หลังจากที่นั่งอ่านหนังสือสักพัก...ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจออกไปนอกห้องพัก ความรู้สึก ณ ตอนนั้นอยากจะออกกำลังกายอย่างยิ่ง เอาน่าแค่ได้เดินก็ยังดีคิดได้ก็เดินออกจากอาคารที่พัก ไม่แน่ใจว่าสภาพบรรยากาศรอบตัวจะเหมาะต่อการเดินมากน้อยแค่ไหน แต่พอได้เลี้ยวมุมตึกปรากฏว่ามีทางเดินที่น่าเดินมาก...
การจัดโซน...ทางเดิน ทางจักรยาน และทางรถยนต์ ... ทำให้การเดินดูท่าจะรื่นรมย์ ข้าพเจ้าก็เดินไปเรื่อยๆ พร้อมสังเกตสิ่งต่างๆ รอบตัว ผ่านทางสถาบันวิจัยประชากรศึกษาและสังคม ก็ทำให้นึกถึงเหล่ากัลยาณมิตรทั้งหลาย และทำให้นึกถึงเพื่อนสมัยเด็กๆ แต่เป็นอาจารย์อยู่อีกสถาบันหนึ่งซึ่งอยู่อีกด้านของมหาวิทยาลัย...
ขณะเดิน...ไม่ค่ำมาก เริ่มมีคนวิ่งสวนทางมาก คนเลิกงานก็เลิก...คนเลิกเรียนก็เลิก อิริยบทแตกต่างกันออกไป...
ระหว่างทางเดินใน ม.มหิดล ศาลายานั้นมีต้นไม้ด้วย แต่ข้าพเจ้าตั้งข้อสังเกตว่า หากเดินเวลากลางวันจะมีร่มไม้หรือเปล่าเนี๊ยะ...เพราะลักษณะเป็นต้นไม้คล้ายกับเพิ่งนำมาปลูกทั้งต้น แต่การแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงานั้นยังไม่มากพอ...ดังนั้นการเดินหรือปั่นจักรยานในเวลากลางวันน่าจะร้อนแดด...แต่...หากว่าเวลาผ่านไปอีกหลายปี ทางเดินนี้น่าจะร่มครึ้มด้วยเงาต้นไม้เหล่านี้เป็นแน่...
ข้าพเจ้าเดินไปอย่างไม่มีปลายทางชัดเจน ตั้งเป้าในตนเองอย่างหลวมๆ ว่าเดินไปเรื่อย ๆเท่าที่เดินได้ ... เหนื่อยก็หยุดพัก เจอทางตันก็ย้อนกลับ หากว่ายังมีทางเดินต่อไปได้เรื่อย...ก็เดิน
ปรากฏว่า...เดินไปเกือบสุดทาง ก็เจอถนนที่โล่งเรียบ ไม่มีรถยนต์ ปรากฏว่าเป็นเส้นทางบริเวณโซนหอพักนักศึกษา ซึ่งแต่ละหอพักมีการตั้งชื่อ ทำให้รู้สึกว่าน่าอยู่จังเลย เช่น บ้านพุทธรักษา...บ้าน... ทุกหอพักจะนำหน้าชื่อว่า "บ้าน" พอเดินไปได้สักพัก ก็ไปเจอศูนย์วิทยาศาสตร์ทางกีฬา บรรยากาศแถบนี้เริ่มคึกคัก มีการตั้งวงเต้นแอโรบิก มีคนเริ่มพลุกพล่าน ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษา... ใบหน้าของผู้คนเหล่านี้ยิ้มแย้มและเบิกบาน ซึ่งต่างๆจากคนที่ขับรถมุ่งหน้าออกจากอาคาร ที่ดูเหนื่อยล้าจากการกรำงานทั้งวัน ...
หากว่า...ทุกคนที่มุ่งหน้าขับรถจะกลับบ้าน ได้หยุดพักออกกำลังกายก่อนในบริเวณอากาศที่ดีในระดับหนึ่ง ก็น่าจะเป็นผลดีต่อชีวิตเขาและเธอมากกว่าการมุ่งหน้ารีบกลับบ้าน...ถือว่าเป็นการ Detox ตนเองหรือวางอุเบกขาแห่งการงานลงก่อนกลับบ้านก็น่าจะดีต่อ "ชีวิต"...(กายและใจไปพร้อมๆ กัน)
ข้าพเจ้าเดาเอาว่า...ทางเดินดังกล่าวน่าจะเป็นวงรอบ ...วนมาหน้าด้านของมหาวิทยาลัย
ปรากฏว่า...เป็นเช่นนั้นจริงๆ...เดินมาจนเกือบลดแสงตะวัน ปรากฏว่ามีนักศึกษาวิ่งสวนทางไปเพิ่มมากขึ้น ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงมหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่นั่นเด็กนักศึกษาเล่นกีฬาหลังเลิกเรียนเยอะมาก แต่ก็แตกต่างจากจุฬา...ที่หาดูได้น้อย หรือแม้แต่ มหาวิทยาลัยรามคำแหง...ก็มีแต่คนที่มุ่งหน้ามาเรียนในตอนเย็น...นี่เป็นเพียงประสบการณ์เปรียบเทียบอันน้อยนิดของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าเดินวนมาถึงอาคาร "ศาลาพาวิเลี่ยน" ก็มืดพอดี
ดีใจที่วันนี้ได้เดิน...
การได้เดินทำให้รู้สึกสบายตัว...
๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓
ศาลายา ม.มหิดล
สวัสดีครับ
มาเยือนถึงศาลายาเลยนะครับ
บ้านผมอยู่ไม่ไกลศาลายานัก มีโอกาสแวะไปแถวนั้นบ่อย ๆ ระยะหลังการจัดภูมิทัศน์ของศาลายาดูงามตาไม่น้อย อีกสักสี่ซ้าห้าปีพอทุกอย่างลงตัวมหาวิทยาลัยแห่งนี้น่าจะเป็นมหาวิทยาลัยที่น่าอยู่ น่าเข้ามาเป็นสมาชิกไม่น้อย
เยี่ยมมากเลยครับ สามารถเดินวนจนครบรอบได้ เข้าใจว่าระยะทางน่าจะไกลโขอยู่ไม่น้อย
เพิ่งไปมหิดลมาเหมือนกันที่นั่นเพิ่งปลูกต้นไม้ครับ ในอนาคตคงร่มมากว่านี้ เนี่ยถ้ามาเกษตรศาสตร์ กำแพงแสนจะรู้สึกร่มรื่นเพราะต้นไม้เต็มเลย ฮ่าๆๆ
เอ..สงสัยจะเดินวน ๆ สวนกับผมอยู่นะครับ...
เพราะเมื่อเย็นผมก็เดินวน ๆ อยู่ เห็นพระอาทิย์จะลับขอบฟ้าดูสวยกว่าทุกวันครับ...
วาระส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
คิดใดสมมุ่งหวังดังปรารถนา
ขอให้การเดินทางสร้างตำรา
มีความเจิญก้าวหน้าสถาพร
ปลอดภัยจากโรคาพยาธิ
มีอำนาจสุขโขสโมสร
มีชื่อเสียงก้องไกลไทยนคร
คอยปันป้อนความรู้สู่สังคม
จากใจ....ธนา นนทพุทธ