“Wait” ...................คำที่ต้องจำให้ขึ้นใจเมื่อไปอินเดีย


“Wait” ...................คำที่ต้องจำให้ขึ้นใจเมื่อไปอินเดีย

         ผู้เขียนมีโอกาสเดินทางไปประเทศอินเดียระหว่างวันที่ ๒๖ – ๓๐ พฤษภาคม ที่ผ่านมาเพื่อเข้าร่วมพิธีวันวิสาขบูชาที่พุทธคยา ซึ่งเป็นสถานที่ พระพุทธองค์ตรัสรู้ (จะนำเรื่องเกี่ยวกับกิจกรรมการร่วมงานวันวิสาขบูชามาลงให้โอกาสต่อไป)

            เมื่อมิตรสหายทราบว่าผู้เขียนจะเดินทางไปอินเดียจึงได้ขอให้ไปรับเอกสารที่มหาวิทยาลัยมคธ ให้ด้วย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากพุทธคยามากนัก

           

        ๙ โมงขึ้นของวันที่ ๒๘ พฤษภาคม จึงนั่งสามล้อปั้นไปที่มหาวิทยาลัย เพราะได้นัดหมายกับอาจารย์ไว้แล้วว่า ประมาณ ๑๐ โมงจะไปพบและเพื่อรับเอกสารตามที่ได้โทรศัพท์มาแจ้งไว้ก่อนหน้าที่จะเดินทางมาประเทศอินเดีย

            เมื่อเดินทางถึงมหาวิทยาลัยมคธจึงเข้าไปหา อาจารย์ที่ คณะA.I.&A.S. ซึ่งท่านได้แนะให้ไปหาHead of department  เมื่อเข้าไปสำนักงานมีทั้งอาจารย์และนักศึกษาอยู่ในห้องกันหลายคน คำแรกที่ท่านทักทายคือ wait พร้อมกับชี้มือให้นั่งรอให้ห้องทำงานของท่านซึ่งไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก มีเพียงโต๊ะทำงานที่มีเอกสารวางอยู่ไม่กี่ชิ้น และมีคอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานอีก ๑ ชุด

            นั่งรอสักครู่ ท่านจึงหันมาถามว่า มีปัญหาอะไร ผู้เขียนจึงบอกวัตถุประสงค์ว่าจะมารับเอกสาร ท่านบอกว่าวันนี้งานยุ่งค่อยมารับวันพรุ่งนี้ได้ไหม ผู้เขียนว่าไม่ได้เพราะจะรีบเดินทางกลับเมืองไทย(ที่บอกเช่นนั้นเพื่อที่จะให้ท่านจัดทำเอกสารไวๆ)

            จากนั้นผู้เขียนจึงไปหาอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อให้ช่วยเร่งเจ้าหน้าที่พิมพ์จดหมายให้ คำตอบที่ได้รับคือ wait พร้อมกับชี้มือให้นั่งรอในห้อง จากนั้นท่านออกไปคุมการสอบปลายภาคของนักศึกษา

            หลังจากที่นั่งคอยสักพักใหญ่ๆ ท่านก็เข้ามาในห้อง พร้อมกับบอกว่า ได้แจ้งให้เจ้าที่พิมพ์จดหมายแล้ว พร้อมกับชวนให้ไปนั่งในห้องเสมียน จึงย้ายห้อง ซึ่งห้องมีนักศึกษาเข้ามาติดต่องานหลายคน หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นพระพม่า ซึ่งเมื่อมาถึงก็บ่นเรื่องมหาวิทยาลัยทำงานล่าช้า

            เวลาผ่านไปกว่า ๒ ชั่วโมงจดหมายฉบับดังกล่าวยังไม่สำเร็จ จึงเดินเข้าไปถามกับเจ้าหน้าที่กำลังพิมพ์เอกสารอยู่ ซึ่งวันนี้มีนักศึกษาหลายคนมารอรับเอกสารเช่นกัน เมื่อเข้าไปถึง เหมือนเป็นมารยาทที่ดี “wait” พร้อมกับชี้มือให้นั่งรอ

            นั่งรอกว่า ๒๐ นาที ปริ้นจดหมายไปหลายฉบับแต่ยังไม่ใช่ฉบับที่ผู้เขียนต้องการ

            “เขียนชื่อ-นามสกุล ให้หน่อย” ผู้เขียนรู้สึกดีใจว่า จดหมายคงสำเร็จในไม่กี่นาทีนี้แน่นอน จึงนั่งรอต่อไป

            “โอ้...........ไฟดับ   ทุกคนเดินออกจาห้อง ผู้เขียนจึงเดินออกจากห้องด้วย เจ้าหน้าที่คนเดิมหันมาบอกว่า “wait”

            อ้าว waitก็wait ว๊ะ เพราะรอมานานแล้ว

            ทำไมไฟดับนานจัง ผู้เขียนนึกบ่นในใจ

            ตอนนี้เกือบบ่ายโมงแล้ว เจ้านาทีได้ไขกุญแจ ปิดประตู เพื่อกลับบ้านเนื่องจากไฟดับ ซึ่งไม่สามารทำอะไรได้แล้ว(วึ่งเป็นเรื่องปกติที่ไฟในประเทศอินเดียจะดับตลอดเวลา)

            ผู้เขียนจึงเดินเข้าไปคุยด้วยเพื่อถ่วงเวลา และตั้งจิตอธิษฐานขอบารมีเจดีย์พุทธคยาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้ไฟติดด้วย เพราะไม่อยากจะกลับมาอีก

            ปาฏิหาริย์มาจริง เพราะไฟกลับมาติดอีกครั้ง

            ผู้เขียนจึ่งเร่งให้เจ้าหน้าพิมพ์และรีบปริ้นจดหมายให้หน่อย แกก็ใจดี ไขกุญแจเปิดประตูและเปิดคอมอีกครั้ง

            ขณะที่คอมพิวเตอร์กำลังจะทำงานอยู่นั้น  ไฟดับอีกครั้ง

            จะได้ไหมเนี้ย วันนี้

            เหมือนปาฏิหาริย์มีจริง อีกครั้งเมื่อไฟ ติดอีกครั้ง คอมพิวเตอร์เปิดได้อีกหน เจ้าหน้าที่กำลังจะปริ้นจดหมายให้ เพราะพิมพ์เสร็จเรียบร้อย มีหนังเข้ามาในห้อง ๓-๔ คน เมื่อมายื่นเอกสารขอรับเอกสารอะไรบ้างอย่าง

            “ไฟจะดับอีกไหมเนี้ย  รีบๆปริ้นหน่อย ” ผู้เขียนนึกในใจ

   นั่งลุ้นอยู่หลายนาที  ในที่สุดเจ้าหน้าก็เปิดเอกสารให้ดู ก่อนปริ้น พร้อมกับถามว่าชื่อ- นามสกุล ถูกไหม

 “O.K” 

            เสียงเครื่องปริ้นทำงาน กระดาษค่อยๆไหลออกมาจากเครื่องปริ้น

“ไชโย ในที่สุด จดหมายฉบับที่ต้องการก็สำเร็จเสียที

            จดหมายที่มีเนื้อไม่ถึง ๑๐ บรรทัด ผู้เขียนต้องใช้เวลารอตั้งแต่เวลา ๑๐ โมงเช้า จนบ่ายโมง จึงสำเร็จ

            “wait………………………….” เป็นคำพูดที่ได้รับฟังหลายครั้งในวันนี้

 

           

หมายเลขบันทึก: 362937เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2010 15:07 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 14:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

มาช่วยลุ้นอด้วยความระทึกใจครับ

สวัสดีครับ สันติ หมื่นไวย

การติดต่องานในอินเดียต้องทำใจจริงๆๆครับ

ขอบคุณที่มาช่วยลุ้น

ผมสงสัยจริงๆ ครับ ไปติดต่อธุรกิจ(เล็กๆ)ที่ มุมไบ เมื่อเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา ลูกค้าสนใจอยากพูดคุย จึงนัดแนะกันที่โรงแรมที่พัก ระบุเวลาชัดเจนถึงเวลานัดกลับเบี้ยว ไม่มาเฉยเลย อีกทั้งไม่มีการโทรแจ้งล่วงหน้าแต่ประการใด ขอโทษครับไม่ใช่รายเดียว โดนแบบนี้ 2-3 ราย อาศัยว่าทำใจล่วงหน้าไว้แล้วเพราะโดนบ่อย จึงไม่ซีเรียส อาจารย์เคยโดนเหมือนผมไม๊ครับ

สวัสดีครับ tawe4212

 

เจอจนชินชาแล้วครับ

 

นี้แหละเขาเรียกว่าอินเดียล่ะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท