วิชาการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันการเจ็บป่วย รหัสวิชา 503 103
หน่วยการเรียนที่ 4 ความต้องการของชีวิตมนุษย์เพื่อสุขภาพ และการสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันปัญหาการเจ็บป่วยในช่วงวัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ
4.4 การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันการเจ็บป่วยในวัยผู้ใหญ่
¨ ความต้องการของบุคคลในวัยผู้ใหญ่
¨ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงและวิถีชีวิตเพื่อสุขภาพของวัยผู้ใหญ่
อาจารย์อภิฤดี จิวะวิโรจน์
การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันการเจ็บป่วยในวัยผู้ใหญ่
วัยผู้ใหญ่เริ่มตั้งแต่สิ้นสุดวัยรุ่นเมื่ออายุประมาณ 20-25 ปี หรืออาจเร็วกว่านั้น หากวัยรุ่นแต่งงานตั้งแต่อายุยังน้อยก็ก้าวเข้าสู้ความเป็นผู้ใหญ่เลย วัยผู้ใหญ่คือวัยที่รับผิดชอบการดำเนินชีวิตของตน โดยนำประสบการณ์ต่าง ๆที่ได้สะสมมาตั้งแต่วัยเด็กมาใช้ในการปรับตัวและแก้ปัญหาชีวิต ผู้ที่ปรับตัวได้ดีในวัยผู้ใหญ่ คือ ผู้ที่ได้ผ่านพัฒนาการที่เหมาะสมตามวัยต่าง ๆมาตั้งแต่เด็กจนวัยรุ่น มีวุฒิภาวะ คือ ความสมบูรณ์ของร่างกาย อารมณ์ และสติปัญญา สามารถเผชิญชีวิตและอุปสรรค์ต่าง ๆ ทั้งยามปกติและยามคับขัน มีความรับผิดชอบ กระทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยเหตุผลตามทำนองคลองธรรม
พยาบาลจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของวัยผู้ใหญ่ การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการ ปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ การประเมินสุขภาพ ซึ่งจะช่วยให้พยาบาลสามารถสร้างเสริมสุขภาพของวัยผู้ใหญ่ได้อย่างเหมาะสม ทั้งนี้นอกจากจะทำให้บุคคลมีสุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังทำให้บุคคลวัยผู้ใหญ่สามารถกระทำบทบาทหน้าที่อื่นๆ ได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งการประกอบอาชีพการงาน การเป็นบิดามารดา การดูแลบุพการี การทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยเหลือสังคม ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ อันจะส่งผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของสังคมและประเทศชาติ
วัยผู้ใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการในวัยผู้ใหญ่
การเปลี่ยนแปลงพัฒนาการด้านร่างกาย
1. การเปลี่ยนแปลงพัฒนาการด้านร่างกายในวัยผู้ใหญ่ตอนต้น
มีการเปลี่ยนแปลงจจากวัยรุ่นไม่มากนัก และมีความสมบูรณ์เต็มที่เมื่ออายุ 20-30 ปี ร่างกายสามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดดังเช่น
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด หลังจากอายุ 30 ปีขึ้นไปแล้ว จะทำหน้าที่ลดลงเรื่อยๆ ประมาณ 0.7 เปอร์เซ็นต์ต่อปี
- ระบบหายใจจะทำงานลดลง ประสิทธิภาพของปอดลดลง 8 เปอร์เซ็นต์ ทุกๆ 10 ปี
- ระบบย่อยอาหารก็ทำงานลดลงเช่นกัน การหลั่งน้ำย่อยและความต้องการพลังงานลดลง หากยังรับประทานอาหารเช่นเดิมจะมีผลทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเกิดภาวะอ้วยเกิน (obesity)
- ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก เมื่ออายุประมาณ 21 ปี กระดูกจะหยุดเจริญเติบโต จะไม่มีการพัฒนาด้านความสูงอีกต่อไป ส่วนกล้ามเนื้อจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเพศชายจะมีกล้ามเนื้อโตและแข็งแรงกว่าเพศหญิง
- ระบบผิวหนังมีความยืดหยุ่นน้อยลง เริ่มมีรอยย่น ปรากฎเมื่ออายุได้ 30 ปี โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า คอ และมือ ผมจะเริ่มร่วงและเจริญเติบดตช้า เริ่มมีผมหงอก
- ระบบประสาท เซลล์สมองจะมีวุฒิภาวะและมีน้ำหนักสูงสุดเมื่ออายุ 25 ปี หลังจากนั้จะลดลง สมองมีน้ำหนักประมาณ 13.80 กรัม ดังนั้นในช่วงอายุ 20-30 ปี จึงเป็นวัยที่มีความสามารถในการจำ การระลึกได้ถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ จะทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดเช่นเดียวกับระบบอื่นๆของร่างกาย ในเพศหญิงจะมีไข่สุกเพิ่มขึ้นเมื่ออายุ 18-24 ปี เพศชายจะมีการผลิตสเปิร์มที่สมบูรณ์ได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ระหว่างอายุ 20-39 ปี ไตจะมีขนาดโตที่สุดเมื่ออายุได้ 30 ปีโดยมีน้ำหนัก 270 กรัม และจะเริ่มลดขนาดลงช้าๆ
2. การเปลี่ยนแปลงพัฒนาการด้านร่างกายในวัยผู้ใหญ่กลางคน
- การพัฒนาด้านร่างกายรูปร่างจะอ้วน น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น มีการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังโดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง สะโพกเนื่องจากวัยนี้กิจกรรมที่ใช้พลังงานลดลง
- สีผมจะเริ่มหงอกขาวเห็นชัดเจนเมื่ออายุ 50 ปีทั้งเพศชายและหญิง เนื่องจากสารเมลานิน (melanin) ที่สร้างจากรากผมมีจำนวนลดลง
- ฟันจะหักและร่วงหลุด กระดูกเริ่มเปราะบางและหักง่ายเนื่องจากการสร้างกระดูกเกิดขึ้นน้อย
- ผิวหนังบริเวณใบหน้าลำคอ แขนและมือเริ่มหยาบ และปรากฎรอยย่นได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผิวหนังแห้งเพราะต่อมรูขุมขนทำงานน้อยลง ผิวหนังบริเวณรอบตาจะปรากฎเป็นถุงและเป็นรอยคล้ำ กล้ามเนื้อบริเวณใต้คอ ใต้แขนและช่องท้องจะนุ่มไม่แข็งแรง
- อวัยวะที่ทำหน้า ที่รับรู้และสัมผัส จะมีความเสื่อมเกิดขึ้น เช่น ตา เปลือกตาจะเหี่ยวย่น ดวงตาไม่สดใสเริ่มฝ้าฟาง เพราะเยื่อบุลูกตาและท่อน้ำตาเหี่ยว ทำให้ขาดน้ำเลี้ยงลูกตากล้ามเนื้อควบคุมรูปของดวงตาจะขาดความกระชับลงเป็นลำดับ มีการเปลี่ยนแปลงที่แก้วตา แก้วตาไม่สามารถจะยืดหดตัวได้เหมือนก่อนๆ จึงไม่สามารถมองเห็นในระยะใกล้ได้ชัดเจน ส่วนใหญ่จะสายตายาว หลังอายุ 40 ปี จะมองไม่ชัดในที่มืดเนื่องจากมีการลดขนาดของรูม่านตา จะมีปัญหาในการอ่านหนังสือและการขับรถในตอนกลางคืน อวัยวะเกี่ยวกับการได้ยิน คือ หู จะมีความเสื่อมของเซลล์ทำให้การทำงานของหูผิดปกติ การได้ยินเสียงแหลมจะเสียก่อน การได้กลิ่นจะเสื่อมลง
1. ปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพวัยผู้ใหญ่ด้านร่างกาย
- วัยหมดประจำเดือนหรือสตรีวัยทอง ( Menopause )
- ปัญหาการมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
- ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการประกอบอาชีพ
ฝุ่นแร่ใยหิน ฝุ่นซิลิกา เบนซีน
ปัญหาสุขภาพที่เกิดจากการประกอบอาชีพ
โรคที่เกิดจากสิ่งคุกคามสุขภาพทางกายภาพ เช่น ความร้อน ความเย็น แสง เสียง การสั่นสะเทือน
ความร้อน
ความเย็น
แสง
เสียง
** กฎหมายกำหนดให้ทำงานได้ไม่เกิน 8 ชั่วโมง ในเสียงที่ดัง 90 เดซิเบล
เกิน 8 ชั่วโมง ในเสียงที่ดังไม่เกิน 80 เดซิเบล
การสั่นสะเทือน
โรคที่เกิดจากสิ่งคุกคามสุขภาพทางชีวภาพ เช่น โรคแอนแทรกซ์ โรคปอดชานอ้อย
โรคแอนแทรกซ์
โรคปอดชานอ้อย
โรคที่เกิดจากสิ่งคุกคามสุขภาพทางเคมี เช่น พิษจากตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ฝุ่นแร่ใยหิน ฝุ่นซิลิกา เบนซีน
พิษจากตะกั่ว
ปรอท
แคดเมียม ทำให้เกิดโรคอิไต-อิไต
พบในคนงานฉาบวัสดุที่เป็นโลหะ เช่น เครื่องมือไฟฟ้า แบตเตอรี่ เหล็กเส้น อัลลอยด์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกซ์ น้ำยากันสนิม โรงงานทำพลาสติก เครื่องปั้นดินเผา
ฝุ่นแร่ใยหิน
ฝุ่นซิลิก้า
เบนซีน
2. ปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพวัยผู้ใหญ่ด้านจิตใจ
- วิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เสื่อมลง
- วิตกกังวลเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ
- มีภาวะเครียดจากปัญหาเศรษฐกิจในครอบครัว
- วิตกกังวลเกี่ยวกับชีวิตสมรส
- ปัญหาเกี่ยวกับปัญหาของบุตร
3. ปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพวัยผู้ใหญ่ด้านสังคม
- ปัญหาการปรับตัวในการประกอบอาชีพ
- ปัญหาเรื่องการเลือกคู่ครอง
- ปัญหาชีวิตสมรส
- ปัญหาการปรับตัวให้เข้ากับบทบาทใหม่
- ปัญหาสัมพันธภาพกับเพื่อนใหม่
4. ปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพวัยผู้ใหญ่ด้านจิตวิญญาณ
- มีความกดดันเนื่องจากไม่สามารถแสดงศักยภาพด้านสติปัญญาได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากขาดโอกาสในสังคมและที่ทำงานขาดการยอมรับ
- ขาดที่พึ่งทางจิตวิญญาณเนื่องจากไม่สามารถจัดสรรเวลาไปปฏิบัติศาสนกิจได้
การสร้างเสริมสุขภาพและการป้องกันโรค
ความหมายและความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพ
การสร้างเสริมสุขภาพ
เป็นการปฏิบัติตนที่ส่งผลให้เกิดสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ ให้มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง มีการเจริญเติบโตอย่างเหมาะสมและปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ
แนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพวันผู้ใหญ่
- สร้างเสริมความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
- คงไว้ซึ่งความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย
- สร้างเสริมความรู้ในการดูแลสุขภาพ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
- สร้างเสริมความรู้เกี่ยวกับการรักษาด้วยการแพทย์ทางเลือก เช่น การรักษาด้วยสมุนไพร การกดจุด การฝังเข็ม การใช้น้ำมันหอมระเหย การบำบัดด้วยโภชนาการและอาหาร ดนตรีบำบัด เป็นต้น
สร้างเสริมความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
คงไว้ซึ่งความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกาย
สนับสนุนให้มีการตรวจสุขภาพประจำปี
การให้วัคซีนที่จำเป็น
- วัคซีนตับอักเสบบี ในผู้ที่มีคู่สมรสเป็นพาหะตับอักเสบบี และได้รับการตรวจแล้วว่ายังไม่มีภูมิคุ้มกัน
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ควรได้รับในผู้ที่ต้องสัมผัสโรคบ่อยๆ เช่น พยาบาล ผู้ที่สุขภาพอ่อนแอ ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่อยู่ในเมืองหนาว ที่มีการระบาดรุนแรง
- วัคซีนไข้กาฬหลังแอ่น ควรให้กับผู้ที่จะไปยังแหล่งที่มีโรคระบาด เช่น ไปแสวงบุญที่เมกกะ เป็นต้น
- พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ในส่วนที่เกี่ยวกับตน และในส่วนที่สัมพันธ์กับผู้อื่น
- สร้างเสริมเทคนิคการจัดการความเครียด
- สร้างเสริมสุขภาพจิตหญิงวัยหมดประจำเดือนและชายวัยทอง
- ส่งเสริมการแก้ปัญหาอย่างถูกวิธีและให้กำลังใจในการเผชิญปัญหา
- ส่งเสริมการปรับตัวเข้ากับแบบแผนชีวิตแบบใหม่และบทบาทในสังคม เช่น การเตรียมตัวมีคู่ชีวิต การปรับตัวเข้ากับคู่ครอง
- ส่งเสริมความผูกพันของพ่อแม่กับลูกวัยทารก
- ส่งเสริมการบริหารเวลาที่เหมาะสม
- ส่งเสริมการมีที่พึ่งทางจิตวิญญาณ
- ส่งเสริมให้มีการปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนา
แนวทางในการป้องกันโรค
สรุป
วัยผู้ใหญ่ตอนต้นร่างกายมีความสามารถสูงสุด มีวุฒิภาวะทางอารมณ์มากขึ้น กลุ่มเพื่อนลดน้อยลง มีการปรับเปลี่ยนบทบาทมากมาย ปัญหาที่เกิดขึ้นในวัยนี้ที่สำคัญคือ ความผิดหวังในความรัก การไม่สามารถปรับตัวกับบทบาทใหม่ ในวัยกลางคน ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่เสื่อมลง เริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ โดยเฉพาะในเพศหญิงการเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน อาจก่อให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมาได้ ในวัยนี้ส่วนใหญ่บุคคลจะมีบุคลิกภาพและอารมณ์มั่นคง มีความพึงพอใจกับชีวิตที่ผ่านมา และควรได้มีการเตรียมพร้อมในการเข้าสู่วัยผู้สูงอายุต่อไป
เอกสารอ้างอิง
กัลยา นาคเพร็ชร์, จุไร อภัยจิรรัตน์, & สมพิศ ใยสุ่น. (2548). จิตวิทยาพัฒนาการสำหรับพยาบาล. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บริษัทสำนักพิมพ์สุภา จำกัด.
เพ็ญพิไล ฤธาคณานนท์. (2549). พัฒนาการมนุษย์. กรุงเทพฯ: บริษัท ธรรมดาเพรส จำกัด.
ศิริพร ขัมภลิขิต, ลดาวัลย์ ประทีปชัยกูร, นันทวัน สุวรรณรูป, รัชนี สรรเสริญ, & ประภาพร จินันทุยา. (บรรณาธิการ). (2545). คู่มือการสอนการส่งเสริมสุขภาพในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต. [ม.ป.ท.] : ทบวงมหาวิทยาลัย.
สกุณา บุญนรากร. (2551). การสร้างเสริมสุขภาพแบบองค์รวมทุกช่วงวัย. กรุงเทพฯ: เทมการพิมพ์.
สมจิต หนุเจริญกุล, วัลลา ตันตโยทัย, & รวมพร คงกำเนิด. (บรรณาธิการ). (2543). การส่งเสริมสุขภาพ. นครศรีธรรมราช : มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย และมาอ่านการดูแลสุขภาพค่ะ
ขอบคุณบันทึกดีๆ น่ะค่ะ.
ขอบคุณมากๆๆเลยค่ะ
ได้ความรู้เพียบเลย
ดีมากเลยครับขออนุญาตนำข้อมูลไปเผยแพร่ด้วยนะครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนี้นะคะ ขออณุญาตนำข้อมูลไปประกอบการเรียนรู้และเผยแพร่ให้เพื่อนๆในห้องนะคะ.....ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีๆที่นำมาให้กันนะคะ พอดีจะเอาไปสอนสุขภาพให้กับวัยผู้ใหญ่พอดีเลย
ดูเหมือนว่าจะเข้าเกณฑ์ menopause กับเขาเหมือนกัน อิอิ
ขอบคุณมากๆๆๆเลยคะ
ได้ข้อมูลแยะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆแบบนี้
ขอบคุณทุกๆ ความเห็นนะคะ :)
ลดเยอะ แถมเยอะ กับกล่องเพลงสุนทราภรณ์ที่มีทุกเทศกาล
สอบถามเลย ที่ Line : @metrorecords
รายละเอียด คลิ๊ก