ประสบการณ์ใหม่ของวัย 5 เดือน


เฏแสดงอารมณ์ได้มากขึ้น และสามารถเรียนรู้อารมณ์ของผู้อื่นได้ เช่น

  • กางแขน และพยายามยกขาเหยียดตรง หมายถึง ต้องการให้อุ้ม
  • กระแอม สองถึงสามครั้ง หมายถึงให้หันมาสนใจ
  • ร้องโวยวาย ตะเบงเสียงดัง ทำเสียงราวกับตะคอกใส่แม่ หมายถึง ไม่ได้ดังใจ

5 เดือน กับการเริ่มต้นประสบการณ์ใหม่หลายอย่างของเฏ ทำให้เฏได้เรียนรู้ขึ้นมากมาย และเป็นเด็กรู้ความมากขึ้น

  • เฏเริ่มต้นลงสระว่ายน้ำกับพ่อแม่ เมื่อวันครบรอบ 5 เดือนพอดี กับประสบการณ์ การกินน้ำในสระ และน้ำเข้าจมูกในครั้งแรก ครั้งที่สองลูกสามารถที่จะเรียนรู้ว่า ถ้าไม่พยายามผงกหัวขึ้นเหนือผิวน้ำ จะต้องแสบจมูก เพราะหายใจเอาน้ำเข้าไป นอกจากนี้ ลูกยังเรียนรู้ที่จะใช้มือพยายามว่ายน้ำ และใช้ขาตีน้ำได้เอง โดยไม่ต้องสอน
  • เฏชอบเล่นน้ำเป็นชีวิตจิตใจตั้งแต่แรกเกิด เพราะทุกครั้งที่ได้อาบน้ำจะยิ้มร่าและสนุกสนานทุกครั้ง ตรงกันข้ามเมื่อต้องขึ้นจากกะละมังอาบน้ำเพื่อใส่เสื้อผ้า กลับร้องงอแงเสียเกือบทุกครั้งไป ดังนั้น การได้ลงเล่นน้ำในสระจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ลูกโปรดปราน แต่บางครั้งก็ไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เพราะ 5 เดือนนั้นถือว่ายังเล็กมาก กับประสบการณ์น้ำเข้าจมูก การกินน้ำในสระที่อาจปะปนเชื้อโรค และเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัด ซึ่งเราโชคดีที่เฏเป็นเด็กแข็งแรงเกินร้อย ไม่เคยป่วยไข้ไม่สบาย ทำให้ลงสระได้เร็วกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตามแม่ก็ต้องคอยจับเวลา และดูแลลักษณะวิธีการเล่นน้ำของลูกไม่ให้โลดโผนจนเกินไป


      
  • 5 เดือนกับ Baby Walker แม่ตัดสินใจซื้อ Baby Walker ให้ลูก ไม่ใช้เพราะต้องการให้หัดเดิน (ซึ่งก็ไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของ Baby Walker ตามที่คุณแม่หลายท่านเข้าใจผิดเช่นกัน) ในวัยที่เฏยังนั่งด้วยตนเองไม่ได้ แต่แขนขาเริ่มพอจะมีแรงมากขึ้น แม่จึงจับเฏใส่ Baby Walker บ้าง เพื่อแม่จะได้มีเวลาทำงานบ้านอยู่ใกล้ ๆ แต่ก็ไม่ควรให้นานเกินไป เพราะขาที่ยังไม่แข็งแรงนักของเด็กวัยนี้ อาจส่งผลต่อกระดูกสันหลังและรูปลักษณะของขาได้
  • 5 เดือนกับอาหารเสริมจริงจัง อันที่จริงเฏเริ่มอาหารเสริมเมื่อประมาณสองเดือนครึ่ง แต่กินแบบสองวันกิน ห้าวันหยุด โดยในช่วงนั้นแม่จะให้ตามความต้องการของลูกมากกว่า วันไหนที่ลูกไม่อยากกิน แม่ก็จะไม่ให้ แต่เฏจะได้กินน้ำผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ประมาณสามเดือนกว่า ขณะนี้ตารางเวลาการกินของเฏคือ
    • ตื่นเช้าควานหานมแม่ทันที ดูดแบบครึ่งหลับครึ่งตื่น
    • หลังจากนั้นก็จะมีคุณพ่อหรือไม่ก็คุณยาย พาไปล้างงหน้า และเตรียมพร้อมออกเดินเที่ยววันละประมาณหนึ่งชั่วโมงทุกเช้า (เฏเดินเที่ยวรับอากาศเช้าเย็นแบบนี้มาตั้งแต่ วันที่ 6 หลังจากออกโรงพยาบาล)
    • กลับมาก็จะกินน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่คุณพ่อและคุณยายจะลืมทุกครั้งถ้าคุณแม่ไม่เตือน
    • แล้วก็อาบน้ำ
    • ดูดนมแม่
    • ถ้าวันไหน เดินเหนื่อยมากก็จะหลับไปเลย ถ้าไม่เหนื่อยก็จะเล่นอีกประมาณ 30 – 60 นาที ก็จะนอนช่วงประมาณ 30 นาที
    • ตื่นมาไม่เกิน 5 นาทีจะฉี่ หรือไม่ก็ตื่นเพราะฉี่
    • เล่นประมาณ 30 – 60 นาที
    • หลังจากนั้นแม่ก็จะให้ดูดน้ำผลไม้จากขวด ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำส้ม โดยผลไม้ที่เฏได้เคยลิ้มรสแล้วได้แก่ แอปเปิ้ล สาลี่ ส้มโอ (แบบเป็นชิ้น ๆ ) มะละกอ ละมุด (เลียแผลบ ๆ ) แตงโม หากวันไหนที่ไม่ได้ถ่ายติดต่อกันสองถึงสามวัน แม่ก็จะให้นมเปรี้ยวบ้าง ซึ่งก็ได้ผลดี เฏไม่ใช่เด็กธาตุหนัก ได้นมเปรี้ยวไป ไม่เกินครึ่งวันก็จะถ่ายดี เฏไม่เคยมีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายเลย คงเพราะกินนมแม่ตั้งแต่เกิด
    • ตอนนี้อะไรที่เฏพอจะชิมได้ ทั้งแม่และคุณยายก็จะพยายามให้เฏได้ชิมอาหารรสชาติแปลก ๆ มากขึ้น เช่น ไอศกรีมแบบ Soft ice cream กาแฟก็เคยโดนแตะลิ้นนิดหน่อย นมถั่วเหลือง น้ำเก๊กฮวย ฯลฯ
    • หลังได้น้ำผลไม้ เฏจะดูดน้ำต้มสุกประมาณห้าทีดูด
    • แล้วก็เล่นต่อประมาณหนึ่งชั่วโมง
    • และดูดนมแม่จนหลับ
    • ช่วงบ่ายเฏจะหลับประมาณ 1 – 3.5 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ถ้าอยู่กับคุณแม่ก็จะหลับยาว ตื่นมาฉี่ ตื่นมาดูดนมก็หลับต่อได้ แต่แม่ไม่เข้าใจ เมื่อไหร่ที่คุณยายมาอยู่ด้วยเฏมักหลับได้ไม่นาน คงเป็นเพราะอยากตื่นมาให้คุณยายอุ้ม
    • ประมาณสี่โมงเย็นเมื่อตื่น ก็จะเล่นประมาณ 45 นาที
    • หลังจากนั้นก็จะได้กินของหนัก เช่น โจ๊กต้มกับน้ำซุปต่าง ๆ อาหารเสริมสำเร็จรูป ซุปมันฝรั่ง เนื้อปลาบด ฟักทองบด กล้วยครูด (เฏไม่ชอบ) ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารที่ครอบครัวรับประทานที่เด็กวัยนี้สามารถทานได้ โดยต้องไม่ใส่ซีอิ๊ว หรือน้ำปลา หรือเครื่องปรุงรสที่มีส่วนผสมของผงชูรส และวัตถุกันเสีย ฯลฯ
    • หลังจากล้างหน้าล้างตาทำความสะอาดรอยเปรอะเปื้อนจากการกิน ก็จะไปเดินเล่นรอบเย็นประมาณหนึ่งชั่วโมง บางวันก็ไปว่ายน้ำ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ

    • ก่อนหน้านี้ที่เฏยังไม่แปดกิโล ทุกคนก็พอจะยังไหวในท่าโปรดที่ต้องอุ้มเฏ คือหันหน้าเฏออกข้างนอก ให้หลังพิงหน้าท้องผู้อุ้ม แต่หลังจากแปดกิโล ทุกคนก็เริ่มโอดครวญ และเริ่มใช้รถเข็นมากขึ้น เพราะเฏเริ่มนั่งได้ โดยก่อนหน้านี้ที่ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะต้องให้เฏนอน และเห็นว่าเฏจะไม่ค่อยได้ปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมรอบข้างมากนัก
    • สำหรับเป้อุ้มเด็กนั้นแม่เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนแรก แต่เห็นว่าไม่เหมาะนักสำหรับเฏ ด้วยน้ำหนักที่ถ่วงทำให้ตัวเป้รัดขาเฏจนเป็นรอยแดง ที่สำคัญดูเฏจะอึดอัดไม่สบายตัวนัก ครั้นจะใช้แบบผ้า อุ้มกึ่งนอนเฏนั้นก็ไม่อยู่นิ่ง ชอบมองวิว และพูดคุยกับผู้คนที่พบเจอ ที่สำคัญหลังจากห้าเดือนเป็นต้นมา ช่วงเดินเล่นฏจะร้องเพลงไปด้วย ครั้งหนึ่งร้องเพลงจนคนในหมู่บ้านวิ่งออกมาดู ชื่นชมในความเป็นเด็กอารมณ์ดีของเฏ
    • กลับจากเดินเล่น ก็อาบน้ำ
    • กินนม
    • ขึ้นไปนอนเล่นบนเตียงนอน
    • แล้วก็หลับ เฏนี่เป็นเด็กหลับยาก กว่าจะกล่อมให้หลับได้ ต้องรอให้ง่วงมาก ๆ เสียก่อน ไม่เช่นนั้นก็จะงอแง ขยี้ตา ขยี้หู จนเป็นรอย เลือดออกหลายครั้งหลายครา
    • พฤติกรรมการนอนเวลากลางคืน มักจะตื่นควานหานมแม่ ดูดพอให้รู้ว่าแม่อยู่ใกล้ก็หลับต่อ
    • เฏนั้นหลังจากกินนมทุกครั้งต้องเรอ วิธีการสังเกตว่ามีลมอยู่ในท้องและเฏอยากเรอ คือลิ้นจะจุกปาก เมื่ออุ้มพาดบ่า หรือให้นั่งแล้วตบหลังเบา ๆ หรือเฏอาจพลิกคว่ำเอง ก็จะสามารถเรออกมา และหลับต่อได้
    • แม่ใส่ผ้าอ้อมกระดาษให้เฏยามหลับกลางคืน แต่ด้วยความที่เฏเป็นเด็กขี้ร้อน ก็ต้องคอยพัดให้เหงื่อข้างในผ้าอ้อมระเหยออกไป ซึ่งตอนนี้แม่กำลังคิดหนทางอื่นให้เฏหลับสบายกว่านี้อยู่

กิจวัตรประจำวันของเฏก็จะเป็นแบบนี้ในช่วงห้าเดือน วนเวียนไปในแต่ละวัน เปลี่ยนแปลงไปบ้างยามที่ต้องออกนอกบ้าน ที่อาจจะไปหลับบนรถ กินนมในรถ โดยแม่จะพยายามปั๊มนมในเวลาที่นมเริ่มเต็มเต้า แช่เก็บไว้สำหรับยามออกเดินทาง เดือนที่ห้านี้ เฏมีโอกาสได้ลิ้มรสนมผสมบ้าง เพื่อความสะดวกในการเดินทาง แต่อย่างไรก็ไม่ทำให้นมแม่ไหลลดลง ห้าเดือนแล้วแม่ยังมีนมเหลือเฟือให้เฏอยู่

  • ฟันงอกแล้ว เฏเริ่มมีฟันขึ้นเมื่อประมาณสี่เดือนครึ่ง ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็วกว่าปกติที่จะขึ้นราว 6 – 8 เดือน โดยมีฟันล่างสองซี่กลางขึ้นมาก่อน ตอนนี้ขณะดูดนมแม่เฏเริ่มเล่นไปดูดไป โดยพ่นลมบ้าง กัดบ้าง ถ้าฟันขึ้นมากกว่านี้แม่คงต้องเริ่มเปลี่ยนเป็นมาปั๊มให้ดูดขวดแทน

อย่างไรก็ดี หกเดือนเฏก็ต้องเริ่มที่จะฝึกดื่มนมจากถ้วยหัดดื่มและฝึกกินอาหารด้วยช้อนมากขึ้น

วันก่อนป้าจัน หรืออาจารย์จันให้เสื้อผ้าของพี่ต้นไม้ และของเล่นเยอะแยะมากมาย ทำให้แม่สามารถประหยัดไปได้มาก แต่อย่างไรเสีย ค่าใช้จ่ายของลูกขณะนี้ก็มากกว่าของพ่อแม่รวมกันเสียอีก

  • การเที่ยวนอกบ้าน ดูเหมือนจะเป็นเรื่องปกติของเฏ ที่แม่เริ่มพาออกนอกบ้านตั้งแต่ยังเล็ก และโชคดีที่เฏเป็นเด็กแข็งแรง ไม่ติดเชื้อโรคได้ง่าย (แต่อย่างไรแม่ก็ต้องคำนวณระยะเวลาที่จะให้ลูกอยู่ในสถานที่สาธารณะอย่างพอเหมาะ ไม่นานเกินไปจนลูกเหนื่อย จนทำให้เชื้อโรคสู่ร่างกายได้ง่าย และร่างกายก็อ่อนแอเกินไปที่จะต่อสู้กับมัน ดังนั้น ระยะเวลาและพฤติกรรมของลูกคือสิ่งสำคัญที่แม่ต้องคำนึงถึง) แม่จึงได้ใจพาออกนอกบ้านบ่อยมาก แต่แม่ก็ต้องแข่งกับเวลาหากต้องพาเฏไปด้วย โดยไม่ให้เฏอยู่นอกบ้านนานเกินไปจนร่างกายอ่อนแอ และหลับผล็อยไปเอง

  • ช่วงเวลาที่เวลาที่เฏหลับ แม่ก็ต้องรีบมาทำงาน ทั้งงานบ้าน ทำงาน SAWASDEE Thailand แปลข่าว และงานเขียนบ้างถ้ามี ไม่ง่ายนักสำหรับงาน Creative กับการเลี้ยงลูกไปด้วย แต่โชคดีที่แม่ชอบทำเรื่องท้าทายดังนั้น จึงเป็นเรื่องสนุกแกมกดดันสำหรับแม่ บางครั้งอยู่กับเฏไป แม่ยังแอบคิดไอเดียในงานเขียนไปด้วย
หมายเลขบันทึก: 425952เขียนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2011 22:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

น้องเฎ น่ารักมาก ครับ   ชอบๆ คงมีเวลาแวะไปอุ้มหากผ่านไปแถวนั้น

ค่ะบัง น้องเฏก็อยากพบบังด้วยค่ะ

เพราะได้ความรู้การเลี้ยงน้องจากอ.จันมามากเลยค่ะ :)

น้องเฏโตขึ้นเยอะเเล้วเนอะ ดูจ้ำม่ำ ขึ้นเป็นกองเลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท