แกนนำ รักษ์ ธรรมชาติ

เรามาดูแนวคิดผู้นำที่มีบทบาทการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติครั้งนี้กันดีกว่าครับ

                สวัสดีครับ  กลับมาเจอกันอีกครั้งกับพวกเรากลุ่มปางจำปา  สำหรับในบันทึกที่แล้วเรา พูดถึงผู้อาวุโสในหมู่บ้านไปแล้ว  ยังมีอีกหลายท่านที่เราจะนำเสนอให้ทุกท่านได้ทราบกันนะครับ  กลุ่มแกนนำ เป็นอีกแรงผลักดันหนึ่งที่ทำให้หมู่นี้เกิดการเปลี่ยนแปลง  ทุกสิ่งทุกอย่างถ้าไม่มีท่านเหล่านี้  เราอาจจะไม่เหลือธรรมชาติของหมู่บ้านบางจำปีต่อไปอีกก็ได้ครับ

พ่อหลวง

                พ่อหลวงเมือง หรือผู้ใหญ่บ้านสุจิตร ใจมา  เป็นแกนนำหลักในการเปลี่ยนแปลงหมู่บ้าน  ตอนเราสัมภาษณ์พ่อหลวง  ท่านดูเขินๆ  เล็กน้อย  ท่านบอกว่า  มีอะไรหลาย ๆ  อย่างที่เกี่ยวกับหมู่บ้านนี้  แต่เล่าวันเดียวเห็นทีก็คงจะไม่หมดล่ะครับ^^

                ท่านบอกว่า  ธรรมชาติของที่นี่ในอดีตนั้น  เป็นต้นไม้ใหญ่  เป็นป่าทึบ  และมีการสัมปทานป่าเกิดขึ้น  โดยใช้คนในหมู่บ้านเป็นแรงงานในการตัดไม้ทำลายป่าด้วย  พ่อหลวงก็คือหนึ่งในนั้นเช่นกัน  จนบริษัทสัมปทานเลิกจ้าง  ทำให้คนในหมู่บ้านตกงาน  เข้าไปทำงานในเมืองเป็นบางส่วน  ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของคนในหมู่บ้าน  และยังมีคนในหมู่บ้านที่เหลืออยู่  พากันทำไร่เลื่อนลอย  หมู่บ้านเกิดวิกฤติอย่างหนัก พ่อหลวงเห็นว่าหมู่บ้านเริ่มจะไม่มีกินไม่มีใช้แล้ว  จึงเกิดความคิดที่จะกลับมาอนุรักษ์ป่าไม้ขึ้นมา  เพื่อให้ลูกหลานมีกินมีใช้ต่อไป

                ตอนแรกที่เริ่มคิดที่จะอนุรักษ์นั้น  มีคนคัดค้านเป็นจำนวนมากเช่นกัน  ชาวบ้านไม่เชื่อถือในตัวของพ่อหลวง  เพราะเมื่อก่อนพ่อหลวงเป็นนักเลงหัวไม้  ขี้เมา  เมามาทะเลาะกับเมีย  ทะเลาะกับชาวบ้าน  เอาปืนยิงขึ้นฟ้า  (พ่อหลวงบอกเองนะครับ)  ทำให้ชาวบ้านไม่เชื่อว่าจะเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ หลังจากนั้นพ่อหลวงจึงเปลี่ยนตัวเอง เลิกเหล้า  เลิกบุหรี่ เลิกทะเลาะวิวาท สร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวบ้านว่าจะเป็นผู้นำที่ดี (ถ้าเราเป็นชาวบ้านในขณะนั้น  เราก็คงภูมิใจเหมือนกัน ที่มีผู้นำชุมชน  อุทิศตนให้กับสังคมขนาดนี้ครับ^^)   พ่อหลวงยังฝากบอกอีกว่า “ให้เรารักป่าเหมือนกับที่เรารักคนในครอบครัวของเราเอง”  ป่าจะได้อยู่กับเราไปนานๆ  ช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยนะครับ

ลุงบุญเสริฐ(ลุงเสริฐ)

                สำหรับลุงเสริฐนั้น  คุณลุงให้ข้อมูลกับเรามากมายเลยทีเดียวครับ  ในขณะที่เราคุยกับคุณลุงนั้น  เราผิงไฟไปด้วย  คุยกันเหมือนคนในครอบครัว ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขช่วงหนึ่งก็เป็นได้ครับ  คุณลุงบอกว่า  การที่เราจะพัฒนาหรืออนุรักษ์อะไรบางอย่างนั้น  ต้องเริ่มต้นจากกลุ่มของแกนนำก่อน  แล้วกระจายความรู้ไปยังชาวบ้าน  แต่ก็เป็นธรรมดาที่เมื่อมีคนสนับสนุนก็ต้องมีคนคัดค้าน  แต่กลุ่มแกนนำก็ยังต่อสู้ที่จะทำต่อไป  จนการอนุรักษ์ดังกล่าวประสบความสำเร็จจนเห็นได้อย่างชัดเจน   ทำให้ชาวบ้านเชื่อถือว่ากลุ่มแกนนำทำได้จริงๆ  ซึ่งจากที่ลุงเสริฐเล่ามา  ทำให้เรามีความสุขไปด้วย  ว่าธรรมชาติจะกลับมาหาเราได้จริงๆ  ถ้าเราร่วมใจและตั้งใจที่จะทำมันจริงๆ

                เราถามคุณลุงว่า  คุณลุงท้อหรือไม่ เมื่อมีคนมาคัดค้านความคิดนี้  คุณลุงตอบเราว่า  จากประสบการณ์ที่ผ่านมา  คุณลุงมั่นใจว่าจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะคุณลุงเคยเห็นมาแล้ว และคุณลุงได้ยึดมั่นในพระราชดำรัสของในหลวง  ทำให้เราซาบซึ้งใจแทนคนไทยทุกคนเลยทีเดียว    คุณลุงยังได้ฝากอีกไว้ว่า  “ธรรมชาติคือชีวิต  ถ้าเราทำลายธรรมชาติก็เท่ากับเราทำลายชีวิตของเราเช่นกัน”

ลุงธนกร(ลุงกร)

                ลุงกรเป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นแกนนำคนสำคัญของหมู่บ้าน  ตอนเราสัมภาษณ์ลุงกร  ลุงได้นั่งกับหลานๆ  ลุงคุยกับเราไปด้วย  สอนหลานๆ ไปด้วย  (น่ารักจริงๆครับ)  ตอนแรกลุงกรก็รู้สึกท้อเหมือนกัน  ถึงกับคิดฆ่าตัวตายเลยทีเดียวครับ T^T  แต่ก็ยังมีคุณลุงเสริฐ พ่อหลวง และชาวบ้านบางกลุ่มที่ยังเป็นกำลังใจให้อยู่  และอีกหนึ่งกำลังใจที่สำคัญ คือ  ในหลวงของเราเอง  ลุงกรรักและเคารพท่านมาก  เพราะท่านคือ  กษัตริย์นักพัฒนา  เมื่อการอนุรักษ์ประสบความสำเร็จและเห็นผลได้อย่างชัดเจน  ชาวบ้านมีความเชื่อถือเพิ่มขึ้น ทำให้ลุงกรมีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป

                ลุงกรไม่เลือกที่จะทำงานในเมือง  เพราะลุงกรคิดว่า  การที่ทำให้บ้านเกิดเมืองนอนของตนเองดีขึ้นนั้นมันดีกว่า  ลูกหลานจะได้มีกินมีใช้ในภายภาคหน้า  และลุงกรยังบอกว่าไม่อยากออกจากบ้านป่านี้เลย  (เราแอบคิดว่า  ยังมีอีกหรือ  คนที่รักบ้านเกิดได้แบบนี้)  และลุงยังได้ฝากข้อคิด  สำหรับคนที่ยังทำลายธรรมชาติอยู่ว่า  “ขอให้ท่านหยุดเถอะ เพราะต้นไม้ คือแหล่งผลิตน้ำ  ผลิตอากาศ  ถ้าไม่มีน้ำ  ไม่มีอากาศ ก็จะไม่มีชีวิต”

                ทุกวันนี้การอนุรักษ์ธรรมชาติของหมู่บ้านปางจำปีประสบความสำเร็จไปด้วยดี  และจะพัฒนาอย่างนี้ต่อไป  และแกนนำของหมู่บ้านยังได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรในที่ต่างๆ อีกด้วยครับ  ในบันทึกหน้านั้น  เราจะเอาเรื่องอะไรมาฝากท่านอีก  ติดตามชมด้วยนะครับ

 

เขียนโดย

                                                                                                                                นายเอกชาย  ธนันไชย

                                                                                                                                รหัส  5214101391