กิจกรรม : แลกเปลี่ยนความรู้ผ่าน "หนังสือ" แทนความรักแด่ครอบครัว GotoKnow ทำให้หนูได้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย และหนูได้รับหนังสือ "อัจฉริยบนทางสีขาว" ของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา จาก ผศ.ดร.รุจโรจน์ แก้วอุไร และหนังสือ "เมื่อโลกไร้สนามแม่เหล็ก" จากเด็กชายศุภวิทย์ แก้วอุไร
หนูขอกราบขอบพระคุณท่าน อ.หนึ่ง ผศ.ดร.รุจโรจน์ แก้วอุไร และเด็กชายศุภวิทย์ แก้วอุไร เป็นอย่างสูงที่ได้มอบหนังสือดีมีคุณค่าให้แก่ทีมงานเพื่อจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนความรู้ผ่าน "หนังสือ" แทนความรักแด่ครอบครัว GotoKnow ทำให้หนูได้เพิ่มพูนสติปัญญา ได้แนวคิดจากการอ่านหนังสือทั้งสองเล่มเป็นอย่างมาก
หนูเคยได้อ่านหนังสือของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา มาแล้วหลายเล่ม แต่เล่มนี้หนูเพิ่งได้อ่านค่ะ สำหรับข้อคิดที่หนูอยากจะถ่ายทอดออกมาให้ท่านผู้อ่านมองเห็นคุณความดีของหนังสือ "อัจฉริยบนทางสีขาว" คือ
การฝึกสมาธิให้จิตใจสงบ รู้ลมหายใจเข้าออก และการฝึกสมาธิเป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยให้เราหันกลับมามองดูตัวเราเอง และเมื่อรู้ตัวแล้ว เราก็จะรู้ว่าตัวเรามีความสามารถมากมาย ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้หากเราพยายามและมีความตั้งใจจริง และที่สำคัญคือเราจะรู้ว่าทุกคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเรา เราจะมีความรักความเมตตาให้กับทุกคน ช่วยเหลือทุกคนและทำประโยชน์ให้กับส่วนรวม และในที่สุดความเสียสละก็จะเกิดขึ้น นี่คือการที่เราก้าวไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ คือเป็นคนไม่เห็นแก่ตัว มีคุณธรรมสูง และในขณะเดียวกันเราก็สามารถประสบความสำเร็จในทางโลกได้อีกด้วย
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของการฝึกสมาธิคือทำให้การเรียนเป็นเรื่องที่ง่าย ไม่จำเป็นต้องไปท่องหนังสืออะไรมากมาย เพราะเมื่อมีสมาธิ ฟังคุณครุอธิบายก็จะจำได้ง่ายและเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าเราจะทำงานอะไร เมื่อมีสมาธิดีงานนั้นก็จะดีและมีประสิทธิภาพ สมาธิจึงถือเป็นพื้นฐานของการศึกษาและพื้นฐานของชีวิต
เรื่องราวที่หนูได้เล่าไว้ข้างต้นนี้ เป็นเรื่องราวที่หนูได้อ่านจากหนังสือ"อัจฉริยบนทางสีขาว" หนูได้สรุปเล่าตามความคิดเห็น ตามความเข้าใจของหนูจากที่หนูอ่านไปแล้วเป็นบางตอน
หนูอ่านหนังสือของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา หลายเรื่องแล้ว เรื่องที่หนูเคยชอบมากก็คือ "นิทานสีขาว" ซึ่งหนูอ่านจบไปนานแล้วค่ะ ในแต่ละเรื่องของดร.อาจอง ฯ เป็นเรื่องราวที่มีข้อคิดสอนใจมากมาย เช่นนิทานสีขาวเป็นเรื่องการสอนแบบนิทาน สำหรับข้อคิดจากหนังสือ "อัจฉริยบนทางสีขาว" ทีหนูกำลังอ่านอยู่นี้ หนูได้ข้อคิดว่า " คนเราจะทำอะไรต้องมีสมาธิอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะทำให้มีสติต่อเราทั้งทางตรงและทางอ้อม สิ่งสำคัญต้องมองและรู้จักตัวเองให้มาก ๆ ว่าตัวเราเป็นอย่างไร มีความสามารถด้านใดบ้าง ควรนำความสามารถออกมาใช้ให้ถูกต้องและเหมาะสม เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและประโยชน์ส่วนตน เมื่อสังคมมีความสุขเราก็จะมีความสุขไปด้วย
ขอขอบคุณภาพจาก http://images.google.co.th/imglanding? ค่ะ
คิดถึงท่านก็ชมภาพกิจกรรมได้ที่นี่นะจ๊ะน้องนัท..โรงเรียนสัตยาไส
ยินดีด้วยนะจ๊ะ
จะได้เป็นอัจฉริยะบนทางสีขาว
ดีใจด้วยที่ น้องนัทเก็บสาระประโยชน์ทางปัญญาไว้เป็นทุนในการดำเนินชีวิตจ้ะ
หวัดดี น้องนัท
หนังสือเขาพิมพ์ออกมาให้คนอ่าน...
ถ้าไม่อ่าน ก็ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ของคนเขียน...
ยิ่งอ่านแล้วเอามาขยายผลต่อ แบบน้องนัทนี่..สุดยอด...
อยากให้เด็กไทยทุกคน มีนิสัยรักการอ่านแบบนี้บ้างจัง
โดยเฉพาะเด็กสองหนุ่มที่บ้านครูอิง ไม่ค่อยรักการอ่านเลย
รักการคลิ๊กซะมากกว่า
น้องนัทคะ
ครูจิ๋วมีนิทานคุณธรรมที่แต่งเองเยอะเลยล่ะ
ประเดี๋ยวจะอีเมล์ไปให้นะคะ
เปิดอ่านในบันทึกของครูก็ได้(หน้าท้ายๆน่ะ)
เป็นกำลังใจในการเขียนบันทึกนะคะ
สวัสดีค่ะคุณครูอ้อยเล็ก
หนูได้เข้าไปชมภาพกิจกรรมต่าง ๆ แล้วนะคะ ดูแล้วน่าอบอุ่นมากและเป็นภาพที่น่าประทับใจค่ะ
หนูขอขอบพระคุณคุณครูเป็นอย่างสูงนะคะที่ทำให้หนูได้เห็นภาพกิจกรรมเหล่านี้ค่ะ
สวัสดีค่ะคุณป้าแก้ว..อุบล จ๋วงพานิช
หนูขอขอบพระคุณคุณป้ามากนะคะที่เข้ามาทักทายค่ะ
คุณป้าสบายดีไหมค่ะ
สวัสดีค่ะคุณป้านาง นงนาท สนธิสุวรรณ
หนูดีใจมากนะคะที่คุณป้าเข้ามาทักทายค่ะ
คุณป้าสบายดีหรือเปล่าค่ะ
หนูจะอ่านหนังสือให้มากขึ้นเพื่อเก็นสาระประโยชน์ทางปัญญาไว้เป็นต้นทุนในการดำเนินชีวิตค่ะ และหนูจะตั้งใจในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ค่ะ
รูปภาพน้องแมวนี้น่ารักดีนะคะ
สวัสดีค่ะคุณลุงเกษตร(อยู่)จังหวัด
หนูขอขอบพระคุณคุณลุงมากนะคะที่เข้ามาชื่นชมหนูและแวะเข้ามาทักทาย รวมถึงข้อคิดดี ๆ ของคุณลุงค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูอิงจันทร์
ที่โรงเรียนของหนู ตอนแรกนักเรียนก็ไม่ค่อยรักการอ่านค่ะ แต่คุณครูได้แก้ปัญหาโดยการจัดกิจกรรมห้องสมุด ซึ่งนักเรียนก็ชอบมาก กิจกรรมนั้นมีชื่อว่า "รักการอ่าน รักการเขียน เรียนรู้จากห้องสมุด" ซึ่งนักเรียนได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทำให้นักเรียนสนใจการอ่านมากยิ่งขึ้นค่ะ รวมไปถึงการเขียนบันทึกซึ่งคุณครูคิมเป็นผู้สอนให้แก่นักเรียน ตอนนี้นักเรียนโรงเรียนวิทยสัมพันธ์ก็มีบล็อกกันหลายคน และการเขียนบันทึกนี้ก็เป็นการสอนให้เด็กรักการอ่านได้เช่นกันค่ะ
หนูขอขอบพระคุณคุณครูมากนะคะ
สวัสดีค่ะคุณครูภัทรานิษฐ์
หนูขอขอบพระคุณคุณครูเป็นอย่างสูงนะคะที่เข้ามาทักทายและมาให้กำลังใจค่ะ
ตอนนี้หนูยังไม่ได้เข้าไปอ่านนิทานคุณธรรมของคุณครูเลยค่ะ แต่หนูจะพยายามเข้าไปอ่านให้ได้นะคะ
สวัสดีจ้าน้องนัท
ชอบอ่านนิทานเหมือนพี่เลย อิอิ
ขอบคุณที่แบ่งปันข้อคิดดีๆ สาระดีๆ ที่ได้รับจากหนังสือนะจ๊ะ...สงสัยพี่ต้องไปหาอ่านแล้วล่ะ
แวะมาอ่านเรื่องราวดีๆ อีกครั้งนะคะน้องนัท
ขอบคุณมากค่ะ^__^
สวัสดีค่ะคุณพี่blue_star
หนูชอบอ่านหนังสือนิทานมานานแล้วนะคะ และเหตุผลที่หนูชอบก็คือหนังสือนิทานมีข้อคิดสอนใจมากมายค่ะ ส่วนหนังสืออื่นก็ได้ข้อคิดเช่นกัน แต่นิทานได้ทั้งข้อคิดและความร่าเริงสนุกสนาน ทำให้อารมณ์ดีได้ด้วยค่ะ
หนูขอขอบพระคุณคุณพี่มากนะคะที่เข้ามาทักทายค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่ต้นเฟิร์น
หนูขอขอบพระคุณมากนะคะที่คุณพี่เข้ามาทักทายอีกครั้งค่ะ หนูดีใจมากนะคะ และหนูต้องขออภัยด้วยนะคะที่ตอบเม้นท์ช้าค่ะ
สวัสดีครับน้องนัท
เคยอ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ดีมาก ๆ ครับ
ว่าจะหาโอกาสไปเยี่ยมโรงเรียนสัตยาไสสักคราวครับ
สวัสดีค่ะคุณอาหนานเกียรติ
หนังสือเล่มนี้ตอนนี้หนูกำลังอ่านอยู่ หนูได้เริ่มอ่านตั้งแต่หน้าปกแต่ยังอ่านไม่จบเลยค่ะ
หนูขอขอบพระคุณคุณอามากนะคะที่แวะเข้ามาทักทายค่ะ