelong struggle to overcome his speech impediment. Suffering from a stammer from the age of 4 or 5, the young Prince Albert dreaded any public speaking engagement and history records that his speech at the closing of the 1925 Commonwealth exhibition in London was difficult for both him and everyone listening that day. He tried many different therapies over many years but it was only when he met Lionel Logue, a speech therapist, that he truly began to make progress. Logue did not have a medical degree but had worked as an elocution coach in the theater and had worked with shell-shocked soldiers after World War I. Through a variety of techniques - and much hard work - he learns to speak in such a way so as to make his impediment a minor problem and delivers a faultless speech heard around the world by radio when England declared war on Nazi Germany in 1939. The King and Logue remained lifelong friends.

Written by garykmcd

Biopic = Biographical Picture หนังอัตชีวประวัติ สร้างมาจากเรื่องจริงของชีวิตคน

speech impediment = ความผิดปกติทางการพูด ในที่นี้คือการพูดติดอ่าง stutter/stammer พูดติดๆขัดๆ หรืออกเสียงบางเสียงไม่ได้

The person with a stutter (or stammer) may also stop during speech and make no sound for certain syllables.

People who stutter often find that stress and fatigue make it harder for them to talk flowingly, as well as situations in which they become self-conscious about speaking, such as public speaking or teaching. Most people who stutter find that their problem eases if they are relaxed.

คนที่พูดติดอ่างนั้นมักจะพูดด้วยความยากลำบากและรู้สึกเหนื่อยเวลาพูด ไม่สามารถพูดอย่างลื่นไหลได้ มีปัญหาเมื่อรู้ว่าต้องพูดเป็นเรื่องเป็นราวเช่น การพูดต่อหน้าชุมชนหรือการสอน อย่างไรก็ตามปัญหาจะเบาบางลงหากอยู่ในสถานการณ์ที่ผ่อนคลาย

dreaded = กลัวสุดขีด ในที่นี้เจ้าชายอัลเบิรต์หรือต่อมาคือพระเจ้าจอร์จที่ 6 พระราชบิดาของสมเด็จพระราชินีอลิซาเบ็ธที่ 2 ทรงกลัวการพูดต่อหน้าชุมชนอย่างที่สุด 

 

speech therapist  นักบำบัดการพูด

elocution coach   โค้ชฝึกการพูด การออกเสียงเพื่อการแสดง หรือการพูดต่อหน้าชุมชน

shell-shocked soldiers  ทหารที่สูญเสียความสามารถในการพูดเนื่องจากผ่านความกลัว
                                อย่างมากในสงครามจนทำให้พูดผิดปกติ

delivers a speech      การพูดอย่างเป็นทางการ เป็นคำที่ใช้คู่กัน

                           deliver (
to express in words; declare or utter)

                          + a lecture or a speech 

declared war + on      การประกาศสงคราม

 

ลองดูคลิปวิดีโอตัวอย่างหนังข้างล่างนี้ แล้วเดี๋ยวเรามาดูว่าเราได้ยินประโยคอะไรบ้างนะคะ

 

 

QE: My husband...he's required to speak publicly.
L: Perhaps he should change jobs.
QE: And what if my husband were the King.

.....


L: What's your earliest memory. ไหนลองเล่าความทรงจำในวัยเด็ก
KG: I'm not here to discussed personal matters. ฉันไม่ได้มาพูดเรื่องส่วนตัวนะ
L: Why you are here then?  แล้วมาทำไม
KG: Because I'm a bloody stammer.  เพราะฉันติดอ่างน่ะสิ
L: Do you know any jokes?   แล้วเรื่องตลกล่ะ
KG: Timing isn't my strong suit.   ฉันกะเวลาไม่ดีเท่าไหร่น่ะ

....

QE: You method is unortodox and controversial.
      วิธีของคุณนั้นแปลกแหวกแนว

..Actually it's quite a good fun

KG: You are perculiar. นายนี่แปลกคน
L: I'll take that as a compliment. ผมจะถือว่าเป็นคำชมก็แล้วกัน

Churchill: The war with Germany will come, and we'll need a king for we could all stand behind. สงครามกับเยอรมันเข้ามาใกล้ทุกที เราต้องการผู้นำ


"Timing isn't my strong suit." 

ไลโอเนลถามว่าเจ้าชายรู้จักเรื่องตลกอะไรไหม เจ้าชายก็ใช้สำนวนนี้ตอบไปเชิงประชด เนื่องจากเคล็ดลับในการเล่าโจ๊กได้ต้องมีการเน้นเสียง หรือหยุดเว้นวรรคให้พอเหมาะ จึงจะเล่าแล้วขำ ลองคิดดู คนติดอ่างจะเล่าขำได้อย่างไร

not my strong suit คือไม่ถนัด ไม่สันทัด

 

มาถึงตอนที่เข้าซ้อมก่อนวันจริง ไลโอเนลกับเจ้าชายก็ปะทะคารมกันอีกยก ตอนที่ไลโอเนลไปนั่งบัลลังก์กษัตริย์

KG: I would be like mad King Gorge the stammer...
Get up. You can't sit there, get up!  ลุกขึ้นนะ นั่งเก้าอี้นี้ไม่ได้

L: Why not, it's just a chair.  ทำไมล่ะ ก็แค่เก้าอี้ตัวนึง

KG: That..it's said Edward's chair.  นี่มันเก้าอี้ของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดนะ

L: People haven't carved their names on it. ไม่มีใครสลักชื่อไว้นี่

KG: Listen to me, listen to me!  ฟังนะฟัง

L: Why should I waste my time listening to you.  ทำไมผมจะต้องเสียเวลาฟัง

KG: Because I have a voice!   เพราะฉันมีเสียงนะซิ (หมายถึงมีสิทธิ์ที่จะพูด)

L:....Yes, you do.   ใช่แล้ว พระองค์มี

เป็นการปลุกใจให้เจ้าชายเชื่อมั่นว่าตนเองจะกล่าวต่อหน้าฝูงชนได้ในพิธีสำคัญ

...Your greatest test, is yet to come.

E: What's he say?

KG: I don't know but he seems to be saying it rather well.

ฉากนี้เจ้าชายเห็นฮิตเลอร์พูดปลุกใจทหาร เป็นที่น่าเกรงขามอย่างยิ่ง
เจ้าหญิงอลิซาเบ็ธทรงถามว่าฮิตเลอร์พูดอะไร 
เจ้าชายบอกไม่รู้ แต่รู้ว่าพูดได้ดีทีเดียว  ...คิดดูว่าเจ้าชายจะกลัวขนาดไหน

หนังเรื่องนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ได้ฝึกฟังสำเนียงอังกฤษไปทั้งเรื่องด้วย

ได้รู้ว่าเรารักษาอาการพูดติดอ่างได้ จริงๆ แล้วเป็นเรื่องของสภาพจิตใจมากกว่าอวัยวะที่ใช้พูด ต้องมีความเห็นอกเห็นใจและใช้เวลา ยิ่งคนในครอบครัวไม่ควรล้อเลียนแต่ควรให้กำลังใจอย่างมาก

หนังดีมาก ไม่อยากเล่าละเอียด ต้องหามาดูเองนะคะ

ก่อนจะชมแนะไปอ่านประวัติศาสตร์เพิ่มสักนิด จะได้ความรู้โข

ที่นี่ค่ะ http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K10302503/K10302503.html

หมายเลขบันทึก: 432552เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2011 11:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

"Timing is not my strong suit."

รอเข้ามาอ่านต่อนะค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ เห็นทีต้องไปซื้อแผ่นมาเก็บไว้ดูเลยค่ะ

อาจารย์อ้อม ซื้อแผ่นมาเลยค่ะ แล้วย่อยสอนภาษาอังกฤษเป็นตอนๆดีไหมคะ ดิฉันชอบเรื่องนี้ค่ะ จะตามเรียนจากอาจารย์

สมัยเด็กมีปัญหาคล้ายกันครับ

คือ "กลัว" ความผิดพลาด

พอโตมาเริ่มทำงานก็ผิดพลาดครับ ในการสื่อสารกับชาวบ้านเค้า

แต่มีคติว่าไม่กล้าผิดพลาด ไม่ได้เรียนรู้

ตอนนี้เอาความผิดพลาดเป็นครู และพัฒนาตัวเองต่อไปครับ

ขอบคุณมากครับที่มีสาระดีๆ :)

เป็นคนชอบภาษาอังกฤษมากแต่ท่องจำแล้ว ไม่ได้ผล เลยลองเรียนจากหนังดู คิดว่าคงไม่น่าเบื่อและทำให้เราชอบมากกว่าอ่านตำราอย่างเดียวค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท