ในระยะสองสามเดือนที่ผ่านมา ผมมีวาสนาที่ได้รับพระกรุยุคทวาราวดีมาบูชา เป็นจำนวนหลายองค์ ที่นับได้ว่ามากพอที่จะจัดหมวดหมู่ทั้งในเชิงของวัสดุ และศิลปะ ได้อย่างหลากหลาย
เนื่องจากผมมีพรรคพวกที่รู้ว่าผมชอบนำมาให้ก็บ่อยมาก จนเกือบจะเป็นทุกวัน
ทำให้ผมสามารถศึกษารูปแบบของพระพุทธรูปได้
เช่น ที่ผมเคยเขียนไปแล้วก็ พระจุฬามณี ที่เป็นทั้งต้นแบบของพระนางพญา และพระพุทธชินราช และพระหลักๆของเมืองพิษณุโลก
พระจุฬามณี ที่เป็นต้นแบบของพระนางพญาพิษณุโลก
ลักษณะของซุ้มพระจุฬามณี ที่เป็นซุ้มของพระพุทธชินราช
เมื่อหลายเดือนก่อนผมก็ได้ พระทวาราวดีของภาคกลาง ที่มีเค้าร่างของพระพุทธรูปศิลปะอู่ทอง
พระทวาราวดีไม่ทราบที่ ที่มีเค้าของพระอู่ทอง
และน่าจะเป็นต้นแบบของพระหูยานลพบุรี
(หนึ่งในห้า เบญจภาคีเนื้อชิน)
เมื่อเดือนที่แล้วก็ได้พระกรุดอยคำ ที่เป็นเค้าร่างของพระรอด
พระกรุดอยคำ ยุคทวาราวดี ที่พิมพ์เดียวกับพระรอดลำพูน
เมื่อวันก่อนผมก็ได้พระทวาราวดี ที่เป็นเค้าร่างของพระร่วงนั่ง
พระทวาราวดี ไม่ทราบที่ ที่เป็นต้นแบบของพระร่วงนั่งลพบุรี
พระทวาราวดี ไม่ทราบที่ ที่น่าจะเป็นต้นแบบของพระร่วงยืน ศิลปะลพบุรี
เมื่อวานผมก็ได้พระทวาราวดี ที่มีลักษณะคล้ายพระศิลปะเชียงแสน และศิลปะพระกำแพงเพชร (ดังรูป)
พระทวาราวดี ที่น่าจะเป็นต้นแบบของพระกรุเชียงแสน
เมื่อมีเหตุการณ์คล้ายคลึงกัน ผมจึงได้สรุปคร่าวๆว่า พระทวาราวดี ได้เป็นต้นแบบของพระกรุในระยะหลังๆ ตั้งแต่ยุคลพบุรี เชียงแสน ลำพูน สุโขทัย และอยุธยาตามลำดับ
ที่เป็นวิวัฒนาการของศิลปที่น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง
ถูกผิดอย่างไรก็หวังว่าผู้รู้จะชี้แนะครับ
ได้ยินมาว่าพระเครื่องบริเวณเทือกเขาภูพานมีอายุร่วมสมัยทราวดีโดยเฉพาะบริเวณไหล่เขาอำเภอเต่างอย