การดูแลรักษาปาล์มหางกระรอก (Foxtail Plam)


จากคำถามที่ทรงคุณค่ายิ่งในบันทึก ปาล์มหางกระรอก (Wodyetia bifurcata)  ผมขออนุญาตนำมาบันทึกไว้เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านผู้ที่สนใจศึกษาต่อไป

Foxtail พันธุ์ที่ไม่มีเมล็ดก็มีด้วยใช่ไหม????

และลำต้นมันจะแคบเรียวกว่าพันธุ์ที่มีเมล็ดใช่ไหมครับ???? ขอบคุณมากๆ รอคำตอบจากท่านผู้รู้เรื่องต้นไม้ด้วยใจจดใจจ่อครับ...

Kanit

สวัสดีครับ ขออนุญาตตอบคำถามตามประสบการณ์และความรู้ (Tacit knowledge) ที่มีอยู่ ถ้าหากท่านใดมีอะไรเพิ่มเติมก็ขอเชิญแลกเปลี่ยนได้อย่างเต็มที่

พืชตระกูลปาล์มนั้นส่วนใหญ่แล้ว (กว่าร้อยละ 99) ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด ซึ่งส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นในต่างประเทศก็จะขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดร้อยทั้งร้อย

แต่ที่ผมเห็นไม่ทราบว่าประเทศอื่นเขาทำกันหรือเปล่าคือ ถ้าหากเป็นปาล์มที่แตกกอใต้ดิน คนไทยเราก็จะใช้วิธีการ "บอน" (ภาษาพื้นเมือง) ก็คือ ขุดเขาหน่อที่แตกออกมานั้นไปปักลงในดินแล้วประคบประหงมให้ดีก็จะสามารถขยายพันธุ์ได้เร็วกว่าใช้เมล็ดหลายเท่า ซึ่งปาล์มที่ใช้การบอนแล้วขายนี้ที่เห็นได้มากที่สุดคือ "จั๋ง (Rhaphis humilis)" ซึ่งจั๋งในตลาดเกือบร้อยทั้งร้อยก็ใช้การบอนขายกันทั้งนั้น หรือจะเป็นพวกหมากแดง (Cyrtostachys renda)ก็บอนได้ เพราะถ้าปลูกจากเมล็ดแล้วต้องรอคอยนานเหลือเกินโดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรก หมากแดงจะเจริญเติบโตช้ามาก

ดังนั้นผมขออนุญาตตอบแบบตรง ๆ ว่าปาล์มขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด แต่ไม่ใช่ทุกต้นที่จะมีเมล็ด

เพราะปาล์มบางชนิดเป็นปาล์มแบบสมบูรณ์เพศ คือ ในหนึ่งต้นเป็นทั้งตัวผู้และตัวเมีย ดังนั้นจึงสามารถออกลูกหรือติดเมล็ดได้ด้วยตัวของมันเอง ซึ่งปาล์มชนิดนี้มีอยู่มาก รวมถึง Foxtail (Wodyetia bifurcata) ก็เป็นปาล์มที่สมบูรณ์เพศซึ่งสามารถติดลูกได้ทุกต้น โดยมีข้อแม้หลัก ๆ อยู่ 2 ประการคือ ความสมบูรณ์และอายุ

อายุที่จะติดเมล็ดของ Foxtail นั้นจะต้องรอคอยกันนานมาก (8-10 ปี) หรือมีความสูงจากโคนถึงคอไม่น้อยกว่า 3 เมตร (เท่าที่ผมเคยเห็น) จึงจะสามารถติดเมล็ดได้

และจากการที่ผมได้มีโอกาสรับฟังประสบการณ์การบอกเล่าเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเจ้าปาล์มหางกระจอก หรือ Foxtail ปาล์มในเมืองไทยมานั้น ก็ทราบมาว่า ปัจจุบัน Foxtail บ้านเราเป็นรุ่นที่กลายพันธุ์ไปค่อนข้างมาก คือ ต้นรีบ เล็ก เรียกง่าย ๆ ว่าไม่สมบูรณ์เหมือนกับรุ่นก่อน ๆ ที่ท่าน อ.ปิฏฐะ บุญนาค (ขออภัยที่ต้องเอ่ยนาม) เคยนำเขามาครั้งแรกหลายสิบปีก่อน ซึ่งสามารถจำกัดความอย่างสั้น ๆ ได้ว่า Foxtail รุ่นแรก ๆ นั้นลำต้น "อ้วนปั้ก"

และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญ ที่ไม่สามารถชี้ชัดในเรื่องความสมบูรณ์ของลำต้นของปาล์ม Foxtail หรือปาล์มอีกหลาย ๆ ชนิดได้ว่าลำต้นทำไมถึงแตกต่างกัน ก็เพราะเนื่องด้วยเป็นการคัดสายพันธุ์ตามธรรมชาติ

ซึ่งถ้าหากจะสังเกตุให้ดีก็จะเห็นว่าปาล์มนั้นติดเมล็ดทีเป็นหลักร้อย หลักพัน หลักหมื่น หรือถ้าเป็นประเภทลาน ติดช่อครั้งหนึ่งก็เป็นหลักแสนหรือหลักล้าน

ดังนั้นทุกเมล็ดจะมีทั้งที่สมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ ถ้าไม่สมบูรณ์มากก็จะเพาะไม่ขึ้น เรื่อยมาจนถึงเพระขึ้นแต่ไม่โต หรือถ้าโตแล้วต้นแคระแกรน หรือไม่สามารถมีลูกที่สมบูรณ์ได้

ซึ่งการขยายพันธุ์ปาล์มนี้ คนที่เล่นปาล์มจะต้องไปสังเกตุก่อนว่า ปาล์มต้นไหนสมบูรณ์ ให้ลูกดก แล้วก็เลือกเก็บเมล็ดจากต้นนั้นมาเพาะเพื่อรักษาพันธุ์ที่สมบูรณ์

ถ้าเป็น Foxtail รุ่นแรกที่ต้นอ้วนปั้กนั้น ผมทราบคร่าว ๆ ว่ามีเพียง 3 แห่งในประเทศที่ได้รับเมล็ดรุ่นนั้นเข้ามาและยังคงมีต้นแม่อยู่ แต่นั่นไม่ใช่ต้นพันธุ์ที่ใครจะเข้าไปหา ไปซื้อมาเพื่อทำธุรกิจได้ ดังนั้น Foxtail ที่ขายอยู่ในปัจจุบันจึงเป็นรุ่นหลาน เหลน โหลน ที่นักธุรกิจผลิตแบบ mass marketing เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ จึงฟันธงได้เบื้องต้นว่าต้นที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาดนั้นมีส่วนน้อยที่สมบูรณ์

และจากครั้งล่าสุดที่ได้เข้าไปในตลาดต้นไม้ตั้งแต่ คลอง 6 (ธัญบุรี) เรื่อยไปถึง คลอง 15 นั้น ราคา Foxtail นั้นถูกมาก ต้นสูงขนาด 2 เมตร ราคาต้นละ 200 บาท แต่ถ้าเป็นต้นละ 1 เมตร วันนั้นผมได้ฟรีมา 5 ต้น ขนขายบอกว่าขนได้เท่าไหร่ก็ขนไป เพราะไม้ชนิดนี้แทบไม่มีราคา

ซึ่งแตกต่างจากในอดีต ที่ในตลาดเคยขายเมล็ด Foxtail (เฉพาะเมล็ดเท่านั้น) เม็ดละ 100 บาท ซึ่งยังไม่รู้เลยว่าจะเพาะขึ้นหรือไม่ขึ้น แต่เดี๋ยวนี้เมล็ดต้องดาษดื่นอยู่เต็มต้น หรือบางคนอาจจะเอาไปต้นมากินเล่นได้ แล้วผู้สันทัดกรณีก็บอกว่ามันดีคล้าย ๆ กับมะพร้าว...


ขอรบกวนถามค่ะ เราสามารถตัดให้ต้นนี้เตี๊ยลงได้หรือไม่ค่ะ และต้องทำอย่างไร ที่บ้านสูงประมาณ 3เมตรค่ะ ขอบคุณค่ะ

ต้นไม้ตระกูลปาล์มส่วนใหญ่แล้วทำได้แค่เพียงตัดแต่งกิ่งที่มีใบแห้งออก ซึ่งกิ่งแห้งนั้นจะอยู่ด้านล่างของชุดใบ

ปกติปาล์มจะแทงใบใหม่เป็นใบบนสุดเสมอ ถ้าหากไปตัดไปยอดเพื่อให้เตี้ยลงก็เท่ากับตัดหัวของต้นไม้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงก็คงจะต้องตายสถานเดียว

ฟ๊อกเทลสูงสามเมตรน่าจะมีอยู่สักประมาณ 5 ปี ปกติแล้วฟ๊อกเทลสามารถมีอายุยืนได้มากกว่า 10 และมีความสูงมากกว่า 10 เมตร (จากโคนถึงคอต้น)

ปกติพืชตระกูลปาล์มจะแบ่งออกไปสามขนาดหลัก ๆ

ขนาดสูง ก็ได้แก่พวกตาลโตนดหรือไม่ก็เป็นเป๊ตติโค้สูงมีความสูงได้ถึง 20-30 เมตร เมตร

ขนาดกลางก็ยกตัวอย่างเช่น ฟ๊อกเทล หรือพืชตระกูลหมากต่าง ๆ จะมีความสูงเฉลี่ย 10-15 เมตร

ส่วนขนาดเล็กอาทิเช่นปาล์มจีบ อายุสิบปียี่สิบปีสูงเต็มที่ไม่เกิน 3 เมตร

ถ้าเกิดจะตอบจริง ๆ ก็ตอบได้ว่า ทำให้ฟ๊อกเทลล์เตี้ยลงไม่ได้ครับ ยิ่งนานวันไปก็ยิ่งจะสูงขึ้นและสูงขึ้นครับ

 


 

ผมพึ่งซื้อมา 3 ต้น สูงประมาณ 2-3 เมตร ลงดินเรียบร้อยใช้ปุ๋ยคอกรองก้นหลุม กลบกับรดน้ำ ค้ำยัน แค่นี้ครับ อยากทราบวิธีดูแลรักษา และการทำให้ดูสวยงามครับ

 

ก่อนอื่นขออนุญาตกล่าวย้อนถึงวิธีการปลูกที่ถูกต้องสักเล็กน้อย

การปลูกต้นไม้สำหรับไม้ที่ย้ายมาหรือซื้อมาในลักษณะที่เป็นต้นใหญ่ ๆ นั้นจะมีอยู่ ๒ ประเภทหลัก ๆ คือ ต้นไม้ที่ขุดสด กับต้นไม้ที่ขุดทิ้งไว้นานจนรากเดินแล้ว

สำหรับต้นไม้ที่ขุดสดนั้นจะต้องพิถีพิถันและต้องระวังมากโดยเฉพาะในเรื่องของหลุมและวัสดุปลูกที่ใส่ลงไป

เพราะต้นไม้ที่ถูกตัดรากและย้ายมานั้น สิ่งสำคัญที่สุดก็จะต้องแทงรากใหม่ให้เร็วที่สุด ดังนั้น วัสดุปลูกที่ใส่ลงไปจะต้องไม่มีความหนาแน่นเกินไปจนกระทั่งไม่สามารถให้รากแทงออกได้

ดังนั้นวัสดุปลูกที่ควรจะนำใส่ลงไปควรจะเป็นวัสดุจำพวก "ทราย" ถ้าจะให้ดีที่สุดจะต้องเป็น "ทรายขี้เป็ด" หรือทรายถม เพราะมีส่วนผสมของดินอยู่มากกว่าทรายก่อ

ข้อดีของทรายนอกจากจะช่วยให้รากแทงได้เร็วขึ้นเพราะความหนาแน่นน้อยกว่าดินแล้ว ยังสามารถระบายน้ำได้ดี เพราะปัญหาของต้นไม้ที่ย้ายมาแล้วตายส่วนใหญ่นั้นจะเกิดจากอาการ "รากเน่า" เพราะวัสดุที่ใช้ปลูกนั้นอุ้มน้ำและขังน้ำไว้จน "รากหายใจไม่ออก" จนกระทั่งเน่า

การรดน้ำลงไปบนทรายนั้นนอกจากน้ำจะสามารถซึมผ่านได้เร็วแล้ว อณูของทรายซึ่งใหญ่จะสามารถปล่อยให้อากาศเล็ดรอดเข้ามาได้ช่วยให้การเติบโตของรากนั้นดีขึ้น

และอีกจุดหนึ่งที่สำคัญในเรื่องระบบรากที่เพิ่งผูกตัดมาใหม่ ๆ นั้นรากยังเป็นแผลอยู่ การใส่ปุ๋ยลงไปพร้อมกับการปลูกนั้นจะทำให้รากติดเชื้อและมีโอกาสทำให้ต้นไม้ตายได้

แต่ในกรณีนี้เมื่อมีการปลูกเสร็จสิ้นไปแล้ว เราจะต้องดูแลตามวัสดุหรือปัจจัยที่ได้ทำไว้นั้น สำหรับ Foxtail สิ่งสำคัญที่สุดที่จะต้องทำก็คือ ต้องฉีดน้ำเลี้ยงใบวันละหลาย ๆ ครั้ง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องฉีดน้ำเลี้ยงที่ราก เพราะถ้าเรารดที่รากมาก รากจะมีโอกาสเน่าทั้งจากสาเหตุของน้ำที่ไปขังบริเวณหลุม และจากการที่ปุ๋ยคอกเกิดการเน่าจนกระทั่งทำให้รากเน่าได้

ตอนนี้จุดสำคัญคือจะต้องฉีดน้ำเลี้ยงใบและลำต้นวันละหลาย ๆ ครั้ง ยิ่งน่าแล้งแบบนี้ แดดแรง ถ้าหากขาดการฉีดน้ำเลี้ยงใบ ก็จะทำให้ใบไหม้และเหี่ยวไปเป็นจำนวนมาก และธรรมชาติของปาล์มนั้น กว่าแต่ละใบที่จะออกมาใหม่นั้นจะต้องใช้เวลาแรมเดือน ดังนั้นเราต้องพยายามรักษาใบเก่าไว้ให้ได้ ทั้งในเรื่องความสวยงามของภูมิทัศน์ และช่วยเลี้ยงใบใหม่และลำต้นไม่ให้แห้งจนเกินไป...

หมายเลขบันทึก: 355689เขียนเมื่อ 3 พฤษภาคม 2010 07:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 17:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

ขอบคุณที่แบ่งปันความรู้

Foxtail หรือปาล์มหางกระรอกเป็นต้นไม้ที่โชว์ลำต้น ดังนั้น การให้ความชื้นกับลำต้นนั้นจะทำให้ลำต้นสมบูรณ์ อวบ และอิ่มน้ำ

โดยเฉพาะในหน้าแล้ง ความร้อนจากแดดและความแห้งของอากาศจะนำพาความชื้นจากลำต้นและใบออกไปมาก ดังนั้น ควรจะฉีดน้ำรดลำต้นอย่างน้อยวันละสองครั้งคือเช้าและเย็น

Foxtail เป็นไม้ที่กินปุ๋ย ถ้าย้ายมาปลูกเกิน 6 สัปดาห์แล้ว ควรจะให้ปุ๋ยเป็นประจำและสม่ำเสมอทุก ๆ สัปดาห์ foxtail ที่สมบูรณ์ลำต้นจะอ้วน ใบจะเป็นพวงสวยงาม

ไม่ทราบว่าสำหรับ foxtail ต้องใส่ปุ๋ยอะไร ปริมาณ และบ่อยแค่ไหนคะ ที่บ้านซื้อมาปลูกได้ประมาณ 2 เดือน ใบเริ่มแห้ง และบางใบกิ่งหักเนื่องจากลมแรง ไม่ทราบว่าจะแก้ไขยังไง

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะสำหรับคำตอบ

สำหรับการใส่ปุ๋ยของ Foxtail นั้นต้องขอย้อนกลับไปที่ตอนก่อนปลูกสักเล็กน้อย

เนื่องจากตอนที่ย้ายมาปลูกนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะมีการรองปุ๋ยไว้ที่ก้นหลุม ซึ่งการใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมแบบนี้จะมีทั้งคุณทั้งโทษขึ้นอยู่กับรูปแบบของการเลี้ยงต้นไม้ที่ย้ายมานั้น

ต้นไม้ประเภทปาล์มหรือไม้ใหญ่ที่มีการขายในตลาดจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบหลัก ๆ คือ

1. ขุดสด คือ ตัดรากแล้วย้ายมาปลูกที่บ้านเราเลย อันนี้โอกาสรอด 50/50 แล้วแต่ฝีมือคนย้ายและที่สำคัญขึ้นอยู่กับเราคือ "คนดูแล"

2. ขุดล้อมแล้วทิ้งไว้ระยะหนึ่งจนกระทั่งรากงอกคือ "รอดแน่" แต่ไม้ประเภทนี้ราคาจะสูงกว่าไม้แบบขุดสดเล็กน้อย

3. ไม้ที่เลี้ยงในปลอก (วงบ่อซีเมนต์) ไม้ประเภทนี้จะราคาสูงพอ ๆ กับแบบที่ 2 และส่วนใหญ่จะเป็นไม้ที่เมื่อย้ายมาปลูกที่บ้านเราแล้วจะฟื้นตัวได้อย่างเร็วที่สุด

ดังนั้นขอย้อนกลับมาที่เรื่องการใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมซึ่งมีหลักการพิจารณาง่าย ๆ ว่า ต้องดูที่ราก ว่ารากขาดหรือรากช้ำหรือไม่ ถ้ารากขาดก็เหมือนกับคนเป็นแผล ไม่ควรจะใส่ปุ๋ย โดยเฉพาะ "ปุ๋ยคอก" รองที่ก้นหลุมเพราะจะทำให้รากเน่า และถ้าหากรดน้ำเยอะด้วยแล้วก็จะยิ่งทำให้รากเน่าได้ง่ายขึ้น

สำหรับปัญหาที่คุณพรถามมาว่า Foxtail ต้องใส่ปุ๋ยอะไร ปริมาณ และบ่อยแค่ไหนนั้น ขอให้คำนิยามสั้น ๆ เกี่ยวกับ Foxtail ว่า "Foxtail เป็นไม้กินปุ๋ย" ยิ่งใส่ปุ๋ยยิ่งงาม

ซึ่งถ้าหากเป็นช่วงแรกนั้นขออนุญาตให้ใส่วิตามินเร่งรากจำนวน B1 โดยผสมน้ำตามสัดส่วนที่ระบุไว้ข้างผลิตภัณฑ์โดยทำการรดที่โคนต้นประมาณ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง

หลังจากนั้นถ้าเป็นไม้ที่ย้ายมาใหม่ควรจะให้ไม้ได้พักฟื้นจนอยู่ตัวเสียก่อนส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ถึงจะอยู่ตัว

เมื่อพ้นหกสัปดาห์ไปแล้วจึงสามารถใส่ปุ๋ยได้ตามต้องการ ซึ่งจะเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์นั้นก็แล้วแต่สะดวก แต่ถ้าเป็นปุ๋ยคอก ควรพรวนดินแล้วใส่ลงไปลึกสักหน่อย แต่ระวังอย่าให้รากขาด หรือถ้าใส่ปุ๋ยคอกแล้วเทดินกลบไว้สักหน่อยจะเป็นการที่ดีสุด

แต่ทว่าปุ๋ยคอกนั้นจะดูดซึมค่อนข้างช้าแต่ดีในระยะยาวที่จะทำให้ดินดีร่วนซุย ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดควรจะต้องใช้ปุ๋ยวิทยาศาสตร์ร่วมด้วยซึ่งควรจะเป็นสูตรที่เร่งใบและให้ปุ๋ยกับลำต้นซึ่งจะดูได้จากสูตรที่มีตัวหน้าและกลางสูงหน่อย (N-P-K) ซึ่งควรจะใส่ประมาณสัปดาห์และ 1 ครั้ง ตามปริมาณที่ฉลากผลิตภัณฑ์แนะนำ

ส่วนปัญหาใบแห้งนั้นเป็น "ธรรมดา" ของ Foxtail โดยเฉพาะต้นที่ย้ายมาปลูกใหม่และยิ่งผนวกกับเป็นไม้ที่ย้ายหน้าแล้งด้วยแล้วต้อง "ทำใจ" และ "ทำใจ" และยิ่งถ้าเป็นไม้ที่ขุดสดด้วยแล้วอาจจะแห้งจนโกล๋นได้เลยทีเดียว

แต่วิธีการที่จะช่วยเหลือได้มากที่สุดก็คือ ต้องรดน้ำที่ใบและลำต้นบ่อย ๆ วันละหลาย ๆ ครั้ง แต่ระวังไม่ให้น้ำไปแฉะที่รากมากจนเกินไปเพราะจะทำให้รากเน่า

วิธีการรดน้ำที่ดีที่สุดคือ ฉีดแต่ใบและลำต้น ไม่ควรฉีดรดที่ราก โดยเฉพาะถ้าหากวัสดุปลูกระบายน้ำได้น้อยอาจจะทำให้รากเน่าได้

เวลาที่ควรรดน้ำที่ดีที่สุดคือ "เวลาแดดร่มลมตก" คือ เวลาที่แดดไม่แรง คือในช่วงเช้าสาย และเย็น

ควรหลีกเลี่ยงนำน้ำฉีดใบเวลาที่แดดจัดเพราะจะทำให้ใบไหม้ได้

ส่วนเรื่องกิ่งหักนั้นน่าจะเกิดจากเป็นไม้ที่ "ขุดสด" ต้นไม้ปรับสภาพไม่ทัน หรืออีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญคือ การตัดใบแห้งออกเร็วเกินไปจนทำให้ใบใหม่ที่ขึ้นมายังไม่แข็งแรงพอที่จะต้านทานแรงลมได้

การซื้อ Foxtail นั้น ถ้าให้ดีที่สุดควรเลือกซื้อไม้ที่เลี้ยงในปลอกปูน เพราะจะทำให้ไม้ฟื้นได้เร็วที่สุด (ประมาณ 2-3 เดือน)

แต่ทว่าปัญหาของ Foxtail ตอนนี้คือ "ไม่มีราคา"(บางที่ไล่แจกกันเลย) คนที่ปลูกไว้ส่วนใหญ่แล้วจะทิ้งลงดินทั้งหมด ดังนั้นไม่มีใครที่จะลงทุนล้อมไว้ขายมีแต่ไม้ที่ขุดสดอย่างเดียว ราคาต้นหนึ่งหลักร้อย ขนาดต้นสูง 2-3 เมตรราคาไม่ควรถึง 1,000 บาท (พร้อมส่ง) เพราะไม้ล้นตลาด

เมื่อก่อน foxtail แพงมาก สมัยที่เข้ามาเมืองไทยใหม่ ๆ แค่เมล็ดอย่างเดียว (ยังไม่ได้เพาะ) ราคาเมล็ดละ 100 บาท สมัยนี้ต้นใหญ่ ๆ เลี้ยงมา 4-5 ปีราคาไม่ถึงห้าร้อยบาท (ตลาดต้นไม้คลอง 15 รังสิต-นครนายก)

foxtail เป็นไม้ที่ถ้าหากต้องการความสวยงามเร็วแล้ว ไม่ควรซื้อมาปลูก เพราะสาเหตุจากใบแห้งดังเช่นที่คุณพรพบ

ระยะเวลากว่าที่จะฟื้นตัวนั้นจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนสำหรับไม้ขุดสด และถ้าดูแลไม่ดี น้ำไม่ถึง หรือขาดปุ๋ย ก็จะแคระแกรนไปเลย

สวัสดีครับ

บทความเกี่ยวกับ foxtail ของคุณปภังกร ดีมากๆเลยครับ

ผมมีคำถามนึงเกี่ยกวับ foxtail ครับ คือว่า ระบบรากเค้าแข็งแรงมากไหมครับ ถ้าปลูกใกล้กับตัวบ้าน จะมีโอกาสที่รากจะไปรบกวนโครงสร้างของบ้านหรือเปล่าครับ

ขอบคุณครับ

ขอบคุณคุณปภังกรมากค่ะ

ตอนนี้ล์มฟอกซ์เทลที่บ้านดูเขียวขึ้น คงเป็นเพราะหน้าฝน แต่เกิดปัญหาใหม่คือ ใบที่ออกมาใหม่หักอีกแล้วค่ะเท่าที่สังเกตดูพบว่าฟอกซ์เทล ที่บ้านก้านใบยาวมากและมีใบดกหนามาในแต่ละก้านน้ำหนักเลยมาก ไม่ทราบว่าควรแก้ไขยังไง เพื่อไม่ให้ก้านใบหักอีก

ขอบคุณมากๆ ค่ะ

สวัสดีครับ

ขอสอบถามเกี่ยวกับ ฟอกซ์เทลที่ปลูกมาแล้วเกือบ 1 ปี จำนวน 6 ต้น ดินในสวนที่ปลูกจะเป็นดินเหนียว ช่วงหลังนี้ใบเริ่มเหลืองทั้งต้นครับ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และต้องดูแลอย่างไรบ้างครับ

ขอรบกวนด้วยครับ

หางกระรอก ซื้อมาปลูกหกเดือนแล้ว ลงปุ๋ยคอกก่อน แต่ดินค่อนข้างมีหินเยอะ เริ่มเหลือง ไม่ออกใบใหม่เลย

บริเวณลำต้นจะแตกแยกออกเหมือนแผลโดนฟัน สูงราวสามเมตร ตอนขนย้ายปลายยาวออกจากรถปิคอัพมาก

และไม่ได้ดามปลายต้น  มีทั้งหมดหกต้น แต่เป็นอย่างที่ว่าข้างต้นสามต้นนอกนั้นสมบูรณ์พอใช้ ทำไงดีครับ

สอบถามหน่อยคะ พอดีชื้อปาล์ม Foxtail มาและให้คนสวนปลูกให้ ปลูกได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ใบเริ่มไหม้ แห้ง ขึ้นเลื่อยๆ จะสอบถามว่า เกิดจากอะไร และมีวิธี รักษาแก้ไขหรือไม่ แล้วจะตายหรือเปล่า รบกวน ขอคำแนะนำด้วยคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท