หลอมใจเป็นหนึ่งเดียว


ยังมีอีกหลายหลายรายที่เราต้องตามหาญาติ ...

  

ในขณะที่แม่พลอยกำลังทำหน้าที่แม่บ้าน พาลูกๆทำความสะอาดบ้านอย่างขะมักเขม้น ในวันอาทิตย์ของสัปดาห์ก่อน ลูกสาวหัวหยองคนกลางก็วิ่งเอามือถือมาส่งให้ "เพื่อนแม่โทรมาจ้ะ...ชื่อนิด" แม่พลอยได้รับโทรศัพท์จากพี่นิด-ฐิรพร หัวหน้าหอผู้ป่วยไอซียูศัลย์ "พี่ส่งเรื่องเล่ามาให้...อย่าลืมเปิดดูนะ...เพิ่งจะเขียนเสร็จเมื่อคืนนี้เองจ้ะ"

 

        I.C.U.ศัลยกรรมเป็นหอผู้ป่วยที่รับผู้ป่วยอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บจากสาเหตุต่างๆหลายต่อหลายครั้งที่เราต้องรับผู้ป่วยที่ได้รับอุบัติเหตุไม่รู้สึกตัวและถูกนำส่งโดยผู้ประสบเหตุ และไม่มีญาติมาด้วย ซ้ำร้ายในตัวผู้ป่วยเหล่านี้มักไม่มีหลักฐานใดๆที่จะบอกให้เรารู้ว่าเขาคือใคร มาจากไหน เป็นหน้าที่ของเราก็คือต้องตามหาญาติให้เจอให้ได้เพื่อแจ้งให้ญาติรับทราบ  มันเป็นงานที่ท้าทายเพราะไม่มีสิ่งใดจะบอกให้เรารู้ได้เลย แต่ต้องเรียกว่าเป็นโชคดีของเราที่ประสบผลสำเร็จในการตามหาญาติของผู้ป่วยทุกครั้ง จะเล่าให้ฟังค่ะ

วันหนึ่งประมาณห้าจะหกโมงเย็นได้รับโทรศัพท์จากน้องโย๋ที่เข้าเวรบ่ายโทรมาบอกว่ารับผู้ป่วยชาย(หญิงประเภทสอง)ได้รับอุบัติเหตุโดนรถชนมีผู้ประสบเหตุพบนอนคว่ำอยู่ริมถนนและนำส่งโรงพยาบาลและน้องโย๋ดูแล้วหน้าตาคล้ายๆน้องลูกคนขายปลาท่องโก๋แถวๆบ้านพี่สาวพี่นิดรบกวนพี่นิดช่วยตามให้หน่อย  เลยไปหาพี่สาวที่บ้านถามหาบ้านคนขายปลาท่องโก๋ ปรากฏว่าเขาอยู่บ้านกม.สามแต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนโชคดีที่พี่สาวมีเบอร์โทรศัพท์เลยโทรไปถามปรากฏว่าไม่ใช่เพราะลูกเขาอยู่ที่บ้านและสบายดีไม่ได้รับอุบัติเหตุแต่อย่างใดการตามหาครั้งนี้ล้มเหลวเสียแล้ว เลยประสานไปที่ประชาสัมพันธ์ให้ช่วยขอความร่วมมือจากสถานีวิทยุต่างๆให้ช่วยประกาศตามหาญาติให้เราด้วยรอจนเช้าก็ยังไม่มีญาติมาติดต่อ ลองคิดดูนะคะว่าคนไข้ที่ได้รับอุบัติเหตุหน้าตาจะบวมมีบาดแผลจะเปลี่ยนเค้าหน้าไปเลยดูยากมากแล้วบางรายขนาดญาติสายตรงมาดูยังไม่แน่ใจเลยในรายนี้ยังมีการทำศัลยกรรมตกแต่งด้วยยิ่งแล้วใหญ่ เราช่วยกันดูไม่มีใครนึกออกว่าคนไข้รายนี้น่าจะเป็นใคร ต่อมาในช่วงเวรเช้าประยุทธ์คนงานของเราขึ้นปฏิบัติงานเดินไปดูคนไข้ประยุทธ์บอกเราว่าหน้าคล้ายๆน้องส้วมบ้านอยู่แถวๆร้านเนื้อย่างรักบ้านเกิดชักเห็นแสงสว่างรำไรขึ้นมาแล้วสิ ประยุทธ์แนะเราอีกว่าคุณติงลี่ซึ่งทำงานที่ฝ่ายเวชกรรมสังคมบ้านอยู่แถวๆนั้นน่าจะรู้จักเราเลยโทรไปเชิญคุณติงลี่ให้ช่วยมาดูหน่อยซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีแถมคุณติงลี่ยังอาสาที่จะไปตามครอบครัวเขามาดูระหว่างเรารอคุณติงลี่ เลยนึกถึงน้องแพรนวลซึ่งปฏิบัติงานที่ER.น่าจะพอช่วยเราได้เลยโทรไปหาน้องแพรนวลให้ช่วยมาดูให้ วางหูโทรศัพท์ลงไม่ถึงสองนาทีน้องก็มาถึงตึกของเราสิ่งที่ไม่คาดคิดและรู้สึกตื้นตันมากก็คือ พอน้องแพรนวลเปิดประตูเข้ามา เราเห็นอีกสองคนคือน้องเดชาและน้องติ๊นาซึ่งปฏิบัติงานในหน่วยเดียวกันเดินเรียงหน้ากระดานเข้ามาด้วยท่าทีที่เฉิดฉายราวกับสามนางพญาผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังจะปฏิบัติภาระกิจที่สำคัญมากมาดอย่างนั้นจริงๆทั้งสามช่วยกันพินิจพิจารณาแล้วก็บอกเราว่าชื่อน้อง ส้ม บ้านอยู่แถวๆรักบ้านเกิดชื่อไม่ตรงแต่ก็คล้ายๆและถิ่นที่อยู่ตรงกันข้อมูลที่เราได้ทำให้เรามีความหวังมากขึ้น คุณติงลี่ก็ดีใจหายขับรถไปตามคนที่คิดว่าเป็นญาติให้มาดูพอญาติมาดูในช่วงเวลาเกือบๆสิบโมงเช้าใช่ลูกของเขาจริงๆไชโยเราประสบผลสำเร็จอีกครั้งหนึ่งแล้วในการตามหาญาติให้คนไข้ชายไทยไม่ทราบชื่อจากคนไข้ที่ไม่รู้สึกตัวและต้องใช้เครื่องช่วยหายใจมาวันนี้น้องส้มกลับบ้านแล้วสามารถปั่นรถจักรยานไปไหนมาไหนได้ทั่วเมืองยโสธรและเจอน้องส้มทีไรเราก็แอบภูมิใจเล็กๆถึงผลงานของทีม

ยังมีอีกรายหนึ่งที่อยากจะเล่าคือคนไข้ที่มาด้วยอาการอาเจียนเป็นเลือดญาติซึ่งเป็นภรรยาพามาส่งแล้วก็หายไปเลยคนไข้มอมแมมมากถ้าจะพูดว่าสกปรกโสโครกก็คงจะได้ทั้งอาเจียนและถ่ายอุจจาระเป็นเลือดคิดดูเถอะว่ากลิ่นจะขนาดไหนเราได้สบู่เหลวและแชมพูจากที่น้องตุ๊กบริจาคไว้(เนื่องในวันคล้ายวันเกิดลูก)มาอาบน้ำและสระผมให้คนไข้ พอเราเสร็จกิจกรรมคนไข้ยกมือไหว้น้องพยาบาลที่ดูแลเขา(คนไข้พูดไม่ได้ใส่ท่อช่วยหายใจไว้) ตึกของเราจะเจอเหตุการณ์คนไข้ไม่มีเงินซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในการอาบน้ำบ่อยๆพวกเราเลยได้ทำบุญด้วยการบริจาคเงินซื้ออุปกรณ์ให้ผู้ป่วยอยู่เสมอๆ เลยเกิดการเก็บสบู่ ยาสีฟัน แป้งจากโรงแรมที่เราไปพักกลับมาไว้สำหรับให้คนไข้เหล่านี้ พอหน่วยอื่นทราบก็ช่วยเก็บมาให้เราเสมอ ครั้งหนึ่งที่น้องมุไปสัมนาตัวแทนบริษัทที่มาออก Bootได้ยินเราคุยกันถึงเรื่องนี้ก็เข้ามาคุยด้วยและกรุณาช่วยเก็บสบู่ แชมพูของโรงแรมมาสมทบและนำเรื่องนี้ไปเรียนผู้จัดการทราบเขาเลยจะบริจาคเงินให้แต่เราไม่ได้รับเพราะไม่ใช่วัตถุประสงค์ของเรา เราต้องการเพียงแค่ร่วมด้วยช่วยกันจากใจที่เมตตา อย่างคุณอุดม กายภาพบำบัด ซึ่งจะเก็บของฝากจากโรงแรมมาให้เราบ่อยๆ

ย้อนกลับมาคนไข้ของเราดีกว่า คนไข้รายนี้คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นโรคตับแข็ง เช้าวันต่อมาพอมาขึ้นเวรเช้าจำได้ว่าคนไข้รายนี้เป็นคนเก็บขยะเร่ร่อนสองผัวเมียแต่ไม่มีถิ่นที่อยู่แน่นอน เราเคยเห็นเขานอนที่หอนาฬิกา และบางครั้งเคยเห็นเดินแถวตลาดเก่าเลยโทรไปขอความร่วมมือจากน้องกุ้งประชาสัมพันธ์คนเก่งให้ช่วยตามหาญาติให้ น้องกุ้ง(ซึ่งต้องบอกว่าเชี่ยวชาญมากในการช่วยเราตามหาญาติน้องกุ้งจะเอาใจใส่คอยรายงานให้เรารู้ว่ากระบวนการตามหาถึงไหน และถามไถ่เสมอๆว่าตามเจอหรือยัง...ขอบคุณน้องกุ้งจริงๆ) ในรายนี้น้องกุ้งประสานไปที่อสม.ประจำคุ้ม อสม.ก็สุดยอดช่วยเราตามหาจนเจอและ ยังเมตตาพาภรรยาเขามาที่โรงพยาบาลโดยไม่รังเกียจ เราถามเขาว่าทำไมไม่มาเยี่ยมสามีเขาบอกว่าไม่มีเงินค่ารถ อย่าว่าแต่ค่ารถเลยข้าวก็ยังไม่มีจะกิน เลยได้โอกาสทำทานอีกครั้งหนึ่งด้วยการให้ค่าข้าวไป จนวาระสุดท้ายของคนไข้ ภรรยาเขาบอกว่าเขาไม่มีปัญญาจะทำอะไร ขอมอบศพให้ทางโรงพยาบาลซึ่งก็เป็นหน้าที่ของเราให้เจ้าหน้าที่ห้องเก็บศพ นำไปที่วัดให้พระท่านจัดการฌาปนกิจให้อย่างถูกต้องตามประเพณีพวกเราก็เลยถือโอกาสทำบุญใหญ่อีกครั้งโดยรวบรวมเงินคนละเล็กละน้อยเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการฌาปนกิจคนไข้รายนี้ (เรื่องฌาปนกิจนี้ทางโรงพยาบาลของเราจะปฏิบัติอย่างนี้เสมอมา เจ้าหน้าที่ที่ทราบข่าวก็จะมาร่วมทำบุญคนละนิดละหน่อย ต้องบอกว่าโรงพยาบาลของเราเป็นลานบุญที่ยิ่งใหญ่จริงๆ) ยังมีอีกหลายหลายรายที่เราต้องตามหาญาติ ซึ่งบางครั้งต้องขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยค้นทะเบียนประวัติให้ บางครั้งเราก็ขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่สอ.ต่างๆ บางครั้งก็ได้รับความช่วยเหลือจาก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน บางทีก็เป็นเจ้าหน้าที่ของขนส่งเพราะเราได้เลขทะเบียนรถในที่เกิดเหตุก็ขอให้ทางขนส่งช่วยค้นหาให้ว่าใครเป็นเจ้าของ(เผื่อจะได้เบาะแสในการตามหาญาติ) บางครั้งก็เป็นชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณที่เกิดเหตุมาช่วยดูว่าเคยเห็นหรือไม่ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือด้วยดี 

รายที่ไกลที่สุดที่เราเคยตามก็คือคนไข้ที่เป็นคนสุราษฎร์ธานีซึ่งเขาย้ายมาอยู่ที่ยโสธร ภาระกิจของเราประสบผลสำเร็จได้ตลอดแปดปีที่ผ่านมา(I.C.U.เปิดทำการปี2544) ก็เพราะจิตที่มีเมตตาของใครหลายๆคนที่หลอมรวมกันเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์....ขอบคุณทุกคนจริงๆ...

 

น้อมจิตอ่านถ้อยความที่พี่นิดส่งมาให้...ในชีวิตการทำงานประจำวันของหอผู้ป่วยที่มองดูจากภายนอกแล้วคิดว่าคงแสนจะเรียบง่าย เป็นงานประจำวันที่มีรูปแบบเหมือนๆกันทุกวี่วันกระมัง...ทว่าความจริงที่ปรากฎนั้น กลับเป็นความงดงามของ "ชีวิต" คนหน้างานที่ผสานเชื่อมช่วยเหลือเกื้อกูลอย่างเป็นธรรมชาติ...มุ่งหวังตั้งมั่นช่วยเหลือผู้คนตรงหน้าเป็นสำคัญที่สุด...คุณค่าที่เสมือนถูกซ่อนเร้นอย่างยาวนานของคนหน้างานและองค์กร กำลังขยับปีกเผยสู่อิสรภาพแห่งรูปธรรม...อันจะย้อนไหลวนคืนคุณค่าลงจิตลงใจผู้ที่ได้สัมผัสรูปธรรมนั้นต่อไป...ขอบพระคุณพี่นิด-ฐิรพร ที่กรุณาแบ่งปันเรื่องเล่าดีๆค่ะ

                      ๑๗ เมษายน ๒๕๕๓


 

 

หมายเลขบันทึก: 352193เขียนเมื่อ 17 เมษายน 2010 17:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • มาอ่านเรื่องราว
  • กับอีกอาชีพหนึ่ง
  • ที่เสียลละและอดทน
  • เป็นกำลังใจค่ะ.

ขอบพระคุณ "ครูแป๋ม"

ร่วมปลื้มใจกับ พี่นิด-ฐิรพร และพี่น้องชาว รพ.ยโสธร

สำหรับกำลังใจที่ได้รับค่ะ

^_^

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท