อาจารย์พอใจ พุกกะคุปต์ แนะนำทฤษฎี-วิธีทำงานข้ามวัฒนธรรมไว้อย่างนี้
.
(1). ความ "เกรงใจ-ใส่ใจ-ให้เกียรติกัน" เป็นพลังงานที่แสนดี และกระเพื่อมกลับไปกลับมาได้แบบไม่รู้จบ ไม่ว่าจะในสังคม ที่ทำงาน องค์กร หรือครอบครัวใด ยิ่งให้-ยิ่งสะท้อน-ยิ่งได้รับกลับมามาก
.
ยิ่งผู้ใหญ่เป็นฝ่ายให้-ยิ่งมีอานุภาพมาก ตรงกับคำสอนของเต๋าที่ว่า "รวงข้าวสมบูรณ์ (คนที่ยิ่งใหญ่จริง) ย่อมน้อมลง (อ่อนน้อม) - รวงข้าวไม่สมบูรณ์ (คนที่ใหญ่ไม่จริง) ย่อมชูเชิด (หยิ่งยะโส โอหัง)"
.
วิธีแสดงความ "เกรงใจ-ใส่ใจ-ให้เกียรติกัน" เริ่มต้นง่ายๆ ได้ด้วยการกล่าวคำทักทาย (สวัสดี ไหว้ทักทาย ฯลฯ), ขอบคุณ-ขอบใจ, ขอโทษ (เมื่อพลาดพลั้่ง หรือกล่าวแม้ไม่ผิด-เพื่อรักษาใจของคนอื่น)
.
(2). สร้างช่องว่างบางๆ ไว้คั่นกลาง
.
กล่าวกันว่า คนเรามีพลังแห่งธาตุไฟหรือความร้อนแรงมากบ้างน้อยบ้าง ทำให้ "ใกล้ไปก็ร้อน ไกลไปก็หนาว) โดยเฉพาะระยะทางระหว่างผู้บริหารกับคนในองค์กร
.
อาจารย์พอใจแนะนำให้สร้างช่องว่างบางๆ ไว้เพื่อป้องกันการ "เข้าใกล้" หรือสนิทสนมกันมากเกินไป เนื่องจากการถอยให้ห่างทำได้ยากกว่าการอยู่ไกลไว้หน่อย แล้วค่อยๆ ขยับใกล้เข้าไปช้าๆ
.
เรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนนึกถึงนักศึกษาแพทย์ท่านหนึ่งอุตส่าห์ "เสนอหน้า (present face)" กับครูบาอาจารย์ได้อย่างแนบเนียน เริ่มจากหัดเล่นเทนนิส หาโอกาสเล่นเทนนิสกับอาจารย์ แกล้งแพ้ให้มาก-ชนะให้น้อย หรือไม่ก็แกล้งชนะก่อน-แพ้ทีหลัง ทำแบบนี้บ่อยๆ จน "ได้ใจ" อาจารย์ และได้เรียนต่อเป็นอาจารย์สมใจ (ขอสงวนนาม)
.
ไก๊ด์ท่านหนึ่งกล่าวไว้ดีเช่นกัน ท่านบอกว่า ท่านถือเป็นธรรมเนียมที่จะไม่ตีตัวเสมอลูกค้าเป็นธรรมดา เช่น ถ้าจะตากผ้า... ท่านจะตากไว้ที่พื้นห้อง (พื้นห้องโรงแรมส่วนใหญ่ค่อนข้างสะอาด), ให้โอกาสลูกค้าตากไว้ที่ราว ฯลฯ ทำแบบนี้ถึงจะทำทัวร์ได้นาน
.
(3). แสดงน้ำคำและน้ำใจทั้งต่อหน้าและลับหลัง เช่น ยกย่องความดีคนอื่นลับหลัง หลีกเลี่ยงการนินทาลับหลัง ฯลฯ
.
โลกเบี้ยวๆ ใบนี้มีภาวะโลกร้อน มีน้ำลายจากการนินทา และมองโลกในแง่ร้ายท่วมโลก, ทว่า... แห้งแล้งน้ำใจจากการแสดงความชื่นชม (appreciation) การทำดีของคนอื่น และการมองโลกในแง่ดี
.
(4). ไม่เสนอทางเลือกทางเดียว
.
เมื่อมีโอกาสเสนอความคิดเห็น... ควรเสนอทางเลือก ซึ่งอาจารย์สมศักดิ์ (อาจารย์นิด้า) แสดงไว้ดี คือ เสนอไว้สัก 2-3 ทางกำลังดี น้อยไปจะทำให้อีกฝ่ายอึดอัด-ขาดทางเลือก มากไปจะทำให้อีกฝ่ายสับสนงุนงง
.
คนทั่วโลกต้องการอะไรคล้ายๆ กัน คือ "Voice & Choices (voice = การมีสิทธิ์มีเสียง; choice = ทางเลือก)", ถ้าใครให้ 2 สิ่งนี้กับคนอื่นได้จะมีโอกาสชนะใจคนทั่วโลกได้ในระยะยาว เช่น ถ้าจะชวนใครไปเที่ยวก็ควรให้คนอื่นมีโอกาสแสดงความคิดเห็น (มี voice) และมีโอกาสเลือกทางเลือก (มี choices)
.
(5). หาสมดุลแห่งความเกรงใจเขา-เกรงใจเรา
.
ผู้บริหารชาวเยอรมันกล่าวว่า ฝรั่งมักจะงงเพราะไม่รู้ว่า คนไทยอยากได้อะไร, เพราะคนไทยไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกไปตรงๆ ซึ่งตรงนี้... อาจเป็นเพราะคนไทยยังไม่เก่งภาษา
.
วิธีแสดงความเห็น "ข้ามวัฒนธรรม" ที่ดีขั้นแรก คือ รีบเรียนภาษาต่างประเทศที่เป็นภาษาหลักๆ ของโลก เช่น ภาษาอังกฤษ จีน ฯลฯ เพราะยิ่งเราเก่งภาษา... จะกล้าเกรงใจตัวเองมากขึ้น (กล้าแสดงความรู้สึกตามโอกาส)
.
กล่าวกันว่า ความเกรงใจคนอื่นทำให้ "คนอื่นสุขมาก-ตัวเราสุขน้อย", ความเกรงใจตัวเองทำให้ "ตัวเราสุขมาก-คนอื่นสุขน้อย", ถ้าอยากให้ทุกคนทุกฝ่ายมี "ความสุขร่วมกัน" ได้จริงๆ จะต้องหาจุดสมดุล หรือพื้นที่ "ทับซ้อน (overlap)" แห่งความพอเหมาะ-พอดีตรงนี้ให้ได้
.
คนที่สุดโต่งไปทางเกรงใจ "เขา" (ถ้าเกรงใจคนอื่นฝ่ายเดียว = ขาดความเป็นตัวของตัวเอง และเสี่ยงแห้งแล้งความสุข) หรือคนที่สุดโต่งไปทางเกรงใจ "เรา" ฝ่ายเดียว (ถ้าเกรงใจตัวเองฝ่ายเดียว = เอาแต่ใจตัวเอง) มักจะมีพลังแห่งความเกรงใจไม่เต็มเปี่ยม
.
คนที่มีพลังแห่งความเกรงใจมากจริงๆ มักจะเป็นคนที่หาความพอเหมาะ-พอดี หรือพื้นที่ทับซ้อนระหว่างความเกรงใจ "เขา" กับความเกรงใจ "เรา" ได้
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
> [ Twitter ]