ตอนที่3
Omega speedmasterMoon watch |
Aldrin with his Speedmaster on the Moon - Apollo 11 |
ด้วยแบรนด์ที่อยู่ในกลุ่มนาฬิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดของโลก ทำให้ omega ทุกรุ่นได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพ าะอย่างยิ่ง ในช่วงทศวรรษที่ 70 omega ได้ถูกประเมินเป็นผู้ผลิตนาฬิกาสวิส ที่มีคุณภาพ อันดับ 1 และเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
นาฬิกาที่สร้างชื่อเสียงให้กับ omega มากที่สุด คือ omega speedmaster โดยรุ่นแรกที่ผลิตออกมา เป็น chronographs รุ่น ck 2915 caliber 321 manual winding ผลิตในปี 1957 และ omega ดำเนินสายการผลิตเรื่อยมา จนถึงช่วงต้นทศวรรษที่ 60 ขณะนั้น naza กำลังขับเคลื่อน โครงการอวกาศ mercury และกำลังจะเริ่มต้นโครงการ Gemini ซึ่งเป็นโครงการอวกาศที่จะต้องส่งนักบินอวกาศ 2 คน ไปกับยาน เพื่อโคจรรอบโลก และที่สำคัญ นักบินอวกาศทั้งสองคนที่ไปกับยาน Gemini จะต้องมีภารกิจนอกยาน เพื่อทำการทดลองต่างๆ ภายใต้ความกดดันอากาศ สภาพสุญญากาศ และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ซึ่งในสภาพเช่นนั้น นาฬิกาข้อมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในการปฏิบัติภารกิจด้วยความปลอดภัยของนักบินอวกาศ
ในปี 1962 naza จึงทำการสำรวจประสิทธิภาพของนาฬิกา chronographs ทีมีในท้องตลาด โดยเริ่มจาก อย่างไม่เป็นทางการ ด้วยการกว้านซื้อนาฬิกาจับเวลา หลากหลายยี่ฮ้อ จากร้านดังต่างๆที่มีชื่อเสียง เช่นห้าง Corrigan ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐ texas ปัจจุบัน ร้านนี้ยังคงเป็นตัวแทนจำหน่าย นาฬิกา omega ที่ใหญ่ทีของสหรัฐอเมริกา นาฬิกา chronograps ทุกเรือนที่สุ่มมาได้ ถูกนำมาทดลองใช้ เพื่อประเมินประสิทธิภาพระยะแรก เพื่อการกำหนดคุณลักษณะที่ต้องการ และในปี 1964 naza ได้กำหนดคุณลักษณะสำคัญของนาฬิกา ที่ naza ต้องการ ดังนี้
ในครั้งนั้นมีบริษัทที่จำหน่ายนาฬิกาที่มีชื่อเสียง หลายยี่ฮ้อ ส่งสินค้าเข้าทำการทดสอบ เช่น elgin , ̊benrus , Hamilton , mido , luchin , picard , omega , bulova , rolex , longines , gruen ฯ
การทดสอบอย่างหฤโหดได้เริ่มขึ้น โดยแบ่งการทดสอบออกเป็นช่วงๆ และแต่ละช่วง นาฬิกาจะถูกตรวจสอบว่า ยังคงทำงานอยู่เป็นปกติหรือไม่ ได้แก่
หลังการทดสอบหฤโหดนี้ ปรากฏ ROLEX หยุดเดิน 2 ครั้ง และเข็มงอม้วนเข้าหากัน ในตู้อบความร้อน ..... ไม่ผ่านการทดสอบ LONGINES กระจกหน้าปัดกระเด็นออกจากตัวเรือน เปลี่ยนตัวใหม่เข้าทดสอบต่อ ก็เป็นเช่นเดิม .... ไม่ผ่านการทดสอบ
ยี่ฮ้ออื่นๆ ก็มีอันเป็นไปทุกยี่ฮ้อ เหลือรอดมาเพียงเรือนเดียวคือ OMEGA SPEEDMASTER CAL.321 อาการที่ปรากฏอยู่บ้างก็คือ สูญเสียการเที่ยงตรง ในการทดสอบความเร่ง และทดสอบสุญญากาศ แต่อยู่ในระดับที่รับได้ และมีอาการพรายน้ำที่หน้าปัดเป็นรอยไหม้ แต่อย่างอื่นปกติ ..... จึงเป็นยี่ฮ้อเดียวที่ผ่านการทดสอบ และได้รับกบรรจุให้เป็นอุปกรณ์หลักในโครงการอวกาศ Gemini และ Apollo ของ naza โดย omega speedmaster cal.321
ได้ถูกใช้ในโครงการ Gemini 3 เป็นครั้งแรก ซึ่งต่อมาในปี 1966 omega ได้เพิ่มคำว่า professional ( แปลว่า มืออาชีพ ) ต่อจากคำว่า speedmaster บนหน้าปัด เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง การยอมรับจาก naza และเป็นเกียรติประวัติของ omega เป็นอย่างยิ่ง
ในปี 1975 มีโครงการอวกาศร่วมกันระหว่าง สหรัฐ กับสหภาพโซเวียตรัตเซีย ในการนำยานอวกาศ apoollo เข้าเชื่อมต่อกับสถานีอวกาศ soyus ของโซเวียตรัตเซีย นักบินอวกาศทั้งสองค่าย มีการจับมือกันกลางอวกาศ และเซนต์เอกสารร่วมกันเป็นที่ระลึก ซึ่งเป็นที่แปลกใจว่า นักบินอวกาศ ทั้งสองค่ายต่างใช้นาฬิกา omega speedmaster เหมือนกัน แสดงว่า นาฬิกา omega รุ่นนี้เป็นที่ยอมรับทั้งสองค่าย
|
Omega speedmaster cal.321 โด่งดังอย่างต่อเนื่อง จนถึงปี 1968 omega speedmaster ได้ถูกเปลี่ยนไปใช้เครื่องรุ่นใหม่ เป็น caliber 861 เนื่องจากผู้ผลิตเดิมเลิกทำการผลิตเครื่องรุ่น 321
มีข้อมูลระบุว่า naza ได้ทำการสั่งซื้อนาฬิกา omega speedmaster cal.321 ตั้งแต่เริ่มโครงการ Gemini 3 เป็นต้นมา รวมทั้งสิ้น 97 เรือน โดยสูญหาย 17 เรือน ถูกใช้ในโครงการ 60 เรือน และอยู่ในการเก็บดูแลรักษา เพื่อพร้อมใช้ อีก 20 เรือน ดังนั้น ถึงแม้ omega speedmaster cal.321. จะเลิกผลิตในปี 1968 แล้วก็ตาม
แต่ naza ก็ยังคงมี omega speedmaster cal.321 สำรองไว้อีก 20 เรือน ซึ่งเพียงพอกับการใช้งาน ในโครงการ Apollo 11
จึงน่าสรุปได้ว่า นาฬิกา omega speedmaster ทั้งหมดที่ถูกใช้งาน ในอวกาศ และบนดวง
จันทร์ ของ naza ใช้ CAL.321 เท่านั้น
พีรพงศ์
14 เมษายน 2553
ไม่มีความเห็น