สามีนอกใจ..ความผิดหวังที่รับไม่ได้


case สามารถเผชิญต่อปัญหาได้..และยอมรับต่อปัญหาที่เกิดขึ้นได้นั้น

       Case ที่ดิฉันพบบ่อยมากในการมาขอรับคำปรึกษาเชิงจิตวิทยานั้น มักจะเป็น case ผู้หญิงที่มีปัญทางด้านจิตใจ ซึมเศร้า ผิดหวัง ท้อแท้ หลายๆ รายจะมีสาเหตุมาจากปัญหาครอบครัวเสียเป็นส่วนใหญ่ ดั่งเช่น case ที่ทางหอผู้ป่วยส่งมาเมื่อดิฉันเปิดดูรายละเอียดที่แพทย์ประจำตัวผู้ป่วยส่งมานั้นสงสัยว่าจะมีแนวโน้มเป็นโรคจิต (R/O Psychosis) จากการประเมินสภาพจิต แม้จะพบว่า case ถามตอบรู้เรื่อง การรับรู้ปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่ดิฉันพบจากการพูดคุยของ case คือ ความรู้สึกผิดหวังอย่างรุนแรงจากที่สามีนอกใจไปมีหญิงอื่น case จะเล่าไปและร้องไห้ไปด้วย ดิฉันรับรู้ได้ว่าการเผชิญปัญหาของ case นั้นทำได้ไม่ดีพอ เพราะจากเรื่องราวก็ผ่านมาก็เกือบประมาณเดือนกว่า แต่ความรู้สึกเศร้าเสียใจ case ยังรู้สึกว่ายังรุนแรง

       จากการพูดเชิงบำบัด (Counseling) ในรายนี้ดิฉันเน้นให้ case พูดระบายความรู้สึกและให้เกิดการผ่อนคลายมากที่สุด จากนั้นสัมพันธภาพที่ดีที่ก่อให้เกิดความไว้วางใจนี้จะช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกปลอดภัยทางด้านจิตใจ และมีกำลังใจจากการที่เราให้การสนับสนุนกำลังใจ (Supportive) ในระยะแรกๆ นี้การที่จะให้ case คิดพิจารณาเหตุผลทางอารมณ์อาจจะทำได้ยาก ดังนั้นดิฉันจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ฝึกรูปแบบการเผชิญปัญหา (Reality Approach)ของ case เพื่อให้เกิดการยอมรับในปัญหาของตนเองมากขึ้น

       สำหรับในรายนี้ดิฉันนัดมาพบบ่อยหน่อยในช่วงแรก เป็นทุกสองสัปดาห์ตามการนัดของแพทย์ด้วย จากการ conference ร่วมกันในทีมและกับแพทย์ใน case นี้แพทย์มีความหวังว่าการดำเนินทางด้านจิตใจของผู้ป่วยไม่อยากให้ไปจนถึงการสูญเสียหน้าที่ (Function) ไม่ว่าจะทั้งทางด้านจิตใจ การดำเนินกิจประจำวัน ความคิด การตัดสินใจ ต่างๆ...อย่างน้อยหาก case สามารถเผชิญต่อปัญหาได้..และยอมรับต่อปัญหาที่เกิดขึ้นได้นั้น ก็น่าจะทำให้ case สามารถมองไปเห็นถึงเหตุแห่งเกิด และหาทางแห่งการแก้ไขได้

หมายเลขบันทึก: 37995เขียนเมื่อ 10 กรกฎาคม 2006 11:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 12:59 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (80)

Dr. Ka-Poom ค่ะ

อะไรเป็นสาเหตุให้สามีชาวไทยมีภรรยาน้อยค่ะ และอะไรทำให้เยาวชนไทยมีกิ๊กค่ะ

แต่ในสังคมฝรั่ง (ดิฉันอยู่มาประมาณเกือบ 6 ปี) การ cheating คนรักด้วยการมีคนอื่น เป็นเรื่องที่ผิดมาก คือ ถ้าจะมีต้อง break up กันไปก่อน แล้วจึงมี ไม่ใช่มีสองคนในเวลาเดียวกัน ส่วนคู่ที่แต่งงานกันแล้วนั้น ถ้าสามีนอกใจ ภรรยาก็จะฟ้องร้องเรียกค่าเลี้ยงดูกันจนถึงที่สุดค่ะ

ดร.จันทวรรณ

นั่นสิคะ...ทั้งๆที่เราเป็นเมืองพุทธ...

แต่คนก็ยังทำผิดศีลธรรม...กันทั่วบ้านทั่วเมือง...

จิตสำนึก...แห่งความเป็น"มนุษย"..เราน้อยลงเรื่อยๆ..

ทำตามอารมณ์มากขึ้น..ใช้ปัญญา..และจิตสำนึกน้อยลง

ขาดการยับยั้งแห่งจิตใจอย่างยิ่งยวด....

คำสอนของศาสนาพุทธออกเชิงปรัชญา อาจจะดูเป็นเรื่องเข้าใจยากสำหรับผู้ปฏิบัติกระมั่งค่ะ ในขณะที่ศาสนาอื่น จะมี God ค่ะ ซึ่งเป็นตัวยึดเหนี่ยว ให้เชื่อใน faith ค่ะ

      ความเป็น "พุทธ" ได้มาจากการกรอกลงไปในสูติบัตรเมื่อแรกเกิด แล้วก็กรอกไปเรื่อยเวลามีความจำเป็น มิได้เกิดจากการบ่มเพาะ หล่อหลอม และซึมซับเข้าไปในจิตวิญญาณอย่างแท้จริง เพียงศีล 5 ข้อก็ปฏิบัติไม่ได้ ความวุ่นวายก็เกิดตามมา

      สาเหตุที่คนเข้าวัด 

1. อกหัก

2. หลักลอย

3. คอยงาน

4. สังขารเสื่อม

5. เลื่อมใส

      ความเลื่อมใสกลับเป็นเหตุผลข้อสุดท้าย

 

การเผชิญกับปัญหา  ....บางทีมันเป็นการทำร้ายจิตใจมาก ๆ แต่ก็อย่างที่ใครหลาย ๆ คนเคยบอกว่า  หนามยอกก็ต้องเอาหนามบ่ง  .///.ขอเป็นกำลังใจให้ Dr.Ka-Poom ในการปฎิบัติหน้าที่คะ....และรู้สึกดีใจที่ได้พบกับ Dr.Ka-Poom ในสังคม gotoknow คะ

ดิฉันคิดว่าศาสนาที่ มี God การตัดสินถูกผิด ขึ้นอยู่กับ God ถ้าทำผิด God จะลงโทษ แต่ศาสนาที่ไม่มี God สอนว่า คนเราจะดีจะชั่วอยู่ที่ตัวเราเอง ถึงแม้ทำชั่วก็ไม่มีใครลงโทษ นอกจากสังคมรอบตัว ก็ในเมื่อสังคมรอบตัว คนที่ทำยังไม่ถูกสังคมลงโทษ เขาก็คิดว่า เขาเองก็น่าจะทำได้

 

ขอเป็นกำลังใจให้ Dr. Ka-Poom เช่นกันค่ะ 

ยินดีมากๆ ที่มีเรื่องนี้ใน gotoknow เพราะปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเยอะมาก  แม้แต่ในครอบครัวของดิฉันเอง... 

ช่วงหนึ่งของชีวิต  เคยเข้าไปศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ป่วยจิตเวช (ช่วงที่พาสมาชิกในครอบครัวไปรับการรักษาอาการแพ้ยา อยู่ประมาณเดือนเศษ) มีโอกาสได้ไปเรียนรู้ชีวิต  ความนึกคิด วิธีการบำบัดและเรียนรู้ในด้านการให้คำปรึกษาแนะนำ  ทำให้รู้สึกได้ว่าคนเหล่านี้ต้องการกำลังใจและที่พึ่งพิงจริงๆ ค่ะ 

หวังว่าจะได้รับข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง เพื่อจะได้นำไปใช้ปฏิบัติในชีวิตจริงค่ะ

เห็นสอดคล้อง..คะ ดร.จันทวรรณ...และฝึกยากเห็นผลเชิงรูปธรรมช้า อย่างที่ท่าน ผอ.บวร ว่าไว้นะคะเราเคยชินกับศาสนาตั้งแต่เกิด แต่ขาดการตระหนัก...หล่อหลอมเข้าไปในจิตวิญญาณ..เราจึงไม่สามารถนำหลักดีดีมานำชีวิตได้...การที่เราจะพ้นทุกข์ได้..นอกจากนำศาสนา..มาเป็นเครื่องมือในการสร้างภูมิคุ้มกัน..แก่จิตเราได้แล้วหากเมื่อ..ปัญหานั้นเกิดก็ต้องเอาหนามมาบ่งหนองในทุกข์นั้นออกอย่างที่คุณ"น้องนิว"ว่านั่นแหละคะ

คุณ"คนผ่านมา"

ขอบคุณแวะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้..ต่อยอดเติมเต็มนะคะ
ศาสนาทุกศาสนา..ล้วนสอนสั่งสิ่งที่ดีงาม หากแต่คนที่อยู่ในศาสนานี่สิ..ที่ไม่เข้าใจในแก่นแห่งคำสอนที่ดีพอ...ยิ่งทุกวันความเชื่อเรื่องกรรม...บาปบุญคุณโทษ..มีน้อยลง คนจึงทำผิดมากขึ้น...

คุณ"orangecnx"

ขอบคุณนะคะ ดีใจที่ได้มาเจอ care giver (ผู้ดูแล) ที่มีใจ...ในการดูแล..
และขอบคุณอีกครั้งสำหรับการเป็น care giver เพราะ..
ใดใดก็ตาม..หากครอบครัว..ไม่ร่วมด้วย..
ยาดีขนาดไหน..หมอเก่งปานใด..ก็ไม่สามารถช่วยให้ผู้ป่วยดีขึ้นได้
หากไม่ได้รับ..ความรัก-ความเข้าใจ...จากคนใกล้ชิด

     เข้ามาเพื่อเป็นเพื่อน ผอ.บวร และชวนท่านกลับบ้านครับ แซว ๆ สงสัยบันทึกนี้เป็นบันทึก "สตรี" มีเพศด้วยครับ (ยิ้ม ๆ)

หลุดมาสองหนุ่มนะคะ...อย่างนี้คุณชายขอบ..ต้องชวน ดร.ธวัชชัย...มาแอบดู คห. ดร.จันทวรรณบ้างนะคะ...(แอบแซว)

ช่วยด้วยๆ..ๆๆ..คะ

ผอ.บวร...ถูกล้อมตัว..ไว้ในบันทึกนี้...คุณชายขอบ..มาชวนออกก็ยังช่วยไม่ได้เลยคะ...บันทึกนี้สำหรับสตรีเพศคะ...(ล้อเล่นนะคะ)

ตามชื่อบันทึกมาค่ะ  ตั้งใจจะอ่านเผื่อไว้ในอนาคตอาจเกิดกับตัวเอง พี่มองว่าเป็นเรื่องของ "ความพร้อมเผชิญปัญหา" ค่ะ ไม่ว่าปัญหาใดๆ ถ้าเราแกร่ง เราจะฝ่าไปได้  เป็นควมจริงสิ่งหนึ่งว่าก่อนที่สามีจะนอกใจ มีเหตุอยู่หลายประการ อยู่วงนอกจะไม่รู้ที่มาที่ไป   "บาป" เชื่อมโยงได้ในเรื่องนี้ ทุกวันนี้คนไม่รู้จักว่าบาปคืออะไร

คุณพี่"เมตตา"...

ขอบพระคุณนะคะ...ที่มาร่วมวง..ลปรร.

ปัจจุบันปัญหานี้...พบมาก..

ความอดทนและความสามารถต่อการเผชิญปัญหาของคนก็น้อยลงทุกวันๆๆ...

เมื่อตั้งความหวัง

และสิ่งที่หวังไม่เป็นไปตามคาด

แน่นอนว่า สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ความผิดหวัง

แต่ยากนักที่จะอยู่อย่าง ไม่หวัง

เมื่อมีหวัง ก็ควรยั้ง

เผื่อ พื้นที่ สำหรับ ความผิดหวัง บ้าง

 

เพื่อนส่ง Link มาให้ค่ะ  เพราะเห็นเป็นพยาบาลเหมือนกัน ดีใจค่ะที่มีพยาบาลเก่งๆแบบนี้ การจะเป็นCounselor ที่ดีได้ต้องใช้ความเข้าใจ อดทน และมีเมตตาสูงมากๆกะคนไข้  ที่จะต้องเข้าใจปัญหาเค้า แต่ปัญหาทุกอย่าง ก็อยู่ที่ตัวเค้าเองว่าจะเลือกแก้ไขปัญหาอย่างไร ...เราเป็นเพียงหนึ่งเสียงที่จะ confirmความรู้สึกของเค้าเท่านั้นเอง ...ขี้ผงไม่เข้าตาใครก็ไม่เข้าใจค่ะ ต่อให้เรียนหลักจิตวิทยามากี่ทฤษฏีก็ยังแก้ปัญหาตัวเองไม่ได้เลย (เพราะเคยเกิดขึ้นกับตัวเองมาแล้ว)  ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ วันหลังจะแวะเข้ามาคุยด้วยอีก ขออนุญาติส่งLinkให้เพื่อนๆด้วยนะคะ เผื่อว่าจะมีประโยคในหลักของการ Counseling ด้วย (เผื่อว่าจะช่วยคนไข้รายอื่นๆได้อีกเยอะเลย)

 

คุณ Smart nurse

ขอบคุณมากนะคะที่มาร่วม..ลปรร.

ยินดีนะคะ...ยิ่งโดยเฉพาะในวิชาชีพเรา..

หากได้ร่วมกันพัฒนาก็..จะ Smart nurse อย่างสมชื่อ

คุณ"ไออุ่น"

ขอบคุณนะคะ..สำหรับความคิดเห็น..

ดีดีที่มาต่อยอด...(ยิ้มๆๆ) 

 

  • เมื่อกี้ตอนเดินเข้ามาก็สวนทางกับคุณชายขอบ เห็นจูงมือท่าน ผอ.บวร ออกไปพอดี....ได้ยินบ่นกันว่าเกือบไป๊ เกือบไป.....
  • ตามเข้ามาดู...อุ๊บ! เกือบไปจริงๆด้วยนะคะ!
  • ตามชื่อบันทึกนี้ พี่เม่ยมีความเห็นว่าน่าจะหันหน้าเผชิญกับปัญหาจะดีกว่า แล้วหาทางปรับปรุงแก้ไข ถ้ายังคิดว่าเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ก็จะแก้ไขไม่ได้อยู่นั่นแหล่ะ....นะคะ
  • ต้องใช้ใจตนเองเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวตนเองไว้ให้ได้
เห็นบ้านที่อยู่กัน 2 บ้าน 3 บ้านด้วยกันแล้ว ลูกๆต่างแม่ก็รักกันดี ดูบ้านพิศาล อัครเสรนีสิค่ะ น่าคิด!

หรือบ้านที่เลิกกันไปเลย แต่พ่อแม่ยังช่วยกันดูแลลูกทั้งคู่ ถึงแม้่อยู่คนละบ้าน แบบนี้ฝรั่งมีให้เห็นมาก  ลูกก็ดูโตมาโอเค ถ้าสังคมเห็นว่ามันเป็นทางออกที่ดีพอทางหนึ่ง

แต่แบบที่เอามาเป็นความทุกข์ฝังใจตลอดกาล  ทะเลาะกันไม่เลิก  คาราคาซัง มีพลังความเกลียดแผ่ขยายออกจากตัว แบบนี้กลับกลายเป็นการทำลายตัวเองและ ทำลายลูกมากกว่าเสียอีก อยากถามว่าไม่เหนื่อยเหรอ ไม่หนักเหรอทุกข์ที่แบกไว้

เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวไม่รู้ เลยไม่สามารถตอบได้ : ) แต่เท่าที่เห็นมาสองแบบแรกดูน่าจะดีกว่า

ที่แน่ๆ มัทดีใจมากๆค่ะที่คนที่เจอปัญหาแบบนี้ได้คุณ Ka-Poom เป็น Counselor!

 

 

 

สามีนอกใจ คบกับนักเรียนพยาบาลอายุน้อยกว่าลูกอีก รู้ตอนแรกช็อก ขอให้เลิก รับปากว่าจะเลิก เชื่อสนิทใจว่าเขาเลิกจริง ๆ แต่จับได้ 3 ครั้งว่ายังติดต่อกันอยู่ เลยอาละวาด ผ่านมาเป็นปียังไม่ไว้ใจเขาเลย มีความเจ็บใจตลอดเวลา เพราะถ้าเขาซื่อสัตย์ หรือรับปากว่าเลิกแล้วเลิกเลย จะไม่เจ็บปวดขนาดนี้ ตอนนี้ยังเกลียดชังอยู่แต่เก็บไว้ในใจ อยากฆ่าพวกมือถือสากปากถือศีลให้หมดทุกคน
ฟังคุณซินเล่าแล้ว เป็นเหตุการณ์ที่เจ็บปวดมากเลยนะคะ คุณซิน จริงๆคะ คุณซิน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงผ่านมาเป็นปี มันก็ยังทิ้งรอยแผลเป็นที่ใจเรา คงจะดีนะคะถ้าเค๊าจะเป็นอย่างที่เราอยากให้เค๊าเป็น รับปาก เรา ซื่อสัตย์ต่อเรา รับว่าจะเลิกแล้วเลิกเลย ตอนนี้จิตใจคุณซินเป็นอย่างไรบ้างคะ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีกบ้างที่ทำให้คุณรู้สึกจิตใจแย่ ความโกรธ เกลียด ความแค้นที่คุณซินพูดถึงมีมากขึ้นหรือน้อยลงเพียงใด แล้วตอนนี้คุณซินคิดจะทำอย่างไรคะกับเรื่องนี้
เป็นกำลังใจให้คุณซินต่อสู้กับเหตุการณ์ที่ท้าทายความสามารถในการใช้ชีวิต ดูแลตัวเองดีๆนะคะ ...เคยอ่านคำสอนของท่านพระพุทธเจ้าเรา ...บอกไว้ว่า ...วิธีการแก้ปัญหาดีๆ ...จะมาจากความคิดที่ได้มาจาก การตั้งสติ......ซึ่งการจะได้มาซึ่งสติ...ที่มีคุณภาพ...จะได้มาจากบุคคลที่มีสุขภาพกายดีใจดี....สวดมนต์ให้คุณซิน...มีกำลังกายกำลังใจที่จะดูแลสุขภาพตัวเอง....นะคะ

อ่านหลายความคิดเห็นชอบนะเพราะ เป็นการเสนอแนะ เห็นใจ ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ก็เลยอยากระบายออกบ้างเพราะสามีก็นอกใจเหมือนกัน กับนางพยาบาลคนหนึ่ง จนต้องหย่าขาดจากกัน สาเหตุที่หย่ามีหลายกรณี คือ เขาด่าเก่งมาก หยาบๆ คายๆ อีกประเด็นหนึ่งคือมีชู้ เราก็ใจเด็ดนะหย่าก็หย่า สงสารลูกก็สงสารมาก พอหย่าได้ 1 วัน พอตกกลางคืนเกิดอุบัติเหตุรถควำ กระดูกคอเขาแตก รักษาตัวอยู่ 5 เดือนกว่า ขณะรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเราก็ดูแล เช็ดขี้เช็ดเยี่ยว แต่เขากลับเอาคลิปวิดิโอกอดกัน จูบกัน กับนางพยาบาลคนนั้นมาดู คืนหนึ่งเราจับได้ เลยคิดว่าจะมาดูแลเขาทำไม ให้เขามาดูแลกันดีกว่า ถึงอย่างไรเราก็หย่ากับเขาไปแล้ว เขาบอกว่าพี่สาวไม่ให้เอามา

จากนั้นเราก็กลับบ้านเรา แม่เขาต้องมาดูแลแทน พออกจาก รพ.ก็กลับมาอยู่กับเราที่บ้านหน้าตาเฉย เรางงเลย ถามว่าทำไมไม่ไปอยู่กับเมียน้อย เขาบอกไม่มีแล้ว

เจ็บปวด พอเกิดอุบัติเหตุจะเป็นจะตายก็มาอยู่กับเรา และเราขอร้องให้เลิกด่าเรา โมโหอะไรนิดหน่อยก็อี...อี... พ่อแม่เรายังไม่เคยด่าเราเลย มันเจ็บปวดนะ

ใจเรายังรับไม่ได้เลยกับการกระทำ ไม่อยากนอนกับเขาแล้ว เป็นมานานแล้ว ตั้งแต่เขาออกจาก รพ.คือไม่อยากเกี่ยวข้องทางเพศสัมพันธ์เลย ทำไงดี บางครั้งมานั่งคิดดูว่าเพราะอะไร ก็วิเคราะห์ดูว่าเขาทำกับเราไว้เยอะมากถึงขั้นหย่าไปแล้ว

ที่เล่าให้ฟังมากมายก็เพราะอยากหาคนแนะนำ บางครั้งต้องมาจากประสบการณ์ชีวิตที่แท้จริงถึงจะอธิบายได้ ผงเข้าตาตัวเองจัดการไม่ได้ค่ะ

ขอเพิ่มเติมนะคะ ณ ปัจจุบันนี้มันมีความรู้สึกเหมือนมีความเกลียดไปแล้ว รู้ว่ามันอันตรายมาก และยิ่งได้ยินคำด่า คือโมโหอะไรนิดหน่อยก็จะด่าหยาบคาย เขาเป็นมานานแล้ว แต่เมื่อก่อนยังไม่มีเรื่องผู้หญิงเข้ามาก็อดทนพอได้ แต่ ณ ตอนนี้มีผู้หญิงอื่นเข้ามา ทำให้เราหมดความอดทน จนกระทั่งคิดว่าช่วงปิดเทอมนี้จะไปปฏิบัติธรรม อยากหาความสงบเพราะขณะนี้รู้สึกว่าตนเองไม่สงบ บางครั้งปวดศีรษะ เครียดโดยไม่รู้ตัว สมองไม่โปร่งเลย มันมึนตื้อ อยากจะนั่งสมาธิ ขณะนี้ติดต่อไปที่วัดคีรีวงษ์แล้วคงไปช่วงปิดเทอมค่ะ

สงสารลูกค่ะ เพราะเวลามีพ่ออยู่ดูเหมือนเขาจะสนุกร่าเริง แต่เรากลับแย่ค่ะ

คุณหญิงปันคะ...

อภัยและเมตตานะคะ.... เรื่องราวที่ผ่านมา ก็คือสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ไม่มีใครสักคนที่จะย้อนกลับไปได้ในอดีตเพื่อไปทำสิ่งที่ผ่านมาเมื่อวันวานให้ดีขึ้นได้

ณ เวลานี้...สิ่งประเสริฐสุด คือ การอยู่กับลมหายใจเข้าและออก อย่างเบิกบาน...

สิ่งที่มากระทบ คือ โลก

ความไม่กระเทือน คือ ธรรม...

ขออนุโมทนา... ต่อจิตเจตนาที่จะไปเรียนรู้การปฏิบัติธรรม แต่ถ้าดีที่สุด คือ ไม่ต้องรอเวลา เพราะเราไม่รู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงหรือไม่ โน้มใจปฏิบัติ ทำความตื่นรู้มาอยู่ที่ลมหายใจเข้าและออก อันเป็นสมบัติอันมีค่าของเรานี้นะคะ

(^___^)

ขอบคุณค่ะคุณ Ka-Poom ที่ให้ข้อคิด ชีวิตพี่อยู่ห่างจากการปฏิบัติธรรม

แต่ ณ ตอนนี้อยากทำจิตใจให้สงบค่ะ อาศัยการทำงานให้มาก บางครั้งไม่อยากกลับบ้านเลย แต่ห่วงลูก คงต้องพยายามทำใจตนเองค่ะอย่างที่คุณพูด

ขอบคุณมากค่ะ

เมื่อได้อยู่กับลมหายใจ...ใจเราก็จะโน้มลง สงบลง....

"เป็นสมาธิ...แล้วปัญญาก็จะเกิดขึ้น"..เมื่อนั้นคุณหญิงปัญก็จะบังเกิดเห็นทางออกของชีวิตที่เป็นความงดงาม...

อย่าได้โกรธ เคือง แค้น...ในสิ่งที่ปรากฏขึ้นในชีวิตเราเลยนะคะ น้อมใจรับด้วยใจที่นอบน้อม และทำปัจจุบันขณะของเราให้ดีที่สุด ความดีที่สุดนั้น คือ ใจของเรา ใจของเราที่สงบ

(^___^)

คุณ Ka-Poom

กลับมาจากวัดคีรีวงศ์ หลายวันแล้วจ๊ะ คำพูดของคุณ Ka-Poom ตรงกับการปฏิบัติธรรม ไปอยู่มา 7 วัน เอาลูกชายไปด้วยค่ะ สิ่งที่พบคือความสงบ ทำวัตรเช้าเย็น สวดมนต์ เดินจงกลม แค่นี้ก็พอทำให้ใจเราสงบได้นะ มีสมาธิ คือไม่มีเรื่องรบกวนใจ พี่ชอบนะ อีกอย่างคือการมองลูกชายว่าเขาทำได้ เขาอดทนอยู่กับเรา เราไปอยู่ที่กุฎิ แม่ชี ไม่มีแอร์ ไม่มีทีวี ไม่มีที่นอนนุ่มๆ แต่ลูกชายก็อดทนอยู่กับเราได้ เขารักเรา เขาบอกห่วงเรา แค่นี้ก็ภูมิใจแล้ว นี่คือสิ่งที่พบค่ะ หากมีโอกาสอยากไปอีก

พอไปอยู่ วันที่ 4 เขาก็โทรไปที่วัด ฝากข้อความว่าให้กลับบ้านแล้ว พอวันที่ 7 เขาก็ไปรับให้กลับบ้าน เราก็เลยกลับ กลับมาครั้งนี้ความรู้สึกเราดีขึ้น อยากฝึกทำใจให้สงบน่ะ ไม่คิดวุ่นวาย พยายามทำอย่างมาก พอมีสมาธิ แล้วปัญญาก็จะเกิด จริงอย่างคุณว่าทีเดียว แต่ต้องหมั่นฝึกฝนกับความรู้สึกของตนเอง จนสามารถจัดการกับความคิดของตนเองได้ แต่พี่คงต้องฝึกฝนอย่างมากกับการมองคนข้างเคียง

มันสำคัญตรงที่ใจเราจริงๆ

ขอบคุณคุณ Ka-Poom มากนะคะ

คุณพี่หญิงปัญคะ...

อยู่กับลมหายใจเข้าและลมหายใจออกทุกขณะจิตนะคะ...

หายใจเข้า... รู้ตัวว่าหายใจเข้า

หายใจออก..รู้ตัวว่าหายใจออก

....

พยายามทำชีวิตของเราให้ซับซ้อนน้อยลง ยุ่งยากน้อยลง ทำชีวิตให้ง่ายขึ้นเข้าไว้... กะปุ๋มขออนุโมทนา สาธุ ต่อจิตที่ดีงามและมุ่งมั่นก้าวเดินออกจากทุกข์...ที่เราทุกข์นั้นเพราะยึด ว่านี่เป็นเรา นี่เป็นของเรา...จริงๆ แล้วไม่มีเราไม่มีเขา...ทุกสิ่งทุกอย่างตายเกิดอยู่ทุกลมหายใจเข้าและออก เท่านั้นเอง...เหลือเพียงรอวันที่ดวงจิตดวงสุดท้ายแตกดับเท่านั้นเอง...ระหว่างนี้เรามีหน้าที่อะไร ก็พึงดำเนินไปอย่างเต็มที่เต็มความสามารถที่เรามี หน้าที่ต่อลูก หน้าที่ต่อสามี หน้าที่ต่อพ่อแม่ หน้าที่ต่อการงาน สังคม และโลก พร้อมกับการทำจิตใจให้เบิกบานผ่องแผ้วอยู่ตลอดเวลา

กะปุ๋มขอเป็นกำลังใจให้พี่หญิงปัญด้วยนะคะ

(^___^)

เราเป็น ดร.นะ แต่ก้อเป็นคนป่วย สามีนอกใจ เบป็นชู้กับพยาบาล 555555555

ซึ่งมันไม่เกี่ยวว่าจะจบอะไร ยังไงหรอก มันอธิบายยากมากๆๆๆๆๆ Case แบบนี้

สามีเป็นอาจารย์มหาลัยสอนคณะวิศวะ ชู้รักเป็นพยาบาลจบเกียรตินิยม แต่ยังอยากเป็นเมียน้อย มันบัดซบมากๆๆๆ เลย มันไ ม่เ กี่ยวเรื่องเงิน มันคงเป็นโรคจิตแน่ๆ

ถามหน่อยค่ะ ฟ้องร้องพยาบาลเป็นเมียน้อยเนี่ย หน่วยงานไล่ออกเลยไหม ตอนนี้ยังไม่กล้าทำอะไรเพราะอายเหลือเกิน ไม่คิดว่าความอุบาทว์แบบนี้จะเกิดกับคนระดับเรา

การให้ที่ยิ่งใหญ่...

คือ การให้อภัย.. อภัยต่อตนเองและบุคคลที่เรารู้สึกโกรธ แค้น และเกลียดชัง...

น้อมใจลงอยู่กับลมหายใจของเรา..เบาเบา อย่างรู้ตัว ผ่อนคลายอารมณ์ที่มันอัดแน่นในใจนี้...ให้คลายลงด้วยความอ่อนโยนและเมตตาต่อตนเอง...นะคะ

(^___^)

ตอบคำถามด้วยค่ะ เข้าวัดทำมาแล้ว แต่ยังไม่หลุดพ้น แค้นมากๆๆๆๆ เลย เกลียด Symbols ด้วย เห็นพยาบาลแล่วเกลียดสุดๆ อยากฟ้องเรียกค่าเสียหาย ให้มันฉิบหายไปเลย

การเข้าวัดไม่ได้ทำให้หลุดพ้น...หากแต่เป็นเสมือนยานที่นำพาเราไปสู่เส้นทางความหลุดพ้นได้ ... เหมือนกันคนที่เอาแต่อ่านธรรมะแต่ไม่น้อมใจลงฝึกกับตนเอง... ก็ยากที่จะหลุดพ้นเช่นเดียวกัน...

ทุกอย่างต้องทำที่ใจ...ใจเท่านั้น

หากแต่เป็นการทำที่ใจ...เราต่างหากที่หลุดพ้นจากความทุกข์นั้น แค้นมากเราก็ทุกข์มาก และความทุกข์ที่ว่านี่ก็จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย และคนที่ทนไม่ไหว ก็คือ ตัวเราเอง...แม้เราจะฆ่าเขาให้เขา แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ทุกข์ที่มันบีบคั้นจิตใจเราให้เบาบางลงได้หรอก แต่จะมีแต่ทวีคูณมากขึ้นไปอีก...เหมือนไฟมันสุมอยู่ในอกเรา

และที่เป็นจริง..ไม่มีใครแก้ไขได้ นอกจากตัวเราเอง ถามว่า "เราได้ตั้งใจแก้ไขความทุกข์ที่มันอัดแน่นในใจนั้นของเราอย่างจริงใจหรือยัง เวลาส่วนใหญ่เรามัวไปวิ่งแก้ไขข้างนอก หรือคนอื่น  แต่ถามว่าตัวเราเองเราได้ตั้งใจหรือยัง"...

 

ทำไงดีสามีนอกจัยแล้วผู้หญิงคนนั้นก้ท้องแล้วเค้าก็ต้องการเอาเด็กออกเค้าเลยโทรมาขอตังไปเอาเด็กออก แล้วถ้าไม่ให้เค้า เค้าก็จะฟ้อง แล้วอย่างนี้มันฟ้องได้ไหม ถ้ามันทำงานกลางคืนแล้วเราก็ไม่มั่นจัยว่าใช้ลูกเรา ช่วยตอบหน่อยนะ

จะทำยังไงดีคะเมื่อโดนนอกใจจากคนที่เรารักและแคร์เขามาก จะอยู่ก็ทำใจไม่ได้

จะเลิกก็ยิ่งทำใจไม่ได้อีก อยู่คนเดียว นอนร้องไห้ทุกวันเวลาที่เขาไม่กลับบ้าน

เขาไปนอนกับผู้หญิงคนนั้นแทบจะทุกวัน และผู้หญิงก็แก่กว่าเขาเกือบ10ปี

แต่ทำไมเขาถึงหลงกันมาก เป็นเพราะผู้หญิงคงเอาใจเก่ง ตามใจเขาทุกอย่าง

เขาต้องเจอหน้ากัน คุยกันทุกวัน แต่กับเราเขาแทบจะไม่อยากนอนด้วย ไม่อยากคุยด้วย

เราอยากทำใจเลิกและไปจากชีวิตเขาได้ เราจะทำอย่างไรดีคะ เรายังเข้มแข็งไม่พอใช่ไหม แล้วจะต้องพยายามสักแค่ไหนให้เราทำใจเดินจากไปได้โดยดี โดยที่ไม่ต้องหันหลังกลับมาอีก จะตัดใจยังไงให้ลืมกันไปได้เลยตลอดชีวิตนี้ แล้วที่สำคัญนะคะ ต่างคนต่างก็มีแฟนทั้งคู่ทำไมเขาถึงทำแบบนี้กันได้ พอเราถามเขา ก็บอกว่าแค่หลงไม่ได้จริงจังอะไร แต่พอบอกให้เลิกกันซะ เขาก็บอกว่าให้เราอยู่เฉยๆเดี๋ยวเขาก็พยายามห่างเอง ตอนนี้ยังใหม่ๆอยู่ แต่พอบอกให้เลิกกับเราเขาก็บอกว่าเขารักเรา เขาไม่เลิกกับเรา ทำไมถึงกล้าพูดเห็นแก่ตัวขนาดนี้นะ เวลาที่เขาอยู่ด้วยกันเขาจะไม่รับโทรศัพท์เลย บางทีก็ปิดเครื่องไปเลย เราเจ็บใจเละทรมานมากที่ต้องมาทนอยู่แบบนี้ ทำทุกวิธีแล้วไม่ให้คิดมาก แต่ก็ทำไม่เคยได้เลย อยู่เฉยๆก็ร้องไห้เอง ยิ่งใครถามอะไรน้ำตาก็ไหลทุกที จะทำยังไงดีคะ บางทีเขาก็ไม่กลับบ้านเลย นอนค้างที่นู้นทั้งวัน ทั้งๆที่เรารู้ทุกอย่างแต่เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้ มันคงเป็นเวรเป็นกรรมของเราใช่ไหมคะ เราถึงไปจากเขาไม่ได้สักที

ความอดทน ตั้งใจ และเข้มแข็ง

จะช่วยนำพาเราผ่านทุกอย่างไปได้ค่ะ

(^__^)

ทำอย่างไรดีค่ะ ทุกข์มาก สามีให้เงินแฟนเก่าใช้ ปิดบังเราจับได้ เราเคยถามว่าคนนั้นคือใครเขาบอกว่าเป็นคนไม่ดีแต่แล้วทำไมเขาให้เงินใช้อยู่ ทำอย่างไรไม่ให้เป็นทุกข์ค่ะ

พอเราแสดงว่าเราทุกข์ ทำไมเขาไม่สนใจเรา

เขารักคนนั้นอยู่ทำไมมาแต่งงานกับเรา หรือน่าตาทางสังคม

น่าเห็นใจผู้หญิงที่มีปัญหามาจากเรื่องนี้

ก็ขอให้ทำจิตใตให้สงบก่อนค่ะ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นค่ะ

บทเรียนแห่งการเรียนรู้ “ความเจ็บปวดและอดทน”

"เราทุกข์เพราะเราแบกรับความเจ็บปวดนั้นไว้ ด้วยการยึดไว้ทางความคิด อารมณ์ ความรู้สึก และการจดจำ...หากอยู่กับลมหายใจทำให้สภาวะดังกล่าวเบาบางลงไปได้บ้าง ==> ที่สุดแล้วเราจะสามารถวางลงได้ด้วยใจเบาเบา"

“ความเจ็บปวดของท่านในวันนี้

สามารถชำระล้าง...ความเจ็บปวดทั้งปวงในอดีต

การทนยอมเจ็บปวดด้วยความรัก และความเข้าใจ

ย่อมสามารถขจัดความอาฆาตอันขมขื่นได้นับพันชาติ”....

 

ที่มา ; http://gotoknow.org/blog/kapoommind/254968

เห็นใจครับ แก้ง่ายแต่ผู้หญิงไม่ค่อยคิดจะแก้

แก้ได้ง่ายครับปัญหาแบบนี้ ต้องใจเย็น ใช้ธรรมะขั้นสูงเข้าแก้ไขไม่ต้องไปวัดหลอกครับ ต้องสำรวจตัวเราเองก่อน จะพบความผิดที่เราได้กระทำลงไปทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ถ้าไม่พบความผิดแสดงว่าคุณมีปัญหาแล้วละครับ(คุณกำลังหลอกตัวเองอยู่)คุณก็จะตกอยู่ในเหตุการณ์ทุกข์นี้ต่อไป หามันให้เจอจึงจะแก้ไขได้ครับ ถ้าพบแล้วต่อไปอย่าทำอะไรที่เป็นเรื่องไม่ดีเด็ดขาด แม้นแต่ครั้งเดียวก็ไม่ได้ (สามัญสำนึกของคนเราจะบอกเองว่าเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ดี) ทำทุกอย่างให้เป็นปกติสุขแล้วสามีคุณจะกลับมาแบบทั้งใจไม่ใช่แค่ร่างกายแต่อาจต้องใช้เวลาหน่อยคุณจงอดทนรอ ผู้หญิงมักมีขีดความอดทนต่ำในเรื่องแบบนี้ส่วนใหญ่จึงมักล้มเหลวทั้งที่เหลืออีกนิดเดียวก็สำเร็จแล้ว ผู้ชายเชื่อเหตุผลมากกว่าอารมณ์ไม่เหมือนผู้หญิง การกระทำมักมีเหตุผลเสมอครับ เพียงแต่ผู้หญิงไม่นำมาคิดไตร่ตรองให้รอบครอบ หวังว่าคุณที่กำลังทุกข์อยู่คงนำไปใช้และหายจากความทุกข์กันทุกคนนะครับ

เป็นอีกหนึ่งมุมมองนะคะ

ขอบคุณค่ะ

ขอเป็นกำลังใจและเอาใจช่วย..... ถ้าหญิงยังรักสามีและขาดเขาไม่ได้ ก็ต้องอดต้องทนให้มากต่อไป ทนกล้ำกลืนความทุกข์ไว้ จะด้วยความสงบ จะด้วยการข่มใจ ฯลฯ ก็ตามแต่จะหักใจไปทางใด แต่ถ้าคิดว่าไม่มีสามีก็มีชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทนข่มใจอยู่กับความทุกข์อยู่ เพราะคิดตามหลักศาสนาอีกด้านหนึ่ง ก็คือ ไม่ยึดมั่นว่าสามีเป็นของเรา ไม่มีอะไรอยู่กับคุณอย่างยั่งยืนเที่ยงแท้ ก็ตัดชายนั้นออกไปจากทางชีวิตได้ เลิกคร่ำครวญถึง ยังม่คนรอบข้างที่รักคุณจริง เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก ญาติ หรือ ใช้ "อัตตาหิ อัตโนนาโถ"

ขอบคุณค่ะคุณsaard2552

ทำให้นึกถึง...ที่ว่า "เรารู้สึกทุกข์นั้นเพราะอะไร"

ลึกๆ แล้ว...ที่เราทุกข์นั้น คือ อะไร... เมื่อเราหาคำตอบต่อตัวเราและออกจากเรื่องราวต่างๆ แล้วน้อมกลับเข้าไปเป็นผู้ดู เราจะมองเห็นตัวละครที่แสดงอยู่ใน "จิตใจและความคิด" ของเรา

เราจะมองเห็นภาพชัดเจนของเรื่องราวของทุกข์

เราจะมองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่จมอยู่กับความทุกข์ ผู้ชายคนหนึ่งที่จมอยู่กับความทุกข์ และก็ผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่จมอยู่กับความทุกข์...

เรื่องนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและสัมพันธ์กับการดำเนินไปของโลก...

อย่าไปทำให้คนเขาแตกแยกกันเลยครับ มันจะเป็นบาปทั้งผู้โดนกระทำและบาปของสังคมด้วย มันมีทางเป็นหมื่นแสนทางที่จะรักษาไว้ได้ เวลามันจะช่วยรักษาให้เอง ขอบคุณ คุณka-poom เมื่อไรที่เป็นผู้ดูก็จะทราบได้โดยทะลุปรุโปร่ง แหะๆ คงไม่กล้าpostแล้วครับ ปล.คนรูปไข่คืออะไร

สวัสดีค่ะ

เมื่อ 3 ปีที่แล้วมีโอกาสได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่รับสมัครสมาชิก และได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้หญิงที่มีปัญหาวันละอย่างน้อย ๆ 15 ท่านขึ้น  สิ่งที่ได้รับฟัง ทำให้รู้สึกสงสารผู้หญิงมาก บางคนแค่ถามว่าพี่สบายดีมั๊ยคะ? เขาก็ร้องไห้เลย แรก ๆ  ที่รับหน้าที่นี้เครียดมาก  แต่หลังจากที่เข้าอบรมการ Counseling 2-3 ครั้ง ก็สามารถทำหน้าที่นี้ได้ นี่คือเรื่องราวที่ถูกเล่าจากปากของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มาสมัครเป็นสมาชิก

สามีไปมีผู้หญิงใหม่

ทิ้งภาระหนี้สินเป็นแสน

พร้อมกับลูก 1 คน, 2 คน, 3 คนบ้าง ไว้ให้ดูแล

ตัวเองไม่มีความรู้เรียนจบป.4 หรือ ป.6

มีภาระมากขนาดนี้ ทางเดียวที่ต้องทำคือเดินทางเข้ามาหางานในเมือง พัทยาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีฝรั่งเยอะ

มีสามีฝรั่งดีกว่า ถึงได้สามีฝรั่งแก่ ๆ  ก็ให้เงินใช้, รับผิดชอบดีกว่าผู้ชายไทย สร้างบ้านหลังใหญ่ให้อยู่ มีรถให้ขับ ส่งลูกเรียนหนังสือในโรงเรียนที่แพง ๆ ได้ (จะมีสามีฝรั่งก็ต้องทำงานบาร์)

ผู้หญิงส่วนใหญ่ 99% มาทำงานบาร์เพราะผิดหวังจากชีวิตครอบครัวที่แต่งงานกับผู้ชายไทยพร้อมทั้งภาระหนี้สิน!!!

ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้หญิงทุกคนนะคะ  อยากให้ท่านมองผู้ที่ลำบากกว่าท่าน แล้วจะทำให้ท่านมีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหา ถ้าท่านได้รับฟังเรื่องราวของเธอเหล่านี้ ท่านจะรู้ว่าท่านเป็นคนที่โชคดีมากแค่ไหน

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ดีที่นำมาให้อ่านค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

โอ้...ยอดเยี่ยมสำหรับการแบ่งปัน จากใจอันงดงามนี้ค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

เป็นคนหนึ่งที่สามีมีผู้หญิงอื่น ตลอดเวลาแต่งงานกันมา เกือบ 16 ปี ไม่เคยได้รับความสุขที่แท้จริงเลย

ซ้ำร้ายตอนนี้สามีมีผู้หญิงใหม่อีกคน กำลังหลงกันมาก ไปนอนด้วยกันยังไม่พอ

ผู้หญิงคนนั้นถ่านรูปเขานอนด้วยกัน แล้วส่งมาเยาะเย้ยบ่อย ๆ

พอให้สามีดู เขากลับบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเขาแกล้ง เนื่องจากสามีไม่ไปหา

สามีบอกให้เราอยู่เฉย ๆ อย่าไปเต้นตามเกมส์ผู้หญิงคนนั้น

แต่จริง ๆ แล้ว เขาก็ไปนอนด้วยกันแหละ เพราะไม่อย่างนั้นทำไมสามีถึงกลับบ้านอีกวันนึง ต้องไปนอนค้างด้วยกันบ่อย ๆ แน่

เขาไม่เคยสงสารเราเลย ทั้ง ๆ ที่เราทำงานหาเงิน มาช่วยเขาตลอด เขาช่างใจร้ายและเลือดเย็นจริง ๆ เลย แต่เราก็ตัดเขาไม่ขาด ทำใจไม่ได้เลย

นอนร้องไห้ทุกคืน ขับรถคนเดียวก็ยังร้องไห้ ร้องจนแทบจะไม่มีน้ำตาไหลออกมาแล้ว

ยิ่งคิดถึงเวลาที่เราเพิ่งรู้จักกัน และได้เรียนรู้กันและกันเกือบ 6 ปี ถึงได้แต่งงานกัน

ช่วงเวลานั้น มีความสุขมากที่สุด แต่พอแต่งแล้วกลับต้องทุกข์เหมือนตกนรกทั้งเป็นเลย

มันคือ ความทุกข์...

วางมันลงเถอะค่ะ แล้วลุกขึ้นมาทำสิ่งดีดี ให้กับชีวิต...

คุณแพร์ครับลองอ่านบทความของคุณ ณัชชา ซิครับ เปรียบเทียบกับกรณีคุณแล้ว มันเล็กน้อยมากเลยครับ ปล.ขอโทษ คุณ KAPOOM ที่ POST อีก

ตอนนนี้เจอปัญหาแบนี้เหมือนกัน ทุกวันนี้สามีก็ไปนอนกับเมียน้อยทุกวัน เราเลยขนเสื้อผ้า เตียงนอนไปให้เสียเลย บางคนบอกว่าจะขนไปให้ทำไม ตัวเค้ากับเมียน้อยก็สบายซิ หรือเดี๋ยวเค้าก็กลับมา แต่เราคิดว่าในเมื่อเค้าไม่อยากอยู่กับเรา ก็จะมีของๆเค้าไว้ทำไม แต่ถ้าเค้าจะกลับมาก็ไปขนกลับแค่นั้น และในอีกส่วนเราบางทีจะได้ตัดใจได้บ้าง ซึ่งมันต้องใช้เวลา แต่เราบอกได้เลยว่า เราคงลืมผู้ชายคนนี้ไม่ได้แน่ ๆ เพราะชีวิตตั้งแต่เกิดมาเรามีแต่เค้าเท่านั้น

เรื่องมันผ่านไป 2 ปีแล้ว ที่สามีไปมีเมียน้อยเป็นพยาบาลเกียรตินิยมคนหนึ่ง ซึ่งเธอก็มีแฟนอยู่แล้ว ตอนนี้ปลงได้บ้างไม่ได้บ้าง มันทุกข์ทรมานนะคะ ผู้หญิงคนนั้นเขาคิดยังไงกัน ที่มาแย่งสามีดิฉันก่อนวันแต่งงานไม่ถึง 2 อาทิตย์ (เขาแอบคบกันมา 3 - 4 เดือนแล้ว) คิดแล้วก็เศร้า ดิฉันกับสามีแต่งงานกันเพราะยกเลิกไม่ทัน ดิฉันไม่เคยว่าเธอเลยได้แต่ว่าสามีคนเดียวที่เป็นคนเริ่มเรื่องอุบาว์ทแบบนี้ สุดท้ายเธอก็ไม่ปล่อยสามีดิฉัน โทรมาขอร้องให้สามีดิฉันไปอยู่กับเธอ แล้วเราก็เลิกกันเพราะพยาบาลคนนั้น เธอทำลายชีวิตดิฉันทั้งที่ไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน มารยาเธอมากมายเลยเกินพูดกับดิฉันอีกอย่างไปเล่าให้สามีฟังอีกอย่างแต่ดิฉันก็ไม่เคยแก้ต่างกับสามีเลย คิดว่าทำไมเธอจึงทำแบบนั้นไปได้ อยากได้ผู้ชายก็เอาไป ยกให้ ชาตินี้สิ้นสุดกันเสียที กับพยาบาลที่ไม่อยากระบุชื่อทั้ง ๆ ที่รู้ข้อมูลของเธอทุกอย่าง ฉันจะไม่ทำลายเธอเหมือนที่เธอและสามีทำลายฉันอย่างเจ็บปวดที่สุด เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ตอนนี้ฉันเป็นคนซึมเศร้าไปแล้ว....ทั้งที่เมื่อก่อนเป็นคนร่าเริงสนุกสนานไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับความรักสามีของดิฉันเป็นแฟนคนแรกและคนสุดท้ายพอกันทีเรื่องความรักเป็นถ้าย้อนเวลากลับไปได้ดิฉันไม่อยากรู้จักกับสามีคนนี้เลย

ดิฉันแต่งงานกับสามีมาได้เจ็ดปีเราทะเลาะกันบอ่ยมากส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องจุกจิกสามีเป็นคนเอาแต่ใจขี้โมโหชอบทำเรื่องเล็กให้เป้นเรื่องใหญ่ชอบด่าเราเสียๆหายๆและทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาจะไม่ง้อเราเลยและจะไม่ยอมพูดกับเราเป็นสิบๆวัน บางทีทะเลาะกันเขาจะตะโกนด่าเราจะไม่สนว่าคนเยอะหรือไม่สามีเป็นคนมีตังค์แต่ก็ไม่ได้ให้ดิฉันใช้อะไรมากมายดิฉันเองก็ไม่เคยเรียกร้องขอแค่ให้เขารักเราไม่ขี้โมโหแค่นี้ก็พอใจแล้วค่ะ ก็เคยบอกเขานะว่ารู้สึกยังไงเค้าดีได้แค่ไม่นานก็กลับมาเหมือนเดิมอีก ก็อยากจะเลิกนะแต่เลิกไม่ได้หรืออาจจะเป็นเพราะว่าใจไม่แข็งพออีกอย่างดิฉันก็ปาเข้าไปสามสิบห้าปีแล้วแถมไม่มีงานทำอีก บ่อยครั้งที่แอบร้องไห้กับตัวเองทั้งน้อยใจที่สามีไม่รักและแค้นใจที่ต้องทนอยู่แบบนี้ ขนาดสามีดิฉันเป็นแบบนี้ดิฉันก็ยังอุตส่าห์นึกถึงความดีอันน้อยนิดของเค้า ลืมบอกไปว่าเวลาเค้าอารมณ์ดีถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆเค้าก็จะดีกับดิฉันมากมันทำให้ดิฉันมีความสุขและแอบคิดไปว่าเขาคงจะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วแต่เค้าก็เป็นอีกซำ้แล้าซำเล่าดิฉันจะทำไงดีเค้าจะเป็นอย่างนี้ตลอดไปเลยเหรอแล้วดิฉันล่ะจะทำยังไง

อดทนต่อความทุกข์ให้ได้นะคะ

 

พี่กะปุ๋มคะ

พอลล่ามาอ่านบันทึกนี้ ได้อะไร มากมายค่ะ

สุดยอดจริงๆ ค่ะพี่

ขอบคุณบันทึกดีๆ และความเห็นจากทุกท่านค่ะ

เราก็เจอเหมือนกัน ให้สามีไปเรียนเสาร์-อาทิตย์ ตัวเองทำงานงก ๆ อยู่ที่บ้านเราก็ไม่เคยคิดว่าสามีจะนอกลู่นอกทางเพราะเขาเป็นคนดีไม่มีประวัติเจ้าชู้มีความรับผิดชอบมีความคิดฉลาดเป็นผู้ใหญ่ เราก็ไว้ใจ แต่พอให้ไปเรียนกลับไปรู้จักกับผู้หญิงหน้าด้านซะงั้นบังเอิญสามีเราไปเที่ยวกับเพื่อนที่เทคดันไปรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นเขา ซึ่งผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เป็นแม่ม่ายเคยมีลูกมีสามีแล้วเป็นประเภทเด็กใจแตกมาก่อนเรียนจบแค่ม6 งานการไม่มีทำเป็นหลักแหล่งส่งสัยสามีคงทนพฤติกรรมเน่า ๆ ไม่ไหลก็เลยเลิกไปมั้ง ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็เป็นกิ๊กเป็นเม่ยน้อยกับสามีคนอื่นไปทั่วประวัติไม่ธรรมดา ถ้าเอ่ยถึงชื่อเธอไม่มีใครไม่รู้จักแต่รู้จักในทางที่ไม่ดีนะ แต่สามีเราไม่รู้เพราะคงจะไม่ซักประวัติกะแค่เล่น ๆ ถึงไม่ซีเรียสแต่สามีเราก็มารู้ทีหลังนะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา สามีเราโกหกเรามาเป็นปี เราก็ไม่รู้เพราะเชื่อใจเขาไม่คิดว่าเขาจะมีความคิดแบบนั้น ที่รู้เพราะมีคนส่งข้อความมาหาเราบอกเบอร์โทรฯผู้หญิงคนนั้นแล้วก็บอกว่านะหละเบอร์โทรแฟนของสามีเราส่งมาหลายข้อความมากเราก็ไม่รู้ว่าใครส่ง ตอนแรกเขาไม่ยอมรับเขาก็บอกเราว่าอย่าไปสนใจคงมีคนอิจฉาเราอยากให้เราแตกแยก แต่ก็มีข้อความถี่เข้าจนเราจะเป็นบ้าคิดมากสามีก็เลยยอมบอกเพราะเขาบอกว่าทนเห็นเราเป็นแบบนี้ไม่ได้แต่เขาก็บอกว่าไม่มีอะไรกะแค่เล่น ๆ ไม่ได้จริงจังแต่พฤติกรรมเขาไม่เปลี่ยนเลยนะเคยเป็นแบบไหนก็ยังเหมือนเดิมเราก็บอกให้เลิกซะเขาก็ทำตามนะแต่ผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นมันตื้อขนาดสามีเราเปลี่ยนเบอร์โทรมันก็ยังรู้จักเฉยเลยมันเก่งมาก แต่สามีเราก็บอกว่าอย่าไปสนใจเราห้ามให้เขาโทรมาไม่ได้ถ้าเราไม่สนใจสักพักเขาก็หยุดเอง เพราะสามีเราบอกว่ายังไงก็ทิ้งเราไม่ได้เพราะไม่มีผูหญิงคนไหนจะดีเหมือนเราเราก็เลยคิดว่าคงเป็นเพราะความดีของเรานี้แหละถึงะเอาชนะใจสามีได้ขนาดมีผู้หญิงมาให้ท่ามาตื้อเขาก็ยังไม่ทิ้งเราไปเอาผู้ห๋ญิงคนนี้จะไปเอาได้ยังไงคนประเภทนั้นผู้ชายคนไหนเอาเป็นเมียก็ซวยทั้งปี อับอายขายหน้าตัวเองเปล่า ๆ เพราะฉะนั้นเพื่อนคนไหนที่ตกอยู่ในสถาวะนี้เราอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องไปโต้ตอบกับมันทำดีเขาไว้แล้วทุกอย่างจะดีเองสิ่งที่ไม่ดีย่อมแพ้ภัยไปเองอะไรก็สู้ความดีไม่ได้เราเชื่ออย่างนั้น สู้ ๆ

วันนี้ ดิฉันได้รับรู้ว่าสามี นอกใจ มันทุกข์ เหลือเกิน อยากปล่อยวาง แต่ใจมันเจ็บ เจ็บเหลือเกิน จริงอยู่ความทุกข์ของดิฉัน มันอาจเทียบกับใครหลายๆท่านไม่ได้เลย แต่ดิฉันก็เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง ที่ต้องดูแลลูก3คนลำพัง ทำงานหนัก เพื่อดูแลลูก และสามี หนี้สินทุกอย่างที่เขามีที่เขาสร้าง ดิฉันไม่เคยตำหนิเพราะคิดว่ามันเป็นความสะดวกสะบายของครอบครัวเขา ดิฉันก้มหน้ารับทุกบาททุกสตางค์ โดยไม่เคยปริปาก เพียงเพราะคำว่ารัก เงินของเขาทุกบาท ดิฉันไม่เคยข้องเกี่ยวเพราะรู้ว่ามันน้อยนิดเมื่อเทียบกับเงินเดือนดิฉัน ดิฉันดูแลเขาอย่างดี แต่ทำไม เขาถึงทำร้ายดิฉัน ดิฉันไม่ได้ โวยวาย หรือแม้แต่ปริปาก เรื่องที่ทราบมา เขาเสียอืกที่โวยวายใส่ดิฉัน ว่าฉันเปลี่ยนไป ไม่หยอกล้อกันเหมือนเคย ฉันผิดด้วยเหรอ ที่ทำใจไม่ได้ ผิดด้วยเหรอที่เป็นคนหารายได้เลี้ยงครอบครัว เพราะทุกครั้งที่เขาขัดใจเขามักจะพูดเสมอว่า "ใช่สิ ผมเกาะคุณกินอยู่นี่ " ฉํนผิดอะไร หนักหนา ฉันเคยถามเขาเสมอว่า ฉันมีอะไรบกพร่องตรงไหนมั๊ย ฉันดูแลเขาดีพอหรือยัง ฉันพยายามปรับปรุงตัวเองเสมอ เพราะกลัวเขาจะเบื่อ แล้วเขาก็เบื่อจริงๆ ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่ามันเป็นความหลง อารมชั่ววูบ หรืความรักครั้งใหม่ แต่ที่แน่ใจคือ เขาพยามจะบอกฉันว่า ฉันเป็นคนผิด ที่ระแวง เขาเป็นคนดีของครอบครัวทั้งๆที่ แม่ของดิฉันได้ยินกับหูว่าเขาโทรหาผู้หญิงอื่นวันละหลายครั้ง พูดอะไรกันบ้าง แล้วลูกสาวของแม่ จะทุ่มเทให้เขาอีกทำไม นับจากคืนนี้ฉันคงจมอยู่กับความเจ็บปวด และไม่รู้ว่ามันจะดีขึ้นวันไหน ความเจ็บของฉัน มันคงยังใหม่แต่ลูกเล็กๆของฉันน่าจะช่วยให้ฉันดีขึ้นในเร็ววันนี ทำไม ความรักความห่วงใยของฉันมันถึงไปไม่ถึงใจของเขาได้ซักที

อดทนต่อความทุกข์ที่มันถาโถมเข้ามานะคะ

ความอดทน...จะนำพาเราไปสู่ความเข้มแข็ง...

ความอดทน...ช่วยให้เราละวางความรู้สึกโกรธ เกลียด แค้นได้...พึงให้อภัยที่ทุกสิ่งที่อย่างที่เกิดขึ้นกับเรา...

อดทนและนำตนเองกลับมาสู่ลมหายใจที่นำพาสู่ความสงบเย็นใจ...

 

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่ถูกสามีนอกใจ เราอยู่กันมาตั้งแต่เรียน จนมีลูกด้วยกัน สองคนเค้าไม่เคยมีความรับผิดชอบอะไรเลยสร้างแต่เรื่อง ติดการพนันงอมแงมจนวันหนึ่งเราช่วยกนสร้างชีวิตใหม่ข้นมาได้แต่แล้วเค้าก้อมีคนใหม่ และก้อเปรียบเทียบกับเราว่าดีเท่ากัน เราบอกว่าถ้างั้นก้อเลิกกัยเราซะจะได้ไม่ต้องมาทรมานกันไปอยู่กับทางนั้นจะได้รู้ว่าความจิงแล้วเค้าดีอย่างที่เห็นหรือป่าวก้อคุณไม่ได้อยู่กับเค้าตลอดเวลาแล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าเค้าดีจิงสุดท้ายก้อไม่ยอมเลิกกันโกหกฉันว่าเลิกแล้วไม่รู้ว่าฉันทำดีไปมันไม่มีความหมายเลยหรือไง ฉันอยากเลิกกับคุณมากเลย แต่คุณไม่ยอมไปจากชีวิตฉันซะที ให้อิสระฉันเถอะนะ อย่ามาให้ฉันทำให้เธอรวยแล้วค่อยถีบหัวฉันทิ้งเลย ลูกฉันเลี้ยงได้ แต่ยังไงเธอก้อไม่ให้ฉันไปหรอกเพราะฉันมีประโยชน์กับเธองัย หาเงินให้เธอได้เยอะ ถ้าฉันไม่ช่วยเธอหาเงินแล้วเธอจะยงต้องการฉันมะ ไปรักผู้หญิงคนนั้นเถอะ ถ้าเธอจะทำแบบนี้เรื่องมันก้อนานแล้วฉันอยากได้ชีวิตอิสระคืนมา ขอคืนเถอะ

ดิฉันก็เป็นคนนึงค่ะที่ประสบเคราะห์กรรมเหมือนท่านอื่นๆที่เข้ามาระบายในนี้

ดิฉันและสามีอยู่กินกันมา12ปีโดยเริ่มจากความเป็นเพื่อนกันมาก่อน-ตอนนี้เรามีลูกด้วยกัน1คนอายุจะ3ขวบแล้วค่ะ-ตลอดเวลาเค้าไม่ใช่คนเจ้าชู้ค่ะดิฉันไว้ใจเค้ามาตลอดทั้งๆที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันเพราะเค้าทำงานอยู่ตจว.กลับบ้านอาทิตย์ละครั้ง*ดิฉันก็ไม่เคยรู้สึกไม่ไว้ใจจนเมื่อ3เดือนที่แล้วนี้เองมีคนโทรมาบอกว่าสามีดิฉันมีผู้หญิงอื่นอายุแก่กว่าสามีดิฉันเกือบ10ปีผู้หญิงคนนั้นอายุเกือบ47ปีแล้วเป็นแม่หม้ายค่ะหน้าที่การงานเป็นถึงผู้จัดการในที่ทำงานเค้าทั้ง2คนมีความสัมพันธ์กันมาประมาณหนึ่งปีในช่วงเวลาหนึ่งปีนี้เป้นช่วงที่ดิฉันกำลังเหนื่อยกับการทำงานและดูแลลูกอยู่คนเดียวยิ่งครึ่งปีหลังมาสามีของดิฉันเค้ามักหาเรื่องตำหนิดิฉันบ่อยๆและเรื่องบนเตียงก็ไม่ค่อยมีกับดิฉันเลยซึ่งดิฉันก็คิดว่าเค้าเหนื่อยจากการทำงานไม่เคยคิดว่าเค้ามีคนอื่นเลยดังนั้นเมื่อดิฉันทราบว่าเค้ามีคนอื่นดิฉันจึงเสียใจมากแต่ดิฉันโชคดีกว่าหลายๆคนค่ะเพราะสามีรักลูกมากเมื่อดิฉันทราบเรื่องและเป็นทุกข์เค้าจึงรู้สึกผิดและเลิกกับแม่หม้ายคนนั้นทันทีแต่แม่หม้ายคนนั้นก็ยังคงตื้อเค้าอยู่บ้างตอนที่ฉันทุกข์ก็ทุกข์มากอยากฆ่าตัวตายหนีทุกข์ก็มีแต่ก็ไม่กล้ากลัวบาปและนึกถึงลูกด้วยค่ะถึงแม้สามีจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้วฉันก็ยังทุกข์อยู่เพราะรู้สึกเสียใจที่สามีนอกใจมันผ่านมา3เดือนแล้วดิฉันก็ยังทุกข์อยู่แต่ไม่มากเท่าตอนแรกๆที่รู้เรื่องดิฉันรู้ว่าทุกข์แล้วทรมานดิฉันต้องพยายามกำจัดมันออกไปค่ะเพื่อตัวดิฉันเอง

ดิฉันแค่อยากเล่าและให้กำลังใจคนที่มีปัญหาเหมือนดิฉันผ่านมันไปได้ค่ะรักตัวเองให้มากๆค่ะ

สวัสดีค่ะ ดร. Ka poom....

เป็นอีกงานที่น่าชื่นชม การรับฟัง ฟังอย่างตั้งใจ ก็เป็นการทำงานที่ได้บุญ...

คนที่คุยด้วย คง สบายใจ กับใบหน้าที่มีรอยยิ้ม....

มีความสุขมากๆนะคะ....

เรามีกรรมเป็นของๆ ตน

เรามีกรรมเป็นผู้ให้ผล

เรามีกรรมเป็นแดนเกิด

เรามีกรรมเป็นผู้ติดตาม

เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

เราจักทำกรรมใดไว้ ไม่ว่าเป็นบุญหรือเป็นบาป

เราจักได้รับผลของกรรมนั้นสืบไป

ทุกข์...เพราะเรายังไปยึดอยู่ในเรื่องราว..

การยึด คือ อะไร ... การยึดคือ การไปเฝ้าครุ่นคิด และคำนึงถึง...ซึ่งสภาวะแห่งความเป็นปัจจุบันเรื่องราวต่างๆ นี้ได้จบลงไปแล้ว ผ่านไปแล้ว เป็นอดีตไปแล้ว

ความเป็นปัจจุบัน คือ เรากำลังหายใจเข้าสลับกับการหายใจออก พร้อมควบคู่กับการทำภาระกิจที่อยู่เบื้องหน้าเรา...

 

ตอนนี้ดิฉันไม่รู้จะพูดยังไงดี อยู่ดี ๆ สามียื่นกระดาษให้แผ่นนึงแล้วบอกว่าเป็นตารางเวรว่าวันใหนจะอยู่กับใครฉันร้องให้ตั้งแต่บ่ายจนถึงตอนนี้ไม่รู้เค้าคิดอะไรอยู่ดิฉันอยากจะระบายให้ใครสักคนฟังแต่ก็ไม่กล้าอายชาวบ้านเค้า

ทำยังงัยได้อย่างนั้น

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่รู้จักกับผู้หญิงที่ได้สามีเป็นชาวต่างชาติ ผู้หญิงคนที่ฉันรู้จักเค้าเป็นคนที่

ไม่ชอบอยู่กับที่ คือสามีเค้าให้เงินใช้เดือนละประมาณ 300,000 - 400,000 บาท

โดยโอนเข้าบัญชีของเธอ เพราะว่าสามีเค้าไปทำงานต่างประเทศแบบไม่อยู่กับที่ค่ะ แต่ก็ส่งเงินมาให้ทุกเดือนอย่างสม่ำเสมอ ปีนึงสามีเธอจะกลับมาเยี่ยมที่เมืองไทยประมาณ

1-2 เดือน ทุกปี (เค้าแต่งงานกันมาก็ประมาณเกือบ 10 ปี) แต่ระหว่างที่สามีเธอไม่อยู่เธอแบบว่าหาธุรกิจทำหลายอย่างมากน่ะ แต่ก็เจ๊งทุกอย่าง คือทำแบบไม่ไตรตรองอะไรเลย ใครว่าอะไรดีก็ทำ พอทำแล้วก็ไม่บริหารเอง จ้างคนอื่นมาดูแล มันจะไปเหลืออะไร ส่วนตัวเธอก็วัน ๆ ไปเสริมความงาม พอตกดึกก็ไปเที่ยวพับ เที่ยวสถานบริการต่าง ๆ รู้จักกับใครต่อใครเยอะแยะไปหมด (คบแบบไม่ดูหัวนอนปลายเท้าเลย ) แถมชวนมาบ้าน (เธอซื้อที่ปลูกบ้านเป็นของตัวเอง ก็เงินของสามีเธอทั้งนั้นแหละ) ทั้ง ๆ ที่เธอเองก็มีลูกแล้ว 2 คน เป็น ญ. 1 ช. 1 อายุ 8 ขวบ อายุ 6 ขวบ ตอนดึกที่เธอไปเที่ยวเธอแอบหนึลูกไป โดยให้ลูกรีบนอนแต่หัวค่ำ แล้วลูกหลับเธอก็ทิ้งลูกไว้ (คุณคิดดูก็แล้วกันเด็กสองคนอายุเท่านี้ทิ้งไปได้งัย) ดิฉันไม่รู้ว่าเธอรักลูกหรือรักตัวเอง จนอยู่มาไม่นาน เธอก็ไปคบกับผู้ชายคนนึ่ง เป็นคนไทยอายุอ่อนกว่าเธอเกือบ 10 ปี แล้วก็โดนผู้ชายคนนี้หลอกให้ไปลงทุนขายของ ทำได้ยังไม่ถึง 2 เดือน ก็ต้องทะเลาะกันขึ้นโรงพัก เป็นอันว่าต้องเลิกลากันไป ส่วนสามีของเธอก็กลับมาและระหว่างที่อยู่ต่างประเทศเค้าคงรู้ว่าภรรยานิสัยไม่ดี พอกลับมาคราวนี้เค้าก็เลยขอหย่า เธอก็ไม่ยอมหย่าแล้วไปบอกญาติพี่น้องของเธอว่าสามีเธอนอกใจ คือหาพวกอะไรทำนองนั้น ดิฉันรู้สึกสงสารสามีของเธอจัง ทำมัยได้คนดี ๆ กลับไม่รู้จักรักษาไว้ ชีวิตแสนจะสบายไม่ต้องดิ้นรนอะไร เพราะเท่าที่รู้จักกับสามีเธอมาเค้าเป็นคนรักครอบครัวมาก ๆ ตอนนี้เค้าทั้งสองคนกำลังมีปัญหากันอยู่คุณคิดว่า จะให้คำแนะนำเค้าอย่างไรดีค่ะ

ชั้นบอกตามตรงนะคะว่าตอนนี้เหมือนตัวเองก็กำลังจะเป็นโรคประสาทค่ะ เพราะชั้นรู้สึกว่าตัวเองต้องทำอะไรที่ขัดกับความรู้สึกอยู่ตลอดเวลาจนจะเป็นบ้า บอกเล่าให้ใครฟังก็ไม่ได้ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจแต่กลัวว่าจะได้ความคิดเห็นในด้านลบกลับมาแล้วทำให้ตัวเองยิ่งไม่สบายใจ เพราะว่าความรักที่มีให้สามีมันมากมายเหลือเกิน

ชั้นแต่งงานกับสามีเข้าปีที่ 7 แล้วค่ะ หลังจากคบกันเป็นแฟนมา 11 ปี เราเรียนด้วยกันมาค่ะ แต่อยู่กันต่างโรงเรียน เค้าเรียนทางด้านวิศวะ ส่วนชั้นเรียนบริหารค่ะ เรารักกันมากเป็นที่รู้ในวงเพื่อน ๆ มาตลอด จนกระทั่ง 2 ปีก่อนแต่งงานเค้าไปรู้จักสนิทสนมกับเพื่อนผู้หญิงที่ทำงานของเค้า เค้าแอบไปมีความสัมพันธ์กันโดยที่ชั้นไม่รู้เลย เค้าก็เหมือนเดิมกับชั้นเสมอต้นเสมอปลาย ผิดแผกไปบ้าง ก็ตรงที่เรามีเวลาให้กันน้อยลง ชั้นก็มีงานด้านธุรกิจของตนเอง ส่วนแฟนก็ทำงานหนัก จนกระทั่งหลังแต่งงานชั้นก็จับได้ เค้าก็บอกเลิกกันไป แต่สุดท้าย ปีที่แล้วชั้นก็รู้มาว่า ผู้หญิงคนเดิมเค้าก็ยังติดต่อกันอยู่ ยังคงมีสัมพันธ์กันอยู่ ชั้นเสียใจนะคะ เสียใจที่รู้ว่าโดนหักหลังมาตลอด แต่ชั้นก็รักเค้ามากเหลือเกิน หลังจากนั้นสามีก็บอกไม่มีอะไรเป็นแค่เพื่อน แต่เพื่อนอะไรโทรติดต่อกันตลอด โทรวันนึงมากกว่าชั้นโทรหาเค้าทั้งสัปดาห์

ทุกวันนี้ชั้นต้องทำน้ำขุ่นอยู่ใน น้ำใสอยู่นอกค่ะ ทำตัวเป็นภรรยาที่ดี เอาอกเอาใจสารพัด สามีอยู่บ้านไม่ต้องจับต้องอะไรเลย เรายังไม่มีลูกค่ะ ชั้นเลยดูแลเค้าได้เป็นอย่างดี คนรอบข้างก็ยังบอกว่าคู่ของเราเป็นคู่ที่น่ารัก สามีรักดิฉันมากค่ะ เค้าไม่ได้แสดงออกแบบเวอร์นะคะ แต่สิ่งที่เค้าทำมันจะเป็นเลยค่ะว่าเค้าก็รักชั้น แต่สิ่งที่ชั้นต้องทำทุกวันนี้มันต้องอดทนมากนะคะ มันเหมือนจะบ้าค่ะ เคยพูดกับเค้าตรง ๆ เค้าก็บอกไม่มีอะไร แค่เพื่อนกัน เพราะสามีเป็นคนเฉยมาก พูดน้อย เป็นอย่างนี้มาตลอด 16-17 ปีที่อยู่กันมา เลยไม่ได้คำตอบอะไรมากมาย

สิ่งเดียวที่ทำได้ในตอนนี้คือ ชั้นคงต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เพราะสุดท้ายแล้วชั้นจะไม่ยอมเสียสามีทีดีของชั้นให้ใครทั้งนั้นค่ะ แต่ชั้นก็ยังอยากได้คำตอบดี ๆ คำปรึกษาดี ๆ จากทุกคนนะคะ

ลองอยู่กับลมหายใจของเราดูนะคะ

หายใจอย่างรู้ตัว...

หายใจเข้ารู้ตัว...หายใจออกรู้ตัว

หากใจเข้าสบาย หายใจออกผ่อนคลาย...

แล้วเราจะอยู่กับทุกข์และปัญหานั้นได้ค่ะ...

อยากระบายเหมือนกัน ปํญหาที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวของใครทั้งนั้น ถ้าผู้หญิง และผู้ชายต่างมีความรับผิดชอบในการกระทำทุกอย่าง

ความเจ็บปวดก็จะไม่เกิดขึ้นกับใครทั้งนั้น ดิฉันก็เป็นเหบื่อในการกระทำของชายหญิงที่ไม่สนใจว่าการกระทำของตัวเองจะกระทบกับความรู้สึกของใครบ้าง ถึงแม้ว่าเค้าจะมีเจ้าของแล้ว ก็ทำเป็นไร้เดียงสาว่าไม่รู้ ฉันคือหนึ่งเดียวของชายผู้ซึ่งเป็นสามีของคนอื่น ออกมาแสดงตนโดยไม่สนว่าตัวเองทำผิดต่อครอบครัวคนอื่น มายื่นเรียกร้องสิทธิของการเป็นภรรยาอย่างภาคภูมิ คิดแล้วก็สงสารสังคม

ผู้ใหญ่ยังไม่รู้จักรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง แล้วเด็กที่กำลังจะเติบโตขึ้นจะเป็นอย่างไร

ฉันกับสามีรู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก และเิริ่มคบกันเมื่อตอนมหาลัย แต่งงานมาได้ 3 ปี สามีทำงานอยู่โรงงานที่ ตจว. และเขาก็มีผู้หญิงใหม่ โดยแอบติดต่อกันตลอดมาเกือบ 1 ปี ซึ่งผู้หญิงก็พอๆ จะรู้ว่าสามีมีเมียแล้ว ในขณะที่ฉันได้แต่สงสัยแต่ยังเชื่อใจเขาเสมอ จนวันนี้เขาพาผู้หญิงคนนั้นมาให้เราเห็น เชื่อไหมว่า น้ำตา...มันไม่มีจะไหล เหลือเพียงให้เวลามันช่วยรักษาแผลใจ และไม่รู้ว่ามันต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน

โชคดี ... ที่ฉันยังไม่มีลูกกับเขา

โชคดี ... ที่เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์คน

โชคดี ... ที่วันนี้ฉันไม่โง่เหมือนเมื่อวาน

โชคดี ... เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วดีเสมอ

อยากรู้ว่าฉันกำลังประสบกรรมเนื่องจากอะไร

ก่อนภิกษุทั้งหลาย...

ความรักเป็นความร้าย ความรักเป็นสิ่งทารุณ และเป็นเครื่องทำลายความสุขของปวงชน

ทุกคนต้องการความสมหวังในชีวิตรัก แต่ความรักไม่เคยให้ความสมหวังแก่ใครถึงครึ่งหนึ่งแห่งความต้องการ

ยิ่งความรักที่ฉาบทาด้วยความเสน่ห์หาด้วยแล้ว ก็เป็นพิษแก่จิตใจ ทำให้ทุรณทุราย ดิ้นรน ไม่รู้จักจบสิ้น

ความสุขที่เกิดจากความรักนั้น เหมือนความสบายของคนป่วย ที่ได้กินของแสลง

“เธอทั้งหลายอย่าพอในใจความรักเลย”

เมื่อหัวใจยึดไว้ด้วยความรัก หัวใจนั้น จะสร้างความหวังขึ้นอย่างเจิดจ้า

แต่เมื่อทุกครั้งที่เราหวัง ความผิดหวังก็จะรอเราอยู่…

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย...

อย่าหวังอะไรให้มากนัก จงมองดูชีวิตอย่างผู้ช่ำชอง อย่าวิตกกังวลอะไรล่วงหน้า

ชีวิตนี้เหมือนเกลียวคลื่น ซึ่งก่อตัวขึ้นแล้วม้วนเข้าหาฝั่ง และแตกกระจายเป็นฟองฝอย

จงยืนมองดูชีวิตเหมือนคนผู้ยืนอยู่บนฝั่งมองดูเกลียวคลื่นในมหาสมุทรฉะนั้น... (พุทธโอวาทก่อนปรินิพพาน)

รับไม่ได้เช่นกันค่ะ ต่อไม่ติด 

ชั้นก้อกำลังตกอยู่ในความรู้สึกเจ็บปวดนั้นเหมือนกันค่ะ อยู่มา 15 ปีพึ่งมารู้ว่าเขานอกใจ มันทรมานมากเลยค่ะ เราไม่รู้ไม่เห็นไม่เป็นไร เราไห้อภัยทุกอย่างขอไห้เขากลับมาเป็นคนเดิม เขาก้อรับปาก แต่ก้อยังฃึมอยู่ ผู้หญิงคนนั้นก้อมีผัวอยู่แล้วนะค่ะ ลืมบอกไปค่ะว่าเขาไม่ได้มีคนเดียวนะค่ะ แต่เราบอกว่าไม่เป็นไรขอไห้เลิกกับที่พามาบ้าน คนอื่นเราไม่เห็นไม่มาหยามเราเราไม่ว่า เขาก้อรับปาก จากที่เขาใจเย็น กับเป็นคนใจร้อน เราพยามทำดีทุกอย่าง เอาใจทุกอย่าง แต่เขาก้อไม่ดีขึ้นเลย เหมือนคนโดนเสน่ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยเป็นมาก่อน เขาบอกว่าขอเวลาทำใจ เราบอกว่าเราจะรอเพราะเรามีลูกด้วยกัน สงสารลูกๆมากเลยค่ะ หวังว่าความดีของเราจะทำไห้เขาดีขึ้น ไห้เขากับมาเหมือนเดิม ตอนนี้ถึงจะทำใจได้บ้างแล้วแต่ก้อทรมานใจเหลือเกิน ที่เขาส่งคอมเม้นhi5ถึงกัน เขาไม่แคร์ความรู้สึกเราเลย ทั้งที่เราบอกว่าอย่าไห้รู้ไห้เห็นเขารับปากแต่เขาก้อยังทำ ไม่รู้จะทนได้นานแค่ไหน เราอยู่กับเขามา 15 ปี แต่ผู้หญิงคนนั้นพึ่งมาไม่นาน ตอนนี้ต้องการกำลังใจมากๆค่ะ ขอกำลังใจจากผูอ่านด้วยนะค่ะ จากคนสู้เพื่อลูกค่ะ

แม้แต่ตัวเรา ยังไม่ใช่ของเราเลยค่ะ ทำอย่างไรหนอเราทุกคนจะปล่อยวางอย่างรู้ตัวทั่วถึงกันได้ ปัญหาเกิดขึ้นใหม่ๆ ย่อมยากที่จะทำใจ แต่ก็ต้องทำ ปัญหาที่เกิดขึ้นนานแล้ว หากแก้ไขไม่ได้ สงกะสัยต้องเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเรื่องปกติและยอมรับอย่างสงบระงับ หัวใจของเราถ้าเราไม่อนุญาตให้ใครทำร้าย เขาก็ทำร้ายเราไม่ได้ การมีปัญหาในชีวิตเสียบ้างก็เป็นเรื่องดีนะคะ เราจะได้ไม่ทุกข์มากเมื่อเกืดการพลัดพราก คนเราเมื่อต่างทำหน้าที่ของตัวแล้ว ไม่วันใดก็วันหนึ่งต้องพรากจาก ไม่ว่าจากเป็นหรือจากตาย สักวันมันย่อมมาถึงแน่นอน รักตัวเองกันมากๆนะคะทุกท่าน ที่พูดนี่อยากให้กำลังใจนะคะ ใครไม่รักเราก็ตามเถิดแต่เราต้องรักตัวเองนะค้า ...จากคนไม่มีใครรัก...

ได้รู้ว่าสามีนอกใจเมื่อประมาณ 3 เดือนผ่านมาแล้วค่ะ อาการแรกที่เกิดขี้นคือโกรธมากจนไม่อยากจะพูดด้วย เพราะรู้ว่าคงไม่มีสติมากพอที่จะพูดกันรู้เรื่องแน่ๆ ผ่านไปหนึ่งวันจึงเริ่มหันหน้ามาคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นเลยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร

ผู้หญิงคนนั้นเค้าเป็นแฟนเก่าของสามีดิฉัน เป็นคนก่อนหน้าที่จะมารู้จักและคบกับดิฉัน เค้าเลิกรากันไปโดยผู้หญิงเป็นฝ่ายทิ้งไปก่อน

แล้วหลังจากนั้นก็มารู้จักกับดิฉัน เราคบกันมา 10 ปี โดยที่ปีแรกสามีเรียนอยู่ที่เมืองไทย ต่อมา 9 ปีที่เหลือเค้าต้องเดินทางไปเรียนที่ต่างประเทศ ส่วนตัวดิฉันก็เรียนหนังสือจบและทำงานอยู่ที่เมืองไทย เราสองคนติดต่อกันมาตลอดเวลา มีโอกาสเจอกันปีละครั้ง ตลอดเวลา 10 ปีที่รู้จักและรักกัน ดิฉันไม่เคยแม้แต่จะคิดที่จะมีใครใหม่เลย มั่นคงกับเค้ามาตลอด แต่ตัวเค้าเองมีคนอื่นตลอดเวลา แต่ดิฉันถือว่ามันเป็นเรื่องของผู้ชายที่จะต้องมีเรื่องอย่างนี้เป็นธรรมชาติ แรกๆก็เสียใจ และคิดมาก แต่ก็พยายามเข้าใจในความเป็นผู้ชายของเค้า และก็หวังว่าการที่เราให้โอกาสเค้าได้มีชีวิตที่อิสระเสรีก่อนแต่งงานแล้ว จะทำให้เค้าอิ่มกับชีวิตแบบนั้น แล้วเป็นสามีที่ดีของเราหลังแต่งงานแล้ว หลังจากที่แต่งงานแล้วก็ย้ายมาอยู่ที่ต่างประเทศ ดิฉันต้องลาออกจากงานที่มีรายได้ดีมากๆ จากครอบครัวที่รัก จากเพื่อนๆ เพื่อมาอยู่กับเค้า ถึงแม้ว่าเราสองคนรักและเข้าใจกันมากๆ แต่สิ่งที่เริ่มเข้ามาเป็นปัญหากวนใจดิฉันตลอดเวลาคือแม่,น้องๆเค้าไม่ยอมแยกออกไปอยู่เอง เค้าต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้าน ทุกอย่าง และดิฉันต้องคอยเทคแคร์ครอบครัวของเค้า เราไม่เคยได้มีโอกาสที่จะมีเวลาส่วนตัวกันสองคนเลยหลังจากแต่งงานกันมา เราเริ่มมีปัญหากันมาโดยตลอด เค้าเองก็ไม่พอใจที่ดิฉันเข้ากับครอบครัวเค้าไม่ได้ เพราะตัวดิฉันเองเป็นคนที่ไม่ชอบความวุ่นวาย ไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ เวลาที่อยู่บ้านก็อยากอยู่เงียบๆสบายๆ แต่เค้าก้ไม่เข้าใจหาว่าเราใจแคบกับครอบครัวเค้า จนเราไม่สามารถจะคุยกันรู้เรื่อง เพราะต่างคนก็ต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง ปล่อยให้ความห่างเหินมันค่อยๆเข้ามาอยู่ระหว่างเรามากขึ้นทุกทีๆ

ทั้งๆที่เรารักกันมากๆ แต่ก็ไม่วายที่จะต้องเจอกับปัญหาที่หนักหนาที่สุดในชีวิตเมื่อได้รู้ว่าเค้ากลับไปยุ่งกับแฟนเก่าของเค้าที่เพิ่งมาจากเมืองไทย ทุกๆคนในครอบครัวเค้ารู้หมด ตั้งแต่ต้น ทุกคนทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ ไม่มีใครคิดถึงเด็กเล็กๆอีกสองคนที่เป็นลูกของดิฉันกับสามีแม้แต่นิดเดียว ไม่คิดกันบ้างเลยว่าถ้าปล่อยให้เกิดเรื่องอย่างนี้ต่อไป มันจะมีผลกระทบกับลูกของดิฉันอย่างไรบ้าง ถ้าดิฉันทนที่จะอยู่กับสามีต่อไปไม่ได้ เด็กๆก็ต้องไปกับดิฉัน โตขึ้นมาโดยไม่มีพ่อ หรือว่าถ้าดิฉันทนอยู่กับเค้าต่อไป เด็กๆจะต้องทนรับรู้ถึงความกดดันที่เกิดขี้นระหว่างพ่อกับแม่ ไม่ว่าดิฉันจะเลือกทางไหน ก็มีผลกระทบต่อเด็กๆอยู่ดี

ดิฉันอยู่กับสามีมาประมาณ 10 ปีเค้าอายุแก่กว่า 14 ปีมีลูกชาย 1คน ดิฉันไม่ได้ร่วมหลับนอนกับสามีมาตั้งแต่เริ่มรู้ว่าท้องจนกระทั่งเดี๋ยวนี้เป็นเวลา 7 ปีกว่าแล้ว สามีเค้าก็ไม่เคยขอหลับนอนด้วย เราแยกห้องนอนกันลูกนอนกับดิฉัน สามีเป็นคนคุยสนุกมีเสน่ห์ในการคุย ตอนดิฉันท้อง สามีมักมีผู้หญิงโทรมาหาเสมอแล้วมักจะกลับดึกทุกวัน ดิฉันร้องไห้ทุกวันเพราะบ้านไม่มีใครเลยเราอยู่กันสองคน ถามสามีเค้าก็บอกว่าไม่มีอะไร สามีเป็นคนน่าจะเรียกว่า เจ้าชู้ก็ได้เพราะจะมีประมาณนี้ตลอด แต่เค้ารักลูกมากๆ สามีเป็นคนเลี้ยงดูเพราะดิฉันไม่ได้ทำงาน สามีเจ้าชู้แต่ไม่เคยมีมาให้เห็นตัวเป็นๆ มีแต่ผู้หญิงโทรมา เราอยู่กันจนรู้แล้วแค่ได้ยินเค้ารับโทรศัพท์ ก็จะรู้โดยสัญชาตญาณ เพราะเค้าจะพยายามไม่พูดอะไรแล้วรวบรัดตัดบททันที ดิฉันยอมรับว่าความหวาดระแวงมันทำให้เราทุกข์จริงๆ แล้วเวลาจะทำให้เราดีขึ้นแต่เดี๋ยวเรื่องมันก็มีให้เราได้ยินอีก แล้วก็ทุกข์อีก ทน..ทน มันต้องทน เคยถามตัวเองบ่อยๆ ว่าถ้าไม่มีเค้าเราอยู่ได้รึเปล่าพิจารณาแล้วลองไปอยู่บ้านคุณแม่เป็นอาทิตย์ สรุปก็คิดถึงเค้าสามีพูดด้วยดีๆ ก็กลับ แล้ววงจรชีวิตก็เหมือนเดิม บางครั้งยอมรับว่าเบื่อมากๆไม่อยากจะใช้คำว่าทนแต่มันก็ต้องทนในเมื่อยังตัดเค้าไม่ได้ซะที เคยคิดว่าทำใจได้แล้วเราก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ เค้าก็ยังให้เกียรติเราดีอยู่ แต่มันก็เป็นอะไรที่เป็นภาพลวงตา สามีเค้าก็ยังคงไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นนอกบ้าน เคยค้นเจอถุงยางอนามัยในกระเป๋าเอกสารของเค้าแต่เราก็ไม่ได้ถาม ไม่อยากเป็นเรื่องเพราะเราก็ไม่ได้หลับนอนกับเค้าอยู่กันไปตามหน้าที่ แต่คืนนี้ดิฉันคิดมากนอนไม่หลับสามีกลับมาดึกเค้าก็คงไปหาผู้หญิงนอกบ้านมาอีก เกิดมาเป็นมนุษย์มันก็คงต้องทนกันต่อไป........จนกว่าจะตาย ไม่ใช่เราคนเดียวที่มีปัญหาคนอื่นๆเค้าก็มีกันทุกคน(ให้กำลังใจตัวเอง) !แต่ความอดทนของคนไม่เท่ากันอะไรที่ทำแล้วสบายใจโดยไม่เดือดร้อนคนอื่นก็ทำเถอะ.............จบค่ะ

ดิฉันก็เป็นอีกคนที่ตกเป็นเยื่อของตัวผู้และตัวเมียที่ขาดซึ่งความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่สนใจว่าการกระทำของทั้งสองจะกระทบ

กับความรู้สึกของใครบ้าง จับได้โดยมีหลักฐานแน่ชัด ว่าไปมีภรรยาน้อยกับผู้หญิงซึ่งอดีดเคยเป็นภรรยาหลวงมาแล้ว แล้ว

ถูกทิ้ง ก็เลยเปลี่ยนเป็นค่อยหาผู้ชายที่มีฐานะอายุมากหน่อยจะได้หลอกสบาย ชนิดที่เรียกว่าป๋าขา ให้ทุกอย่างเงินทอง

สิ่งของ คอยดูแล หวง ชนิดที่ว่าต้องคอยโทรหากันตลอดเวลา คิดดูซิว่าคนที่เป็นภรรยาอย่างถูกต้องจิตใจจะเป็นยังไง

การพูดคุยกับเราแทบจะไม่มีเลย ถ้าคุยกันก็จะมีความเห็นที่แตกต่างเสมอ มันตรงกันข้ามกับการที่คุยกับภรรยาน้อยที่มีแต่

เห็นด้วยทุกอย่าง จะทำยังไงดีหนอหถึงจะหลุดจากบ่วงกรรมนี้ไปได้ ก่อนหน้าที่ยังจับไม่ได้ก็ขออย่าอยู่ทุกเดือน แต่เราไม่

ยอมหย่าให้เพราะลูกรับสภาพครอบครัวที่แตกแยกไม่ได้

แต่พอจับได้แน่ๆ และขอหย่ากลับเป็นว่าไม่ยอมหย่า ถ้าอยากหย่าก็ให้ไปฟ้องเอา ทำไมถึงต้องเป็นอย่างนี้ ทุกวันนี้อยู่อย่าง

ไม่มีความสุขเลย ถึงแม้ว่าสามีบอกว่าเลื่อกครอบครัว แต่เขาก็ยังแอบติดต่อกันเป็นระยะซึ่งบอกว่าเป็นแค่เพื่อน แต่ทำไมเพื่อน

ของสามีถึงได้กลับมาทำลายความสุขของครอบครัวตัวเอง แล้วยังจะคบเป็นเพื่อนอีก ร้ายขนาดให้คนอื่นโทรศัพท์เข้าเครื่อง

เราแล้วของพูดกับภรรยาน้อย ทำให้เราแทบบ้า จะแสดงให้รู้อยู๋เนื่องว่าสามีเรายังติดต่อกับเค้าอยู่นะ

สามีเราก็พยายามที่จะทำกับสิ่งที่พูดกับครอบครัว แต่ความพยายามก็คือความพยายาม เพราะใจมันไม่ยอม เราไม่อยาก

อยู่กับสามีที่มีแต่ความพยายามแต่จิตใจมันไม่พยายามด้วย เก็บทุกอย่างของภรรยาน้อยไว้ ไม่ยอมทิ้ง แต่บอกกับเราว่า

เลยแล้ว เราทุกข์ทรมานมาก อยากเลิกกับสามี ยกให้ภรรยาน้อยไป เพื่อสามีจะได้ตาสว่างเสียทีว่าผู้หญิงที่เค้าคิดว่ารัก

เค้านั้นก็รักแต่สมบัติ เงินทองที่ให้ ท่านใดที่มีคำแนะนำที่ดีช่วยเปิดทางสว่างให้ด้วยนะ เพราะการทำใจนั้น ถ้าคนที่ไม่ตกอยู่

ฐานะภรรยาหลวงจะไม่มีวันเข้าถึงจิดใจของพวกเรา ทุกวันอยู่อย่างไม่มีความสุขเลย ไม่รู้ว่าจะตลอดชีวิตรึป่าว

ขอผู้ใจดีช่วยด้วย

สวัสดีค่ะ

  • น้องซิลเวียแวะมาเยี่ยมอาจารย์ค่ะ...และมาเรียนรู้เทคนิกการให้คำปรึกษาค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท