แวะไปกินกาแฟสดที่ดอยปุย ( ๑ ) : ข้าวผัดกระเพราหมู ณ ยอดดอยปุย


เริ่มเข้าเดือนธันวาคมอีกปีแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่า "นางพญาเสือโคร่ง" ที่ดอยปุยใกล้บานตระการตาหรือยัง คิดในใจว่า แล้วทำอย่างไรจึงจะรู้ได้ งั้นคงต้องหาเวลาและหนทางไปดูให้เห็นกับตามว่า บานหรือไม่บาน

อีกอารมณ์คือ "เขียนคำว่าเหงาตัวเท่าบ้าน" ... มีชีวิตอยู่คนเดียว อยากไปไหนก็ไปคนเดียวดิ รถเครื่องมันเป็นเรื่องของความลำบากและยากจน ;(

 

การเดินทางเริ่มจากการสำรวจสถานการณ์รอบตัวก่อน ... ไม่มีสอน ... ภาระงานพักรอได้ ... รถเครื่องพร้อมปานกลาง ... กล้องถ่ายรูปก็ยังถือของที่ทำงานเอาไว้อยู่ ... นอนพักผ่อนเต็มที่แล้วด้วย อิ อิ งั้นพร้อม !

โครงการนี้ คือ "การแวะไปกินกาแฟสดที่ดอยปุย" ;) เป็นเป้าหมายหลักในวันนี้

 

 

เครื่องแต่งกายใช้ชุดทำงาน กางเกงผ้าหนาเสียหน่อย รองเท้าคัทชูหนังสีดำ (ไม่เคยเอารองเท้าหนังขึ้นดอยสักที) เสื้อโปโลสบาย ๆ แต่ต้องคุมด้วยเสื้อกันหิมะสีส้มสักหน่อย เพราะคิดว่าอย่างไรบนดอยก็คงจะเย็นและหนาวกว่าพื้นราบแน่ ๆ ตามด้วยถุงมือใหม่ที่เพิ่งซื้อมา เปิดซิ่งงานนี้เลย

 

 

อุปกรณ์ที่นำไปด้วย มีเป้ทำงาน เอาที่สะพายพาดไว้ที่แฮนด์รถสองข้าง เอาถุงใส่ถุงมือห้อยไว้แฮนด์ด้านซ้ายมือ อีกใบเป็นถุงเปล่า รอใส่ของกินที่จะแวะซื้อที่เซเว่นฯ (เพราะยังไม่ได้กินข้าวสักมื้อเลย)

 

 

เป็นไงครับ เหมือนขี่รถเครื่องไปทำงานไหม แต่ไม่ได้ไปทำงานอ่ะ ไปขึ้นดอยสุเทพ-ปุย ปู้นนนน... ;)

 

น้ำมันยังไม่ต้องเติม กะว่าพออยู่ ... ขี่รถออกจากบ้าน ราว 13.00 น. แล้ว แดดแรงใช้ได้

แวะเซเว่นใหม่ตรง อบต.สุเทพ ได้น้ำเปล่า 1 ขวด กาแฟกระป๋อง 1 กระป๋อง และขนมปังสอดไส้ฟาร์มเฮาส์อีก 2 ชิ้น หมดไป 40 บาท (เอาเหรียญไปจ่ายหมด)

 

เส้นทางที่ใช้ คือ ผ่านเข้าประตูหลังมอชอ ถนนสุเทพ ออกประตูหน้ามอชอ เลี้ยวซ้ายตามถนนห้วยแก้ว ขึ้นดอยสุเทพฯ

ในระหว่างการขี่รถ ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพราะร้างการขี่รถขึ้นดอยหลายเดือน เราต้องไม่ประมาทในทุกเรื่องของชีวิต เพราะชีวิตเรายังทำประโยชน์ให้แผ่นดินได้ไม่พอ

 

ผมขี่รถผ่านสถานที่สำคัญมาเรื่อย ๆ ยิ่งสูง ยิ่งสูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าเต็มปอด ต้นไม้สองข้างทางก็ร่มรื่นจนเข้าขั้นมืดได้เลย เกียร์ 2 มาเกือบตลอดทาง บางช่วงชันมาก ก็ต้องตบเกียร์ 1 ช่วยอย่างแรง

เมื่อผ่านทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ที่แสนวุ่นวาย (สำหรับผม) ผมเลี้ยวต่อไปยังพระตำหนักภูพิงค์ฯ ซึ่งทางชันมากขึ้น ผ่านฐานรักษาความปลอดภัย ตชด. ความกว้างของถนนเหลือ 3 เมตร รถผ่านได้คันเดียว แถมถนนยังพังเป็นช่วง ๆ จากหน้าฝนที่ผ่านมา อากาศเย็นมากขึ้นเรื่อย ๆ (ดีนะที่ใส่เสื้อกันหิมะมา)

เลยจุดชมวิวที่ผมมักแวะประจำ แต่ครานี้ไม่แวะ เอาเป้าหมายก่อน คือ แวะไปกินกาแฟสดที่ดอยปุย

 

ทางชันและหักศอก รถยนต์สวนลำบาก แต่รถเครื่องวิ่งฉลุย เพียงแต่จะมีป้ายให้บีบแตรเตือนรถที่สวนมาตลอดทาง ตอนนี้น่าจะนับได้แล้ว 15 กิโลเมตรจากพื้นราบ

"สันกู่" ผ่านมาอีก ... มาจนถึงป้ายบอกว่า "ลานกางเตนท์" เอาล่ะสิ หิวข้าวอ่ะ จำได้ว่า ที่ลานกางเตนท์จะมีร้านค้าสวัสดิการดอยปุยอยู่ งั้นแวะก่อนแล้วกัน พักรถด้วย พักคนด้วย ยังไม่ได้พักสักกะที่เลย

 

ผมขี่รถพุ่งไปที่ลานจอด แล้วจอดรถทันที เห็นนักท่องเที่ยวไม่ถึง 10 คน เดินถ่ายรูปดอกไม้ไป-มา เห็นพี่หนวดยาว ๆ เพื่อชีวิตกำลังนั่งแอ็คชั่นให้แฟนสาวสวยถ่ายรูปกับรถช็อปเปอร์อยู่ (แฟนแกสวยอ่ะ ตรงข้ามกันจริง ๆ) ผมเดินส่งยิ้มให้ด้วยความอิจฉาในใจ (ตูไม่มีบ้างแล้วไป ฮึ) เดินลงมาเรื่อย ๆ (พอเดินลงมา พี่หนวดยาวแกโอบแฟนแล้วถ่ายรูปคู่กัน เหอ เหอ ฝากไว้ก่อนนะพี่)

 

(ผมเดินจากหลังคาเขียว ๆ ลงมาถึงจุดที่ถ่ายภาพ)

 

 

(หลังด้านขวามือที่เห็นครับ คือ ร้านสวัสดิการดอยปุย)

 

 

ลงมือถึง หาป้าที่คุ้นเคย แล้วจัดการสั่งทันทีว่า "ป้าครับ ข้าวผัดกระเพราหมู ราดไข่ดาวด้วยครับป้า"

 

(เห็นป้าของผมไหมครับ นั่นไง กำลังหาหมู หาผักอยู่เลย)

 

 

สั่งข้าวเสร็จผมก็เดินเก็บภาพ พร้อมสูดอากาศเย็น ๆ ให้ชุ่มปอด

 

(เห็นวิวไกล ๆ ไหมครับ นั่นน่ะ เมืองเชียงใหม่อันกว้างขวาง)

 

 

(นี่คือ ภาพชุด "กุหลาบพันปี" พันธุ์ที่ทางอุทยานฯ สามารถเพาะเองได้ มีหลายสี แปลงอยู่ข้าง ๆ ร้านสวัสดิการดอยปุยเลย)

 

 

แล้วในที่สุด ... "ข้าวผัดกระเพราหมู โปะด้วยไข่ดาว" ก็เดินทางมาถึง

 

 

เราต้องเดินไปรับเองที่ตรงเคาน์เตอร์นะครับ ป้าแกจะยื่นมาให้ เรารับมา ก็หาช้อน ซ่อม พร้อมราดน้ำปลาพริกเสียหน่อย แค่นี้ ก็คือ อาหารเลิศหรูที่สุดของภูดอยแห่งนี้ ;)

ถ่ายรูปเพื่อเป็นหลักฐานมาบอกนี่แหละ แล้วจัดการซัดซะไม่เหลือข้าวสักกะเม็ด เพราะนี่คือ ข้าวมื้อแรก ณ เวลา 14.30 น. บนยอดดอยปุยแห่งนี้

นี่ผมมานั่งทานข้าวบนดอยสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1685 เมตร จากระดับน้ำทะเล แต่ค่าอาหารเพียง 35 บาทครับ ;) ความรู้สึกเหมือนทานข้าวพื้นราบเลย พอ ๆ กัน

 

(ลานกางเตนท์ อีกมุมหนึ่ง)

 

 

ทานข้าวเสร็จ ก็เดินเก็บภาพจนมาถึงลานจอดรถด้านบน ...

 

(ผมไม่แน่ใจว่า เป็นกล้วยไม้ประเภทใด แต่ปลูกอยู่ในดิน หน้าที่ทำการฯ เห็นทุกปี ปีนี้กำลังเริ่มบาน บางดอกก็ยังตูมอยู่)

 

 

เมื่อผมเดินมาถึงลานจอดรถ สิ่งแรกที่ทำคือ หาน้ำเปล่าที่ซื้อไว้ แล้วเอาก้นมานั่งแมะที่รั้วจอดรถเครื่องนี่แหละ อากาศดีเหลือเกิน พอซัดน้ำเสร็จ ขอกาแฟกระป๋อง กับ ขนมปังสอดไส้ดีกว่า ดูดปื้มมม กัดป๊าบบบ อร่อยชะมัด อิ อิ 

เมื่อทานเสร็จ ก็มองหาถังขยะว่าอยู่ตรงไหน ... สายตาเหลือบไปเห็นพอดี

 

 

ถังขยะ 5 สี ที่ทางอุทยานฯ วางกันให้นักท่องเที่ยวเห็นกันจะ ๆ เลย ... แต่ดูสภาพแล้วเนี่ย นักท่องเที่ยวคงทิ้งไปเรื่อย เอาของขึ้นมากิน แล้วก็ทิ้งมันซะที่นี่ คงไม่ได้คิดว่า จะเป็นภาระของเจ้าหน้าที่เขาล่ะสิ เขาจะเอาไปทิ้ง หรือ ทำลายอย่างไร

เห็นเช่นนั้นแล้ว ผมจึงตัดสินใจไม่ทิ้งที่ถังขยะพวกนี้ แต่ทิ้งในถุงพลาสติกของตัวเอง แล้วค่อยเอาไปทิ้งที่พื้นราบเองดีกว่า ไม่ต้องทำความเดือดร้อนให้กับเจ้าหน้าที่เขา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ไม่เบียดเบียนโลกให้มากไปกว่านี้

 

(นี่ไงครับ ถุงขยะของผม ทิ้งมันซะในนี้แหละ ไม่ได้เหนือบ่าฝ่าแรงเลย ;)

 

 

เกิดมาเป็นมนุษย์ ย่อมเหนือกว่าสัตว์ประเภทอื่น ๆ ในด้านการรู้จักผิดชอบชั่วดี

เรื่องแค่นี้ คงไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ ... เอาขยะมาได้ ก็ย่อมต้องเอาไปทิ้งได้และทำลายได้เช่นกัน

 

รีบ ๆ รักษ์โลกเสียแต่วันนี้นะครับ อนาคตอาจจะไม่มีโลกมาให้รักษ์ก็ได้ ใครจะรู้

ผมจะขอออกเดินทางต่อไปแล้วนะครับ อีก 3 กิโลเมตรก็ถึงเป้าหมายแล้วครับ แต่เป็น 3 กิโลแม้วอ่ะ ;)

 

ขอบคุณที่ติดตามอ่านบันทึกนี้

บุญรักษา คนรักษ์โลกทุกท่าน ;)

 

 

 


 

ข้อมูลภาพ

สถานที่ : อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่

วันที่ : 1 ธันวาคม 2553

กล้อง : Nikon D60

ลิขสิทธิ์ : wasawatdeemarn (c) gmail.com

 

หมายเลขบันทึก: 411508เขียนเมื่อ 2 ธันวาคม 2010 02:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 08:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (22)

"เขียนคำว่าเหงาตัวเท่าบ้าน" ...

แล้วท่านก็จัดการความเหงาได้..เต็มที่ เต็มอารมณ์

ดีจังค่ะ ได้ท่องเที่ยว เก็บภาพแบบโดดเดี่ยว ไม่เดียวดาย

เป็นมนุษย์ผู้ชายก็ดีแบบนี้...แล้วฝากเจ้าจิ้ม..ไว้กะใครคะ

มาแวะชมภาพเล่าเรื่อง

กล้วยไม้ชนิดนี้เป็นกล้วยไม้ดิน ตระกูลซิมบิเดี้ยม cymbidium

ตระกูลเดียวกับกะเรกะร่อน แต่ชนิดนี้น่าจะเป็นลูำกผสมมากกว่าพันธ์แท้ครับ

ตามมาติดๆ  ....  ครูเอยังไปไม่ถึงบ้านแม้วเลยค่ะ  อย่าเบรคบ่อยซิค่ะ หิว  ๆ  อิอิ

ผมชอบดอกกุหลาบพันปีครับ...พยายามหาภาพเดิมที่เคยถ่ายมาให้ชมเเต่ยังหาไม่เจอ

อ.วัส ภาพเหล่านี้นอกจากจะสวยงามเเล้ว ยังรู้สึกถึงความเงียบ ง่ายเเละเหงาด้วยครับ :)

--------------------------------------------------------------------------------------

ผมจะกลับเชียงใหม่อีกไม่กี่วัน หากมีเวลาพอคงจะจิบกาแฟร้อนๆด้วยกันสักถ้วยนะครับ ผมอยากคุยเรื่อง การเตรียมงานที่เคยคุยกันสักหน่อยครับ 

 

อ่านบันทึกคนหัวใจแก่ขี่รถเครื่องเก่าขึ้นดอย น่ารักแบบทุบกระปุกแต่ยังเข้าเซฯ ได้นะคะฮา ๕ ๕ มีความสุขกับทุกบันทึกเปิดเผย และข้าวเมนูเรียบง่าย ก็ชวนหิวค่ะ อ. ระวังโรคกระเพาะนะเจ้า เล่นควบมื้ออย่างนี้ อิ อิ

ดอกไม้สวยมากๆ วิวก็งามงด บรรยากาศก็เป็นจิต ได้คิดรักษ์สิ่งแวดล้อมโตย ชอบๆ .. เมื่อมีจุดหมายปลายทางที่ชัดเจน จะไปด้วยยานพาหนะ แบบไหนๆ ก็สุขใจได้มิจำกัด เพราะหัวใจที่ยิ่งใหญ่ต่างหากเล่าที่นำพาเราไป  :)

ขอบคุณครับ คุณ ครู ป.1 ;)...

คงเป็นเสน่ห์ของเชียงใหม่ด้วยนะครับ หากเหงา เศร้า เบื่อ เซ็ง ก็มีดอยสูงอยู่ใกล้ ๆ

ส่วนไอ้หมาจิ้ม กินเสร็จแล้ว ก็จะหายศีรษะไปตอนกลางวันครับ ;)

ขอบคุณครับ ท่าน ผอ.วัฒนา คุณประดิษฐ์ ;)

เดี๋ยวจะนำข้อมูลขึ้นไว้ใต้ภาพนะครับ "กล้วยไม้ดิน" นี่เอง

แหม บันทึกมันยาวครับ คุณ ครูเอ ... เลยขอนำเสนอเป็นช่วง ๆ ไป ;)

ขอบคุณครับ

สวัสดีครับ คุณเอก จตุพร วิศิษฏ์โชติอังกูร หนุ่มพันปี ;)

บนดอยปุยนี้ งามทุกปีจริง ๆ ครับ สำหรับกุหลาบพันปี

"เงียบ ง่าย และ เหงา" คงเป็นตัวตนของผมระยะนี้มั้งครับ

ขอบคุณการเข้าใจความรู้สึกของกัลยาณมิตรนะครับ

มาเชียงใหม่เมื่อไหร่ แจ้งให้ทราบด้วยนะครับ "กาแฟสักแก้ว" ;)

ขอบคุณหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของคุณ poo แฟนพันธุ์แทะด้วยครับ ;)

ใกล้จะเป็นพรีเซนเตอร์เซเว่นแล้วครับเนี่ย

555 หนุ่มพันปี ...หนุ่มเป็นปี อิอิ เมื่อวานตอนอาจารย์ไปหนาวไหมค่ะ

สวัสดีค่ะอาจารย์ พระยาเสือโคร่งที่ดอยปุย เพิ่งเรื่มบานหรอคะ ภาพสวย วิวสวย จุดกางเต้นท์ เรียบร้อยดีนะคะ

อ้าว นี่ผมลืมคำว่า "กุหลาบ" หรือนี่ อิ อิ

"หนุ่มกุหลาบพันปี" ;)

อากาศเย็นสบายดีมากเลยครับ คุณ ครูเอ ;)...

นางพญาเสือโคร่ง ... เพิ่งมีเล็ก ๆ ครับ พี่ สุวรรณา ;)

กลางเดือนนี้แหละครับ เต็ม ๆ แน่นอน

ขอบคุณครับ

  • เห็นแต่มอเตอร์ไซด์ ไม่มีคนขับ เสียดายจัง
  • กระเพราไก่น่าทานมากค่ะ เป็นเมนูแนะนำของที่นี่หรือเปล่า นอกจากจะเป็นกูรูผู้แนะนำหนังสือแล้ว ยังแนะนำอาหารจานเด็ดด้วย สุดยอด
  • พรุ่งนี้จะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่เขา แม้ไม่ใช่ดอย แต่อากาศก็คงหนาวเย็นเหมือนกัน  ดอกไม้คงไม่สวยงามเหมือนดอยปุยนะคะ แต่หากมีโอกาสจะเก็บภาพมาฝากค่ะ

หมายเหตุ ถุงขยะ seven หาง่าย ใช้คล่องดีนะคะ

 

สวัสดีครับ ท่านอาจารย์นพลักษณ์ ๙ Sila Phu-Chaya ;)

คนขับหลบกล้องไงครับ เลยไม่เห็น อิ อิ

ที่นี่เขามีอาหารง่าย ๆ ที่คนไทยกินได้ ฝรั่งกินดี ครับ

ป้าแม่ครัวน่าจะเป็นคนแถวนั้น บ้านแม้วขุนช่างเคี่ยนที่ห่างออกไปนิดเดียว

ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยนะครับ มีความสุขจังเลยอ่ะ อยากอิจฉา แต่ไม่ควรคิด อิ อิ

ส่วนเจ้าถุง Seven เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เอาชนะความคิดที่จะทิ้งไว้ให้เป็นภาระคนอื่นครับ

ขอบคุณนะครับ อาจารย์ ;)

สวัสดีค่ะอาจารย์

ชอบจัง..."เขียนคำว่าเหงาตัวเท่าบ้าน" เห็นภาพพจน์เลยค่ะ อิอิ

จะขึ้นไปกินกาแฟสดถึงดอยปุย ยังอุตส่าห์มีกาแฟกระป๋องระหว่างทางด้วยนะคะ 555

จริง ๆ เป็นคำในบทกวีสมัยแรกรุ่นน่ะครับ อิ อิ

"อยากเขียนคำว่าเหงาตัวเท่าบ้าน"

เป็นบาทหนึ่งในกลอนสี่ แต่ต่อจากนั้นก็จำไม่ได้แล้ว

ส่วน "กาแฟกระป๋อง" เนี่ย กันพลาดไงครับ ;)...

คุณหมอ blue_star ครับ ทานกาแฟเกินวันละ 2 แก้ว

ผมจะมีเป็นโรคหัวใจ หรือ โรคอะไร ๆ ไหมครับ

โปรดชี้แจงโดยด่วน !

มาตอบคำถามก่อนเข้านอนค่ะ....

ที่เคยอ่านในงานวิจัย ฝรั่งมังค่าเค้าเคยทำไว้ว่าไม่ควรดื่มเกินวันละสี่แก้ว (แต่ถ้าเป็นเครื่องดื่มชูกำลังห้ามเกินวันละสองขวด อิอิ)

เรื่องงานวิจัยเกี่ยวกับกาแฟแบ่งเป็นสองค่ายค่ะ คือฝ่ายสนับสนุน และฝ่ายต่อต้าน

ฝ่ายสนับสนุนก็ว่ากาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระ กินแล้วทำให้สดใส อายุยืน

ฝ่ายคัดค้านก็ว่า กินแล้วเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ....

แต่ดาวว่าอะไรที่มันมากไปก็คงจะไม่ดี

สรุป ดาวว่ากินพอประมาณคงไม่เป็นไรมั้งคะ...เพราะดาวเองบางทีก็กินเกินวันละสองแก้ว 555

ปล. รับประทานอาหารหวานๆ มันๆ สูบบุหรี่ น้ำหนักเกิน เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจมากกว่าค่ะ ;-)

ขอบคุณความรู้เพื่อสุขภาพก่อนนอนครับ คุณหมอดาว blue_star ;)...

ผมก็คิดเช่นกันเหมือนกันครับ

"ทางสายกลาง" ของพระพุทธองค์งดงามที่สุด

ราตรีสวัสดิ์นะครับ ;)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท