เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน ตอนพลายงามได้นางศรีมาลา และตอนขุนแผนแก้พระท้ายน้ำ


เหตุการณ์ ๒ ตอนนี้เกิดขึ้นระหว่างขุนแผนและพลายงามเดินทางไปทำศึก ต้องผ่านเมืองพิจิตรจึงแวะหาพระพิจิตร เพื่อรับม้าสีหมอก พลายงามได้ตกหลุมรักนางศรีมาลาธิดาของเจ้าเมืองพิจิตร จึงหมั้นนางศรีมาลาไว้ก่อน ต่อจากนั้นได้เดินไปแก้พระท้ายน้ำซึ่งติดอยู๋ในคุก และนำทัพไปตีเชียงใหม่ต่อไป

ตอนพลายงามได้นางศรีมาลา 

 

ขุนแผนพลายงามเยี่ยมพระพิจิตร

               ฝ่ายพระพิจิตรเจ้านางบุษบามีลูกสาวคนหนึ่งชื่อ นางศรีมาลา ก็ฝันเห็นดอกบัวและบ่าวได้ทำนายว่าจะได้คู่ครอง

               ขุนแผนชวนพลายงามไปเยี่ยมพระพิจิตรที่จวน พระพิจิตรเห็นขุนแผนมาเยี่ยมก็ดีใจ  แล้วขุนแผนแนะนำว่าพลายงาม คือลูกของนางวันทอง รวมทั้งเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้ฟัง  พระพิจิตรก็บอกว่าตนก็มีลูกสาวคนหนึ่ง  ถ้าหากเป็นผู้ชายก็อยากจะให้ไปทัพด้วย  แล้วได้เรียกนางศรีมาลามาไหว้ขุนแผน  พลายงามเมื่อเห็นนางศรีมาลาก็หลงรัก แล้วขุนแผนได้ถามถึงม้าสีหมอก  พระพิจิตรบอกว่า ม้าสีหมอกนั้นได้เลี้ยงดูอย่างดี 

              ขุนแผนชวนพลายงามไปดูแล้วเสกหญ้าให้กิน  ม้าสีหมอกมองหานางวันทองไม่พบก็เสียใจจนน้ำตาคลอ  แต่เมื่อรู้ว่าจะได้ไปทัพกับขุนแผนอีกก็ดีใจ  แล้วขุนแผนจึงเด็ดยอดหญ้ามาเสกด้วย  พระเวทมุขใหญ่ป้อนให้กิน  ทำให้ม้าสีหมอกมีกำลังดังเดิม  ขุนแผนได้บอกกับพลายงามว่า  ฤกษ์เสาร์เก้าชั้นจะยกทัพไปแล้ว  พลายงามนึกอาลัยนางศรีมาลามากก็ทัดทานว่า  ไม่ควรรีบเดินทัพ  ควรจะพักเหนื่อยสักระยะหนึ่งก่อน  รวมทั้งตนจะปลุกเครื่องอีกสักครั้ง  ขุนแผนรู้ทันพลายงามจึงบอกว่า  พรุ่งนี้เป็นวันดีจะไปปลุกเครื่องในป่า


พลายงามเข้าเรือนศรีมาลา

               คืนนั้นพลายงามคิดถึงแต่นางศรีมาลา เมื่อขุนแผนเข้านอนพลายงามก็เป่ามนต์สะกดให้ขุนแผนและทุกคนในจวนหลับ  แล้วสะเดาะกลอนเข้าไปหานางศรีมาลา พร้อมกับคลายมนต์สะกดเมื่อนางศรีมาลาตื่นขึ้นเห็นพลายงามก็ตกใจจนสลบไป  เมื่อพลายงามแก้ไขจนฟื้นปลอบประโลมให้คลายใจและได้นางเป็นเมีย พอรุ่งสางพลายงามออกมาจากห้อง   นางศรีมาลาพบขุนแผน ขุนแผนก็ต่อว่าพลายงามว่า ไม่ควรไปล่วงเกินลูกสาวผู้มีพระคุณ พลายงามจึงบอกว่าตนรักนางมาก  ขุนแผนจึงว่า เมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยไปถึงขั้นนี้  ก็อย่าทิ้งขว้างนางมิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย


ขุนแผนขอนางศรีมาลาให้พลายงาม

              รุ่งขึ้น ขุนแผนก็ไปขอหมั้นนางศรีมาลาให้กับพลายงาม พระพิจิตรยอมยกให้ โดยบอกว่า เมื่อเสร็จศึกกลับมาแล้ว ในเดือนนี้จะจัดงานแต่งงานให้

              เมื่อได้ฤกษ์ขุนแผนและพลายงามก็เดินทัพต่อ จนถึงเมืองพิษณุโลก แวะไหว้พระชินราช พระชินสีห์ ที่วัดมหาธาตุ แล้วไปสวรรคโลกผ่านป่าเขา  ทำให้พลายงามคิดถึงนางศรีมาลามาก

"ถ้าแม้นแก้วแววตามาด้วยพี่

 

จะชวนชี้ชมไม้ไพรพฤกษา

คิดพลางเดินพลางตามทางมา

 

ข้ามท่าเขินเขาลำเนาธาร

แลเห็นเขาเงาเงื้อมชะง่อนชะโงก

 

เป็นกรวยโกรกน้ำสาดกระเซ็นซ่าน

โครมครึกกึกก้องท้องพนานต์

 

พลุ่งพล่านมาแต่ยอดศิขรินทร์

เป็นชะวากวุ้งเวิ้งตะเพิงพัก

 

แง่ชะงักเงื้อมชะง่อนล้วนก้อนหิน

บ้างใสสดหยดย้อยเหมือนพลอยนิล

 

บ้างเหมือนกลิ่นพู่ร้อยห้อยเรียงราย

ตรงตระพักเพิงผาศิลาเผิน

 

ชะงักเงิ่นเงื้อมงอกชะแง้หงาย

ที่หุบห้วยเหวหินบิ่นทะลาย

 

เป็นวุ้งโว้งโพรงพรายดูลายพร้อย

บ้างเป็นยอดกอดก่ายตะเกะตะกะ

 

ตะขรุตะขระเหี้ยนหักเป็นหินห้อย

ขยุกขยิกหยดหยอดเป็นยอดย้อย

 

บ้างแหลมลอยเลื่อมสลับระยับยิบ

บ้างงอกเง้าเป็นเงี่ยงบ้างเกลี้ยงกลม

 

บ้างโปปมเป็นปุ่มกะปุบกะปิบ

บ้างปอดแป้วเป็นพูดูลิบลิบ

 

โล่งตลิบแลตลอดยอดศิขรินทร์....."

 

"...แลดูหมู่วิหกนกนา

 

สาริกาพูดจ้ออยู่จอแจ

คุ่มขาบเขาขันสนั่นป่า

 

กระสาจับกระสังส่งเสียงแซ่

กระลิงจับกิ่งประโลงแล

 

คับแคไต่คางริมทางจร

ค้อนทองจับบนต้นกะถิน

 

แก้วจับแก้วกินแล้วบินร่อน

นกยูงจับยางแผ่หางฟ้อน

 

กะทุงทองจับกระท้อนทำอ่อนคอ

กระจาบจ้อยโจนจับกระเจาเจ่า

 

แซงแซวเซาจับสนดูซอมซ่อ

นกกระไนไก่ฟ้าพญาลอ

 

นกกรอดพลอดจ้ออยู่กิ่งจันทน์

นกเขาจับเงื้อมเขาแล้วเคล้าคู่

 

จู่หุกกูจู้ฮุกกูเฝ้าคูขัน..."

 

ขุนแผนพลายงามปรึกษาการศึก

               เดินทางมา 14 วัน เมื่อใกล้ถึงเมืองเชียงใหม่ ขุนแผนปรึกษากับพลายงามว่าหากจะเข้า ไปตีเมืองเลยคงไม่ดี ด้วยมีพระนายท้ายน้ำและไพร่ไทยเป็นประกันอยู่  ควรจะลอบเข้าไปพาตัวออกมาก่อน และควรจะได้ปลอมตัวเป็นลาวเข้าไปเพื่อไม่ให้ใครสงสัย

              มีลาวพ่อลูกปลูกบ้านอยู่ที่ไร่ชายป่า จะถึงที่ตายก็ให้หงุดหงิดชวนกันเข้าป่า มาถึงที่ขุนแผนกับพลายงามซ่อนตัว จึงถูกขุนแผนฆ่าตาย  แล้วขุนแผนได้ตัดเอาผมและทำเครื่องแต่งกายมาสวมใส่เพื่อปลอมตัว  แล้วยังได้ปลุกผีสองพ่อลูกมาสั่งว่า เมื่อจะเข้าเมืองจะให้ทั้งสองพาเข้าไป   จากนั้นก็กลับไปยังที่พัก พลไพร่ไทยเห็นขุนแผนและพลายงามก็นึกว่าเป็นลาว  เพราะปลอมตัวได้เหมือนมาก

 

 

ตอนขุนแผนแก้พระท้ายน้ำ


พระท้ายน้ำติดคุก

              รุ่งขึ้น ขุนแผนและพลายงาม ได้ปลอมตัวแบบลาว  แล้วให้ผีลาวพ่อลูกพาเข้าเมืองไปถามพวกแม่ค้า ถึงไพร่ไทยที่ถูกจับมาว่า ได้ข่าวว่ามีไทยถูกจับไว้อยู่ที่ไหนอยากจะเห็น  เมื่อรู้ว่าถูกขังอยู่ที่ไหนก็รีบเข้าไปจนถึงคุก  พบตาหลอกับตารักชาวไทยถูกจับ จึงได้นัดแนะให้ไปบอกพระนายท้ายน้ำและคนอื่น ๆ ให้รู้ว่า  จะเข้าไปช่วยในเวลาห้าทุ่ม ให้เตรียมตัวไว้ ส่วนตาหลอได้แนะว่า ก่อนจะถึงห้าทุ่ม ขุนแผนและพลายงามควรจะไปซ่อนตัวที่ กุฎิวัดหนังหลังคุกก่อน


แก้พระท้ายน้ำออกจากคุก

             เมื่อถึงเวลาห้าทุ่มขุนแผนก็ไปคุกร่ายมนตร์สะกดผู้คุมและทุกคนจนหลับ แล้วสะเดาะกลอนเข้าไปและคลายมนต์  สะกดพวกไทยที่ในคุก  พร้อมกับเสกข้าวสารซัดจนเครื่องจองจำหลุดหมดทุกคนแล้วพากันหนีออกมา บางคนถูกขังคุกนานจนง่อยเปลี้ยเสียขา  ต้องเอาม้ามาขี่หนี

             รุ่งเช้า ผู้คุมลาวเข้าไปเบิกคนโทษมาทำงาน พบว่านักโทษไทยหนีไปหมด  แล้วไทยได้เขียนหนังสือบอกไว้  จึงรีบเข้าไปเฝ้าพระเจ้าเชียงใหม่ เมื่อพระเจ้าเชียงใหม่รู้ว่า  พระพันวษาแห่งศรีอยุธยาสั่งให้ขุนแผนกับพลายงามนำทหารสามสิบห้ามาทำศึก  เพราะเชียงใหม่ไปชิงตัวนางสร้อยทองมา  หากรักตัวกลัวตายให้ส่งนางสร้อยทองคืน และขอโทษยอมรับว่ากลัวตายจะยกโทษให้


พระเจ้าเชียงใหม่ให้เตรียมทัพ

               พระเจ้าเชียงใหม่ฟังแล้วแค้นใจและโกรธส่งทหารไปสืบ  เมื่อรู้ว่าพักพลอยู่แถวบึงใหญ่  ก็ให้ท้าวกรุงกาฬและแสนตรีเพชรกล้า คุมทัพไปจับตัวมาทั้งหมด

               ฝ่ายแสนตรีเพชรกล้า  เมื่อได้รับคำสั่งให้เป็นแม่ทัพยกไปรบกับทัพไทย ก็ปลุกเศกเครื่องและวิชา  พร้อมกับเสกน้ำอธิษฐาน

 

"...ถ้าจะเกิดอันตรายวายชีวิต

 

ในนิมิตน้ำแดงเป็นแสงฝาง

ถ้าไม่ชนะไม่แพ้แต่ปานกลาง

 

น้ำเป็นอย่างสีรงลงละลาย

ถ้าจะไปมีชัยแก่ข้าศึก

 

น้ำเลื่อมดังผลึกวิเชียรฉาย..."

 

                 เมื่ออธิษฐานน้ำกลายเป็นสีแดง ก็รู้ว่าชะตาตนจะถึงฆาตก็ให้นึกกลัว ส่วนท้าวกรุงกาฬเมื่อจะขึ้นขี่ช้างก็เกิดลางร้าย เห็นรูปนิมิตเป็นคนหัวขาด  ก็รู้ว่าจะต้องตายเช่นกัน

 

ทัพไทยกับทัพเชียงใหม่รบกัน

                เมื่อสองทัพเข้าประจันหน้ากัน  แสนตรีเพชรกล้าเข้าต่อสู้กับพลายงาม ต่างฝ่ายต่างใช้คาถาอาคมเข้าต่อสู้กัน  ไม่อาจแพ้ ไม่อาจชนะ  จนทหารของลาวอ่อนกำลังลง  ท้าวกรุงกาฬจึงยกพลเข้าช่วย   ส่วนแสนตรีเพชรกล้านั้นเมื่อเพลี่ยงพล้ำแต่ก็ฆ่าไม่ตาย  ขุนแผนก็บอกให้เอาหลาวมาสวนทวารจนตาย

"ขุนแผนร้องว่าอย่ามี่ฉาว                  เฮ้ยพวกเราเอาหลาวทะลวงก้น
ถึงมาตรแม้นอยู่ยงมันคงทน           แยงให้จนถึงคอคงมรณา"

 

พระเจ้าเชียงใหม่ให้รักษาเมือง

                 ฝ่ายพระเจ้าเชียงใหม่  เมื่อรู้ข่าวว่าทัพของตนพ่ายแพ้ก็สลดใจ แต่ด้วยมานะกษัตริย์ ก็สั่งให้เสนารักษาเมือง โดยให้ตั้งค่ายให้มั่นคง

 

"....ให้เร่งรัดจัดรักษาซึ่งเวียงชัย

 

ให้ตั้งค่ายรายไปรอบพารา

ปิดทวารทั้งนั้นให้มั่นคง

 

ลงเขื่อนไม้แก่นให้แน่นหนา

ปืนหามแล่นเอาจุกทุกเสมา

 

คาบศิลาใส่ตับลำดับไว้

ที่ขอบค่ายนั้นให้รายปืนจ่ารง

 

ที่ช่องตรงประตูกลางวางปืนใหญ่

เอาประขาวกวาดวัดทั้งฉัตรชัย

 

จุกใส่ให้ทุกช่องทวารา

บนกำแพงทวารข้างด้านใต้

 

จงเอาซุงแขวนไว้ให้หนักหนา

แม้นข้าศึกฮึกโหมโจมเข้ามา

 

เอามีดพร้าตัดทับให้ยับไป

ในกำแพงถากถางหนทางเดิน

 

แถวถนนบนเชิงเทินให้กว้างใหญ่

ที่ตรงหว่างวางปืนกองฟืนไฟ

 

คั่วกรวดทรายไว้ให้ทุกกอง

ให้กรมเมืองร้องป่าวชาวประชา

 

ผู้ดีไพร่ให้เข้ามาทุกบ้านช่อง

นั่งยามตามไฟเที่ยวสอดมอง

 

ตีฆ้องตรวจตระเวนกะเกณฑ์กัน...

 

 

 

 

.....สระบ่อท่อธารบ้านของใคร

 

ขุดไขน้ำเข้าให้เต็มที่

ข้าวปลานาไร่ของใครมี

 

ให้ขนมาไว้ที่นี่สิ้นทั้งนั้น......

.....ถ้าข้าศึกเข้าด้านใครอย่าไว้มัน                  เอาไปฟันเสียบเสียสาใจ .....

 

                   แล้วได้ตรัสสั่งอีกว่า  หากข้าศึกบุกเข้าถึงตัวเมือง ก็อย่าเพิ่งออกรบให้ตั้งมั่นไว้  นอกเมืองก็ให้เผายุ้งฉางให้หมด  ทัพไทยก็จะอดอยากเมื่อนั้นก็จะได้ไปฆ่าให้หมด

 

 

 

อ้างอิง

อุดม ดุจศรีวัชร. (๒๕๓๓). ขุนช้างขุนแผน. กรุงเทพฯ : อักษราพิพัฒน์.

หมายเลขบันทึก: 335681เขียนเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2010 20:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 00:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

พี่ครับผม กลอนมันยาว ยาวจริงหนอ

โอละพ่อ ห่อเหี่ยว แม้เหลียวหลัง

อยากให้พ่อ ตัดกลอน เป็นบทๆ ดีกระมัง

ทีกะหลัง ผมจะมา ขอแลดู

 

จะกล่าวโทษ โกรธเคือง ก็ขอเถอะ

ติเพื่อก่อ ทำดีเลิศ ประเสริฐศรี

เอามาลง ก็ดีแล้ว แต่จะให้ดี

อยากให้พ่อ แยกบท จนจบกลอน

 

จริงๆแล้ว ผมเอง แต่งกลอนไม่เก่ง

หัดมาเอง ผิดถูกบ้าง ช่างกระผม

แต่พยายามแล้ว ดีชั่ว ที่ตัวตน

อันกระผม อยากให้พพี่ ดีขึ้นเอย เฮ้อ จบซะที

 

แปล

ขอบคุณครับที่เอาบทความวรรณคดีไทยมาลง

ผมชอบมากๆเลยครับ ก็ผมคนไทย ชอบของไทย

แต่จะให้ดี อยากให้พี่ ตัดทอนให้อ่านได้หลายๆตอนครับ

เหมือนว่าดูละครแล้วต้องมี โฆษณาคั่น เพื่อความเป็นอรรถรสครับ

ติเพื่อก่อ อย่าว่ากันนะครับ คุณพี่

ขอบคุณครับ...

Mr.จับถูก

ที่มาติชม

เดี๋ยวผมจะแก้ไขปรับปรุง

ให้อ่านง่ายๆ ครับ

ว่าแต่แต่งกลอนดีจัง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท