เพลงลูกกรุงลูกทุ่งที่ดัดแปลงทำนองมาจากเพลงลาวเสี่ยงเทียน


เพลงลาวเสี่ยงเทียนเดิมเป็นเพลงลูกบท เกิดขึ้นในระหว่างปลายรัชกาลที่ ๔ ถึงต้นรัชกาลที่ ๕ โดยมีครูเพลงซึ่งไม่ทราบชื่อเป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้น แล้วนำมาเล่นต่อท้ายเพลงใหญ่ เป็นเพลงสำเนียงลาวมีอัตรา ๒ ชั้น มี ๒ ท่อน

เพลงลาวเสี่ยงเทียนเดิมเป็นเพลงลูกบท เกิดขึ้นในระหว่างปลายรัชกาลที่ ๔ ถึงต้นรัชกาลที่ ๕ โดยมีครูเพลงซึ่งไม่ทราบชื่อเป็นผู้ประดิษฐ์ขึ้น แล้วนำมาเล่นต่อท้ายเพลงใหญ่ เป็นเพลงสำเนียงลาว (สำเนียงภาคเหนือ) อัตราจังหวะ ๒ ชั้น มี ๒ ท่อน ต่อมามีผู้ประดิษฐ์ทางร้องและใช้บทร้องที่ว่า “ข้าเจ้าสาวโคมเวียนเสี่ยงเทียนถวาย ขอน้อมกายก้มเกล้าเข้ามาหา” ซึ่งเป็นที่นิยมของผู้ที่ได้ยินได้ฟัง ถึงกับนำไปเล่นกันอย่างแพร่หลาย และเรียกชื่อกันตามบทร้องว่า "ลาวเสี่ยงเทียน" เพลงนี้จึงมีชื่อ “ลาวเสี่ยงเทียน” มาตั้งแต่นั้น

เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๖ หลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) ได้นำทำนองเพลงลาวเสี่ยงเทียนของเก่าซึ่งเป็นอัตรา ๒ ชั้น มาแต่งขึ้นเป็นอัตรา ๓ ชั้น ทั้งทำนองร้องและทำนองดนตรี โดยประดิษฐ์ทำนองให้มีสำเนียงเป็นลาวตามสำเนียงเดิม รวมทั้งได้แต่ง “ทางเปลี่ยน” ต่อมาได้แต่งเพิ่มเป็นเถา โดยแต่งทางเปลี่ยนขึ้นทั้ง ๒ ชั้นและชั้นเดียวด้วย เพลงลาวเสี่ยงเทียนเถา ของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) เป็นเพลงที่มีทำนองไพเราะน่าฟัง ได้รับความนิยมในวงการดนตรีไทยแพร่หลายมาก นอกจากเพลงลาวเสี่ยงเทียนทางของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) แล้ว ยังมีเพลงลาวเสี่ยงเทียนทางของครูวาดด้วยอีกทางหนึ่ง

บทร้องเพลงลาวเสี่ยงเทียนเถา ใช้บทจากเรื่อง “พระลอนรลักษณ์” พระราชนิพนธ์สมเด็จพระบวรราชเจ้า กรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพ (กรมพระราชวังบวรในสมัยรัชกาลที่ ๓) ซึ่งมีเนื้อร้องดังนี้

๓ ชั้น

“ข้อยขอบังคมองค์ทรงภพ                             เลิศลบแหล่งหล้าสุธาไหว

ทรงโฉมประโลมลักษณ์วิไล                           ดังไทเทวราชปราสาททอง

จะเทียมทัดแต่กษัตริย์นครหนึ่ง                      ใครไม่ถึงเทียมเธอเสมอสอง
มีธิดานารีพี่น้อง                                          ชื่อพระเพื่อนแพงทองสองอนงค์
ไม่สูงต่ำดำขาวพีผอม                                  พริ้งพร้อมสรรพางค์ดังนางหงส์
อรชรอ้อนแอ้นเอวองค์                                 ดวงพักตร์โฉมยงดังวงเดือน
พิศพี่ก็ไม่มีเสมอสอง                                   พิศน้องก็ไม่มีเสมอเหมือน
ขนงเนตรเกศแก้มแย้มเยื้อน                          เหมือนจะเตือนให้ต้องตาชาย”

๒ ชั้น

“พระกรรณเปรียบเทียบกลีบบุษบง                  นาสิกทรงวงขอวิเชียรฉาย
ดำเนินเดินทอดระทวยกาย                           กรกรายคล้ายงวงเอราวัณ
โอษฐ์นางอย่างสีลิ้นจี่จิ้ม                              งามพริ้มเพราสมคมสัน
เกศาดำระยับขลับเป็นมัน                             ทนต์นั้นเทียมสีมณีนิล”

ชั้นเดียว

“สองถันลันทัดสัตบุษย์                                พึ่งผุดพ้นท่าชลาสินธุ์
ขึ้นบังใบใสสดหมดมลทิน                             ภุมรินยังมิได้ใกล้เคียง”

ในส่วนของนาฎศิลป์นั้น ได้มีการนำเพลงลาวเสี่ยงเทียนไปประดิษฐ์ท่ารำเป็นฟ้อนลาวเสี่ยงเทียนอีกหลายแบบ

 

ทำนองเพลงลาวเสี่ยงเทียน ๒ ชั้น

ท่อน ๑

----

----

-ลลล

-ด-ซ

---ฟ

--ม-

-ร-ช

-ลซซ

----

----

ดลลล

ซลดซ

---ฟ

--ม-

-ร-ซ

-ลซซ

-ลซม

-รมซ

--ดร

มรดล

-ด-ล

ซมซล

-ดรม

 -ร–ด

-ม-ร

-ดรม

--ดร

มรดล

-ด-ล

ซมซล

-ดรม

 -ร–ด

ท่อน ๒

----

----

ซลซม

ซรมซ

----

----

ซลซม

รมดร

----

----

ซลซม

ซรมซ

----

----

ซลซม

รมดร

-ม-ร

-ดรม

--ดร

มรดล

-ด-ล

ซมซล

-ดรม

 -ร–ด

-ม-ร

-ดรม

--ดร

มรดล

-ด-ล

ซมซล

-ดรม

 -ร–ด

 

มีผู้นำเอาทำนองเพลงลาวเสี่ยงเทียน ๒ ชั้น ไปดัดแปลงเป็นเพลงลูกกรุงลูกทุ่งเท่าที่รวบรวมได้ ๒๕ เพลง โดยเพลงส่วนใหญ่มาจากเพลงลาวเสี่ยงเทียน ๒ ชั้น เพลงที่ ๗ มาจากเพลงลาวเสี่ยงเทียน ๒ ชั้นทางเปลี่ยน ส่วนเพลงที่ ๘-๙ ทำนองลาวเสี่ยงเทียน ๓ ชั้น

 

(๑) เพลงลาวเสี่ยงเทียน ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง พูลศรี เจริญพงษ์ ขับร้อง มีเนื้อร้องดังนี้

“เพลินวิญญาหลับตาครั้งใดใยเฝ้าแต่ฝันเห็น ดังจะเป็นภาพเพียงนิทราพาให้ใฝ่ฝันถึง งามซาบซึ้งครวญคะนึงสวาท เหมือนใจจะขาดอยู่รอนรอน เผยอตาตื่นชะเง้อ ละเมอเผลอไปใจอ่อน โถไยจากจร อาวรณ์สะท้อนฤดี

พนมมือถือเทียนตั้งจิตพิษฐาน จงบันดาลให้รักในใจมั่นอย่าหมองศรี ตาหลับไว้ตรงแสงเทียนดวงนี้ ให้เป็นสักขีพยานข้า แม้เคยคู่สองเหมือนปองรักจริงดังว่า สมความปรารถนา ลืมตาให้พบเธอ”

(ยังหาลิงค์ฟังไม่ได้ ต้องฟังจากเพลงต้นฉบับ)

 

(๒) เพลงลาวเสี่ยงเทียน คำร้องโดย คุณหญิงชิ้น ศิลปบรรเลง เป็นเพลงสำหรับให้นักเรียนร้อง ต่อมาดวงพร ผาสุข นำไปร้องแบบลูกกรุง มีเนื้อร้องดังนี้

“ธูปเทียนทองสองมือถือไว้ตั้งใจวันทา น้อมเคารพบูชาพระศาสดาของชาวพุทธ

พระปัญญาเลิศล้น ทรงค้นพบสัจธรรม พระการุณย์เลิศล้ำ ทรงน้อมนำสู่มนุษย์ พระองค์เลิศล้วนบริสุทธิ์สอนชนให้หลุดพ้นความทุกข์ทน “

 

(๓) เพลงเสี่ยงเทียน คำร้อง แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน มีเนื้อร้องดังนี้

“อ้าองค์พุทธาปฏิมาข้าน้อมเศียร เทพประจำแสงเทียนฟังข้าเสี่ยงเทียนวันทา ด้วยกุศลผลกรรม ขอจงโปรดนำให้สมอุรา ขอความปรารถนาของข้า สมดังสัจจาที่มุ่งไว้

มาตรแม้นรักข้าชื่นชมสบสมสมาน เทียนจงโชติชัชวาลดังคำอธิษฐานทันใด ถ้าหากรักของข้า ถึงต้องอัปราสลายไป แสงเทียนสุกใสจงดับ ลับไปต่อหน้าบัดนี้เทอญ”

 

(๔) เพลงบุษบาเสี่ยงเทียน ประพันธ์คำร้องโดย ศักดิ์ เกิดศิริ มีเนื้อร้องดังนี้

“เทียนจุดเวียนพระพุทธา ตัวข้าบุษบาขออธิษฐาน เทียนที่เวียนนมัสการบันดาลให้ หทัยสมปรารถนา ดลจิตอิเหนา ให้เขามารักข้า ขอองค์พระปฏิมา เมตตาช่วยคิดอุ้มชู ขอเทียนที่เวียนวน ดลฤทัยสิงสู่ ให้องค์ระเด่นเอ็นดู อย่าได้รู้คลายคลอน

อ้าองค์พระพุทธา ตัวข้าบุษบาขอกราบวิงวอน ข้าสวดมนต์ขอพระพรวิงวอนให้ หทัยระเด่นปรานี รักอย่าเคลือบแฝง ดังแสงเทียนริบหรี่ ขอองค์ระเด่นมนตรี โปรดมีจิตนึกเมตตา ขอเทียนที่เสี่ยงทาย ดลให้คนรักข้า รักเพียงแต่บุษบา ดั่งข้านี้ตั้งใจ”

 

(๕) เพลงลูกทุ่งเสี่ยงเทียน ประพันธ์โดย พยงค์ มุกดา มีเนื้อร้องดังนี้

“ลูกจุดเทียนอธิษฐาน บนบานทวยเทพไท วอนคุณพระรัตนตรัย ฟังคำพร่ำไขขาน เทียนเล่มนี้คือชีวิต แม้นโชคโสภิต โปรดช่วงชัชวาล แม้ลูกโชคร้ายเพียงวายปราณ พระพายจงปาฏิหารย์ ดับเทียนลูกนั้นทันใด

พรหมบันดาลสวรรค์ลิขิต ในอดีตแห่งชีวิตลูกนี้ มีแต่ตรมขื่นขมทวี นานปีไม่มีแจ่มใส ลูกผิดหวังลูกพลั้งพลาด หมายใดมุ่งมาดกลับพลาดไป น้ำตาหยาดย้อยแต่น้อยจนใหญ่ มิมีผู้ใดเยื่อใยเวทนาการ

กลิ่นธูปควันเทียนที่ในกระถาง บัวน้อยที่วางหน้าพระประธาน ลูกสังเวยบวงสรวงอธิษฐาน นำเสียงบนบานไปสู่พระพรหม พระสร้างลูกไว้ในโลกกว้าง พบความอับปางแทบสิ้นลม เมื่อไรจักพ้นทางระทม พระหัตถ์แห่งพรหมโอบอุ้มลูกที

เทียนเสี่ยงทายประกายวับแวม ไม่แอร่มแจ่มหวนโหย ลมสงัดไม่มีพัดโชย โบยต้องให้หมองศรี กรรมแต่หลังยังไม่ลับ แสงเทียนไม่ดับแต่ริบหรี่ แสงเทียนอยู่ยั้งหวังยังมี ขอรอโชคดีสักวันคงมา”

 

(๕) เพลงสาวน้อยเสี่ยงเทียน ประพันธ์โดย พยงค์ มุกดา เพลงนี้เป็นเพลงเดียวกันกับเพลงลูกทุ่งเสี่ยงเทียน แต่ตั้งชื่อใหม่ให้เหมาะกับเป็นเพลงลูกกรุงที่ผู้หญิงร้อง มีเนื้อร้องดังนี้

“ลูกจุดเทียนอธิษฐาน บนบานทวยเทพไท วอนคุณพระรัตนตรัย ฟังคำพร่ำไขขาน เทียนเล่มนี้คือชีวิต แม้โชคโสภิต โปรดช่วงชัชวาลย์ แม้นลูกโชคร้ายเพียงวายปราณ พระพายจงปาฏิหารย์ ดับเทียนลูกนั้นทันใด

พรหมบันดาลสวรรค์ลิขิต ในอตีตแห่งชีวิตลูกนี้ มีแต่ตรมขื่นขมทวี นานปีไม่มีแจ่มใส ลูกผิดหวังลูกพลั้งพลาด หมายใดมุ่งมาดกลับพลาดไป น้ำตาหยาดย้อยแต่น้อยจนใหญ่ มิมีผู้ใดเยื่อใยเวทนาการ

กลิ่นธูปควันเทียนที่ในกระถาง บัวน้อยที่วางหน้าพระประธาน ลูกสังเวยบวงสรวงอธิษฐาน นำเสียงบนบานไปสู่พระพรหม พระสร้างลูกไว้ในโลกกว้าง พบความอับปางแทบสิ้นลม เมื่อไรจักพ้นทางระทม พระหัตถ์แห่งพรหมโอบอุ้มลูกที

เทียนเสี่ยงทายประกายวับแวม ไม่แอร่มแจ่มหวนโหย ลมสงัดไม่มีพัดโบย โชยต้องให้หมองศรี กรรมแต่หลังยังไม่ลับ แสงเทียนไม่ดับแต่ริบหรี่ แสงเทียนอยู่ยั้งหวังยังมี ขอรอโชคดีสักวันคงมา

 

(๗) เพลงเสี่ยงเทียนเสี่ยงรัก คำร้อง สมศักดิ์ เทพานนท์ ทำนอง ธนิต ผลประเสริฐ เป็นเพลงคู่ ดัดแปลงจากเพลงลาวเสี่ยงเทียน ๓ ชั้นทางเปลี่ยน มีเนื้อร้องดังนี้  

(ญ) จรดกรสองประณมเหมือนดอกบัว ไหว้วอนพระทั่วทิศถิ่นไกล โอ้คุณพุทธาจงได้ แจ้งในดวงใจของข้า โอ้ยามนี้ใครเหมือนดั่งเรา ถูกไฟร้อนเร่าเผาอุรา โอ้ไฟรักรุมกายข้า ยิ่งลามมาท่วมในหัวใจ ข้าคอยรักใครคนหนึ่ง โปรดให้สมภิรมย์รักใคร่ ไหว้วอนคุณพระเมตตา ชักนำให้เขามาให้รักมาชื่นหทัย

(ช) เจ้าเอย จะสมดังใจ รักจริงจริงหรือไร ข้านี้จะให้รักชื่นเชย

(ญ) โอ้คุณพระช่วยนำ ให้ความรักข้าเอย เสี่ยงรักชื่นเชย อกเอ๋ยสมใจ

(ช) โอ้นวลน้องเจ้าเอย ไหนเลยคร่ำครวญ หวนให้ใจหวน หวนครวญคร่ำคิดอะไร เผยคำสักนิด พี่จะคิดช่วยได้

(ญ) อย่าหวัง อย่าคิด

(ช) บอกสักนิดเถอะชื่นใจ

(ญ) ยากนักพี่เอย เผยคำให้ฟัง หวังใดที่หวัง หวังมาช่วยน้องทำไมพุทธาที่หวัง ได้ฟังหวังช่วยได้

(ช) อธิษฐานเรื่องรัก

(ญ) เรื่องรักไม่จริง

(ช) น้องรักเอย ถ้อยคำทั้งสิ้น พี่ได้ยินทุกสิ่ง

(ญ) ถ้าได้ยินก็จริง

(ช) สมใจได้จริง สิ่งสรรค์บันดาล

(ญ) สิ่งใดที่หวัง สมดังอธิษฐาน ไหนกันพี่

(ช) อยู่ใกล้ใกล้เธอนี้ รักเจ้ายิ่งชีวี อยู่เช่นนี้จนตาย”

(๘) เพลงเสี่ยงเทียนคอยคู่ ทำนองลาวเสี่ยงเทียน ๓ ชั้น คำร้อง-ทำนองโดย สง่า อารัมภีร วินัย จุลละบุษปะ ขับร้อง ต่อมาเมื่อ ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์ ขับร้อง ได้เปลี่ยนชื่อเป็นเพลงเสี่ยงเทียนเสี่ยงรัก คำร้องเพิ่มเติมโดย แก้ว อัจฉริยะกุล ทำนองโดย สง่า อารัมภีร มีเนื้อร้องดังนี้

“ค่ำคืนฝืนเศร้า พี่คอยแต่เจ้าร้าวใจ รักเอ๋ยเคยใกล้ จากไปดวงใจระทม รักปองของพี่ ไม่มีให้พี่ชื่นชม อกพี่ต้องตรม รักเคยได้ชม ไม่สมดังปอง

จุดเทียนไหว้พระ พุทธาเสี่ยงรัก ชักพามาให้ หากเทียนสดใส รักคงสุขใจ ได้สมดังปอง แสงเทียนงามผ่องแต่พี่หมองใจ สองกรวอนไหว้ หัวใจจะขาดรอน

พี่คอย คอยเธอ อยู่เสมอทุกวัน รักไม่จริงดั่งฝัน รักไม่มั่นดั่งปองรักน้องปองมั่น ขวัญเคยใกล้ สุดที่ใจจะต้อง อกพี่กลับหมอง แสงเทียนสุกส่อง แต่น้องไม่มา”

 

(๙) เพลงใต้แสงเทียน ของวงสุนทราภรณ์ คำร้อง สุรัฐ พุกกะเวส ทำนอง ธนิต ผลประเสริฐ ขับร้องโดย วินัย จุลละบุษปะ-ชวลี ช่วงวิทย์ มีเนื้อร้องดังนี้

“(ช) แจ่มจันทร์ขวัญพี่

(ญ) ค่ำคืนนี้ไม่มีโสมส่อง

(ช) ขอแสงเทียนที่ส่อง ส่องให้มองปรางทองของเจ้า

(ญ) ใต้เงาแสงเทียน อย่าวนเวียนเปลี่ยนใจเสียเล่า

(ช) รักคนเดียวเพียงเจ้า

(ญ) อย่ามาเย้าให้หลงวจี ดูซิแสงเทียนริบหรี่

(ช) ใจพี่ไม่หรี่เหมือนแสงเทียนหรอกเจ้า

(ญ) เสี่ยงประทีปเทียนชัย

(ช) รักพี่จะไม่เปลี่ยนไปใฝ่หลงนงเยาว์

(ญ) อย่าให้อายเขา แม้นรักอับเฉาจะเฝ้าร้าวใจ

(ช) หากเปลวเทียนดับลง รักพี่ไม่ดับกลับคงลุ่มหลงรักใคร่ แสงเทียนเป็นสื่อ

(ญ) ฮื้อ ไม่เบื่อบ้างหรือไร

(ช) หลงครวญชวนใคร่ ขวัญใจของพี่เอย

ญ.) ดึกลงฟากฟ้าพราว

(ช) มีแต่ดวงดาววับวาว ยังสวยไม่เท่าเจ้าเลย

(ญ) หวานคำพร่ำเฉลย

(ช) น้องเอยอย่าหมองอุรา โอ้ขวัญตาของพี่

(ญ) โธ่ดึกแล้วหนอ

(ช) ขอให้พี่เฝ้าพะนอ ไม่ขอแรมฤดี

(พร้อม) รื่นรมย์สุขศรี รักคงชื่นอย่างนี้ไม่มีร้างรา ใต้แสงเทียนนี่หนา สองเราเฝ้าบูชาเสน่หารักเอย

 

(๑๐) เพลงนิราศนุช ประพันธ์โดย ป. วรานนท์ (ประชา วรานนท์) มีเนื้อร้องดังนี้

“ดวงฤดีพี่แสนตรม ระทมเศร้าเงียบเหงาหงอย ยามราตรีพี่หลงคอย คอยเจ้าเฝ้าฝันหา น้องอยู่ไหน ไม่เห็นหน้าหรือว่าอนงค์ หลงเพลินวิมาน หรือใครซ่อนน้อง ไว้ไกลบ้าน พี่ซานเที่ยวมอง หาน้องเนื้อนวล

ดวงฤทัยพี่ทุกข์ตรม ระบมเศร้า เฝ้าโหยหวล ดวงกมลพี่ร้องครวญ ครวญเพรียกเรียกโฉมศรี ด้นดั้นหาน้องพี่ ไม่มีสร่างซา นิทราไม่ลง ถามมวลแมกไม้ ในไพรพง แม้พบอนงค์ ช่วยกระซิบมาบ้าง

พี่ค้นอนงค์เสียทั่วทิศา ตามหาแก้วตาจนทั่วทุกทาง จนแสงรำไรฟ้าใกล้จะสาง ไม่พบน้องนางพี่เศร้าฤดี ถามดาวทั่วฟ้า นภาทุกที่ ไม่มีร่างน้อง หมองดวงฤทัย

จนเสียงดุเหว่าร้องก้องไพรพฤกษ์ พี่นึกว่าเธอเพ้อเพรียกร้องไป มองเห็นดวงดาววับวาวสดใส พี่นึกว่าใช่ดวงเนตรของเธอ พี่คอยผวา พาใจเก้อ หลงครวญพร่ำเพ้อ ถึงเธอคนเดียว เห็นจันทร์เคลื่อนคล้อย ลอยดวงเสี้ยว คิดถึงรูปเรียว เล็บมือน้องนาง”         

 

(๑๑) เพลงสาบานรัก ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง เพลงนี้เป็นคนละเพลงกับเพลงสาบานรักที่ชรินทร์ – รุ่งฤดี เนี้ยว – ต้อม อู๋ – เอ๋ ร้อง มีเนื้อร้องดังนี้

“(ญ) มองนภาฟ้างามยามเย็น สวยเด่นจันทราน่ามอง

(ช) ถึงเดือนจะงามก็ยังเป็นรอง มิเปรียบหน้าน้องหรอกหนา

(ญ) คอยแต่ปากหวาน ชมทุกวันน่าเบื่อ ไม่อยากเชื่อถือวาจา

(ช) มิใช่ปากหวาน สรรน้ำคำมาว่า แจ่มจันทร์ สบตาหน้าน้องคงอาย

(ญ) รักน้องนานปีมิเบื่อหรือ

(ช) รักพี่ซื่อมิเบื่อง่ายดาย

(ญ) ไม่ช้าก็เบือนเคลื่อนคลาย

(ช) รักจนตายไม่หน่ายกัน

(ญ) พอรักมีใหม่คร้านจะเมินหมาง

(ช) รักไม่จางมิห่างจอมขวัญ

(ญ) จะเหมือนวจีสักกี่วัน

(ช) ขอสาบานให้จากใจ

(ญ) สาบานหน่อยซิ

(ช) จ๊ะ พี่สาบานก็ได้ ต่อไปไม่ขอรักใคร

(ญ) แม้ใจเปลี่ยนผัน ลืมสาบานเมื่อไหร่

(ช) ขอให้พี่แก่ตายเถอะขวัญชีวี

 

(๑๒) เพลงกลับมาทำไม สังข์ทอง สีใส ประพันธ์เนื้อร้องและขับร้องเอง ต่อมาเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องแหยม ยโสธร ขับร้องโดยหม่ำ จ๊กมก มีเนื้อร้องดังนี้

“มาทำไมให้อายบ้านนาเล่านวลน้อง ไม่ต้องกลับคืนมา วันจะไปไม่ลา หนีหน้าไปกับหนุ่มเมืองหลวง ทิ้งคนข้างหลังนั่งน้ำตาร่วง มันเจ็บในทรวงพุ่มพวงรู้หรือป่าว ทิ้งเคียวคราดไถไปเลยเดือนเก้า ช่างสุขสกาวกลับมาทำไม

คงจะโดนเค้าทิ้งไปหรือไงเจ้า ถึงเดินหน้าเศร้าหมดอาลัย นึกว่าเป็นคุณนายไปแล้วน้องแก้วฉัน จำได้ใหมเป็นคุณนายกี่วัน ช่างหน้าสงสารเสียนี่กระไร อะโอ้ยทำเป็นเศร้าให้เราเอาใจ น้ำตาพี่ไหลใครก็รู้ดี

ไปหาข้างหน้าดีกว่าคนสวย หาคนร่ำรวยก็อาจจะมี พี่นี่ไม่มีความหมาย ขืนอยู่ไปจะเป็นของฟรีขอบใจสุดซึ้งที่คิดถึงพี่ ขอให้โชคดีโทษทีนะพี่ไม่ว่าง”

 

(๑๓) เพลงเดือนคว่ำเดือนหงาย คำร้อง-ทำนอง จิ๋ว พิจิตร ขับร้องโดย ชินกร ไกรลาศ-กิ่งกาญจน์ กาญจนา ยอดรัก สลักใจ-สุนารี ราชสีมา มีเนื้อร้องดังนี้

(ช) เรามามองกันสองคน ดูโน่นแน่ะดวงจันทร์

(ญ) มองอะไรที่ไหนกัน ดูนั่นแน่ะดวงเดือน

(ช) มีชื่อเหมือนดวงเดียวดังว่า เขาสร้างให้มาส่องฟ้ายามค่ำ

(ญ) เขาว่าเดือนหงาย แล้วทำไมเดือนคว่ำ

(ช) ร้ายจริงถ้อยคำ ไม่เอาน่ะถามมาใหม่

(ญ) สมมุติว่าเรา ได้เข้าเรือนหอ

(ช) พะเน้าพะนอ พี่จูบขวัญใจ

(ญ) จูบแล้วแนะนำ ว่าทำไฉน

(ช) ไม่ร้างแรมไกล นอนกอดทุกคราว

(ญ) อ๋อเพียงแค่นี้ หรือจะมีลูกเต้า

(ช) เรื่องมันยืดยาว ต้องอธิบายในห้อง

(ญ) เราจะไปที่ไหนดี ที่นี่มีคนมอง

(ช) ไปโรงเรียนเพื่อทดลอง เธอจะต้องไม่อายครู

(ญ) เรียนแบบไหนใจอยากรู้ ขอวอนให้ครูช่วยสอนแต่ต้น

(ช) รับรองชาตินี้ไม่มีหมองหม่น สามปีสี่คน

(ญ) ไม่จนก็เลี้ยงไม่โต”

 

(๑๔) เพลงสงกรานต์น้ำตา อาจินต์ ปัญจพรรค์ แต่ง

 

(๑๕) เพลงรักไม่มีชนชั้น ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง

 

(๑๖) เพลงดูดูดาดา ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง

 

(๑๗) เพลงคาถามัดใจ ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง

 

(๑๘) เพลงสายัณห์วอนแฟน ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง

 

(๑๙) เพลงคนชายแดน ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง

 

(๒๐) เพลงคนชายแดน ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง ร้องแก้เพลงคนชายแดนที่ผู้ชายร้อง ตั้งชื่อเดียวกัน แต่ดัดแปลงเนื้อร้องให้เหมาะกับที่ผู้หญิงร้อง

 

(๒๑) เพลงคืนอาลัย ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง

 

(๒๒) เพลงธารน้ำใจ ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง

 

(๒๓) เพลงวอนต้อยกลับบ้าน ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง

 

(๒๔) เพลงคนรักแม่ คำร้อง/ทำนอง ขวัญใจ สุริยัน เป็นเพลงสลับพูด แนวตลกขบขันแต่ให้คติเตือนใจ   

 

(๒๕) เพลงวอนพ่อจตุคาม ยังไม่มีข้อมูลผู้แต่ง ดอกฟ้า ท่าชนะ ขับร้อง

(ยังหาลิงค์ฟังไม่ได้ ต้องฟังจากเพลงต้นฉบับ)

 

วิพล นาคพันธ์

ปรับปรุง ๒๓ มกราคม ๒๕๕๓

อ่านบันทึกข่าวสารของวิพล นาคพันธ์ ได้ที่ http://gotoknow.org/blog/wiphon/toc

 

หมายเลขบันทึก: 361359เขียนเมื่อ 25 พฤษภาคม 2010 20:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 มิถุนายน 2012 20:29 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณมากครับ ผอ กลังอยากได้โน้ตอยู่พอดีเลยครับ สบายดีนะครับ ไปทักทาย ผอ นราธิวาสนะครับ เผื่อเจอเพื่อน

เยี่ยมมาก ศึกษาค้นคว้าลึกซึ้ง ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท