หลวงปูเอี่ยม ปฐมนาม แห่งวัดสะพานสูง


…… ผมกล่าวและบูชาท่านจนทุกวันนี้ ท่านคือเทพเจ้าแห่งปากคลองพระอุดม.....เทพเจ้าแห่งวัดสะพานสูง...

      

     ในเทศกาลสงกรานต์ผมมีโอกาสไปกราบนมัสการ หลวงปูเอี่ยม ปฐมนาม  แห่งวัดสะพานสูง อำเภอปากเกล็ด จังหวัดนนทบุรี ผมฝากตัวเป็นลูกศิษย์หลวงปู่มาหลายปี เคารพและบูชาหลวงปู่ติดตัวตลอดเวลา รู้จักวัดและหลวงปู่ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ครั้งนั้นผมตะเวนหาดูที่ดินริมน้ำสวยเพราะใจชอบมีบ้านริมน้ำมาแต่ไหนแต่ไร ปรากฏว่าหลงทางเข้าซอยริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณปากคลองพระอุดม

 เมื่อวิ่งรถมาเรื่อยๆจากถนนใหญ่มาประมาณ 2 กิโลเมตร มองเห็นวัดตั้งอยู่ริมฝั่งคลองมีทำเลสวยงามมาก จึงแวะเข้าไป สิ่งที่พบคือ มีพุทธศาสนิกชนผู้ใจบุญ มากราบบูชาหลวงปู่รูปปั้นที่ปิดทองเต็มทั้งองค์ ผู้คนมากมายเหลือเกินทั้งๆที่วันนั้นไม่ใช่เทศกาลงานบุญอะไร สอบถามร้านค้าเล็กๆที่ตั้งแผงขายอยู่ใกล้ๆบริเวณวัด แม่ค้าเล่าว่า คนจากทั่วสารทิศมากราบหลวงปู่เอี่ยม แห่งวัดสะพานสูง เพราะท่านศักด์สิทธ์มาก ใครทุกข์ร้อนอันใดให้นึกถึงท่านท่านจะช่วย

                 

       

จากวันนั้นจนวันนี้ผมประจักษ์ในบุญบารมีหลวงปู่อย่างเต็มเปี่ยม แม้ท่านจะมรณภาพมาก่อนผมเกิดด้วยซ้ำไป…… ผมกล่าวและบูชาท่านจนทุกวันนี้ ท่านคือเทพเจ้าแห่งปากคลองพระอุดม.....เทพเจ้าแห่งวัดสะพานสูง...เทพเจ้าของผมที่ปัดเป่าบรรเทาทุกข์ให้เสมอมา ผมสืบค้นประวัติและขอนำเสนอโดยย่อไว้ พร้อมขอเชิญชวนท่านสมาชิก G2N ร่วมทำบุญสร้างกุฎิแม่ชีและศาลาปฎิบัติธรรม  ด้วยการเช่าบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่รุ่นเสาร์ 5 ที่วัดนะขอรับ

            รูปหล่อหลวงปู่หน้าพระอุโบสถและรูปหล่อที่ผมบูชาเเบบลอยตัว

       

พวงมาลัยสีเหลืองใส่กระทงที่บรรดาลูกศิษย์หลวงปู่นำมาถวายมากจนล้นทุกวันหยุด

         

ละครชาตรีที่ลูกศิษย์ว่าจ้างมาเเสดงแก้บนเเละบูชาเเด่หลวงปู่...เทพเจ้าเเห่งปากคลองพระอุดม

         

ส่วนภาพนี้เป็นกระถางบัวหน้ากุฎิท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันซึ่งผมนำภาพมาลงไว้ด้านล่างนี้ขอรับ

                     

หมายเลขบันทึก: 353581เขียนเมื่อ 23 เมษายน 2010 22:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

ประวัติ หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม วัดสะพานสูง หลวงปู่เอี่ยม ปฐมนาม ( อ่านว่า ปะถะมะนามะ หรือ ปถมนาม ) เกิดในรัชกาลที่ ๒ เมื่อปีฉลู พ.ศ. 2359 เป็นบุตรนายนาค นางจันทร์ โดยมีพี่น้องท้องเดียวกัน รวมด้วยกัน 4 คน คือ

1. หลวงปู่เอี่ยม

2. นายฟัก

3. นายขำ

4. นางอิ่ม

บ้านเกิดของหลวงปู่เอี่ยมอยู่ที่ตำบลบานแหลมใหญ่ ฝั่งใต้ ข้างวัดท้องคุ้ง อำเภอ ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อปี พ.ศ.๒๓๘๑ อายุท่านได้ ๒๒ ปี ได้อุปสมบท ที่วัดบ่อ ตำบลปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ด (วัดบ่อนี้อยู่คิดกับตลาดในท่าน้ำปากเกร็ด) ท่านอุปสมบท ได้ประมาณหนึ่งเดือน ท่านก็ได้ย้ายไปประจำพรรษาอยู่ที่วัดกัลยาณมิตร ธนบุรีซึ่งในขณะนั้นพระพิมลธรรมพร เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งย้ายมาจากวัดราชบูรณะ พระนคร หลวงปู่เอี่ยมท่านได้ศึกษาพระปริยัติธรรม และแปลพระธรรมบทอยู่ที่วัดนี้อยู่ได้ถึง ๗ พรรษาท่านจึงได้ย้ายไปจำพรรษาอยู่ที่วัดประยูรวงศาวาส

เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๘ อยู่วัดประยูรวงศาวาสได้ ๓ พรรษา ถึงปี พ.ศ. ๒๓๘๙๑ นายแขก สมุห์บัญชีได้นิมนต์หลวงปู่เอี่ยม ไปจำพรรษาเจริญพระกัมมัฏฐานเป็นเริ่มแรก และได้ศึกษาอยู่ ๕ พรรษา ถึงปี ๒๓๙๖ ญาติโยมพร้อมด้วยชาวบ้านภูมิลำเนาเดิมในคลองแหลมใหญ่ (ซึ่งปัจจุบันนี้ คือคลองพระอุดม) อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ได้เดินทางมา อาราธนานิมนต์หลวงปู่เอี่ยม กลับไปปกครองวัดสว่างอารมณ์ หรือวัดสะพานสูง ในปัจจุบันนี้ สาเหตุที่เปลี่ยนชื่อวัดสว่างอารมณ์เดิมมาเป็นชื่อวัดสะพานสูงนั้น มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า ในสมัยนั้นสมเด็จกรมพระยาวชิญาณวโรรส ท่านได้เสร็จไปตรวจการคณะสงฆ์ได้เสด็จขึ้นที่วัดสว่างอารมณ์นี้ ได้ทอดพระเนตรเห็นสะพานสูงข้ามคลองวัด (คลองพระอุดมปัจจุบันนี้) ซึ่งชาวบ้านมักจะเรียกวัดสว่างอารมณ์นี้ว่า วัดสะพานสูง จึงทำให้วัดนี้มีชื่อเรียกกัน ๒ ชื่อ ฉะนั้น สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงเห็นว่า สะพานสูงนี้ก็เป็นนิมิตดีประจำวัดประการหนึ่ง และอีกประการหนึ่งชาวบ้านก็นิยมเรียกกันติดปากว่าวัดสะพานสูง จึงได้ประทานเปลี่ยนชื่อวัดสว่างอารมณ์ มาเป็น "วัดสะพานสูง" จนตราบเท่าทุกวันนี้ หลวงปู่เอี่ยม มาวัดสะพานสูงใหม่ๆ ที่วัดนี้มีพระประจำวันพรรษาอยู่เพียง ๒ รูปเท่านั้นขณะที่ท่านหลวงปู่เอี่ยม ได้ย้ายมาอยู่วัดสะพานสูงได้ ๘ เดือน ก่อนวันเข้าพรรษาหลวงพิบูลย์สมบัติ บ้านท่านอยู่ปากคลองบางลำภู พระนคร ได้เดินทางมานมัสการหลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่เอี่ยมได้ปรารภถึงความลำบาก ด้วยเรื่องการทำอุโบสถและสังฆกรรมเนื่องจากสถานที่เดิมได้ชำรุดทรุดโทรมมาก จึงอยากจะสร้างให้เป็นถาวรสถานแก่วัดให้เจริญรุ่งเรือง หลวงพิบูลยสมบัติ ท่านจึงได้บอกบุญเรี่ยไรหาเงินมา เพื่อก่อสร้างโบสถ์ และถาวรสถานขึ้น จึงเป็นที่เข้าใจกันว่าหลวงปู่เอี่ยม ได้เริ่มสร้างพระปิดตาและตะกรุดเป็นครั้งแรก เพื่อเป็นของชำร่วยแก่ผู้บริจาคทรัพย์และสิ่งของที่ใช้ในการก่อสร้างพระอุโบสถและถาวรสถาน ต่อมาถึง พ.ศ. ๒๔๓๑ ได้สร้างศาลาการเปรียญ หลังจากนั้นอีกหลวงปู่เอี่ยมได้สร้างพระเจดีย์ฐาน ๓ ชั้นขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๓๙ ขณะที่ท่านหลวงปู่เอี่ยม ท่านได้มาอยู่วัดสะพานสูง ท่านได้ไปธุดงค์ไปทางแถบประเทศเขมร โดยมีลูกวัดติดตามไปด้วยเสมอ แต่ท่านจะให้ลูกวัดออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อน ๖-๗ ชั่วโมง แล้วจะนัดกันไปพบที่แห่งใดแห่งหนึ่ง แล้วท่านหลวงปู่เอี่ยม ได้ไปพบชีปะขาวชาวเขมรท่านหนึ่งชื่อว่าจันทร์หลวงปู่เอี่ยม จึงได้เรียนวิชาอิทธิเวทย์ จากท่านอาจารย์ผู้นี้อยู่หลายปี จนกระทั่งชาวบ้านแหลมใหญ่นึกว่าท่านออกธุดงค์ไปได้ถึงแก่มรณภาพไปแล้ว เนื่องจากหลวงปู่เอี่ยม ท่านไม่ได้กลับมาที่วัดหลายปี จึงได้ทำสังฆทานแผ่ส่วนกุศลไปให้ท่าน ทำให้ท่านหลวงปู่เอี่ยม ทราบในญาณของท่านเอง และท่านหลวงปู่เอี่ยม จึงได้เดินทางกลับมายังวัดสะพานสูง การไปธุดงค์ครั้งนี้ หลวงปู่เอี่ยม ได้ไปเป็นเวลานาน และอยู่ในป่าจึงปรากฏว่าท่านหลวงปู่เอี่ยม ท่านไม่ได้ปลงผม ผมจึงยาวถึงบั้นเอว จีวรก็ขาดรุ่งริ่ง หมวดท่านยาวเฟิ้มพร้อมมีสัตว์ป่าติดตามท่านหลวงปู่เอี่ยม มาด้วย อาทิเช่น หมี, เสือ, และงูจงอาง ฯลฯ จากการเจริญกรรมฐานนี้ จึงทำให้หลวงปู่เอี่ยมสำเร็จ "โสรฬ" มีเรื่องเล่ากันว่ามีต้นตะเคียนต้นหนึ่งมีน้ำมันตกและดุมากเป็นที่เกรงกลัวแก่ชาวบ้านแถบนั้น หลวงปู่จึงช่วยยืนเพ่งอยู่ 3 วันเท่านั้น ต้นตะเคียนก็เฉาและยืนต้นตาย หลวงปู่เป็นผู้มีอาคมฉมัง วาจาสิทธิ์ มักน้อยและสันโดษ ท่านเป็นต้นแบบในการพัฒนาวัดให้เจริญรุ่งเรืองจนถึงปัจจุบันนี้ ท่านได้สร้างถาวรวัตถุที่ได้เห็นกันอยู่ในทุกวันนี้คือพระอุโบสถ พระวิหาร ศาลาการเปรียญ พระเจดีย์ จึงเป็นที่มาของการสร้างพระปิดตา และตะกรุดโทนมหาโสฬสมงคลอันลือลั่นนั่นเอง ท่านหลวงปู่เอี่ยม เป็นพระผู้มีอาคมขลัง มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มักน้อย ถือสันโดษ ด้วยเหตุนี้เองทำให้หลวงปู่เอี่ยม ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งชาวบ้านและเจ้านายผู้ใหญ่ในพระนครนับถือท่านมากจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ก่อนที่หลวงปู่เอี่ยมจะมรณภาพด้วยโรคชรา นายหรุ่น แจ้งมา ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดคอยอยู่ปรนนิบัติท่านหลวงปู่เอี่ยมได้ขอร้องท่านว่า “ท่านอาจารย์มีอาการเต็มที่แล้ว ถ้าท่านมีอะไรก็กรุณาได้สั่ง และให้ศิษย์เป็นครั้งสุดท้าย” ซึ่งท่านหลวงปู่เอี่ยมก็ตอบว่า “ถ้ามีเหตุทุกข์เกิดขึ้นให้ระลึกถึงท่านและเอ่ยชื่อท่านก็แล้วกัน”หลวงปู่เอี่ยมท่านได้มรณภาพ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๙ รวมอายุได้ ๘๐ ปี บวชได้ ๕๙ พรรษา ก่อนที่ท่านจะมรณภาพได้มีศิษย์ผู้ใกล้ชิดเป็นตัวแทนของชาวบ้าน และผู้เคารพนับถือศรัทธา ที่มีและไม่มีของมงคลท่านไว้บูชา กราบเรียนถามหากว่าเมื่อหลวงปู่เอี่ยม ได้มรณภาพแล้วจักทำประการใด ท่านจึงได้มีปัจฉิมวาจาว่า " มีเหตุสุข ทุกข์ เกิดนั้น ให้ระลึกถึงชื่อของเรา" จึงเป็นที่ทราบและรู้กันว่า หากผู้ใดต้องการมอบตัวเป็นศิษย์หรือต้องการให้ท่านช่วยแล้วด้วยความศรัทธายิ่ง ก็ให้เอ่ยระลึกถึงชื่อของท่าน ท่านจะมาโปรดและคุ้มครองและหากเป็นเรื่องหนักหนาก็บนตัวบวชให้ท่าน รูปหล่อเท่าองค์จริงของหลวงปู่เอี่ยม ท่านประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถ สร้าง(หล่อ) ขึ้นเมื่อพ.ศ. 2480 ในสมัยหลวงปู่กลิ่น ผู้ปกครองวัดต่อจากท่าน เพื่อการสักการะบูชา ต่อมาจนทุกๆวันจะมีผู้ศรัทธาจากทุกสารทิศมากราบไหว้และบนบานฯ ตลอดเวลาตราบแสงอาทิตย์ยังไม่ลับขอบฟ้า ท่านชอบกระทงใส่ดอกไม้เจ็ดสี จะมีผู้นำมาถวายและแก้บนแทบทุกวันโดยเฉพาะในวันพระแม้แต่ผงขี้ธูปและน้ำในคลองหน้าวัดก็ยังมีความ"ขลัง" อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง และหลังจากที่ท่านมรณภาพล่วงไปเนิ่นนานแล้วก็ตามที ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ผลปรากฏว่าฐานที่ท่าน เคยถ่ายทุกข์เอาไว้และปิดตาย คราวที่เกิดไฟไหม้ป่าช้า ฐานของหลวงปู่เอี่ยม เพียงหลังเดียวเท่านั้นที่ไม่ไหม้ไฟ เมื่อความอัศจรรย์ปรากฏขึ้นเช่นนั้น ผู้คนจึงค่อยมาตัดเอาแผ่นสังกะสีไปม้วนเป็นตะกรุดจนหมดสิ้น นอกจากนั้นแล้ว ยังมารื้อเอาตัวไม้ไปบูชาจนไม่เหลือหรอ ยิ่งไปกว่านั้น คนที่ไม่ได้อะไรเลยก็มาขุดเอาอุจจาระของท่านไปบูชา

(ประวัติจาก http://www.itti-patihan.com.)

สวัสดีค่ะ *^__^*

  • เข้ามา Blog นี้มารับความเป็นศิริมงคลแต่เช้า...
  • มีความสุขในวันหยุดนะคะ

ขอบคุณอ.พิซซา แหมโชคดีขอรับที่เข้ามาที่นี่เป็นมงคลจริงๆ หลวงปู่ท่านมรณภาพมากว่า 100ปีแต่ปัจจุบันท่านยังปกปักรักษาลูกศิษย์ท่านตลอดเวลาขอรับ

มารับความเป็นสิริมงคลตอนเย็น..พรุ่งนี้สอบสัมมนาวิจัยฯเพี้ยงๆเกร็งข้อสอบได้ตรงๆที่เถอะ..จะได้ตอบได้เยอะๆจะได้Aกะเขาบ้างเบื่อCจังเลย...อิๆๆ

สวัสดีค่ะ

  • สาธุหลวงปู่เจ้าค่ะ
  • เคยนั่งรถผ่านวัดนี้ค่ะ แต่ยังไม่เคยเข้าไปกราบไหว้
  • ถ้ามีโอกาสจะแวะไปนมัสการท่านค่ะ
  • วันนี้มาเชิญไปร่วมกิจกรรมกับเด็กดอยค่ะ
  • http://gotoknow.org/blog/publicmindkim/353781#1969591

ขอบคุณ อนุโมทนาขอรับ

สวัสดีค่ะอาจารย์

เข้ามารายงานตัวว่าลูกศิษย์กลับจากปฏิบัติธรรมแล้วค่ะ

มาวันนี้โชคดี และนับว่าเป็นสิริมงคลของตัวเอง ที่ได้ทราบกับเรื่องราวของหลวงปูเอี่ยม ปฐมนาม ค่ะ

สถานที่งดงาม ดูร่มเย็นจังนะคะ... มีคลองขั้นด้วย ในคลองคงมีปลาเยอะนะคะอาจารย์ เห็นแล้วอยากไปกราบไหว้ และทำบุญให้อาหารปลาจังเลยค่ะ

ด้วยความเคารพและระลึกถึงค่ะ

 

ลืมๆ ค่ะ อาจารย์ขา

เอาบุญมาฝากอาจารย์ด้วย  ขอให้อาจารย์มีความ สุขภาพแข็งแรง มีเรี่ยวแรงทำงานสร้างสรรค์สังคมต่อไปอีกยาวนาน... เป็นมิ่งขวัญของลูกศิษย์ และประชาชนทุกคนนะจ๊ะ

           

 

วันนี้ ผมและครอบครัว ก็ได้ไปกราบหลวงปู่ ครับ

สวัสดีค่ะพี่กู้...
                มีวาสนาเพียงน้อยนิดที่ได้ไปไหว้ท่านเพียงนอกกำแพงวัดเพราะหมดเวลา...
แต่ก็อิ่มใจและมีความสุขที่ได้ไปไหว้ท่านพร้อมกับผู้เป็นที่รัก..
บทสวดคาถา...พร้อมคำอธิษฐานนั้น...ขอส่งผลให้เราได้พบกันอีก...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท