เมื่อวันศุกร์ผมและอาจารย์ชอบได้รับเชิญจากกลุ่มพระจันทร์พเนจรจากเชียงใหม่ให้ไปเป็นวิทยากรพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเกี่ยวกับเรื่องเล่าแห่งสายน้ำก่อนที่ทางกลุ่มหรือคณะละครจะแสดงละครหุ่นเงา
ผมไม่ได้เจอ ท่านผศ.ชอบ ดีสวยโคกมานานเนื่องจากต่างคนต่างติดภารกิจของตนเองปัจจุบันอาจรย์ชอบไปช่วยสอนที่มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยวิทยาเขตขอนแก่น และไปจัดรายการวิทยุเกี่ยวกับวัฒนธรรมและพระพุทธศาสนา
ผมถามข่าวคราวเกี่ยวกับงานของท่านและได้พบเรื่องที่น่ายินดีเรื่องหนึ่ง คือการเอาจริงเอาจังของเทศบาลนครขอนแก่นในการนำเอาวรรณกรรมพื้นบ้านมาเป็นจุดก่อตั้งรางวัลสำหรับภูมิภาคอีสาน รางวัลที่ว่าจะมอบให้คนดีของอีสานโดยใช้ชื่อรางวัลว่า สินไซ(ประมาณนี้) ส่วนรายละเอียดยังไม่ได้สรุปเนื่องจากเพิ่งเริ่มต้น
ผมคิดว่านั้นเป็นเรื่องที่ดีในการยกย่อง ชมเชย ชื่นชมคนดีให้เขามีกำลังแรงใจในการทำดีต่อไป และการเอาชื่อ ตัวเอกในวรรณกรรมล้านช้างอย่างท้าวสินไซก็ออกจะสอดคล้องและเป็นเอกภาพ
ผมเคยเล่าเรื่องสินไซไปบ้างแล้วในจิตรกรรมฝาผนังอีสานในบันทึกก่อน ๆ ลองกลับไปอ่านได้ในบันทึกนี้จึงจะเขียนคราว ๆ ให้รู้จักท้าวสินไซของอีสาน
ท้าวสินไซเป็นชื่อพระเอกจากเรื่องสินไซหรือสังข์ศิลป์ชัย ในต้นฉบับภาคกลางกับอีสานมีรายละเอียดต่างกันแต่เค้าโครงเหมือนกันคือว่าด้วยความพลัดพลากจากสิ่งอันเป็นที่รัก
สินไซ คือตัวละครเอกของเรื่องลักษณะของสินไซเนื่องจากมีลักษณะเป็นตัวพระในม้วนชาดกยังอ้างให้สินไซคือเจ้าชายสิทธถะดังนั้นจึงเปรียบเสมือนตัวของพระพุทธเจ้าเนื่องจากชาติกำเนิดนั้นเป็นเทวดาที่จุติลงมาเกิดตามบัญชาของงพระอินทร์ดังคำกลอนที่ว่า
ท่อว่าให้ผาบแพ้ ทรเทพยักสา เมื่อนั้น ฮุ่มฮุ่มฝูงเทพา ก่าวกัวทั้งค่าย ยังท่อสามพระองค์ไท้ พระสูราลูกมิ่ง พระอินทร์นั้น ปุนก่าวแก้ พระอินทร์ไท้ที่เซ็ง คันว่าองค์ประสงค์แท้ ทั้งสามบ่มีหลีก ดินและฟ้า ลงขึ้นข่างเลิง แลเดสินไซนั้นเป็นลูกของพระยากุศราชกับนางลุน(น้องคนสุดท้องของลูกสาวเศรษฐี) เมื่อคลอดออกมามีน้องคู่แฝดคลอดออกมาด้วยคือ สังข์ทอง เมื่อคลอดออกมาแปลกประหลาดจึงถูกรพระยากุศราชขับไล่ออกจากเมืองเป็งจาน และในที่สุดก็มีหน้าที่ออกติดตามหาอาว์และกลายเป็นตัวละครเอกของวรรกรรมเรื่องนี้
ดังนั้นภาพลักษณ์ที่ช่างแต้มแสดงออกมาจึงอยู่ในกลุ่มบุคคลประเภทตัวพระที่เป็นตัวละครหลักตามแก่นของเรื่อง โดยมีการแต้มใบหน้าทั้งหน้าตรงและใบหน้าด้านข้างสวมมงกุฎชฎาและเครื่องทรงเช่นตัวพระในจิตรกรรมฝาผนังของทั้งสกุลช่างหลวงราชสำนักสยามและราชสำนักล้านช้างโดยมีลักษณะพิเศษคือมีธนูและพระขรรธ์ด้วย ตามเนื้อเรื่องที่เป็นลักษณะพิเศษของตัวละครเอกในเรื่อง
ในฐานะลูกที่จะต้องกระทำต่อพ่อและแม่ สินไซได้แสดงตัวตนของการเป็นบุตรที่ดีเลี้ยงดูมารดาของตนเอง โดยเฉพาะเรื่องกตัญญู แม้ว่าในส่วนของพ่อจะไม้ได้เลี้ยงดูสินไซและขับไล่แม่และตนเองออกจากเมือง แต่สินไซก็ได้แสดงออกซึ่งความกตัญญูด้วยเพราะมีความผูกพันทางสายเลือด
เมื่อได้ทราบว่าพ่อต่องการให้ไปตามเอาอาว์ ท้าวสินก็เชื่อฟังและตั้งใจตามเอาอาว์อย่างเต็มใจ ส่วนในฐานะญาติพี่น้องสินไซได้ให้ความนับถือและตามเอาอาว์ของตนเองซึ่งแสดงออกซึ่งความรักความห่วงใยต่อญาติและในขณะเดียวกันก็แสดงออกซึ่งการอภัยให้แก่พี่น้อง หกกุมารแม้จะถูกทั้งหกกุมารทำร้ายก็ตาม
ขอขอบคุณอาจารย์ออต...
"เจ้าชายสิทธถะ" ในต้นฉบับน่าจะเป็น "เจ้าชายสิทธัตถะ(ตัวสะกดวรรค ๑ ตัวตามวรรค ๒)" ตามไวยากรณ์บาลีครับ
มีเรื่องให้อาจารย์ต้องตามแก้อยู่เรื่อยเลย ต้องขอพระคุณเจียง นพ.วัลลภมากนะครับ
to
ดิฉันได้ไปเข้าค่ายสินไซ สองฝั่งโขงมาสนุกมากๆเลยนะ
แพดอยากให้ทุกคนได้ไปบ้าง เพราะไปเข้าค่ายแล้วไม่อยากกลับบ้านเลยละ
ไป 3 วัน ได้รู้จักวัตนธรรมลาว และได้รู้จักภาษาลาวมากขึ้นด้วย
และดิฉันได้ฟังเรื่องสินไซ และอีกอย่างหนึ่งไปดูละครสินไว ได้เรียนรู้
สินไวแบบที่ไม่เคยได้สัมพันธ์ และปีหน้าอาจจะได้ไปเข้าค่ายที่ประเทสลาวบ้างนะเนีย