ครูคือเรือจ้างไม่ใช่เหรอ?


ประโยคที่ว่า ครูคือเรือจ้างที่คอยพายเรือเพื่อพาลูกศิษย์ไปให้ถึงฝั่ง สงสัยสุภาษิตบทนี้จะใช้ไม่ได้กับปัจจุบันนี้

      เมื่อวานกว่าจะกลับมาถึงบ้าน สองทุ่มกว่า ลืมไปว่าแถวนั้นมีพิธีเปิดประตูระบายน้ำที่จังหวัดสมุทรปราการ แหม! เกือบรอดเหลืออีกไม่เท่าไหร่ก็จะข้ามสะพานแขวนแล้ว โดนปิดสะพานแขวนพอดี จึงต้องรอเกือบชั่วโมง ไม่เป็นไรเพื่อส่วนรวม

      กลับไปถึงบ้านเล่าให้น้องฟังว่า "ลืมไป" และนึกว่าคนละถนนกัน แต่ถนนพันกันรถจึงติดพอสมควร พอทานข้าวเสร็จน้องเล่าว่า วันนี้ไปส่งน้ำผึ้ง คุณครูประจำชั้นนั่งอยู่หน้าห้องไม่ได้ทำอะไร พอเห็นน้ำผึ้งกำลังจะเข้าห้อง คุณครูประจำชั้นหันไปเรียกคุณครูพี่เลี้ยงมารับแทน โดยตัวเองไม่หันหน้ามามองน้องสาว และทำท่าเย็นชาไม่สนใจ

      น้องสาวก็งงว่า อาการแบบนี้เหมือนไม่พอใจอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ได้ติดใจสงสัย จนตอนเลิกเรียนไปรับน้ำผึ้ง คุณครูพี่เลี้ยงลงมาคุยกับน้องสาวบอกว่า วันก่อนคุณครูผึ้งที่เป็นพี่เลี้ยงเล่าให้คุณครูปูฟังว่า คุณแม่ของน้ำผึ้งบ่นว่า ตั้งแต่คุณครูผึ้งไม่อยู่ น้ำผึ้งไม่อยากเข้าห้องเรียน เอาแต่ร้องไห้และยิ่งคุณครูปูไปพูดกับคุณแม่ของน้ำผึ้งว่า "น้ำผึ้งทำงานช้า" เรียกชื่อเสียงดัง "ก็ร้องไห้" หากขึ้นอนุบาล 1 คุณครูท่านอื่นอาจว่า "คุณครูประจำชั้นได้"

      คุณแม่ของน้ำผึ้งฟังแล้วไม่สบายใจ เหล่านี้ที่น้องสาวพูดกับคุณครูผึ้งเพื่อบอกคุณครูผึ้งว่า เสียดายที่คุณครูผึ้งไม่อยู่ น้ำผึ้งเลยไม่อยากไปโรงเรียน ส่วนคำพูดของคุณครูปูจะพูดว่าอะไร น้องสาวไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เพราะรู้ดีว่าลูกสาวเรียนไม่เก่ง น้องสาวต้องการเพียงแค่ให้น้ำผึ้งเรียนผ่านตามเกณฑ์เท่านั้น และกะว่าจบ ป.6 ที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์บางบอนเมื่อไหร่ จะเอาน้ำผึ้งไปเข้าเรียนโรงเรียนวัดราชโอรสารามใกล้ ๆ บ้าน

      แต่น้องสาวก็นึกตำหนิคำพูดของคุณครูปูเหมือนกัน ที่บอกว่าน้ำผึ้ง (อายุ 3 ขวบ) ทำอะไรยังไม่ได้ดีเท่าที่ควร คือ ทำงานช้า ระบายรูปไม่อยู่ในกรอบ ผู้เขียนกับน้องเขยต้องคอยบอกน้องสาวว่า น้ำผึ้งยังเด็กจะไปอะไรมากมายกับเขา ตอนนี้อาจไม่ได้เรื่อง แต่โตขึ้นอาจจะเรียนเก่งเกินความคาดหมายก็ได้

     และเมื่อฟังพฤติกรรมของคุณครูประจำชั้น จากน้องสาวที่เล่าอาการของคุณครูประจำชั้นให้ฟัง ทำให้คิดว่า นี่หรือคือการกระทำของคุณครู ทำไมไม่มีวิธีการสอนที่ดีกว่านี้ และทำไมคุณครูถึงมีพฤติกรรมแบบนี้ ดูไม่ให้เกียรติผู้ปกครองเท่าที่ควร

                  Large_5245-500

                                   อาการที่อยู่กับคุณครู

 Large_5243-500 


Large_5305-500

                              อาการที่อยู่กับพ่อและแม่

Large_5233-500 

Large_5330-500 

                                   

 

หมายเลขบันทึก: 410286เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2010 14:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 17:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขออนุญาตแสดงความเห็นนะครับ

ผมอ่านแล้วก็มีความรู้สึกไม่สบายใจเหมือนกัน บริบทของโลกปัจจุบันมันเปลี่ยนไปมากครับผม เวลาเปลี่ยนทุกอย่างเปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นวิถีชีวิต กรอบแนวคิดของบุคคล และอื่นๆ แต่ผมก็ยังเชื่อนะครับว่าคุณครูที่มีจิตวิญญาณในความเป็นครูก็ยังมีอยู่มาก ผมก็ประสบปัญหาคล้ายๆกันเมื่อเดือนที่แล้ว เรื่องมีอยู่ว่า ผมให้ลูกสาว (ตอนนี้อายุ ๕ ขวบ) ไปเรียนบัลเล่ย์ เรียนอยู่ประมาณเกือบ ๒ ปี ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ในช่วงกลางปีที่ผ่านมา คุณครูคนเก่าลาออกไป ทางโรงเรียนรับคุณครูคนใหม่มาแทน แรกๆผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรครับ แต่หลังจากเรียนกับครูคนใหม่อยู่ประมาณ ๓ เดือน ผมรับรู้จากพฤติกรรมคุณครูคนใหม่ได้ว่าเขาเลือกปฏิบัติกับเด็กๆและใช้วิธีที่ไม่เหมาะสม (เวลาไปส่งลูกเรียนผมจะนั่งดูลูกเรียนตลอดทุกครั้งไม่เคยทิ้งเขาไว้กับครูโดยลำพัง แต่จะดูอยู่ห่างๆ เพื่อจะได้ไม่ไปทำลายสมาธิในการเรียน) และที่ผมรับไม่ได้คือ การนำเด็กคนหนึ่งมาเปรียบเทียบกับเด็กอีกคนหนึ่ง แล้วพูดในทำนองว่า "ดูซิเพื่อนเขาอายุน้อยกว่ายังทำได้เลย ทำไมเธอทำไม่ได้" พฤติกรรมเขาจะเป็นอย่างนี้บ่อยมาก ตอนแรกผมก็คิดว่าผมคิดมากไปเอง แต่มีวันหนึ่งภรรยาผมเขาก็มาคุยกับผมในเรื่องนี้ (ซึ่งผมไม่เคยเล่าให้ภรรยาผมฟังเลย) ล่าสุดที่ผมต้องตัดสินใจย้ายลูกไปหาที่เรียนใหม่ก็เพราะ เขาเริ่มเอารางวัลมาเป็นตัวกระตุ้นเด็กๆและให้เด็กเกิดความอยากที่จะได้ โดยเขาคิดว่าจะทำให้เด็กตั้งใจเรียนได้ดีขึ้น (ผมดูจากเจตนาเขาแล้วเขาจะให้เฉพาะเด็กที่เขาพึงพอใจเท่านั้น) ทุกวันนี้ผมคิดว่าผมตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ให้ลูกต้องไปอยู่ในบริบทแบบนั้น เพราะเขายังเด้ก เขายังใช้เหตุผลได้ไม่ดีพอ เขาจึงมีโอกาสที่จะซึมซับสิ่งไม่พึงประสงค์เหล่านี้ไปได้ในอนาคต ในฐานะที่เราเป็น "ลูกศิษย์" เราสามารถเลือกครูได้ แต่หากเราเป็น "ครู" เราจะไม่สามารถเลือกลูกศิษย์ได้หรอกครับ คำว่า "ลูกศิษย์" มีความหมายที่ลึกซึ้งและมีความเป็นปัจเจก (ความแตกต่างของแต่ละคน) ครูที่มีจิตวิญญาณทุกท่านต้องรู้ดี "ครูต้องมีความรักและเมตตาต่อศิษย์ และปฏิบัติต่อศิษย์ในฐานะปัจเจกบุคคลด้วย" ให้กำลังใจนะครับผมเชื่อว่าวันหนึ่งน้องจะมีความสุขมากขึ้นกับการได้อยู่ที่โรงเรียนครับ

สวัสดีค่ะ

   ขอแสดงความเสียใจที่น้องต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้  ไม่น่าเชิ่อนะว่าโรงเรียนระดับนี้(นานาชาติหรือเปล่า?)จะเจอเรื่องอย่างนี้ด้วย ทำให้เราเห็นได้ชัดว่าบางครั้งได้ชื่อว่าโรงเรียนดีมีระดับ  ก็ไม่สามารถวัดได้ว่าคุณภาพด้านอื่นๆจะดีและมีระดับตามไปด้วย  จากประสบการณ์ตรงครูปู  พบว่า "เรือจ้างที่ดี  ไปให้ฟรีๆก็ยังไป"  หาดูได้ตามโรงเรียนขนาดเล็ก ที่ไม่มีระดับค่ะ

  • สวัสดีค่ะ คุณนาย ธนากรณ์ ใจสมานมิตร
  • เป็นอย่างที่คุณพูด คุณครูท่านนั้นเอาน้ำผึ้งไปพูดเปรียบเทียบกับเด็กที่อายุน้อยกว่า
  • ตอนแรกน้องสาวก็ไม่ค่อยคิดอะไร แต่พอบ่อย ๆ น้องสาวก็เริ่มคิดว่า หรือลูกเราไม่ไหวจริง ๆ
  • กลับมาบ้านก็เครียดแทนลูก แถมคนรอบข้างต้องมาเครียดตามและคอยปลอบใจน้องสาว
  • น้องสาวพูดอย่างคุณเลย คือ ดูคุณครูเลือกปฏิบัติกับเด็กทั้งที่เด็กยังเล็ก
  • น้องสาวเคยเดินอ้อมไปหลังโรงเรียนเพื่อเข้าห้องน้ำ
  • เห็นเด็กคนหนึ่งร้องไห้ตอนเช้า แทนที่คุณครูจะปลอบใจสักนิด กลับยืนดูเฉย
  • น้องสาวบอกว่า ถึงจะใจแข็งยังไง ก็อดไม่ได้ที่จะปลอบใจเด็กบ้าง
  • คือ ก็เข้าใจว่าเด็กอาจจะเรียกร้องความสนใจจากใครสักคนบ้าง
  • ก็แค่พูดสักคำว่า อย่าร้องไห้ ทั้งที่เด็กก็ยืนรอการปลอบใจ แต่นี่ไม่เลย
  • ไม่เข้าใจว่าวิธีของคุณครูทำไมถึงใช้วิธีนี้
  • ผู้เขียนเห็นอาการของหลานสาว ที่ดูเป็นเด็กเก็บกดก็สงสาร
  • น้องสาวบอกว่า ถ้าคุณครูยังมีอาการเย็นชากับผู้ปกครอง
  • วิธีขั้นแรก คงขอย้ายห้อง หากขั้นหนักหน่อย คงย้ายโรงเรียน
  • ตอนนี้หลานสาวเริ่มมีอาการเกรี้ยวกราด ทั้งที่ที่บ้าน หากมีใครโกรธการกระทำของน้ำผึ้ง จะใช้วิธีเฉยและเงียบ
  • พอเห็นอาการที่ดูไม่ดี ก็เริ่มสงสัยว่าไปเอามาจากไหน
  • คือ จากเพื่อนเด็ก ๆ หรือจากผู้ใหญ่ที่อยู่รอบข้าง
  • น้องสาวบอกว่า มีผู้ปกครองคนอื่นก็เริ่มมาเล่าสู่กันฟังว่า
  • ปีก่อนคุณครูประจำชั้นเป็นคุณครูพี่เลี้ยง ปีนี้ขยับมาเป็นคุณครูประจำชั้น
  • สงสัยคุณครูจะทำผลงานจึงต้องการให้ลูกศิษย์ทำงานเนี้ยบ
  • แต่น้ำผึ้งพึ่ง 3 ขวบเอง ยังเดียงสาและสั่งอะไรไม่ค่อยได้ จะไปอะไรมากมายกับเด็ก
  • ตอนนี้จึงต้องดูอาการและพฤติกรรมรอบตัวเพื่อตัดสินใจอีกครั้ง
  • ขอขอบคุณที่นำประสบการณ์มาแลกเปลี่ยนกันค่ะ
  • สวัสดีค่ะ คุณครูปู
  • โรงเรียนที่น้ำผึ้งเรียนก็ถือว่า เป็นโรงเรียนที่ค่าเทอมแพงเหมือนกัน
  • คือ มีให้เลือกแบบสามัญ และสองภาษา แถมตอนนี้มีแบบนานาชาติด้วย
  • แต่น้ำผึ้งคงดวงไม่ดีที่เจอพฤติกรรมของใครบางคนแบบนี้
  • สงสารหลานเหมือนกัน ความจริงพวกเราก็อยากให้น้ำผึ้งรู้สึกกลัวใครบ้าง
  • แต่ไม่ใช่กลัวแบบไม่อยากไปโรงเรียน หรือเป็นเด็กเก็บกดแบบนี้
  • หากคุณครูยังแสดงอาการเย็นชากับผู้ปกครอง
  • ในขณะที่เราก็เสียค่าเทอมแพงแบบนี้ เพื่อให้ลูกได้เรียนโรงเรียนใกล้บ้าน
  • พวกเราคงต้องตัดสินใจใหม่เหมือนกันว่า
  • หรือจะให้น้ำผึ้งย้ายโรงเรียน
  • ขอขอบคุณที่แวะมาแสดงความเห็นใจน้ำผึ้งค่ะ

 

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท