เครื่องมือธรรมชาติของการจัดการความรู้


เสียงเพลงธรรมชาติถูกสร้างจากเสียงหัวเราะ หยอกเหย้าออกมาจากภายในของผู้เข้าร่วมกลุ่ม ความรู้สึกสัมผัสได้ถึงการแลกเปลี่ยน แบ่งปันอย่างบริสุทธิ์ใจ เปิดใจ ไร้การเสแสร้ง ยากที่จะอธิบายได้ด้วยตัวหนังสือ บอกได้เพียงว่าเป็นความรู้สึกอิ่มเอมใจ เป็นสุข สงบเหลือเกินยามนึกถึงภาพของวันนั้น

 

                “ขออภัยพ่อแม่พี่น้องทุกคนด้วยครับ พอดีเมื่อเช้ามีปัญหาทางเทคนิกสักหน่อย ก็เลยทำให้มาสวย…” นายสัตวแพทย์หนุ่มกล่าวด้วยทีท่ารีบเร่งลงจากรถปิกอัพตอนเดียวที่รับใช้เจ้านายมากว่าสิบปีเห็นจะได้ เหลือบมองไปที่ประตูรถเห็นประทับตรากรมปศุสัตว์ลางๆ

                “เอ้า..พี่น้อง..คุณหมอของเรามาแล้วครับ” สัตวแพทย์หุ่นล่ำซำประจำอำเภอกุดชุม กล่าวเสียงดังต้อนรับคณะงานที่มาจากจังหวัดด้วยความดีใจ และรอยยิ้ม

                ชาวบ้านราวยี่สิบ นั่งรอบนแคร่ใต้ถุนบ้าน กำลังคุยกันเรื่องกองทุนกระบือ ฉันมองไปรอบๆบ้านของท่านน่าอยู่มาก ล้อมรอบด้วยท้องทุ่งที่เขียวขจีกลางหน้าฝน นับตั้งแต่ทางเข้าบ้าน บนคันนา หรืออาจกล่าวได้ว่าบนผืนดินร่วนซุยทุกแห่งของท่านอุดมด้วยพืชสมุนไพรนานับกว่าร้อยชนิดก็ว่าได้

              ฉันเดินไปนั่งบนแคร่อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งแม่บ้านของท่านกำลังต้มน้ำในกาบนเตาถ่าน  เพื่อชงกาแฟที่คณะงานจัดเตรียมมาเป็นอาหารว่างให้กับกลุ่มของเรา

             “ตอนนี้ก็สวยมากแล้ว เราเดินดูพืชสมุนไพรรอบๆบ้านกันก่อน พอเดินเหนื่อยเสร็จแล้ว ก็กินข้าวสวยแซ่บกันพอดี” นายสัตวแพทย์หนุ่มนำพากลุ่ม หลังจากที่พ่อถา หนึ่งในห้าของปราชญ์ชาวบ้านจากเวทีเสวนาที่จัดขึ้นในตัวจังหวัดเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนเรียนรู้การใช้ยาสมุนไพรเพื่อดูแล รักษาสัตว์เลี้ยงของตน พร้อมกับแสดงตัวอย่างสมุนไพรให้ดูกันสดๆ ขณะเดินศึกษาดูพืชสมุนไพร กลุ่มของเราให้ความสนใจซักถามไม่ขาดสาย บ้างก็พูดหยอกล้อจากชื่อพืชสมุนไพร “หยิกไม่ถอง” พ่อ..เล่าว่า ถ้าเด็ดใบหยิกไม่ถองใส่กระเป๋าเสื้อเวลาหนุ่มไปเล่นสาว สาวก็จะไม่ถอง...ท่านก็เลยเด็ดใบใส่ในกระเป๋าเสื้อให้นายสัตวแพทย์หนุ่มเผื่อเวลาที่มีโอกาสไปจีบสาว...เสียงหัวเราะ ขบขันดังไปทั่วทุ่งแสนงาม บ้างก็ถอนต้น รากหรือเหง้ามาแจกจ่ายแบ่งปันอย่างเอื้อเฟื้อ  เพื่อนำไปปลูกไว้ใช้ดูแลสัตว์เลี้ยงในครัวเรือน

 

            “เดินดีๆนะครับ มดแดงจะเยอะซักหน่อย ผมไม่ได้ใช้สารเคมีใดๆทั้งสิ้น มิหนำซ้ำท่านยังไม่ใช้ไฟฟ้าอีกด้วย” เมื่อเดือนก่อนนี้ ก็มีคณะมาเยี่ยมบ้านของท่าน เพื่อศึกษาดูงานการเกษตรอินทรีย์

 

        

              

          “ว่านทั้งหมดนี้ ผมยังให้ใครไม่ได้ครับ กำลังเพาะพันธุ์ไว้ขยาย...” เดินอ้อมคันนาจากด้านหลังบ้านไปทางหน้าทางเข้าบ้าน ท่านก็เด็ดใบพืชต้นเล็กๆ ซึ่งดูโดยผิวเผินฉันคิดว่าต้นสะระแหน่เสียอีก ขึ้นมาเคี้ยวแล้วยื่นมาให้ฉันลองเคี้ยวดูบ้าง “โอ้โห เย็นจังเลย (กลิ่นยังกับเมนทอลสมัยที่เรียนเตรียมยา..ฉันคิดเปรียบเปรยในใจ) ”  ท่านบอกว่า “เขาเรียกว่า ต้นมินท์ครับ ก่อนไปจีบสาวก็เคี้ยวก่อนออกจากบ้าน...” เสียงกลุ่มหัวเราะฮาอีกแล้ว

             “หมอรู้มั้ย ทำไมต้นกล้วยเวลาออกหน่อใหม่แล้ว ต้นมันจะเอียงไปคนละด้านกับหน่อใหม่ที่เกิด” สัตวแพทย์หุ่นล่ำซำประจำอำเภอกุดชุม กล่าวเสียงดังหยอกล้อ... ปราชญ์ท่านบอกว่า ตามธรรมชาติของต้นกล้วยจะออกเครือในด้านตรงข้ามกับหน่อที่เกิดใหม่ ทำให้เครือที่เต็มไปด้วยกล้วยหลายหวีดึงรั้งต้นกล้วยให้เอียงไปด้านตรงข้ามกับหน่อใหม่ ไม่ล้มทับหน่อใหม่ที่เกิดขึ้น ธรรมชาติช่างชาญฉลาดและอ่อนโยน เปรียบเสมือนแม่ที่คอยปกป้องดูแลลูกที่เกิดใหม่อย่างนั้นแหละ หรือถ้าเปรียบกับการทำงานก็เป็นเสมือนรุ่นพี่เปิดโอกาสส่งเสริมให้รุ่นน้องได้พัฒนาความสามารถเติบโตก้าวหน้า เป็นรุ่นพี่ที่ดีในอนาคตนั่นเอง...ฉันนึกวาดภาพในใจอย่างเพลิดเพลิน

              ตะวันเริ่มคล้อยเอียงไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อยแล้ว... “สวัสดีครับมื้อหลังสิมายามอีกเด้อครับ” นายสัตวแพทย์หนุ่มพนมมือไหว้ท่านปราชญ์ หลังจากกินข้าวสวยกันเรียบร้อยแล้ว และทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้านและมีต้นพืชสมุนไพร และเมล็ดต้นหญ้ากินนีสีม่วงสำหรับปลูกเป็นอาหารให้โค กระบือที่ทางปศุสัตว์จังหวัดนำมาแจกติดมือไปด้วยคนละหนึ่งถุง รวมทั้งนายสัตวแพทย์หนุ่มก็ไม่น้อยหน้าได้ต้นสมุนไพรไปปลูกด้วยเช่นกัน

                หลังจากนั้นประมาณ สามสัปดาห์ต่อมาองค์ความรู้ในการใช้สมุนไพรดูแลโค กระบือที่ได้จากเวทีเสวนาที่จังหวัด และการไปศึกษาดูงานสถานที่จริงที่บ้านของปราชญ์ชาวบ้านทั้งห้าคนก็ได้ถูกสกัด และสังเคราะห์เป็นความรู้เบื้องต้นที่สามารถจับต้องได้ โดยรวบรวมจัดทำเป็นหนังสือเผยแพร่ต่อไป

               วันนั้นฉันมีโอกาสดีที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ โดยเป็นผู้สังเกตการณ์ เมื่อย้อนคิดถึง KM ที่เราจัดให้มีการประชุมในโรงพยาบาล ซึ่งเรามักจะจัดประชุมในห้องประชุมที่มีขั้นตอนในการดำเนินการประชุมโดยอาศัยเครื่องมือต่างๆนานาแล้ว กลิ่นอายมันช่างแตกต่างจากกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เป็นไปตามธรรมชาติเช่นนี้ ซึ่งปราศจากการปรุงแต่ง โน้มน้าว หรือสร้างบรรยากาศโดยการใช้เสียงเพลงบรรเลงหรือเครื่องมือใดๆ ทว่าเสียงเพลงธรรมชาติถูกสร้างจากเสียงหัวเราะ หยอกเหย้าออกมาจากภายในของผู้เข้าร่วมกลุ่ม ความรู้สึกสัมผัสได้ถึงการแลกเปลี่ยน แบ่งปันอย่างบริสุทธิ์ใจ เปิดใจ ไร้การเสแสร้ง ยากที่จะอธิบายได้ด้วยตัวหนังสือ บอกได้เพียงว่าเป็นความรู้สึกอิ่มเอมใจ เป็นสุข สงบเหลือเกินยามนึกถึงภาพของวันนั้น         

                                                                                                                               

                                                                                                                                 ๒๖ กันยายน ๒๕๕๒


หมายเลขบันทึก: 320761เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2009 16:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณคุณพ่อ "หมอหมาซามูไรพ่อลูกอ่อน"

กับทุกคืนวันที่สละแล้วซึ่งอิสรภาพ...

เพื่อทุ่งหญ้าเขียวขจี...

(^__^)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท