คุยกับตนเอง (๑/๕๔) ร่องรอยชีวิตที่เดินสวนทาง


ก่อนสิ้นปีข้าพเจ้าเขียนบันทึกเรื่อง หนึ่งปีแห่งความไร้ตัวตน เป็นการเปรียบเปรยกับวิถีชีวิตที่ไม่ได้ถือเอาความสำเร็จมาเป็นของตนเอง การใช้ชีวิตในแต่ละวันหากมองไปแล้วในฐานะของคนทำงานคล้ายกับคนที่ไม่มีผลงานใดใดปรากฏต่อสาธารณะชน ทำให้นึกหวนคิดถึงหลายๆ สถาบันที่เคยเข้าไปร่ำเรียนแล้วเขาอยากขอสถานะให้เราเป็น "ศิษย์เก่าดีเด่น" แต่...เมื่อถามหาใบประกาศเกียรติคุณกลับไม่มีให้เขาจึงไม่สามารถส่งชื่อเราเข้าพิจารณาได้ เพราะตลอดชีวิตไม่เคยนำพาใส่ใจในเรื่องเช่นนี้เลย และเชื่อมาเสมอว่าชีวิตไม่ต้องดำรงอยู่ภายใต้เงื่อนไขนี้ก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข

ชีวิตข้าพเจ้าจึงเป็นภาพ...

  • ไม่มีตำแหน่งหน้าที่การงานใดใด เป็นเพียงข้าราชการเล็กๆ ในหน่วยงานเล็กๆ ที่ทำหน้าที่เยียวยาทางจิตใจผู้คน ทำให้สามารถเดินไปไหนมาไหนในทุกๆ มุมขององค์กรได้อย่างสบายใจและรู้สึกว่ามีผู้คนยินดีต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
  • ไม่แสวงหาเงินทองเพื่อให้ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีรายได้มาก ... ขายรถคันใหญ่มาใช้รถคันเล็กๆ ที่ใครๆ ก็ทักท้วงว่าไม่เหมาะสมกับเศรษฐานะทางสังคม ทำให้ข้าพเจ้าใคร่สงสัยว่า คนต้องขับรถคันใหญ่โตราคาร่วมล้านเหรอจึงจะได้รับการยอมรับจากผู้คน
  • ไม่ทำตัวเป็นเจ้าของการงานใดใด หากแต่ลงมือทำงานทุกงานที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ อย่างสุดกำลังบางครั้งจึงดูคล้ายคนโง่ แต่ในใจข้าพเจ้ามองความโง่ที่ว่านี้เป็นความสุขใจเบาเบา...ข้าพเจ้าสามารถทำงานได้ตั้งแต่เดินเก็บขยะไปจนถึงนั่งใช้ปัญญาใคร่ครวญในห้องแอร์เย็นๆ สบาย...
  • ไม่ค่อยเดินทางไปไหน นอกจากที่ต่างๆ ที่เห็นว่าข้าพเจ้ามีประโยชน์ก็จะเชิญไปร่วมทำงานด้วย ทำงานเสร็จก็กลับบ้านดำรงชีวิตอยู่ที่บ้าน และทำเช่นนี้เรื่อยมานานหลายปี แต่ผู้คนส่วนใหญ่ไม่ทราบมักตำหนิว่าข้าพเจ้าตะลอนไปนั่นนี่ทิ้งแม่ แต่นั้นสำหรับความรู้สึกของข้าพเจ้าแล้วมองว่าเขาไม่เข้าใจในอีกหลายๆ มุมของชีวิตที่เป็นข้าพเจ้า
  • ไม่ค่อยสมาคมกับผู้คนแต่ก็สัมพันธ์ได้อย่างไม่รังเกียจ ไม่ไปงานเลี้ยงบันเทิง สังสรรค์ใดใด...กลุ่มผู้คนที่ได้สมาคมอย่างสนิทสนมด้วยล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่น้อมใจลงอย่างนอบน้อมนำตนเองให้อยู่ในศีลและการเสียสละ กัลยาณมิตรเหล่านี้เราค่อนข้างไม่ห่างเหินต่อกัน เจอกันเมื่อไร...หัวใจก็สานสัมพันธ์ต่อกันได้เสมอ
  • ...
  • ...

สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดของการมีชีวิตอยู่ คือ การทำตัวให้รู้สึกตัวว่ากำลังหายใจเข้าหรือกำลังหายใจออก และตั้งมั่นพยายามไม่ทำผิดพลาดในเรื่องศีลธรรม หรือบางช่วงชีวิตพลาดไปด้วยความไม่รู้ ก็พยายามให้อภัยตนเองและเริ่มต้นต่อตนเองใหม่เสมอ...เป็นการเริ่มต้นทุกๆ วินาที

ประคองอารมณ์...ที่เป็นอยู่ให้เป็นอารมณ์แห่งธรรม มากกว่าอารมณ์ของความหลง ความอยาก และความโกรธ ==> "ตัวหลง" นี่ร้ายมากเพราะบางคราเราหลงไป อารมณ์ของความอยากและความโกรธก็จะแสดงเป็นอารมณ์ของจิตแบบตามกันมาติดๆ...ส่วนอารมณ์แห่งธรรมตอนนี้ก็ยังไม่เข้าใจมากเท่าไรนัก รู้แต่เพียงว่า...รักและเข้าใจผู้อื่นให้มากๆ เมื่อเรารักและเข้าใจผู้คนแล้ว เราจะไม่รู้สึกโกรธ-เกลียด ชิงชังใครจะมีแต่สงสารและอยากจะช่วยเหลือ...เมื่อได้นำพาอารมณ์ของจิตไปเช่นนี้แล้วและเราได้ลงมือเกื้อกูลผู้คนแล้วจะทำให้เรารู้สึกว่า "เราได้ทำเต็มที่แล้ว...อันเป็นความเต็มที่ตามศักยภาพที่เรามี"...เราก็จะสามารถวางลงจากใจได้ด้วยใจเบาเบา

เราต้องปฏิบัติภาวนาเจริญสติอย่างมาก ... เราจึงสามารถดำรงอยู่ได้ท่ามกลางกระแสของครอบครัว สังคม และโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ได้ด้วยใจที่ร่มเย็น

การเจริญสติทุกย่างก้าว ทุกอิริยบท ทุกลมหายใจเข้าและออก...ช่วยทำให้เราไม่เพิ่มความรุ่มร้อนในจิตใจเรา อีกทั้งก่อเกิดเป็นกำลังของจิตที่ช่วยนำเราให้สามารถพิจารณาสิ่งต่างๆ ได้อย่างลุ่มลึกขึ้น ภาษาธรรมะนี่แหละเราเรียกว่า วิปัสสนา... เมื่อก่อนเคยสงสัยว่า "ธรรม" กับการดำรงอยู่สามารถเชื่อมโยงกันได้อย่างไร ไปวัด สวดมนต์ ให้ทาน ทำบุญ...แล้วในวิถีชีวิตประจำนี่จะทำอย่างไร จนได้มานิสัยแห่งการดำรงชีวิตตามแนวทางขององค์พระหลวงตามหาบัวและของหลวงปู่ติช นัทฮันห์...จึงพอมองเห็นหนทางชัดเจนขึ้นและกล้าที่จะก้าวเดิน แม้จะเป็นการเดินสวนทางกับผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม บางครั้งอาจถูกหัวเราะว่า "เป็นคนบ้า"... เพราะมักทำอะไรสวนทางผู้คน ==> ปฏิเสธการแต่งงานมีครอบครัว ปฏิเสธฐานะทางการงานที่ใหญ่โตตามความเชื่อของผู้คน ปฏิเสธการเรียนแบบเพื่อยกระดับชีวิตและเอาใบปริญญา...ปฏิเสธความสุขแบบที่คนทั่วไปเสพสุขกันอยู่...

นี่เป็นอีกหนึ่งปีในอีกหลายๆ ปีที่ผ่านมาที่สะท้อนถึงสิ่งที่ยืนยันความเชื่อมั่นต่อหนทางแห่งการมีความคิดเห็นต่อชีวิตเช่นนี้ ชีวิตที่ดำเนินไปในหนทางแห่งการมีศีล สมาธิ และปัญญาหรือแยกย่อยลงไปคือหนทางแปดอย่างที่ดำเนิน (มรรคแปด)...นั่นเอง

เราไม่ต้องไปบวช...เราก็สามารถทำได้ในวิถีชีวิตประจำวันเรานี่แหละ ทำไปเรื่อยๆ แล้วเราจะเห็นผลปรากฏขึ้นในจิตใจเราเอง...

 

ปี ๒๕๕๓

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 417759เขียนเมื่อ 2 มกราคม 2011 17:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ตุลาคม 2013 22:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สาธุ อนุโมทนาในบุญในกุศลด้วยครับ

เห็นด้วยกับดร. Ka-poom 

รุ่นน้องเคยเรื่อง เขียนวัดอยู่ที่ใจ มาให้อ่าน

เคยสังเกตไหมคะว่า

เมื่อได้มาวัด ก็รู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจ สุขสบายใจขึ้นมา

พอกลับบ้านก็ผจญกับอารมณ์ต่าง ๆ อีก จิตก็ต้องคิดโน่นคิดนี้มีอารมณ์ต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

วุ่นดีแท้ ไม่ค่อยสงบอย่างตอนที่อยู่วัด

เมื่อใดก็ตามเอา "วัด" ซึ่งเป็นสถานที่นอกบ้านให้มาอยู่ที่ใจ ซึ่งเป็นสถานที่สมมติให้จิตได้ฝึกปฏิบัติธรรมอยู่ตลอดเวลาแม้กายจะไม่ไปวัด ก็ตาม หากทำได้อย่างนี้ เมื่อนั้นกายและใจก็ไม่ยึดติด "วัด" ซึ่งเป็็นสถานที่หรือสมบัติภายนอก

เพราะได้ทำเนื้อที่ภายในใจให้เป็นวัด อยู่ที่ใดก็เป็นสุขและได้ร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนาให้เย็นกายเย็นใจตลอดเวลาพร้อมกับ

ได้แสงสว่างแห่งพระรัตนตรัยช่วยชี้นำทาง ทำให้จิตอยู่กับสติสัมปชัญญะ เกิดความผ่องใส เป็นความสุขได้นานขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะได้อยู่"วัด"ในใจนี้เองค่ะ "วัด"ในใจจึงไม่ใช่สมบัติภายนอกที่จับต้องได้อีกต่อไปค่ะ

ประทับใจในบันทึกนี้นะคะ

เป็นวิถีชีวิตที่น่าชื่นชมและมีคุณค่าค่ะ

ปีใหม่นี้ขอให้น้องกะปุ๋มมีความสุขมากๆ ค่ะ

อ่านแล้วรู้สึกอิ่มใจ ขอเป็นกำลังใจ และขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ด้วยนะคะ ดิฉันจะขอนำสิ่งดีดีที่อาจารย์มอบให้ไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ให้มีสติทุกย่างก้าว

ปีใหม่สุข สงบ ในใจค่ะพี่กะปุ๋ม

ชอบๆ โดนใจ ใช่เลย ชัดเจน มั่นใจ

 

ไปนอนจงกลม ต่อนะคะ ขอบคุณค่ะ :)

สวัสดีค่ะ

ส่งภาพหลานน้อย...โลมา...มา "สวัสดีปีใหม่คุณกะปุ๋มค่ะ"

พวกเราไปปิดทองฝังลูกนิมิตร  และได้ถ่ายภาพมาชมกันค่ะ

เราไม่ต้องไปบวช...เราก็สามารถทำได้ในวิถีชีวิตประจำวันเรานี่แหละ ทำไปเรื่อยๆ แล้วเราจะเห็นผลปรากฏขึ้นในจิตใจเราเอง

ขอขอบคุณค่ะ

 

...โมธทนา..สาธุ..ขอคารวะ..มากับจิต..อันเป็นกุศล..เจ้าค่ะ..ยายธี

Large_zen_pics_007 

เป็นความรู้สึกที่ดีเสมอค่ะ...เมื่อได้อ่านความเห็นของกัลยาณมิตรทุกท่าน

ทำให้นึกเห็นเป็นภาพต้นไม้หลายๆ ต้นที่ต่างช่วยกันพยุง เกื้อกูล ให้ผืนแผ่นดินที่เราดำรงต้นยืนอยู่นี้ ... ชุ่มฉ่ำเย็นค่ะ

...

ขอขอบพระคุณอ.กะปุ๋มที่มอบสิ่งดีงามให้เสมอมา ทำให้ทุกย่างก้าวของชีวิตตื่นรู้อยู่ตลอดเวลา

มีความสุขทุกครั้งที่ได้ระลึกถึง...อิ่มใจจังค่ะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท