ข้อคิดดีๆ มีทุกวัน...หน้าที่รับผิดชอบ


หากเรามองภาพออกมา ภาพที่หนึ่งคือ เรามีหน้าที่อะไร แล้วต้องรับผิดชอบอะไรกับงานที่เราทำ? ภาพที่สองคือเรามีหน้าที่ให้บริการอะไร แก่ใคร และควรรับผิดชอบต่อเขาอย่างไร ? และภาพสุดท้ายคือ ห้องทำงานเป็นที่ทำงานของเรา เราใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น ควรรับผิดชอบต่อสถานที่อย่างไร ? การมองภาพซ้อนภาพทำให้เรามองภาพได้หลายๆ มุมมองด้วยกัน

สองวันที่ผ่านมา ผมได้โอกาสลาเพื่อพักผ่อน กาย พักผ่อนใจ

ทั้งๆ ที่กำหนดคือลา ติดต่อกัน 3 วัน....

แต่ความมีหน้าที่ ที่ต้องรับผิดชอบ ยังอยู่ เลยทำให้ต้องหวนกลับมาอีกครั้ง....

หน้าที่ เราทุกคนย่อมมีหน้าที่ ลูกมีหน้าที่กตัญญูรู้คุณบิดามารดา

    ลูกศิษย์ มีหน้าที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน บิดามารดาท่านก็มีหน้าที่  ครูบาอาจารย์ท่านก็มีหน้าที่.. ทุกคนมีหน้าที่แตกต่างกัน...

เมื่อมีหน้าที่ ก็ต้องมีความรับผิดชอบตามมา....

    เช่นในสมัยตอนที่ผมเป็นนักเรียนแต่ก่อน ครูให้จัดเวรทำความสะอาดห้องเรียน เพื่อให้ ทุกคนตระหนักว่า นอกจากเราจะมีหน้าที่เรียนหนังสือแล้ว เราต้องมีัหน้าที่รับผิดชอบต่อสังคมเล็กๆ ของเราคือ ห้องเรียนอีกด้วย...

     เมื่อจัดเวรให้เด็กทุกคนมีหน้าที่แล้ว ตกเย็น เราก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ยกโต๊ะ หยิบจับไม้กวาด ทำความสะอาด หยิบที่โกยผง ลบกระดานดำ ทุกคนร่วมมือกันทำ ด้วยความสามัคคีซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน เพื่อให้งานเสร็จ เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน ต่างคนต่างพูดเปิดใจกัน นอกจากจะทำตามหน้าที่ และยังสอนให้รู้ถึงความรับผิดชอบต่อสังคมเล็กๆ อีกด้วย

     CSR เล็กๆ เริ่มที่ห้องเรียน เป็นสถานที่ "บ่มเพาะ"

    บางคนบอกต้องเิริ่มจากที่บ้าน จากประสบการณ์ของผมเอง เนื่องด้วย สาเหตุหลายอย่าง ทำให้พ่อแม่อาจไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูกได้อย่างเต็มที่ เพราะต้องออกไปทำงาน ความรักความเข้าใจความอบอุ่นบางทีก็น้อยไป แหล่งที่บ่มเพาะต่อจากครอบครัวก็คือโรงเรียน สำคัญคือ ครูต้องเข้าใจนักเรียน นักเรียนเข้าใจครู มีเพื่อนๆ ที่เข้าใจกัน....

     เพราะครูเข้าใจว่าพ่อแม่ต้องไปทำงาน ครูรู้เลยเอ็นดูให้ความรักความเมตตาในตอนที่ผมยังเป็นเด็กนักเรียนเล็กๆ ทำให้ผมติดครูเพราะครูใจดี เด็กก็เข้าหา หากเด็กผิด ครูจะไม่ทำโทษ แต่จะให้ สังคมนำพา สังคมของเด็กๆ คือเพื่อนๆ และครู ครูจะสอนทุกคนเหมือนกันว่าอะไรผิดหรือถูก สังคมนำพา จึงเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับผม...

    เพราะสังคมดี เพื่อนๆ และครูเข้าใจ ทำให้เด็กมีกำลังใจที่เรียนรู้ มีกำลังใจที่นึกที่จะทำมากกว่าไป ดุด่า ผมคิดเห็นว่า สังคมนำพา เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เกิดแรงกระตุ้น แรงผลักดันในความคิดสร้างสรรค์...เพื่อการเรียนรู้และการรับรู้ อันนี้รู้ตามความเข้าใจนะครับ

    จนโตขึ้น เรียนจบทำงาน...ก็ยังคิดเรื่องนี้อยู่ ..

     จริงๆ แล้วทุกอาชีพ เป็นอาชีพที่ให้บริการที่แตกต่างกันเพียงงา่นแต่ละงาน และผู้รับแต่ละกลุ่มเท่านั้น แต่บางทีภาพของงานประจำทำให้หากันไม่เจอ..ฉะนั้น หน้าที่ของผู้ให้บริการเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดควรคำนึงถึงผู้รับบริการเสมอ...

         หากเรามองภาพออกมา ภาพที่หนึ่งคือ เรามีหน้าที่อะไร แล้วต้องรับผิดชอบอะไรกับงานที่เราทำ? ภาพที่สองคือเรามีหน้าที่ให้บริการอะไร แก่ใคร และควรรับผิดชอบต่อเขาอย่างไร ? และภาพสุดท้ายคือ สถานที่ สังคม สิ่งแวดล้อม ทำงานของเรา ควรรับผิดชอบต่อสิ่งเหล่านั้นอย่างไร ? การมองภาพซ้อนภาพทำให้เรามองภาพได้หลายๆ มุมมองด้วยกัน

     แต่ในทางปฏิบัติแล้ว.. อาจจะมีข้อจำกัดอยู่ทำให้เรามองให้แค่ ภาพเดียวหรือสองภาพ ก็เป็นได้

ฉะนั้น...การที่ผมมองภาพ ต้องทำภาพที่ผมมองให้ชัดเจนและถูกต้อง คือ ทำให้ดีที่สุด

ทั้งสามภาพเลยรวมกันเป็นภาพๆ เดียว....

        นั่นคือ ภาพของหน้าที่และความรับผิดชอบต่องานที่เราทำอยู่.... ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราทำได้...

ขอบคุณครับ

16/10/52

หมายเลขบันทึก: 306438เขียนเมื่อ 16 ตุลาคม 2009 22:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 เมษายน 2012 09:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

มาเยี่ยม มาชม

มาทักทายแบบสบายๆ

มาเป็นคนแรก เพราะไม่มีใครจองก่อน 5555

ขอบคุณที่มาชม มาเยี่ยมครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท