จุดเริ่มต้นบนวาระสุดท้าย


แม้จะเป็นจุดสุดท้ายของชีวิตหนึ่ง แต่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงที่ดีของอีกชีวิตหนึ่งได้ หากทีมสุขภาพสามารถใช้โอกาสนั้นได้

ชื่อเรื่อง จุดเริ่มต้นบนวาระสุดท้าย

ผู้เล่า นิสิตท้นตะแพทย์ ณัฐนิช บุณยเศรษฐ (ปุ้ย)

แก่นของเรื่อง   แม้จะเป็นจุดสุดท้ายของชีวิตหนึ่ง แต่ก็อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลงที่ดีของอีกชีวิตหนึ่งได้ 

เนื้อเรื่อง        

       ปุ้ย!! ปุ้ย!!” เสียงตะโกนเรียกของไหมจากหน้าบ้าน ปลุกฉันออกจากภวังค์ที่กำลังจัดเรียงรูปภาพอยู่ 

       ทำอะไรอยู่จ๊ะ เรามาชวนไปขี่จักรยานเล่นกัน

       เรากำลังเรียงรูปที่พวกเราไปฝึกงานกันที่กาฬสินธุ์มาใส่อัลบั้ม  

       หรือจ๊ะ ขอดูหน่อยซิ เอ๊ะ! นี่มันรูปคุณลุงเรืองใช่ไหม เราจำได้ว่า บ้านของคุณลุงเป็นบ้านหลังแรกที่เราสองคนออกไปเยี่ยมบ้านนี่นา

คำพูดของไหม นำพาให้ฉันหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวของคุณลุง ที่ทำให้เกิดจุดเริ่มต้นในชีวิตของชายคนหนึ่ง 

 

เมื่อปีที่แล้ว ฉันได้มีโอกาสรู้จักกับกลุ่มคนที่ทำงานชุมชนในรูปแบบเชิงรุกที่เรียกตัวเองว่า “ทีมไม้เลื้อย” ฉันได้ติดตามการทำงานของทีมนี้ ที่มีการเยี่ยมบ้านเป็นหัวใจหลักของการทำงาน บ้านหลังแรกที่ฉันได้ไปเยี่ยมเป็นบ้านชั้นเดียวที่มีอาณาบริเวณรอบบ้านค่อนข้างกว้างขวาง สภาพภายในบ้านสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย มีเตียงขนาดใหญ่ตั้งอยู่มุมห้อง ฉันพบคุณลุงนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง ขณะที่คุณป้านั่งอยู่บนพื้นกระเบื้องข้างเตียง เมื่อพวกเราเข้าไปเยี่ยม คุณป้ารีบลุกขึ้นมาต้อนรับพวกเรา เช่นเดียวกับคุณลุงที่ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นจากเตียง

“ลุงเรืองเป็นยังไงบ้างจ๊ะ”

“สบายดีหมอ” คุณลุงตอบด้วยท่าทางยิ้มแย้ม มีความสุข จนทำให้ฉันคิดว่า นี่หรือ…คือผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย

คุณลุงเล่าอาการป่วย ประวัติชีวิตให้พวกเราฟังด้วยความเต็มใจ เมื่อกล่าวถึงลูกหลาน ดวงตาคุณลุงจะเปล่งประกายความสุข น้ำเสียงเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ ทำให้ฉันได้เรียนรู้และเข้าใจคำกล่าวที่ว่า ครอบครัวเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการเยียวยาผู้ป่วย

หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป ฉันได้กลับไปเยี่ยมคุณลุงเรืองอีกครั้ง ภาพที่เห็นในวันนี้ช่างแตกต่างจากวันก่อนมาก  เนื่องด้วยบ้านคราคร่ำไปด้วยผู้คน ทั้งลูกหลานและชาวบ้าน เมื่อเข้าไปภายในบ้าน ภาพชายแก่ที่นอนอย่างสงบบนเตียงห้อมล้อมด้วยลูกหลานในครอบครัว คุณลุงพยายามจะขยับตัวลุกเมื่อเห็นพวกเรา

“ลุงเรือง ไม่ต้องลุกหรอก พวกหมอมาเยี่ยม” ใบหน้าคุณลุงเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มดีใจ

“หมอ ลุงรู้ว่าลุงคงเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว”

“ลุงไม่ต้องห่วงกังวลนะ ลุงเป็นสามีที่ดี พ่อที่สมบูรณ์แบบ ลุงสร้างครอบครัวบ้านช่องที่ใหญ่โตเป็นรากฐานให้ลูกหลาน ลูกๆของลุงก็มีครอบครัว มีการงานมั่นคง” รอยยิ้มของลุงกระจายไปทั่วด้วยความภูมิใจ หลังจากนั้นพี่ในทีมไม้เลื้อยก็เปิดประเด็นคุยกับญาติๆที่ห้อมล้อมคุณลุงอยู่

“คุณลุงเรืองป่วยเป็นมะเร็ง ซึ่งมีหลายสาเหตุที่ทำให้เป็นมะเร็งได้ ทั้งสูบบุหรี่ ดื่มสุรา กินของไหม้ของมัน หมออยากให้ทุกคนในที่นี้ ตระหนักถึงโทษของสิ่งเหล่านี้นะ”

“ผมก็สูบบุหรี่ครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งยกมือขึ้น

“ใช่ๆ” “ใช่” หลายๆเสียงในที่นั้นต่างร้องตอบ

“หมอครับ ลูกชายผมสูบบุหรี่จัดมาก แกจะเป็นเหมือนผมมั๊ยครับ” ลุงเรืองถามขึ้นมาด้วยสีหน้ากังวล

“หมอว่า คุณลุงลองขอร้องให้ลูกชายเลิกสูบบุหรี่ซิ”

คุณลุงกวักมือเรียกให้ชายหนุ่มคนนั้นเข้ามาใกล้ แล้วพูดว่า “ชาญ ลูกเลิกบุหรี่ได้มั๊ย”

“เอ่อ ผมจะพยายามครับ” ชาญตอบพ่อด้วยเสียงแผ่วเบา

“คุณชาญ แม้ตอนแรกที่สูบบุหรี่จะดูเหมือนไม่มีอาการอะไร แต่เมื่อคุณป่วย อาการจะเริ่มทรุดหนักลงเร็วมาก หมอไม่อยากให้เกิดภาพเช่นนี้อีกในพวกเราทุกคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ไม่อยากให้มีคนนามสกุลนี้ป่วยเป็นแบบนี้อีก การเจ็บป่วยทำให้คนที่เรารักและรักเราต้องเสียใจ รับปากคำขอร้องครั้งสุดท้ายของพ่อ เลิกบุหรี่เพื่อพ่อได้มั๊ย”

ชาญนิ่งไปสักครู่ก่อนจะตอบออกมาว่า “ได้ครับ ผมสัญญาว่าจะเลิกบุหรี่ให้ได้” พร้อมกับก้มลงกราบไปบนหน้าอกพ่อ คุณลุงยกมือขึ้นลูบหัวชาญ และยิ้มทั้งน้ำตา

ทุกคน ณ ที่นั้นต่างมีน้ำตาคลอ บางคนถึงกับร้องไห้อย่างไม่อายสายตาใคร พลอยทำให้ฉันซาบซึ้งใจไปกับบรรยากาศความปลื้มปีติที่เคลือบแฝงมาในกลิ่นอายความเศร้าของการลาจาก

สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้ในวันนั้นช่างมากมาย ฉันได้รู้ถึงความสำคัญของการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ซึ่งมักเป็นกลุ่มคนที่ถูกละเลย แต่ทางทีมไม้เลื้อยกลับเห็นคุณค่าในการทำหน้าที่เพื่อคนกลุ่มนี้ โดยพยายามให้พวกเขาหมดห่วง หมดกังวล และจากโลกนี้ไปอย่างสงบสุขในห้วงสุดท้ายของชีวิต นอกจากนี้ ทางทีมยังนำวาระสุดท้ายของคนหนึ่งมาเป็นจุดเริ่มต้นของอีกชีวิตหนึ่ง

 

 “ปุ้ย!! ปุ้ย!! ไปกันเถอะ เสียงเรียกของไหมดึงฉันกลับมาสู่โลกปัจจุบันอีกครั้ง  

แม้ตอนนี้ฉันจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมไม้เลื้อย แต่ประสบการณ์ที่ฉันได้สัมผัสจะเป็นแรงบันดาลใจ กำลังใจให้ฉันพร้อมจะทำงานชุมชนต่อไป อย่างน้อยฉันก็รู้ว่า ในสังคมแห่งนี้มีกลุ่มคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่งที่ทำงานเสียสละเพื่อสังคมด้วยหัวใจแห่งความเป็นมนุษย์ 

 

ผู้บันทึก  นทพ.ณัฐนิช บุณยเศรษฐ (ปุ้ย)              วันที่  21 มกราคม 2553

 
หมายเลขบันทึก: 354994เขียนเมื่อ 30 เมษายน 2010 08:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 13:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท