๖๙๒.รักตัวเอง จึงครองเรือนไม่ได้


        "วันแห่งความรัก"  จะเป็นวัฒนธรรมของใคร ชาติใดก็ไม่สำคัญ แต่มันช่างมีความหมายในตัวเองมาก  จะเป็นการปฏิบัติดีหรือไม่ดีนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง  แต่ถ้าเรามีความรู้สึกดีก็นับว่าเป็นเรื่องดี ขึ้นอยู่กับบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนอีกด้วย  ถ้าหากเป็นครูหรือเป็นพ่อแม่ก็ควรให้ความรู้ ความเข้าใจต่อคนรุ่นเยาว์เพื่อให้เขาได้เข้าใจในการดำเนินชีวิตในวันนี้  เหมือนที่สื่อได้รณรงค์กันตลอดเวลา 

        ฉันก็อยากจะมีกุหลาบสีแดงมามอบให้ใครต่อใครเหมือนกัน  ได้แต่คิดและเปลี่ยนมาเป็นคำพูดถ้อยคำแทน  เมื่อได้อ่านทุกบันทึกแล้วก็รู้สึกเป็นสุขเงียบ ๆ ชื่นใจและเบิกบานที่สังคมแห่งนี้มีแต่ความรักมอบให้กัน 

        บันทึกของคุณมะปรางเปรี้ยว เชิญชวนให้ถ่ายทอดแนวคิดและประสบการณ์เพื่อมาแบ่งปันและเป็น KM ความรัก  มีหัวข้อที่น่าสนใจดังนี้

  • รักกันอย่างไร จึงครองเรือนได้นานๆ

  • เพื่อนแบบไหน ที่คุณให้ความรักและความสนิทสนม

  • รักลูกอย่างไร ลูกถึงเติบโตอย่างมีความสุข

  • เมื่อรักไม่สมหวัง จะจัดการอย่างไร

  • รักอย่างไร ไม่ให้ทุกข์ 

  • ทำอย่างไร ถึงได้รักงานที่ทำ

  • องค์กรที่ฉันรัก เป็นอย่างไร 

  • รักแบบไหนที่ประทับใจมากที่สุด

  • และอื่นๆ อีกมากมาย

  •           ฉันอ่านจบแล้ว "ตกรอบ" ไปเลยตั้งแต่หัวข้อแรก  เพราะมีหลายกรณีที่มันเป็นความล้มเหลวและไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะมาถ่ายทอดหรือแลกเปลี่ยน  บันทึกนี้จึงขอเล่าค้านกับหัวข้อของคุณมะปรางเปรี้ยว "รักกันอย่างไรจึง (ไม่) ครองเรือนกันได้นาน ๆ"

              เป็นเรื่องธรรมดามากที่จะนำมาถ่ายทอด  โดยเลือกส่วนที่มองเห็นว่าเป็นประโยชน์และน่าคิดของผู้อื่น  การที่จะนำมาเล่าไม่ได้บอกว่าตนเองเป็นคนดีหรืออีกฝ่ายเป็นคนไม่ดี  เราอาจจะมีดีและไม่ดีทั้งสองฝ่าย

              ฉันไม่ได้แต่งงานเพราะฉันรักเขา  แต่ฉันแต่งงานเพราะเห็นว่าเขาเหมาะสม  และเพื่อจะหลีกหนีผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เขาทำให้ฉันอกหักแบบไม่ตั้งใจโดยเขายังรักฉันอยู่  ซึ่งเรารักกันมานานถึง ๘ ปีกว่า

              ผู้ชายทั้งสองคนพ่อ แม่ ญาติผู้ใหญ่รู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี  คนแรกเป็นวิศวกรโยธา  คนที่แต่งงานด้วยเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร  ญาติผู้ใหญ่ทุกคนรวมทั้งชายคนรักเก่าลงความเห็นว่า "หนุ่มนายตำรวจเป็นคนดีและมีความเหมาะสมกับฉันมากที่สุด" ทั้งการศึกษา ฐานะ ชาติตระกูลและชาติกำเนิด อีกอย่างฉันถูกเลี้ยงดูมาแบบลูกทหาร  ฉันมีความหวั่นไหวกับคนในอาชีพอื่น ๆ พ่อแม่พี่น้องและญาติ ๆ เป็นสุข เพื่อนฝูงปลื้มอกปลื้มใจแทนเป็นอย่างยิ่ง

              เมื่อแต่งงานไปฉันก็ต้องรักคนที่เป็นสามี  ความดีของเขามีมากคือเป็นคนใจกว้าง โอบอ้อมอารี  รู้จักเอื้ออาทรต่อคนรอบข้าง  มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ไม่ถือตัว เป็นคนจริงใจ และรับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินเลี้ยงดูครอบครัวไม่มีขาดตกแม้แต่นิดเดียว  แม้ว่าไม่ขอและไม่ต้องการ

             การจัดการภายในบ้านการซื้อรถ ซื้อบ้าน และซื้อสิ่งของต่าง ๆ เขาจะมอบให้ฉันจะเป็นผู้ตัดสินใจ  รวมท้ังการย้ายที่อยู่  เขาจะนำข้อมูลของแต่ละแห่งมาให้ฉันเลือกว่าควรจะไปอยู่จังหวัดไหนดี  โดยที่ฉันไม่ได้ทำตัวเป็นแม่บงการเลย

               ภายหลังได้ทราบระแคะระคายว่า "เขาเจ้าชู้"  แต่เขาจะเล่าแบบสารภาพเสมอว่าเป็นเรื่องภายนอก ทุกอย่างผ่านไป ๆ ไม่มีเรื่องเดือดร้อนมาสู่ครอบครัว  เพราะผู้หญิงแต่ละคนผ่านแล้วผ่านเลย  ฉันคิดว่าอาจเป็นเพราะความมีมนุษย์สัมพันธ์อันดีนี่แหละ  ทำให้ผู้หญิงชอบได้

              จนกระทั่งการแต่งงานผ่านไปในปีที่ ๕  ครอบครัวของเราได้ย้ายไปอยู่ภาคอื่นเพราะสามีไปรับตำแหน่งที่สูงขึ้น  "มีผู้หญิงหน้าตาไม่ดี กิริยาไม่งาม แต่มีอาชีพ มีการศึกษาดี  มาที่บ้านฉันบ่อย ๆ"  ฉันให้การต้อนรับเขาทุกครั้งไม่เคยรังเกียจ  ถือว่าเราไม่ได้คบกับความไม่ดีไม่งามของหล่อน

              ขณะนั้นครอบครัวของฉันได้ดูแลอาสาสมัครอเมริกันคนหนึ่งเป็นผู้ชายชื่อรอห์น  ฉันเข้าใจว่าหล่อนมาหารอห์นมากกว่า  เพราะหล่อนพูดเสมอว่าอยากฝึกสนทนาภาษาอังกฤษ  และอีกอย่างรอห์นทำงานเกี่ยวข้อง ๒ หน่วยงานคือหน่วยงานทางการศึกษาและหน่วยงานของหล่อน

              อยู่มาวันหนึ่งรอห์นมาบอกฉันว่า "คุณซามีของยูนอกจาย" แล้วรอห์นก็เล่าตามที่พบเห็น  ซึ่งความจริงแล้วคนรอบข้างเขารู้กันทั้งอำเภอ  ยกเว้นฉัน  อันเรื่องราวที่รอห์นมาเล่านั้น  คงไม่มีผู้หญิงคนไหนทนได้  แต่ฉันทน

              ฉันได้เก็บเรื่องบาดหมางไว้ในใจเพียงคนเดียว  จนอุบัติเหตุได้เกิดขึ้นเขาและหล่อนรถคว่ำ  "รถพังเละเป็นเศษเหล็ก" แต่สองคนแค่บาดเจ็บ  ขั้นแรกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอำเภอ  แต่ผู้กำกับปฏิเสธขอให้ไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนในเมือง  เพราะเป็นการป้องกันความวุ่นวายอีกทางหนึ่ง  ส่วนรถถูกนำมาจอดทิ้งที่สถานีตำรวจ  "ฉันแค้นสุมอกไม่เคยชายตามองรถเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ถาม ไม่พูดถึง"

               สถานการณ์ที่โรงพยาบาลเอกชนนั้นวุ่นวายมาก "ฉันสู้หล่อนไม่ได้ทุกวิถีทาง" ทั้งเจ็บทั้งอับอายขายหน้า หล่อนมีเพื่อน ๆ มารุมช่วยเข้าข้างและทำให้ฉันอับอายเจ็บปวดมากขึ้นอีก  แต่ฉันก็มีรุ่นพี่ มีเพื่อน มีรุ่นน้องที่รักใคร่ปลอบใจด้วยความปรารถนาดีมากมายว่า  "ให้อดทนไม่ต้องหย่าร้าง ปล่อยมันไปแต่ตัว วันหนึ่งมันจะกลับมาเอง"

               หลังจากที่อาการดีขึ้นจึงได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาล  "การที่เขาปกปิดความสัมพันธ์กันตลอดมาจึงเปิดเผยขึ้นไม่อายใครอีกแล้ว ทุกคนในสังคม รวมทั้งฉันได้รับรู้แล้ว" นั่นเอง

               ฉันแบกความสับสนวุ่นวายกับผู้หญิงคนนี้อยู่ถึง ๒ ปีทุกอย่างก็จบลงด้วยฉันขอเลือกเป็นคนเห็นแก่ตัวรักตัวเองดีกว่า  ตัวใครก็ตัวมันต่างมาก็ต่างไป เพราะหมดความอดทนประกอบกับถือดีอันเป็นนิสัย  แรก ๆ ที่หย่ากันใหม่ ๆ ฉันก็คงเดินเซและสับสนบ้าง  เพียงไม่นานฉันก็เป็นตัวของตัวเองได้  ทุกข์บ้างสุขบ้างแต่ไม่วุ่นวายใจ  แต่กาลเวลารักษาใจได้รวดเร็วเพราะหันมารักตัวเอง และรักการทำงานแทน

               กรณีความแตกร้าวนี้ได้นำมาประกอบกับเรื่องของเพื่อน ๆ และคนที่เคยมาแลกเปลี่ยนกันมีอยู่เรื่องเดียวคือถ้าหากสามีนอกใจไปมีผู้หญิงอื่น ถ้าไม่อยากแตกแยกหรือครองรักครองเรือนไปนาน ๆ  "ต้องมีความอดทนต่อความเจ็บปวดรวดร้าว ไม่ต้องไปรับรู้รับเห็น  เมื่อรับรู้รับเห็นแล้ว เรื่องก็จะเป็นแบบนี้"  ได้แนะนำไปหลายคนแล้วในที่สุดเขาก็เลิกราไปเอง  เพราะเขารอครอบครองไม่ไหว

              บริบทของแต่ละคนไม่เหมือนกัน  ขึ้นกับเวลาและโอกาสรวมทั้งสภาพทางจิตใจของแต่ละคน  ข้อคิดของคนหนึ่งอาจขัดแย้งกับอีกคนหนึ่งก็ได้  หากวันเวลาเปลี่ยนไปเราจะได้รู้ว่าทุกอย่างเป็นสิ่งไม่แน่นอน เพราะได้เข้าใจเพิ่มขึ้นว่า "ความรักมีหลากหลายรูปแบบ"  และคนเราจะอยู่โดยปราศจากความรักไม่ได้นั่นคือความรักที่มีต่อคนรอบข้างและความปรารถนาดีต่อสังคมที่เราอยู่

            เรื่องของฉัน "เป็นเรื่องธรรมดา" อะไร ๆก็เกิดขึ้นได้เสมอ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าเป็นเรื่องกรรมเก่ากรรมใหม่  ทุกอย่างมันขึ้นกับการกระทำและไม่ถือว่าเป็นเรื่องเลวร้ายหรือมีปัญหาจนแก้ไม่ตก  อยู่ที่การตัดสินใจของตนเองเท่านั้น  และปัจจุบันให้ทำกรรมดีอันนี้เชื่อมากที่สุด

              

    หมายเลขบันทึก: 426054เขียนเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2011 12:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


    ความเห็น (29)

    สวัสดีครับเกลอ ตอนเที่ยง ครูกระแตมาตายี โทรมาบอกว่า 18-19  จะมาที่พิษณุโลก

    17 -18  ผมมีประชุมที่ประจวบ หากไม่ติดเรื่องเวลา 19 อาจมาเยี่ยมเกลอ...(ความรักของเกลอต่างเพศ)

    สวัสดีค่ะ

    มาอ่านอีกมุมมองของความรัก

    เมื่อเห็นความเป้นธรรมดาของโลก ก็ไม่ทุกข์แล้วนะคะ

    สวัสดีค่ะวอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

    กำลังติดต่อจองที่พักของธารวังทองรีสอร์ท 

    เกลอไปให้ได้นะคะ

    สวัสดีค่ะคุณณัฐรดา

    ตอนแรกก็ทุกข์ค่ะ ทุกข์มาก ๆ เมื่อเปลี่ยนความคิดและหาวิธีการเรียนรู้ตัวเองมาก ๆ ความทุกข์ก็เบาลงเพราะไม่ไปใส่ใจมันค่ะ

    ขอบคุณค่ะพี่ที่แวะไปอีกที

    ปัจจุบัน คนเราเชื่อเรื่องกรรมกันแปลกค่ะ วิ่งวุ่นคอย "จ่ายเงิน" ทำบุญแก้กรรม แต่ไม่ค่อยได้พิจารณาที่กรรม(การกระทำ) ของตนเอง

    ก็เลยทุกข์อยู่อย่างนั้น

    คงลืมเชื่อ "ตถาคตโพธิสัทธา" (เชื่อมั่นในปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า หรือก็คือเชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์ว่าสามารถพัฒนาตนจนถึงจุดสุงสุด จนพ้นทุกข์ได้) กันไปมังคะ

    เคยทุกข์เพราะความรักมากเหมือนกันค่ะ แต่นั่นกลับเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้หันมาศึกษาหลักธรรมในพระศาสนา จนคิดว่าโชคดีที่พบความทุกข์

    ไม่อย่างนั้น คงเกิดมาสูญเปล่าไปหนึ่งชาติค่ะ 

     

     

    โดนพิษรักเหมือนพี่คิมเลยค่ะ แต่กลับกันที่ผู้หญิงแก่กว่า การศึกษาน้อยกว่า มาแย่งสามี

    เขาก็อ้างว่าเขาจน เขาการศึกษาน้อย ไม่ว่าไฮโล จะนอกใจก็หาข้ออ้างต่างๆนานานะคะ

    ตอนนั้นลูกเพิ่งเกิดทะเลาะกันรุนแรงต้องแยกบ้าน ไม่นานก็มีผู้หญิงลูกติด ๒ คนเข้ามา

    ไม่รู้ว่าหม้าย หรือสามีอยู่ เป็นคนเหนือ ครอบครัวต้องไล่เพราะเช่าบ้านอยู่ใกล้เกรงมีเรื่อง

    เขาไปไม่นาน แค่เดือน ๒ เดือนก็เสียชีวิตค่ะพี่คิม..

    ..

    เป็นหม้าย ขนาดระวังผู้ชาย ขนาดไม่คบใคร ก็ยังโดนครหานินทา

    รู้มาว่าเพื่อนเก่า ญาติหักหลังแทบไม่มีใครจริงใจกับเรา โลภโกงทั้งนั้น

    ล้มลุกคลุกคลานมาตลอด เลี้ยงลูกทำงาน เข้าวัด

    แต่ได้พบกัลยาณมิตรค่ะ ถึงอยู่ได้เพราะธรรมะ และธรรมะช่วยเรากับลูกจริงๆ

    ผู้ชายดีๆ หายากอย่างที่พี่คิมเคยเมนท์ไว้ แต่ก็เห็นคู่บุญที่วัดที่ไป ยินดีกับพวกเขาค่ะ

    คงเพราะปฏิบัติธรรม สร้างสมบุญบารมีกันมาจริงๆนะคะ

    ..

    ขอนำมาเล่าตรงนี้นะคะ..

     

    เสริมว่า..ปัจจุบันทุกข์เพราะคนโกง โลภ มากกว่าความรักค่ะพี่คิม

    คือ..เราก็กลัว ต้องคอยระวังค่ะ ห่วงลูกน่ะค่ะ

    อายุมากแล้ว ..ดูออกผู้ชายเข้ามาไม่ใช่แบบตอนสาวๆอย่างเดียวแล้ว

    แต่ก็ใช้ธรรมะ..แก้ไขไปค่ะ..อยู่กับลูก ลูกดีขึ้น ก็เป็นสุขค่ะ

     

    อีกนิดนึง..สงสัยว่าถ้ามีสามีใหม่ ก็จะโดนแบบพี่คิมเหมือนกัน

    พวกอาจารย์ในวงนั่นล่ะค่ะ ไม่ก็สาวๆจบปอตรีคอยแย่งสามี

    เขาขู่แข่งทั้งที่ไม่ได้คบ ผู้ชายคงสนใจเรา ก็เลยไม่แข่ง เลือกลูกค่ะ

    ..

    ส่วนผู้ชายที่กล้าเข้ามาคุย ก็น่ากลัว ดูออกว่าหลอก..ก็ไม่คบ สบายใจกว่าค่ะ

    แก้ปัญหาเรื่องลูก ระวังคนโกงเท่านั้น

    คุณครูคิม ครับ

    • อะไรก็เกิดขึ้นได้กับดวงใจอันปกติ ธรรมดานี้
    • ความรักมีหลายรูปแบบ เราต้องเลือกอยู่กับรูปแบบที่เรามีความสุขและไม่ก่อให้เกิดทุกข์กับผู้อื่น
    • ผ่านจุดที่ยากลำบากตรงนั้นมาได้  นับว่ายอดเยี่ยม และถือว่าเป็นแบบฝึกหัดชีวิตที่ล้ำค่า ชนิดที่คนอื่นๆอีกหลายคนไม่มีโอกาสได้เรียนรู้ ในข้อคำถามที่หาคำตอบได้ยากนี้
    • ขอบคุณที่แวะไปทักทายและให้กำลังใจ  สุขสันต์วันวาเลนไทน์ครับ

     

    สวัสดีค่ะครูคิมขอให้มีความสุขกับรักที่เป็นอยู่ที่มีให้กับทุกสิ่งที่ครูคิมมอบให้ค่ะ ส่วนตัวแล้วเหตุที่ยังไม่แต่งงานเป็นเพราะความกลัวในเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ตอนนี้ก็มีความสุขดีค่ะ อยู่คนเดียว เพลงพี่เบิร์ดโดนมากค่ะ มีความสุขมากๆนะคะกำลังใจมีให้เสมอค่ะ

    สวัสดีค่ะ พี่คิม

    ต้องขอบคุณมากๆ นะคะ ที่พี่คิมได้บันทึกแบ่งปันเรื่องราวความรักที่มีค่ามากมาย และหนูก็เล็งเห็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ

    หากต่อยอดเรื่องการปล่อยทุกข์จากรักให้ออกจากจิตใจได้อย่างไร หากได้เรื่องเล่าเรื่องนี้อีกเรื่อง น่าจะเป็นแนวทางให้หลายๆ คนที่อาจจะทุกข์เพราะรักก็ได้นะคะ

    ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^__^

    สวัสดีค่ะ

    อยากจะบอกกล่าวเล่าขานเหลือเกินนะคะ  ที่การได้เข้าถึงการศึกษาเรียนรู้พระธรรมคำสอน  และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเราและเปลี่ยนแปลงภายในได้

    เมื่อทบทวนตนเอง ก็ภูมิใจมากนะคะที่เรายังมีโอกาสมอบความรักให้แก่ธรรมชาติและคนรอบข้าง  และได้ชื่นชมว่าความรักเป็นเรื่องประเสริฐ จรรโลงโลกค่ะ

    ไม่เคยใส่ใจเรื่องดวงหรือโชคชะตา กรรมเก่าหรอกค่ะ  แต่เชื่อเรื่อง "การคิดดี ทำดี การมีจิตใจอันบริสุทธิ์ย่อมอยู่เหนือดวง" ค่ะ

    สวัสดีค่ะอาจารย์กุลมาตา

    ทุกอย่างที่ผ่านมาในชีวิตถือว่าเป็นสถานการณ์หนึ่งนะคะ  ทำให้เราเป็นคนเข้มแข็ง  รู้จักให้อภัยกับความผิดพลาดหรือความโง่เขลาเบาปัญญาของคนอื่นๆด้

    ถ้าปัจจุบันเรามีความพอดีในความเป็นอยู่ ไม่วุ่นวายก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่สุดแล้วนะคะ  ต้องขอบคุณโอกาสค่ะ

    โอกาสที่ทำให้เราได้พบแต่สิ่งดี คือคำสอนของพระพุทธศาสนา และกล้าที่จะนำบทเรียนของตนเองมาให้เป็นแง่คิดของคนอื่นที่มีโอกาสพลาดท่ากับจังหวะชีวิต

    พี่คิมขอเป็นกำลังใจค่ะ

    สวัสดีค่ะคุณสันติสุข สันติศาสนสุข

    ขอขอบพระคุณค่ะที่มาแลกเปลี่ยนเรื่องราวตอนหนึ่งของชีวิตค่ะ

    ไม่มีการลงโทษโชคชะตา ฟ้าดิน บุญกรรมทำแต่ง เนื้อคู่ หนังคู่ หรอกค่ะ

    แต่หันหลังกลับมาเริ่มต้นใหม่ "ถามตนเองว่าเราคือใคร มีหน้าที่อย่างไร ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์"

    กลับมาพัฒนาตนเองในวิชาชีพ ไปเรียนหนังสือ หาวิชาความรู้ใส่ตัว เพิ่มคุณค่าให้ตนเอง  และเป็นจังหวะที่มมีโอกาสมมองเห็นคุณค่าของคนอื่นด้วยค่ะ

    ไม่โศกเศร้าหรือต้องประชดชีวิต เรียกร้องเปลี่ยนมาหาใหม่  แต่หันเข้าเรียนรู้พระธรรมคำสอน  มีความศรัทธาเรื่องการประกอบกรรมดีค่ะ

    สวัสดีค่ะเพชรลดา

    พี่คิมไม่ได้มีอคติเกี่ยวกับการครองรัก ครองเรือนหรอกนะคะ  เห็นใครดีมีความสุขก็ยินดีด้วยค่ะ

    ความสุขหาได้หลากหลายรูปแบบ เช่นเดียวกับความรักอย่างไรค่ะ อย่างเราสองคนรู้จักกันผ่านตัวหนังสือเพียงไม่กี่คำ เราก็รักและเข้าใจกัน  มีความรู้สึกดีต่อกัน

    การยึดมั่นถือมั่นเป็นเรื่องเกิดกับทุกคน เว้นแต่ว่าใครจะสร้างบุญบารมีได้ก่อนกันเท่านั้นค่ะ

    ขอให้น้องมีความสุขกับสิ่งที่ทำนะคะ

    สวัสดีค่ะน้องมะปรางเปรี้ยว

    ขึ้นอยู่กับกาลเวลาและโอกาสค่ะ  พี่คิมสอนคนไม่เป็นได้แต่เล่าให้คิดเอง  คนที่เขาไม่เคยประสบเหตุแบบนี้ อาจจะขุ่นเคืองหรือต่อต้านอยู่ในใจ  แต่พี่คิมเป็นคนกล้าที่จะเล่าเรื่องจริง หรือความล้มเหลวของตนเองค่ะ

    อย่างน้อยคนที่มีใจตรงกัน คิดคล้ายกันก็อาจมองเห็นคุณค่าค่ะ

    ขอขอบคุณน้องปราง  รออ่านเรื่องต่อไปนะคะ

    • คนอย่างเรื่องเราเลือกได้นะคะพี่ครูคิม....
    • ยอดไปเลยพี่เรา....หญิงแกร่ง...ผ่านมาอย่างโชกโชน
    • ได้มีชีวิตอย่างเอกเขนก...จนใครๆแอบอิจฉาไม่ได้ในตอนนี้นะคะพี่ครู

    สวัสดีค่ะ✿อุ้มบุญ✿

    ยังไม่ถึงขั้นโชกเลือดหรือโชกโชนหรอกค่ะน้องรัก ยังป่วนแบบเงียบ ๆ เสมอค่ะ สู้เขาไม่ด้ก็ต้องถอย  เพราะไม่ชอบแข่งขันกับใครค่ะ

    ตอนนี้ก็พอกลาง ๆ ขอให้น้องและลูกดิ่งมีความรัก ความสุขตลอดไปนะคะ

    สวัสดีค่ะ...พี่คิม...

    • การมีครอบครัว ก็ถือว่า...แล้วแต่โชคชะตากรรมเหมือนกัน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าครอบครัวแต่ละครอบครัวเหมือนและแตกต่างกันอย่างไร...บางคนชอบใช้คำว่า "บุพเพสันนิวาส" ในครั้งแรก ๆ ต่อไป ๆ ก็เป็น "บุพเพอาละวาด"...
    • แต่ความคิดเห็นของน้องนั้น...คิดว่า ขึ้นอยู่กับบุญเก่า บุญใหม่ ประกอบกันไปนะค่ะ...ไม่สามารถบอกได้ว่า "ใช่ขึ้นอยู่กับโชคชะตาฟ้าลิขิตหรือเปล่า"...เพราะแต่ละคู่ ดูแล้วไม่เหมือนกันจริง ๆ ค่ะ...สำหรับน้อง เรียกว่า "จะนับว่าโชคดี ก็โชคดี ในครั้งแรกผู้ใหญ่ก็กีดกัน แต่ขึ้นอยู่กับใจของเราสองคนมากกว่า ปัจจุบันอยู่ด้วยกันมาเกือบ 30 ปี แล้วค่ะ...(ประมาณ 29 ปี ได้) บอกได้ว่าไม่เคยทะเลาะกัน แต่ก็จะมีเรื่องขัดคอกันมากกว่า...ไม่ทันข้ามคืน ก็คุยกัน...ดีอย่างที่เขาไม่เล่น ไม่ดื่ม ไม่เจ้าชู้...
    • แต่เป็นคนมัธยัสถ์ ประหยัด เรียกว่า "กลัวจน" มากกว่าค่ะ...คนอื่น ๆ อาจมองว่าเป็นข้อเสีย แต่น้องกลับมองว่า "เป็นข้อดี" ของเขามากกว่า จึงอยู่ด้วยกันได้ไงค่ะ
    • ทุกวันนี้...เมื่อมีลูกก็เป็นห่วงแต่ลูกเท่านั้นค่ะ...เราจะอยู่ด้วยกันแบบเพื่อนเหมือนเป็น "เพื่อนคู่คิด มิตรคู่ใจ" ประมาณนั้นแหล่ะค่ะ...ก็ดีไปอย่าง เราจึงไม่ค่อยทะเลาะกัน มีปัญหาจะปรึกษากันมากกว่าค่ะ...
    • เป็นกำลังใจให้พี่คิมนะค่ะ...ถึงไม่มีเขา...เราก็อยู่ได้...ไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร เราเป็นตัวของตัวเราเอง ก็อยู่บนโลกใบนี้ได้แล้วค่ะ...สู้ สู้ นะค่ะ...
    • "ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไปค่ะ"...เป็นกำลังใจให้นะค่ะ...เพราะชีวิตคนเราไม่เหมือนกันค่ะ...

    สวัสดีค่ะน้องบุษยมาศ

    น้องสบายดีนะคะ  งานยุ่งมากไหม  ขอขอบคุณที่ห่วงใยและเป็นกำลังใจให้ค่ะ  พี่คิมคิดได้ตั้งนานแล้วค่ะ

    ตอนที่กลับมาอยู่น้ำลอม นครไทยนั่นแหละค่ะ  มาแบบมาหาที่ยืนให้ตัวเองค่ะ ยืนได้มั่นคงก็ที่นั่น ก้าวเดินก็ที่นั่น  โดยลำพังคนเดียว  รู้สึกภูมิใจในความเข้มแข็งของตนเองมากค่ะ

    พี่คิมดีใจด้วยนะคะที่น้องมีครอบครัวอบอุ่น ขึ้นอยู่กับความเข้าใจกันค่ะ เพราะเราต่างคนต่างมาต่างนิสัยใจคอกัน 

    ตอนนี้พี่คิมก็พอกลาง ๆ ทุกข์บ้างสุขบ้างแต่ไม่มากไ่น้อย สำคัญไม่มีความกังวลใจมารบกวนค่ะ

    วันแห่งความรักขอให้น้องมีความสุขกับความรักในทุกวันและตลอดไปนะคะ

    สวัสดีค่ะมนัสนันท์

    ขอขอบคุณที่มาติดตามภาคปกติค่ะ

    ส่วนภาคพิเศาและภาคพิสดารรับฟังไปหมดแล้วนี่คะ

    ชีวิตเหมือนละคร หรือละครชีวิตที่เราเป็นผู้แสดง มีบทรัก บทโศก บทอกหักแทบจะเอาชีวิตไม่รอด  แต่ในที่สุดก็ผ่านไป  ชีวิตก็ดำเนินต่อไป  ทุกสิ่งที่เกิดกับเราถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ เป็นเรื่องเล่าเพื่อสอนใจให้คนรุ่นหลังได้เข้าใจชีวิตมากขึ้น  ต้องอดทนต่อสู้กับความรู้สึกต่างๆนั้นให้ได้ ขอให้ผ่านไปขอให้รักตัวเองให้มาก  อกหักแล้วคิดจะฆ่าตัวตายนั่นมันนิยายน้ำเน่า  ระดับปัญญาชนไม่คิดอย่างนั้นเด็ดขาด  และยิ่งรักยิ่งแค้นก็ไม่ดีต่อตัวเราเอง  อย่าได้คิดแค้นอะไรเลย เขาไม่รักก็ปล่อยเขาไป  ในเมื่อเราทำดีที่สุดแล้วเราก็ภูมิใจ   พี่คิมเป็นคนเข้มแข็งมากขอปรบมือให้ในความเก่ง และแกร่ง ให้กำลังใจพี่คิมเสมอค่ะ 

                                    

                  มอบดอกกุหลาบจุฬาลงกรณ์ จากคุ้มพระราชชายาเจ้าดารารัศมี

                    เป็นกำลังใจสำหรับพี่ครูคิมในวันแห่งความรักค่ะ

    สวัสดีค่ะKRUDALA

    น้องนอนดึกจังนะคะ  เพราะเป็นวันต้องไปทำงาน รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

    เรื่องราวของพี่คิม  ไม่คิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย หรือเรื่องทุกข์โศกเดือดร้อนอะไร  ถือว่ามันผ่านเข้ามาเป็นจังหวะของชีวิต เมื่อมีโอกาสได้เล่าและแบ่งปันก็ควรจะทำ

    ซึ่งการตัดสินใจหรือสถานการณ์ของเราอาจเป็นบทเรียนของคนอื่น ๆ ได้อีกหลายคน  พี่คิมยินดีค่ะ

    ขอขอบคุณที่มาอ่านและให้กำลังใจค่ะ

    สวัสดีค่ะพี่คิม

    เข้ามาอ่านอีกแง่มุมของความรักค่ะ...ความรักมีหลากหลายรูปแบบ การครองเรือนก็เป็นอีกในอีกแง่หนึ่งของความรักนะคะ ดูๆ ไปแล้วก็วุ่นวายดีทีเดียว ดาวชักรู้สึกโชคดีที่ยังครองความโสดไว้ได้ 555

    สวัสดีค่ะน้องดาวblue_star

    เรื่องแบบนี้ไม่มีบทสรุปค่ะน้องดาว  พี่คิมขอให้น้องดาวมีความรัก ความสุข ที่หอมหวานยืนนานนะคะ  เป็นกำลังใจค่ะ

    แว่ว ๆ ๆ ๆ  อยู่แล้วมิใช่หรือคะ

    สามีเจ้าชู้ 

    ผู้ถาม กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ไม่ทราบว่าลูกมีบาปมีกรรมอะไร อะไร ๆ ลูกก็ทำตามคำสอนของหลวงพ่อทุกอย่าง ทุกอย่างได้สมความปรารถนา เว้นอยู่อย่างเดียวเจ้าค่ะ...แก้ไม่ตก 
    หลวงพ่อ ทุกอย่าง...แต่เว้นอย่างเดียว เอ้า ว่าต่อไป ๆ 
    ผู้ถาม เว้นอยู่อย่างเดียวคืออย่างนี้ สามีของลูกมันเจ้าชู้ไม่หยุดไม่หย่อน ให้กินให้บริการทุกอย่างเรียบร้อย มันก็ไม่ยอม มันก็เจ้าชู้อยู่ร่ำไป ลูกไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ก็อยากจะมาปรึกษาหารือหลวงพ่อ ในฐานะหลวงพ่อก็เป็นพ่อของลูก หลวงพ่อก็เป็นเพศเดียวกับสามี หาวิธีแก้ไขให้ลูกหน่อยเถิดเจ้าค่ะ (โอ...นี่จะคิดว่าหลวงพ่อเป็นแบบผัวของตัวรึไง..พี่) 
    หลวงพ่อ วิธีแก้ไม่ยาก...หามาให้สัก ๕ คน 
    ผู้ถาม หาเมียมาให้อีก ๕ คน งั้นหรือครับ นี่จะแก้หรือครับ 
    หลวงพ่อ แก้ซิ...ไปไหนไม่ไหวหรอก เพลียหมดแรง (หัวเราะ) 
    ผู้ถาม วิธีแก้ง่ายๆ เลยนะครับ วิธีแก้สูตรเดียวกับขุนแผนเลยนะครับ 
    หลวงพ่อ (หัวเราะ) เรื่องธรรมดา ให้ทานไปบางซิ เป็นทานบารมีนะ เป็นทานบารมีด้วย เป็นเมตตาบารมีด้วย 
    ผู้ถาม เข้าหลักพรหมวิหาร ๔ เปี๊ยบเลย 
    หลวงพ่อ ใช่ ๆ ๆ

    สวัสดีค่ะอาจารย์คนบ้านไกล

    ขอขอบพระคุณกับ "ธรรมมะทีเด็ด" ค่ะ

    การตระหนักก็คือ ไม่ใช่มีเราคนเดียวที่ต้องหย่าร้างหรือเลิกลา  ก่อนหน้านี้ที่ไม่มีสามีเราก็อยู่คนเดียว  เมื่ออยู่แล้วทุกข์ก็ไม่ต้องอยู่ 

    กว่าจะได้หย่าก็ ๕ ปีค่ะ  ใหม่ ๆ ก็ยังคับแค้นบ้าง  แต่ปัจจุบันก็ทั้งอภัยและไม่ติดใจอะไรเลย

    ลืมบอกที่มาของเรื่อง สามีเจ้าชู้

    หลวงพ่อที่กล่าวถึง คือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ครับ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท