|
ในปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสตับอักเสบ เอ, บี, ซี, ดี, อี, จี แต่ไวรัสที่ก่อ ให้เกิดโรคตับแข็ง และมะเร็งตับ คือ ชนิดบี, ซี และดี ส่วนใหญ่เราจะคุ้น เคยกับไวรัสตับอักเสบบีมาก เพราะประชากรบ้านเราติดเชื้อไวรัสนี้ประ มาณ 4-5 ล้านคน แต่เราแทบจะไม่รู้จักอะไรเกี่ยวกับไวรัสตับอักเสบซีเลย
ไวรัสตับอักเสบ ซี คือ ....ไวรัสที่ติดเข้าไปร่างกายแล้วจะเข้าไปอยู่ใน เซลล ์ตับและมักก่อให้เกิด โรคตับอักเสบเรื้อรัง โดยมีการทำลาย เซลล์ตับไปเรื่อยๆ มักพบว่าการ ทำลายเซลล์ตับจะรุนแรงกว่าชนิดบีมาก เมื่อผ่านไปในระยะเวลาหนึ่ง ตับที่ถูกทำลายจะกลายเป็นตับแข็งและ มะเร็งตับ ในที่สุด เมื่อได้รับเชื้อ ไวรัสตับอักเสบซ ี เข้าไปในร่างกายแล้ว อาจจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็ได้ เช่นอาการที่พบอาจมีแค่เหนื่อยอ่อน เพลีย แต่ส่วนใหญ่แล้วมักจะไม่มีอาการแต่จะตรวจพบได้โดยบัง เอิญมากกว่าจากการ ตรวจเช็คสุขภาพร่างกายประจำปี ถึงแม้ว่า ผู้ป่วยจะไม่มีอาการ แต่พบว่าไวรัสยัง คงมีการทำลายตับไปเรื่อยๆ การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นโรค ตับอักเสบเรื้อรังจาก ไวรัสซีจะประกอบด้วย
- การตรวจการทำงานของตับ โดยพบว่าค่า SGPT จะสูงมากกว่าค่า
ปกติ 1.5 เท่า (ประมาณมากกว่า 60 U/L) ติดต่อนานกว่า 6 เดือน โดยที่ต้องไม่มีประวัติดื่มสุรา, รับประทานยาสมันไพร
- การตรวจหาภูมิต้านทานจากเชื้อไวรัส (Anti HCV) ซึ่งตรวจโดยการเจาะ
เลือด, ไม่ต้องอดอาหาร, สามารถทราบผลได้ใน 24 ชม. สะดวกและรวดเร็ว
- การตรวจหาปริมาณเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี (HCV-RNA) เป็นการเจาะตรวจ
ทางเลือด แต่วิธีการตรวจค่อนข้างซับซ้อน เพื่อดูว่ามีปริมาณไวรัสในร่าง กายมากน้อยเพียงใด สามารถพยากรณ์โรคว่าผู้ป่วย จะมีโอกาสเกิด ตับแข็งและตอบสนองต่อการรักษาได้เพียงใด
- การเจาะตรวจชิ้นเนื้อตับ เพื่อดูความรุนแรงของโรค
เพื่อใช้ในประกอบ การตัดสินใจรักษา
- บุคคลที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี คือ
เคยมีประวัติได้รับเลือดมาก่อน, ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น, ใช้เข็มสักผิวหนังร่วมกับผู้อื่น, มีเพศสัมพันธ์กับคนที่ติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบซี แต่อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณ 50% ของ ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบซี ไม่สามารถพบปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
การปฏิบัติตัวเมื่อพบว่าติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี
- หลีกเลี่ยงการใช้แรงงานและการออกกำลังกายต่างๆ อย่างหักโหม
- พักผ่อนให้เพียงพอ · งดดื่มสุราหรือยาสมุนไพร
- พบแพทย์สม่ำเสมอโดยในปัจจุบันมีการรักษาด้วยยาชื่อ อินเตอร์เฟอร์รอน
(Interferon) แต่ผลการรักษายังไม่ดีและผลข้างเคียงของยายังมีมาก
|