คิดทุกข์สุข...หยุดปีใหม่


ขอบคุณโอกาสวันพักผ่อนดีๆ ปีใหม่ 2553 ที่ทำให้ ดร.ป๊อป คิดทบทวนตนเองระหว่างการท่องเที่ยวเขาดินวนา (สวนสัตว์ดุสิต) หลังจากตั้งใจทำบุญกรวดน้ำขอพร ณ รพ.สงฆ์

ผมตั้งใจตื่นเช้าและขับรถไปทำบุญ ณ วัดแห่งหนึ่ง...ขอบคุณของสังฆทานและปัจจัยที่ครอบครัวของผมเตรียมและฝากให้ผมไปทำบุญด้วย หลังจากที่ทราบความตั้งใจของผมในเช้าวันอาทิตย์นี้...ทั้งๆ ที่ไม่มีจุดหมายแน่ชัดว่าจะไปทำบุญวัดไหน

ก่อนหน้านี้ ผมไปดูแสงสียามค่ำคืนเทศกาล X'mas บริเวณ Central World และไหว้พระพรหมเอราวัณ (ดูรูป)

แต่แล้ววันสิ้นปีนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนสิ้นใจที่หน่วยงานแห่งหนึ่งอีเมล์มาว่า "ผมเป็นผู้ที่มีศักยภาพในการวิจัย แต่จำนวนผู้ที่มีศักยภาพนั้นมากกว่าจำนวนทุนที่มีอยู่อย่างจำกัด" ผมคิดว่า ถ้าปฏิเสธให้ทุนกับผม คณะกรรมการพิจารณาทุนน่าจะแสดงเหตุผลในแง่การแก้ไขข้อบกพร่องเนื้อหาข้อเสนองานวิจัยที่ผมนำเสนอไป ซึ่งต่างจากการตัดสินทุนสมัยที่ผมเรียนอยู่ที่ออสเตรเลีย

จิตใจผมรู้สึกเบื่อๆ ปนกับครุ่นคิดหากระบวนการวิจัยที่ดีกว่าเดิมเพื่อเตรียมสมัครทุนอื่นๆ และมีเป้าหมายจริงๆ ที่ตั้งใจไว้คือ อยากคิดทำชีวิตตนเองให้รู้สึกถึงความสุขก่อนไปทำงานในวันจันทร์ เลยตั้งใจเลือกที่จะทำบุญตอนเช้าๆ ซัก 1 แห่ง...โชคดีที่ผมขับรถไปส่งน้องชายแล้วเหลือบไปเห็น "โรงพยาบาลสงฆ์ ถ.ศรีอยุธยา" ผมจึงคิดได้ว่า ผมอยากเข้าไปทำบุญที่นี่ทันที

ไม่ผิดหวังครับและอยากเชิญชวนกัลยาณมิตรทุกท่านลองหาโอกาสไปทำบุญ ณ รพ.สงฆ์ ผมประทับใจระบบและระเบียบปฏิบัติของการทำบุญในหลายรูปแบบ เช่น

  • การไหว้พระพุทธรูปและถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ที่สุขภาพแข็งแรงในวิหาร  ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นและทางเดินสะอาดตา ผมเตรียมสังฆทานส่วนตัวแบบง่ายๆ ไป พระสงฆ์หนึ่งรูปนำอาราธนาศีล กล่าวถวายสังฆทานและกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศล และนำน้ำที่กรวดไปรดลงที่ต้นไม้ใหญ่ มีการจุดธูปนอกวิหาร และการนำเครื่องสังฆทานมาให้สาธารณชนที่ไม่ได้เตรียมสังฆทานมาได้มีโอกาสใช้ทำบุญต่อได้
  • การแจ้งความประสงค์ถวายจตุปัจจัย พร้อมได้ใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้ มีการถวายเพื่อเป็นค่าเวชภัณฑ์ ค่าสาธารณูปโภค ค่าบำรุงโลหิต และทำบุญอื่นๆ แก่พระสงฆ์ผู้อาพาธ
  • การไหว้พระอาจารย์ชีวกโกมารภัจจ์ แพทย์ประจำพระพุทธเจ้า ด้วยธูป 9 ดอก  พร้อมบทสวดให้ผมระลึกถึงหน้าที่ของนักกิจกรรมบำบัดที่ดีเพื่อสังคมไทย
  • นอกจากนี้หากท่านใดสนใจจองพิธีกรรมเนื่องในวันเกิด วันแต่งงาน และอื่นๆ ที่สะดวกสะบาย และมีที่จอดรถได้ฟรีถึง 2 ชม.

จากนั้นผมนึกถึง "สวนสัตว์ดุสิตหรือเขาดินวนา" ซึ่งผมเคยไปล่าสุดตอนอายุเพียง 6 ขวบ รู้สึกได้เรียนรู้ในมิติความคิดที่ต่อยอดจากประสบการณ์วัยเด็ก เข้าใจประวัติเขาดินและการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่น่าสนใจอย่างมีระบบเช่นกัน ซึ่งค่าธรรมเนียมเข้าชมไม่แพงเลยครับ และมีที่จอดรถสะดวกสบาย ได้แก่

  • การนั่งรถเที่ยวชม 7 สิ่งมหัศจรรย์ในเขาดิน - เราสามารถแวะขึ้นลงรถเพื่อชมสถานที่ต่างๆ ก่อนที่จะถึงจุดเริ่มขบวนรถในสถานีนั้นๆ เพียง 1 รอบ
  • การเข้าชมสัตว์ที่มีในไทยและต่างประเทศ เพิ่งทราบว่าออสเตรเลียมอบจิงโจ้และวอมแบทแก่เขาดินด้วย...เข้าดูพิพิธภัณฑ์ทางธรรมชาติวิทยาซึ่งมีนกเพนกวินน่ารักว่ายน้ำในห้องแอร์...ดูสัตว์ประเภทต่างๆ ที่จัดกลุ่มได้อย่างน่าสนใจ เช่น สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์น้ำ สัตว์ปีก ฯลฯ
  • ชมการแสดงนักกายกรรมจากเคนยาและช้างแสนรู้ที่มาจากอยุธยา
  • ชมการแสดงสัตว์ป่า โดยทีมงานได้วางแผนกระบวนการแสดงได้อย่างน่าชื่นชม เช่น นกเงือกบินคาบปลาตัวเล็กๆในอากาศ ตัวนากว่ายน้ำและเก็บกระป๋องใส่ถังขยะ เป็นต้น ...ผมเองก็ได้สัมผัสงูเป็นครั้งแรกในชีวิตครับ (ดูรูป)

ก่อนจบบันทึกนี้...ผมอยากทิ้งท้ายด้วยบทธรรมะหนึ่งที่อยู่ปกหลังของหนังสือที่ได้มาจากการทำบุญ ณ รพ.สงฆ์

ขออนุญาตคัดลอกมาเตือนสติของตนเองและผู้สนใจ และขออ้างอิงไว้ด้วยความขอบพระคุณอย่างยิ่ง..."อิสระ. คู่มือดับทุกข์ ฉบับสมบูรณ์. ร้านเบทส์ แจกเป็นธรรมบรรณาการ. กรุงเทพฯ: สามลดา".

"เวลาพบกับอารมณ์ที่ไม่น่าพอใจ มันชวนให้ท่านโกรธ หรือเดือดร้อนใจขึ้นมา จงอย่าเพิ่งพูดอะไรออกไป หรือจงอย่าเพิ่งทำอะไรลงไป แต่จงคิดให้ได้ก่อนว่า นี่คือสิ่งที่คนทุกคนในโลกนี้ไม่ปรารถนาจะพบเห็น แต่ทุกคนก็ต้องพบกับมัน สิ่งนี้คือสิ่งที่ท่านจะเอาชนะมันด้วยการสลัดมันให้หลุดออกไปจากใจก่อน ถ้าท่านสลัดมันออกไปจากใจได้ ท่านก็จะเป็นอิสระและไม่เป็นทุกข์ เมื่อท่านไม่เป็นทุกข์เพราะมันก็หมายความว่า ท่านชนะมัน"

 

หมายเลขบันทึก: 324827เขียนเมื่อ 3 มกราคม 2010 20:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

Dr. Pop,

  • ขอแสดงความเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในกรณีของงานวิจัย อย่างไรก็ดี อาตมาเชื่อมั่นว่า โยมมีศักยภาพในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม แม้ใครบางคนจะยังมองไม่ถึง "รากลึกของศักยภาพ" ที่โยมมี แต่อย่างน้อย "ศักยภาพ" ดังกล่าวมันยังคงมีอยู่ และดำเนินอยู่ในใจของโยมอยู่เสมอ
  • ขอให้เชื่อมั่นว่า "วันนี้บางคนอาจจะไม่เจอศักยภาพ" แต่ไม่ได้หมายความว่า "คนอื่นๆ จะไม่เห็นศักยภาพที่เรามี" หาก "เมล็ดพันธุ์ของความใฝ่ดี ความหวัง และแรงบันดาลใจยังไม่มอดไหม้" อาตมาเชื่อว่า "สักวันคน หรือหน่วยงานทีี่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่โยมทำจะเห็น"
  • ยามบุญมา ปัญญาก็ช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็จะรัก
  • งานวิจัยของโยมมีชื่อเรื่องว่าอะไร เป็นงานที่เกี่ยวกับอะไร
  • ขอเป็นกำลังใจให้โยมผ่านพ้นปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยเร็ววัน
  • เจริญธรรม

"เวลาพบกับอารมณ์ที่ไม่น่าพอใจ มันชวนให้ท่านโกรธ หรือเดือดร้อนใจขึ้นมา จงอย่าเพิ่งพูดอะไรออกไป หรือจงอย่าเพิ่งทำอะไรลงไป แต่จงคิดให้ได้ก่อนว่า นี่คือสิ่งที่คนทุกคนในโลกนี้ไม่ปรารถนาจะพบเห็น แต่ทุกคนก็ต้องพบกับมัน สิ่งนี้คือสิ่งที่ท่านจะเอาชนะมันด้วยการสลัดมันให้หลุดออกไปจากใจก่อน ถ้าท่านสลัดมันออกไปจากใจได้ ท่านก็จะเป็นอิสระและไม่เป็นทุกข์ เมื่อท่านไม่เป็นทุกข์เพราะมันก็หมายความว่า ท่านชนะมัน"

 สุดยอดข้อคิดเลยค่ะ


กราบขอบพระคุณท่านธมฺมหาโสภิกขุ

งานวิจัยที่นำเสนอไปชื่อว่า ผลของโปรแกรมการจัดสิ่งแวดล้อมหลายความรู้สึกต่อเวลาการตอบสนองและคุณภาพชีวิตของคนไทย

เป็นงานวิจัยด้านกิจกรรมบำบัดจิตสังคม เน้นแนวคิดการจัดการสุขภาพด้วยตนเองและส่งเสริมสุขภาพในการใช้เวลาว่างอย่างมีคุณค่าครับ

คำอวยพรและกำลังใจจากท่านถือเป็นสิ่งที่ดีในปีใหม่ครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับคำชื่นชมจากคุณจินตนา คงเหมือนเพชร

ส่งความสุขปีใหม่ครับผม

Dr. Pop,

  • อาตมาอยากได้งานของโยมมาตีพิมพ์ในวันวิสาขบูชาโลกที่จะจัดขึ้นในเมืองไทย ปี เดือน พฤษภาคม ๒๕๕๓
  • รบกวนโยมได้กรุณาเขียนบทความไม่เกิน ๒๐ หน้ากระดาษ
  • ก่อนอื่นรบกวนส่ง Abstract มาให้อาตมาดูจะเป็นความกรุณายิ่ง
  • เจริญธรรม

กราบขอบพระคุณท่านธมฺมหาโสภิกขุ

ผมได้ส่งบทคัดย่อไปให้ทางอีเมล์แล้วครับ

และขออนุญาต post ตรงนี้หากมีผู้สนใจติดตามบางส่วนของงานวิจัยทางทีวีที่ http://gotoknow.org/blog/otpop/301418

บทคัดย่อมีดังนี้

ผลของสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายความรู้สึกต่อเวลาการตอบสนองในคนไทยวัยผู้ใหญ่ตอนต้น

องค์การอนามัยโลกรายงานผู้เสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังมีจำนวนร้อยละ 60 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดใน 3 ปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ในอีก 7 ปีข้างหน้า (1) สำหรับประชากรไทยในปี พ.ศ. 2547-2548 ช่วงอายุ 45-59 ปี ได้เสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 30 ด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังได้แก่ โรคมะเร็ง โรคหัวใจขาดเลือด โรคความดันโลหิตสูง และโรคหลอดเลือดสมอง (2) และกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขและภาคีสุขภาพสำรวจพบปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ การบริโภคอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ การออกกำลังกายไม่สม่ำเสมอ (3) และการทำกิจกรรมยามว่างไม่เหมาะสม (4) ซึ่งคนไทยใช้เวลาเฉลี่ยต่อวันในการดูแลตนเอง การเรียน และการทำงาน มากกว่าการทำกิจกรรมยามว่าง (5) และจากการสำรวจกิจกรรมยามว่างของคนไทยอายุ 13 ปีขึ้นไป พบว่า มีการเคลื่อนไหวร่างกายในกิจวัตรประจำวันลดลงเพราะพฤติกรรมสุขภาพของคนไทยเน้นการพักผ่อนในเวลาว่างเช่น ดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ เป็นต้น (6) ดังนั้นประเทศไทยจึงกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 และแผนพัฒนาสุขภาพแห่งชาติฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554) โดยเน้นการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ที่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและคาดหวังว่าจะลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขเมื่อมีจำนวนผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรังลดลงในอนาคต (2) ปัจจุบันผู้วิจัยได้ศึกษาการทำกิจกรรมยามว่างในคนไทยและพบว่าวัยผู้ใหญ่ตอนต้นน่าจะมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและควรได้รับการส่งเสริมสุขภาพด้วยการจัดสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายความรู้สึก (Multisensory Environment, MSE) ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความไวของเวลาการตอบสนองที่ถือเป็นองค์ประกอบหนึ่งทางประสาทสรีรวิทยาและคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ จะเห็นว่าโครงการวิจัยครั้งนี้ถือเป็นการศึกษานำร่องในคนไทยที่ไม่เจ็บป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ขณะที่งานวิจัยส่วนใหญ่มุ่งเน้นผลของการจัดสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายความรู้สึกในคนชาติอื่นๆ ที่เจ็บป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และผู้วิจัยคาดว่าจะเป็นการพัฒนาองค์ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประโยชน์ของการจัดสภาพแวดล้อมทำกิจกรรมยามว่าง ซึ่งองค์ความรู้ดังกล่าวนับเป็นความก้าวหน้าในเชิงวิชาการกิจกรรมบำบัดและสาธารณสุขไทย ที่พัฒนาแนวทางหนึ่งของการส่งเสริมคุณภาพชีวิต และการป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง สำหรับคนไทยทุกเพศทุกวัยในอนาคต

ผมขออีเมล์เพื่อส่งบทความไม่เกิน 20 หน้าส่งให้พระคุณเจ้าภายหลังครับ

Dr. Pop,

  • เป็นงานที่น่าสนใจมาก อุดมและหนักแน่นด้วยวิชาการ
  • อาตมาอยากจะจัดห้ัวข้อของโยมในพระพุทธศาสนากับการพัฒนาทางจิต
  • คำถามคือ โยมพอจะกรุณาดึงเนื้อหาและประเด็นที่โยมทำ ซึ่งเน้นเชิง "กายภาพ" ไปสู่ "จิตภาพ" ได้อย่างไร
  • สิ่งที่มีและเป็นทางกายภาพ สัมพันธ์กับจิตภาพอย่างไร
  • กายที่มีและเป็น สัมพันธ์กับจิตใจของแต่ละคนได้อย่างไร
  • เราจะนำหลักพุทธเรื่องอะไร ไปช่วยอธิบายให้แนวคิดนี้ได้กลิ่นไอของการสอดแทรกด้วยหลักธรรมทางพุทธ
  • รบกวนด้วยน่ะ

ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับพระคุณเจ้า แล้วกระผมจะติดต่อไปทางอีเมล์อีกครั้งครับ

Dr. Pop,

* อนุโมทนาขอบใจโยมมากที่ได้พยายามจะปรับให้สอดรับกับประเด็นที่จะนำเสนอในการประชุมระดับโลก

* ในการประชุมงานนี้ มีนักวิชาการระดับโลกมาร่วมมากมาย และเราจะได้มีโอกาสแลกเปลี่ยน

* ประเด็นคือ หากเป็นไปได้เราจะพิมพ์งานโยมเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้คนทั้งโลกได้อ่าน หวังว่า ดร. เช่นโยมจะสามารถดำเนินการได้ หากไม่ได้อาตมาจะแปลให้

* อาตมาจะรอบทความของโลก และคนทั่วโลกรองานของโยมอยู่น่ะ

* อนุโมทนาและเจริญธรรม

โจทย์น่าสนใจครับท่านพระคุณเจ้า

ผมจะลองค้นคว้าประเด็นต่างๆ แล้วนำเสนองานเขียนไม่เกิน 20 หน้าเป็นภาษาอังกฤษทางอีเมล์พระคุณเจ้าต่อไป

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท