ที่จริงแล้วคำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดของข้าพเจ้า หากแต่เป็นประโยคของยายทอง ผู้เป็นเครือญาติของคุณยายอ่อน ... “ยายอ่อนท่านตายแบบงดงามมาก”
“งดงามอย่างไรคะ” ข้าพเจ้าเอ่ยถามด้วยความที่อยากให้คุณยายทองท่านขยายความของคำว่างดงามที่ท่านเอ่ยขึ้น
“ค่อยๆ หมดลมหายใจ งามมาก ไม่มีทุรนทุราย ค่อยๆ แผ่วลง...”
ลมเย็นๆ โชยมาในเช้าวัน...ชาวบ้านละแวกนี้เชื่อว่านี่คือ ธรรมชาติที่มาโอบรับผู้มีบุญ
นั่นคือ...ความเข้าใจแห่งคำว่างดงามในการตายหรือจากไปของคุณยายทองที่ได้เฝ้าดูคุณยายอ่อนท่านละจากร่างกายที่เสื่อมลงที่อิงอาศัยมานานกว่า ๘๒ ปีนี้
ก่อนถึงวาระ คุณยายอ่อนถือว่าได้รับการดูแลในระยะสุดท้ายได้อย่างสมศักดิ์ศรีภายใต้ลูกหลาน และเครือญาติ ในคืนก่อนจากไปนั้นข้าพเจ้าได้รับโอกาสของการเข้าร่วมทำวัตรและสวดมนต์ให้คุณยายอ่อนฟัง ในวันนั้นมีผู้คนมาร่วมเป็นกำลังใจอย่างมากมายเต็มพื้นที่บ้าน เท่าที่ได้รับฟังเรื่องของคุณยายอ่อนจากองค์หลวงปู่ท่านทราบว่า “คุณยายอ่อน” นั้นเป็นทายิกาอุปถัมป์วัดมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งวัดรุ่นแรกๆ....
ท่านเป็นผู้ฝักใฝ่ในพุทธศาสนาและดำเนินตนเป็นพุทธมามกะเป็นอย่างดี เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชนรุ่นหลัง
ข้าพเจ้าเชื่อว่าในคุณงามความดีของคุณยายอ่อนทำให้คุณยายได้ทำหน้าที่สุดท้ายของความเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์อย่างยิ่ง การที่ไม่ต้องห่วงหรือหวงอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้ เป็นการเกิดมาที่ได้ดำรงตนอย่างเต็มเปี่ยม
คุณยายอ่อนเสียชีวิตเมื่อเวลาประมาณตีห้า ของวันที่ ๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ทั้งข้าพเจ้าและหมออ้อได้ไปร่วมทำกุศลกับลูกหลานของท่านเมื่อคืนวันที่ ๙ มีนาคม เป็นความเบิกบานและบรรยากาศที่เต็มเปี่ยมด้วยความสุข รอยยิ้มและเสียงหัวเราะมีปรากฏประปรายในใบหน้าของทุกคน อันปราศจากความเศร้าหมอง นั่นสะท้อนให้เห็นว่าในหน้าที่ของการส่งดวงจิตดวงวิญญาณและการละออกจากร่างกายที่เสื่อมลงของคุณยายอ่อนนี้ทุกคนพร้อมเป็นแรงหนุนนำด้วยพลังแห่งจิตใจที่ดี
เราเริ่มต้นทำวัตรเย็น และได้สวดมนต์ในบทกายาคตาสคิ ที่ว่าถึงร่างกายนี้ประกอบไปด้วยอะไร มีการเกิดขึ้นและเสื่อมลงเป็นธรรมดา ตามด้วยบทสวด “อภิณหปัจเวกขณะ” ที่ว่าถึงชีวิตของการเกิด แก่ เจ็บ และตาย ทุกอย่างดำเนินไปตามวิถีแห่งกรรม ทุกอย่างไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา พึงละออกจากความยึดมั่นถือมั่น ปิดท้ายในวันนั้นด้วยบทแผ่เมตตาต่อสรรพสัตว์
สำหรับข้าพเจ้าแล้วเมื่อใคร่ครวญพิจารณา...ในบรรยากาศเช่นนี้นั้นหาดูได้ยากในเรื่องของความเป็นหนึ่งเดียวของเครือญาติและคนในชุมชนที่มีความเข้าใจในพุทธศาสนา...และเรื่องของความตายอย่างเป็น “ธรรม”ชาติ นั่นอาจเป็นเพราะว่าทั้งในครอบครัวของคุณยายอ่อนและคนในหมู่บ้านยังมีวิถีชีวิตแห่งความเรียบง่ายและผูกพันกับวัด มีวิถีแห่งการปฏิบัติที่ดำเนินไปอย่างการเป็นพุทธศาสนิกชนที่ไม่ได้ตามสำเนาแห่งราชการเท่านั้น หากแต่เป็นวิถีงดงามดั่งเดิมที่ยังสืบต่อเนื่องกันมาทางจิตวิญญาณจากรุ่นตายายสู่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ... สู่รุ่นลูกและหลานต่อเนื่องกันมา
สืบเนื่องจากบันทึก Happiness-R2R และวิถีแห่งการงาน » โรงพยาบาลป่าติ้ว...ด้วยหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์
สวัสดีค่ะ
คุณงามความดีของคุณยายอ่อนทำให้คุณยายได้ทำหน้าที่สุดท้ายของความเป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์อย่างยิ่ง การที่ไม่ต้องห่วงหรือหวงอะไรอีกแล้วในชีวิตนี้ เป็นการเกิดมาที่ได้ดำรงตนอย่างเต็มเปี่ยม
ได้ข้อคิดจากข้อความของคุณกะปุ๋มค่ะ ขอขอบคุณค่ะ
เรื่องราวนี้เป็นความงดงามของชีวิต สังคม และโลก ภายใต้ความเกื้อกูลกันนะคะพี่คิม...
เมื่อวานนี้ทางทีมโรงพยาบาลป่าติ้ว Happiness-R2R และวิถีแห่งการงาน » โรงพยาบาลป่าติ้ว...ด้วยหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ นำโดยพี่แก้ว พี่โอ พี่นิ พี่แต้ม...ต่างมาร่วมคารวะสรีระของคุณยายอ่อน มากันอย่างไร้เงื่อนไข ไม่ใช่ญาติแต่ก็คือ ญาติ...
วันนี้...ช่วงบ่ายจะเป็นการฌาปนกิจงานคุณยายอ่อนค่ะ
ขอบพระคุณพี่คิมที่มาร่วมแบ่งปันความดงามทางความคิดค่ะ...
ความตายที่หลายๆ คน ปรารถนา