"จุดกำเนิด บิครัม โยคะ"


"บิครัม"... เป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันโยคะระดับชาติของอินเดียที่อายุน้อยที่สุดเพียง 18 ปี และสามารถครองตำแหน่งนี้ติดต่อกัน 3 ปี จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาโยคี” แห่งศตวรรษที่ 20

"...จุดกำเนิด บิครัม โยคะ..."

     "บิครัม"... เป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันโยคะระดับชาติของอินเดียที่อายุน้อยที่สุดเพียง 18 ปี และสามารถครองตำแหน่งนี้ติดต่อกัน 3 ปี จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชาโยคี” แห่งศตวรรษที่ 20 นอกจากนี้ยังประสบความสำเร็จในอาชีพนักกีฬายกน้ำหนักโอลิมปิก เมื่ออายุ 20 ปี

     พอปีถัดมา บิครัม โชคร้ายประสบอุบัติเหตุกระดูกเข่าแตก แต่ได้รับความช่วยเหลือจาก บิชนุ โกช สอนให้ บิครัม ใช้โยคะฟื้นฟูร่างกาย จนกระทั่งเดินได้เหมือนคนปกติ อย่างไรก็ดี ระหว่างที่ฝึกโยคะก็เกิดแรงบันดาลใจให้คิดค้นชุดท่าโยคะขึ้นมารวม 26 ท่าต่อเนื่องกัน รวมทั้งการฝึกโยคะในห้องที่มีการปรับอุณหภูมิหรือที่เรียกว่า โยคะร้อนในปัจจุบัน

     เมื่อบิครัมฝึกจนชำนาญ ก็ได้เดินทางไปเผยแพร่โยคะร้อนในประเทศต่างๆ เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ จนได้รับการยอมรับ โดยเฉพาะที่สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น รวมๆ แล้วเป็นเวลากว่า 30 ปี

    นอกจากจะคิดค้นชุดท่าโยคะ 26 ท่า ยังตั้งชื่อได้กิ๊บเก๋อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น

การหายใจแบบปราณยาม
ท่านี้ช่วยในการขยายปอด ให้ปอดทำงานอย่างเต็มที่ ช่วยให้ระบบการหายใจดีขึ้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นระบบต่างๆ ภายในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบประสาท หรือระบบการไหลเวียนโลหิต แล้วยังช่วยลดอาการความดันโลหิตสูงอีกด้วย

จันทร์ครึ่งดวง
สำหรับท่านี้จะพัฒนาสร้างเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ช่วงกลางลำตัว โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหน้าท้อง และช่วยระบบภายในช่วงท้อง เช่น ลำไส้ ตัว มีการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันก็เพิ่มความยืดหยุ่นช่วงกระดูกสันหลัง จึงลดปัญหาการปวดหลังบริเวณช่วงล่าง

ยืนก้มศีรษะจดเข่า
ท่านี้เพิ่มความยืดหยุ่นของกระดูกสันหลังและกระดูกสะโพก รวมถึงสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อต้นขาด้านในและกล้ามเนื้อหน้าท้อง ประการสำคัญช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกายอีกด้วย

ท่างุ่มง่าม (นั่งเขย่ง)
ท่านี้เหมาะสำหรับการพัฒนาสมาธิ ฝึกความอดทนและความมุ่งมั่น สร้างความแข็งแกร่งทางด้านจิตใจ ช่วยกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้อง ต้นขา รวมทั้งสร้างความแข็งแรงกับกล้ามเนื้อน่อง...ท่านี้ช่วยให้ก้นงอน สวยและกระชับค่ะ..

ยืนโค้งคันศร
สำหรับท่านี้เป็นการควบคุมความสมดุลของร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้ยังช่วยระบบการเต้นของหัวใจดีขึ้น เนื่องเพราะไปกระตุ้นการไหลเวียนของหลอดเลือดและลดปัญหาอาการปวดหลัง ขณะเดียวกันยังช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพดูแล้วสง่างาม

ยืนปลายเท้า
การยืนด้วยปลายเท้านั้น ช่วยเสริมสร้างและพัฒนาความแข็งแรงของร่างกาย ช่วยกระชับกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นต้นขา สะโพก ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโรคไขข้ออักเสบ โรคเกาต์

ยืนแยกขาก้มศีรษะจรดเข่าหรือพื้น
ท่านี้จะมีประโยชน์ทั้งกล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็น ตลอดจนอวัยวะภายในร่างกาย นอกจากนี้ยังเป็นการปรับฮอร์โมนภายในร่างกายให้เกิดความสมดุล ซึ่งเหมาะกับผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยทอง

นอนหงายตรึงกับที่
การนอนนิ่งๆ อยู่กับที่ซักพักหนึ่งหลังจากผ่านการฝึกโยคะท่าต่างๆ มาแล้ว จะช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดกลับสู่ในสภาวะปกติ ช่วยให้การเต้นของหัวใจช้าลง ลดความดันโลหิต

    ท่าโยคะทั้ง 26 ท่า ทุกคนสามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตนเอง เพียงแต่ช่วงแรกๆ ควรอยู่ในความดูแลของครูฝึก เพื่อดูว่าทำได้อย่างถูกต้องหรือไม่ แล้วฝึกจนชำนาญแล้วค่อยนำกลับไปปฏิบัติเองที่บ้านค่ะ...ทั้งหมดเป็นเพียงน้ำจิ้มเล็กๆน้อยๆ เท่านั้น เสน่ห์ของโยคะร้อนยังมีอีกมาก แล้วพบกันใหม่ในบันทึกหน้าค่ะ

 _เอื้องแสงเดือน_

หมายเลขบันทึก: 338706เขียนเมื่อ 21 กุมภาพันธ์ 2010 00:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 เมษายน 2012 01:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณค่ะ..สบายดีนะคะท่านพี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท