แซมยาง….ท่ามกลางไม้ผล


 

              วันนี้ ยืนมองสวนหลังบ้าน  หญ้าเริ่มขึ้นสูงพอสมควร  มองดูฟ้า…..มีแดด  หลังจากเจอมรสุมกระหน่ำติดต่อมาหลายวัน   อากาศเป็นใจให้อยากทำงานในสวน…..จึงหยิบน้ำยากำจัดวัชพืช(ยาฆ่าหญ้า) ที่ซื้อเอาไว้หลายวันแล้ว  มาผสมกับน้ำตามสัดส่วนที่เคยฉีด  เมื่อผสมได้สัดส่วนแล้ว นำถังยาฉีดสะพายขึ้นหลังแล้วส่ายถังไปมาเพื่อให้น้ำยาที่ผสมกับน้ำกลมกลืนกัน……ขยับลำกล้องที่จะฉีดให้ได้ระดับ.... เดินฉีดหญ้าที่ขึ้นรกอยู่ตรงหน้าทันที

 

ฉีดยาฆ่าหญ้าบริเวณหลังบ้านและสวนยางที่ปลูกท่ามกลางมังคุด

 

              การเป็นชาวสวนที่ใช้วิถีชีวิตแบบเดิมตามความเคยชิน  ไม่ค่อยได้สนใจการป้องกันตัวเองขณะฉีดยามากนัก   ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้ว  ต้องสวมหน้ากาก  ปิดปากและจมูกให้มิดชิด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีนี้โดยตรง    เพราะสารเคมีเหล่านี้เป็นอันตรายต่อร่างกายเมื่อสัมผัส  เป็นการเลี่ยงแบบไม่ถูกต้องนักแต่ก็ใช้วิธีนี้มาโดยตลอด  คือ การฉีดยาขณะกระแสลมสงบ และยืนอยู่เหนือทิศทางของกระแสลม  วางระดับลำกล้องฉีดยา ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม  เพื่อป้องกันมิให้น้ำยาที่ฉีดฟุ้งกระจาย

 

……เดินฉีดหญ้าไป   ใจก็นึกไปว่า…….

 

                ช่วงนี้ยางแผ่นที่ชาวสวนยางทำอยู่ ราคาเริ่มดีขึ้นบ้างแล้ว จากที่เคยพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่จำความได้ คือยางแผ่นเคยอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ ร่วมร้อยบาทเลยทีเดียว(ซึ่งอาจเป็นเพราะปัจจัยหลายๆ ประเด็น  คงหาอ่านได้ตามการวิเคราะห์เจาะลึกแง่มุมนี้ได้ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ข้อมูลข่าวสารทางการเกษตร หรือทาง internet ซึ่งมีข้อมูลอยู่มาก ในประเด็นนี้ )

 

                  แต่ชาวสวนแบบเรา ๆ ไม่ค่อยได้สนใจประเด็นดังกล่าวมากนัก ขอให้ยางราคาดีอย่างเดียวก็ยิ้มกันแก้มแทบปริ!!แล้ว  …… แต่หลังจากนั้นไม่นาน ราคาก็ตกลงมาเรื่อย ๆ   และมาเตะระดับอยู่ที่กิโลกรัมละ ประมาณ 50-60 บาท เป็นเวลานานพอสมควร

ผลผลิตจากยางพาราที่ปลูกทดแทนทุเรียน

 

               มาวันนี้!!นำยางแผ่นที่เก็บไว้ในโรงเก็บยางออกมาขาย  ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท(เจ็ดสิบบาทถ้วน) ซึ่งถือว่า เป็นราคาที่ชาวสวนยางน่าจะยิ้มได้อีกระลอกหนึ่ง(หากราคายังคงทรงตัวอยู่ได้) หรืออาจจะเป็นการยิ้มแค่วันเดียว และต่อจากนั้น ราคาก็จะดิ่งลง(ต้องคอยดูกันต่อไป)  อำนาจของเงินเนี่ย!! ทำให้คนยิ้มได้จริง ๆ นะ อยู่ที่ว่าจะยิ้มกันแบบไหน? แบบนี้หรือแบบไหน ก็ได้ หากยิ้มแล้ว ไม่รู้สึกกระดากใจ ถ้าเป็นยิ้มจากความอุตสาหะ  และน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง

บ่อน้ำขนาดเล็ก 1ในหลาย ๆ บ่อ ที่ขุดไว้รดทุเรียนก่อนจะตายด้วยภัยแล้งมีหลายปีก่อน

 

               ที่ดินแปลงนี้….เมื่อสมัยก่อนเคยเป็นสวนผลไม้มาก่อน ซึ่งพ่อได้ปลูกเอาไว้ให้(จากบันทึกก่อนหน้านี้) แต่เนื่องจากการเจอภาวะภัยแล้ง  ต้นทุเรียนและไม้ผลอื่น ๆ ที่พ่อปลูกไว้จึงตายเกือบหมด

 

การปลูกยางทดแทนไม้ผลที่มีอยู่เดิม(ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นทุเรียน) เติบโตขึ้นท่ามกลางไม้ผล ต้นยางเหล่านี้โตวันโตคืน จนกระทั่งทุกวันนี้ ต้นยางส่วนใหญ่ก็สามารถตัดทำแผ่นได้แล้ว

 

และที่ดินแปลงนี้อีกเช่นกัน ที่บริเวณหลังบ้านนี่เอง   ได้ถูกเว้นวรรคไว้ไม่ให้ปลูกยางพาราเนื่องจากมีไม้ผลชนิดหนึ่งหลงเหลือจากภัยแล้ง ครั้งนั้น ร่วม 30 ต้นทีเดียว ปัจจุบันนี้ยังผลิดอกออกผลให้ได้ชมเชยอยู่ทุก ๆ ปี ไม้ผลที่หลงเหลืออยู่นี้คือ ต้นมังคุด

สวนมังคุดหลังบ้าน

 

               แม้นราคามังคุดจะไม่ค่อยดีนัก เคยเก็บไปขายส่งแม่ค้าคนกลางที่ขายผลไม้ส่ง ณ ตลาดรับซื้อผลไม้กลางเมือง ราคาขายส่งที่นำไปขาย ขณะนั้น คือ กิโลกรัมละ 7 บาท(แม่ค้าคงนำไปขายโดยบวกกำไรไปมากกว่าครึ่ง เพราะสังเกตราคาขายปลีก ช่วงนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 20-25 บาทต่อกิโลกรัม) เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ขนาดเราไม่ใช่ชาวสวนขนานแท้ที่ใช้ชีวิตอยู่กับวีถีชีวิตแบบนี้ เรายังรู้สึกว่า….กว่าจะเป็นเม็ดเงินที่ตอบแทนน้ำพักน้ำแรงของเกษตรกรชาวสวน…. ช่างแสนยากจริงนะ  ต่างกับการได้นั่งอยู่กับที่และ คอยนับแบงค์แลกเปลี่ยนเพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตเหล่านี้มากับง่ายกว่า… เพียงแค่การหยิบยื่นธนบัตรให้เพื่อเป็นการตอบแทน  เป็นแง่มุมที่ต้องทำให้คิดแล้วคิดอีกว่า….มันช่างง่ายดีแท้!!! ….เพราะกว่าจะได้มาซึ่งผลผลิต ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ ที่ต้นไม้จะออกดอกออกผล  การดูแล ทะนุบำรุงและรักษา แบบที่ต้องทุ่มเทของเขาเหล่านั้น.. ทั้ง ปุ๋ย ทั้งยาสารพัดบำรุง 

 

 

เหตุผลที่พูดได้เต็มปาก..  เป็นเพราะเคยจดและทำบัญชีการลงทุนกับมังคุดในสวนนี้มาแล้ว  สุดท้ายก็เหลือไว้เป็นกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากจะว่าไปแล้วเป็นการลงทุนที่ทุ่มทั้งแรงกายแรงใจและแรงเงินจริง ๆ  ….พูดได้…เพราะนี่คือประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิต

วันที่ฟ้าเปิดหลังมรสุมเข้า

 

               เหตุการณ์ตอนนั้นเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว… นั่งมองสวนมังคุดนี้ ว่า….หากปล่อยไว้ก็คงอยู่ในสภาพดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น จะทำอย่างไรดีกับพื้นที่ว่าง ข้าง ๆ ต้นมังคุดที่เหลือเหล่านี้

 

ใจหนึ่งก็คิด….ไม่เคยเห็นสวนยางพาราท่ามกลางสวนมังคุดเลยที่ไหนมาก่อน(หรืออาจจะมี  แต่ไม่เคยเห็น)……มันจะขึ้นและเติบโตพอที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้หรือ?….

ต้นทุเรียนที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางต้นยางพาราและข้างๆ กันนั้น จะมีต้นลองกองขึ้นอยู่ด้วย

 

               คิดถึงสวนยางที่ปลูกทดแทนสวนทุเรียนที่ตายตอนช่วงหน้าแล้งเมื่อครานั้น…แต่สุดท้ายต้นยางก็ขึ้นปกคลุมต้นทุเรียนที่รอดตาย   โดยที่ต้นทุเรียนเหล่านี้ไม่สามารถต่อกรกับต้นยางพาราได้เลย(ปัจจุบันทุเรียนเหล่านี้ก็ทยอยตายทีละต้นสองต้น  ที่เหลืออยู่ก็อับเฉา  คาดการณ์ว่าคงสูญพันธุ์ในไม่ช้า)

  

แต่แปลก..ต้นลองกองที่ปลูกอยู่ใกล้ ๆ กันกลับไม่เป็นอะไร ใบยังคงเขียวขจี และผลิดอกออกผลให้กินอยู่เป็นประจำทุกปี  คิดตามประสบการณ์การเรียนรู้ด้วยตนเอง   คงเป็นเพราะ ต้นยางสูงขึ้น และมีร่มเงามากเกินไป ประกอบกับต้นทุเรียน มี ความเปราะบางต่อโรคที่ทำลายต้น ไม่ทนต่อสภาพแวดล้อมเช่นนี้ ในขณะที่ต้นลองกองแกร่งกว่าทั้งทนต่อการเกิดโรคและการแย่งอาหารแข่งกับต้นยางพาราได้ดี  ลองกองจึงร่วมอาศัยอยู่ต้นยางได้

ต้นลองกองในสวนยาง หนึ่งในหลายต้น ที่ยังคงออกผลให้กินได้ตามฤดูกาล

  

               ลองนำความคิดนี้มาใช้กับ การปลูกยางท่ามกลางสวนมังคุดดู โดยใช้กระบวนการปลูกที่ไม่เน้นความถูกต้องของมาตรฐานการปลูกยางพาราตามหลักการเว้นระยะห่างการปลูก  แต่ก็พยายามให้ใกล้เคียงมากที่สุดเท่าที่ทำได้  ไม่ว่าจะเป็นช่วงห่างระหว่างต้นยาง  หรือความตรงตามแนวดิ่ง แนวนอน และแนวทแยงมุม(มองมุมไหนก็ตรงได้อย่างสวยงาม) เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะ การขุดหลุมปลูกเมื่อขุดดินลงไปบางครั้งเจอรากมังคุดที่ใหญ่ เกินกว่าจะขุดทิ้งได้  สุดท้าย เมื่อปลูกลงดินแล้ว ขณะนี้….ยืนมองต้นยางที่ปลูกมากับมือ 3 ปีผ่านไป สังเกตเห็นว่ายางก็โตได้ตามปกติ   แต่หากว่า.... แถวและแนวระหว่างต้นยางอาจจะไม่สวยงามเหมือนสวนยางอื่น  ๆภาพรวมก็ถือว่าใช้ได้ไม่ขี้ริ้วขี้เหร่เกินไปนัก

ต้นยางที่ปลูกแซม สวนมังคุดเดิม

 

ยืนภูมิใจกับตัวเอง   ขณะพักลำกล้องที่ฉีดหญ้าในสวน  คิกในใจ..อีก ประมาณ 3ปี (ยางพารา อายุการตัดได้อยู่ประมาณ 6 ปี)  เราก็จะได้พึ่งพากันและกัน ทุกวันนี้ก็หมั่นดูแลและรักษาด้วยปุ๋ยที่แวะซื้อมาจากตลาดปีละ 2 ครั้ง นับยางที่ปลูกแซมระหว่างต้นมังคุด ก็ได้หลายร้อยต้นอยู่  ประเมินสถานการณ์ดูแล้ว มังคุดคงอยู่ร่วมกับยางได้ เหมือนกับที่ ลองกองได้เคยอยู่ร่วมกับยางมาก่อนหน้านี้แล้ว

เฟิร์นชนิดหนึ่ง ที่ขึ้นอยู่ใต้ต้นหมาก บริเวณ สวน

 

                การพึ่งพาอาศัย  ซึ่งกันและกัน  จึงไม่เลือกว่าจะเป็นคน สัตว์ หรือต้นไม้  ทุกสิ่งทุกอย่างสามารถพึ่งพาซึ่งกันและกันได้  แม้นว่า…กาลเวลาจะกลืนกินสิ่งที่อ่อนแอกว่า  ให้จางหายไปก่อนตามบริบทของการใช้ชีวิต 

 

ชีวิตเปรียบเหมือนการขึ้นสะพานโค้ง

 

จึงนำมาใช้ได้ ทุกรูปแบบ ไม่เว้น ทั้ง คน สัตว์ หรือต้นไม้….  มีเกิดขึ้น  ตั้งอยู่ และก็เหี่ยวเฉา ดับสูญไปตามกาลเวลา   แต่ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่…. จะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร ให้คุ้มค่าและมีความสุข

 

พิจารณาดูแล้ว…ชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ดีจริง!!   เพราะมีชีวิตอยู่กับธรรมชาติที่ได้สอนการใช้ชีวิตให้….

 

ตำราเล่มโต ๆ  ที่เคยอ่าน เล่มไหนก็สู้ไม่ได้  เพราะตำราจากธรรมชาติเล่มนี้ กว้างใหญ่ไพศาล จนเทียบกันไม่ติด

 

 

เลือกที่จะแซมธรรมชาติ ให้อยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุขตามอัตภาพ และพอเพียง ดีแท้นะชีวิตนี้

 

 

หมายเลขบันทึก: 305443เขียนเมื่อ 13 ตุลาคม 2009 08:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (56)

สวัสดีค่ะ  น้องแสง

แวะมาทักทาย

และเป็นกำลังใจให้ค่ะ

ธรรมชาตินี่ดีมากนะค่ะ

 ให้อะไรที่ดีๆได้มากมายค่ะ

มาทักทายยามเช้า

เห็นภาพสวนยางและผลไม้เขียวขจีแล้วสดชื่นมากค่ะ

สวัสดี ครับ คุณครูตุ๊กตา

มีความสุขครับ กับการใช้ชีวิตติดดิน

หวังไว้ว่า..สักวันคงใช้ชีวิตแบบนี้ เต็มตัว

ไม่วุ่นวาย สงบ และมีความสุข

ขอบคุณ นะครับครูตุ๊กตา

มาชม

เป็นชาวสวนนี้ได้อะไรมากอย่างเลยนะนี่

อยู่กับธรรม ธรรมชาติสะอาดอารมณ์ อากาศดี ๆมีผลไม้สดกิน

โอ ๆ อะไรจะมีความสุขเท่านี้หนอ...ชื่นชม ๆ ...

รูปคุณแม่ใช่ไหม?ท่านสวยมากจริงๆ ท่านอึดมากอุ่มคุณตลอดเลย

  • ภาพบอกเล่าเรื่องราวของ สวนได้ดีเลยค่ะ
  • แต่คำนึงเรื่องปลอดภัยไว้ก่อนก็น่าจะดีนะคะ *^__^*

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี

อ่านเต็มอิ่มกับบันทึกนี้จังค่ะ ชอบที่มีภาพต้นไม้เขียวชอุ่มอยู่ท่ามกลางสายฝนอีกด้วย...เพิ่งทราบว่าคุณแสงแห่งความดีทำงานอยู่ทางภาคใต้ นึกว่าอยู่ กทม.เสียอีกค่ะ

เคยไปที่สงขลา ไปเยี่ยมสวนเกษตรธาตุสี่ ของป๊ะหรน หมัดหลี เป็นชาวมุสลิมที่เป็นครูภูมิปัญญาไทย ท่านปลูกต้นไม้โดยอาศัยธาตุที่ช่วยเสริมกัน (แต่ตอนนี้จำไม่ได้ว่าธาตุอะไร ต้นอะไร) อย่างเช่น การหยอดเมล็ดพันธุ์ของพืชในหลุมเดียวกัน 3-4 ชนิด คนฟังก็ถามว่า อ้าว....ป๊ะแล้ว มันไม่แย่งกัน เบียดกันโตหรือ...

ป๊ะหรน ตอบว่า....ไม่หรอก พืชมันไม่เหมือนคน.... (แป๋ว!!!!)

เท่าที่ทราบ...ปัจจุบันบางสวนอาจไม่ต้องใช้ยาฆ่าหญ้าหรือยาฆ่าแมลงแล้ว...แต่ใช้สารที่ผลิตเองตามธรรมชาติ เช่น น้ำปุ๋ยชีวภาพ น้ำหมัก ส่วนการจัดการวัชพืช ก็ใช้การถอน ถาง กลบให้เป็นปุ๋ย ... ซึ่งก็คงเหนื่อยกว่าการใช้ยามาก...

มีความสุขมาก ๆ กับสวนที่บำรุง เลี้ยงดู ฟูมฟักอย่างมีความสุขนะคะ

(^___^)

ส่งยอดผักกูด แสนอร่อยมาให้ชมค่ะ

มีค่ะพี่แสง

พี่เค้าเคยพากอไปสวนของพี่เค้า

กอชอบมาก ๆ มีทั้งต้นยาง มีทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด

เหมือนเข้าไปอีกโลกนึงเลยค่ะ

อยากไปอีก แต่เค้าไม่พาไปแล้ว

เพราะกินเก่งเกิน อิอิ ไม่ใช่หรอกค่ะ ไม่มีเวลาได้ไป

นี่วันไหนมีโอกาส จะไปถ่ายภาพมาให้พี่แสงดูค่ะ

มันเท่ห์มาก ๆ เลย สวนของพี่เค้าค่ะ

อิจฉาจริง ๆ กอไม่มี

สวัสดีค่ะคุณแสง...เห็นแล้วนึกถึงตอนเด็กๆเคยอยู่ทางใต้หลายปีมากค่ะ เพราะคุณพ่อรับราชการต้องย้ายตามไปตลอด เคยอยู่ ยะลา สงขลา นครศรีฯ ชุมพรจะอยู่นาน 7 ปีแนะค่ะ  มีความสุขมาก ๆ เพราะอุดมสมบูรณ์มาก

http://gotoknow.org/blog/pa15/305511

พี่แสงเล่นมุกมั้ยค่ะ หากไม่เล่นมุก

พี่แสงต้องไปหาเวลาตรวจสายตาบ้างค่ะ

หรือไม่เช่นนั้น พี่แสงต้องพักผ่อนมาก ๆ

กอกับพี่คนไม่มีราก นับได้ 6 ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคือ 6 น่ะค่ะ

  • โอ้..สวนคุณแสงน่าอยู่มาก น๊ะ
  • ร่มรื่น ร่มเย็น....กายใจดีแท้
  • มาทักทายและชื่นชม..ครับ
  • หวัดดีค่ะ
  • สบายดีนะค่ะ
  • ห่างหายไปนาน...แต่ก็ยังระลึกถึงเสมอค่ะ
  • แวะมาชมธรรมชาติค่ะ
  • สู้ ๆ นะค่ะ...เป็นกำลังใจให้ค่ะ

สวัสดี ครับ

2.

P
ครูอรวรรณ
เมื่อ อ. 13 ต.ค. 2552 @ 09:24

........การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย  กับหัวใจที่ปรารถนา 

อยู่ที่ไหนก็มีความสุข เช่นกัน

ขอบพระคุณ คุณครูอรวรรณมาก ครับ

เดินทางกลับบ้านอย่างปลอดภัยและมีความสุขค่ะ

รอฟังเรื่องเล่าค่ะ

(^___^)

P

สบายดีนะคะ...

ประทับใจภาพข้างบนค่ะ

ระลึกถึงเสมอนะคะ

อ่านแล้วอึ้ง ทึ่ง อิ่มเอมอย่างพี่หญิงค่ะ

.. เป็นกำลังใจ มีพลังไต่ฝัน สักวันจะเป็นจริง ...

ห่างหาย แต่ไม่ห่างเหิน เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่รักชอบ

สุขสันต์ดั่งใจปรารถนา ... ดีใจกับมิ่งมิตร ค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • ตอนนี้พี่คิมอยู่ทางใต้ค่ะ
  • บรรยากาศดีมาก ๆ เย็นสบาย
  • ได้เห็นสวนยาง สวนผลไม้เต็ม ๆตา

แวะมาเยี่ยมความงามในบันทึกที่เต็มไปด้วยชีวิต..
คิดถึงต้นยางพลัดถิ่นจากภาคใต้แถวบ้านที่กาฬสินธุ์...
หลายปีก่อน จำขายให้นายทุนในตัวเมือง
เข้าใจพ่อและเห็นใจพ่อ...

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะ มาเยี่ยมการทำสวน ขอให้ราคายางได้กิโลละร้อยเหมือนเดิมนะคะ

ในที่สุดต้นไม้ต่างก็พึ่งพากัน...ขอให้ลองกองและมังคุดออกผลเยอะๆนะคะ

 

 

  • สวัสดีค่ะคุณแสง
  • แวะมาศึกษาวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย
  • ธรรมชาติช่างสรรสร้างจริง ๆ  บรรยากาศดี ๆ มีความสุขไปอีกแบบ
  • ขอบคุณสำหรับบันทึกดี ๆ ค่ะ

 

สวัสดีค่ะ...ดีจังค่ะการปลูกพืชแบบผสมผสานในแปลงเดียวกัน เลยได้กินได้ขายพืชหลายชนิด...เคยไปสวยเงาะที่บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ฯ ไปถึงตอนแรกกะจะกินให้หนำใจ...แต่พอไปยืนใต้ต้นจริง ๆ ไม่อยากแม้จะเด็ด ไม่ใช่เสียดายนะค่ะ แต่หายหิว ไม่มีความอยากจะกินเลยสักนิด...ยืนใต้ต้นไม้แล้วอากาศร่มรื่นค่ะ ยิ่งเป็นสวนเงาะ ด้วยแล้วลมโกรกเชียว

ขยันจัง...เป็นกำลังใจให้นะคะ

บันทึกธรรมชาติที่งดงามมากค่ะ

การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันของสัตว์โลก

ไม่ว่าจะเรียกโดยสมมุติว่าอะไร

แวะมาทักทายค่ะ

มีความสุข พักผ่อนมาก ๆ จะได้มีแรงสู้กับงานหนักนะคะ

(^___^)

เดินทางไกลพันลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก....

ภาพนี้เข้ากับเพลงในบันทึกนี้เลยนะคะ ... Long jouney....

4.

P
umi
เมื่อ อ. 13 ต.ค. 2552 @ 12:39
สวัสดี ครับ อาจารย์
การใช้ชีวิต แบบชาวสวน  ทำให้รู้ว่า....ชาวสวนลำบากแค่ไหน
และเข้าใจ ครับ
ขอมอบคุณงามความดีของบันทึกนี้....ให้กับชาวสวนทุกท่าน ครับ
อยู่กับธรรมชาติ....in ในความรู้สึกและการกระทำ หวังเพียงได้ผลตอบแทน...ให้ชื่นหัวใจบ้าง
ทานอาหารมื้อเที่ยงอย่างมีความสุข นะครับ อาจารย์
ด้วยความระลึกถึง ครับ 

ปลูกแบบนี้พืชพรรณไม้ผลสวนผสมเป็นการทำสวนแบบยั่งยืนครับ

เคยเห็นที่ยะลาเขาปลูกลองกอง+ทุเรียน+มังคุด ในหลุมเดียวกันครับ

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี

อ่านบันทึกและชมภาพ เพลินเลยค่ะ และเป็นบันทึกที่ไว้แฝงด้วยความงดงามค่ะ

มีความสุขมากๆ นะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

 

เดินตามพี่ครูใจดีมาต้อยๆ หลงมาในสวนยางท่ามกลางฝนพรำซะแล้ว :)

... ยินดีกับการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ ที่น่าท้าทายกับเส้นทางอันยาวไกลค่ะ ...

Life is Journey, just Enjoy and Seize the Moment _ Cheers ! U

สวัสดี ครับ

5.

P
เบดูอิน
เมื่อ อ. 13 ต.ค. 2552 @ 12:51

.........

.........

เป็นรูปแม่ ครับ แต่อุ้มพี่สาวคนโต

บางครั้ง...คิดอะไรไม่ออก...แม่คือสิ่งหนึ่งในชีวิต

ที่มองแล้วมีค่า...

มีกำลังใจ ครับ

ระลึกถึง นะครับ

 

 

 

สวัสดีครับ แสงแห่งความดี

  • ธรรมชาติสร้างความสดชื่น
  • อ่านสวนผสมแบบบูรณาการพึ่งพาอาศัยอย่างเป็นระบบ
  • มีความสามัคคีรักใคร่กันเป็นอย่างดี
  • อยากให้คนไทยเป็นแบบต้นไม้ของท่านคงมีความสุขมาก
  • ขอบพระคุณที่มอบแสงแห่งความดีให้เสมอ

สวัสดีค่ะ..แวะไปอ่านอนุทินมา..ชอบจัง  เสน่ห์...แห่งกระแสจิต

แวะมาทักทายเพราะมองเห็นคุณค่าของเสน่ห์แห่งกระแสจิตค่ะ

   สวัสดีค่ะ  มาเยี่ยมคะ  และเรียนรู้ด้วยกับความรู้ที่ห่างหายไปนาน

คิดถึงอยู่นะคะ  มีความสุขนะคะ                                  

ภาพเคลื่อนไหว  ฝนตกดูแลสุขภาพนะคะ

สวัสดีค่ะ ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ

*ขอบคุณค่ะ คุณแสงแห่งความดี ที่ไปเยี่ยมอ่านอย่างสนใจพร้อมพกพารูปซึ้งๆในอดีตของพี่ใหญ่ด้วย..พี่ใหญ่จึงขออนุญาตแหงนมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสวยๆของคุณแสงแห่งความดี..เพื่อรำลึกถึงผู้เป็นที่รักที่ยืนคู่กับพี่ในภาพนั้นนะคะ..

*น่าอ่านมากค่ะสำหรับธรรมชาติในสวนเขียวนี้ และยินดีด้วยค่ะ ที่อาการติดดินฝังอยู่ในจิตวิญญาณอย่างมีความสุข

 

โอโฮ ท่านแสงแห่งความดี ท่านก็เป็นนักเขียนได้เหมือนกันนะนี่  เรียงลำดับความสำคัญของพระเอกพระรอง พระเอกก็ต้นยาง  ลองกองกับมังคุด ก็เป็นพระลอง  ตัวอิจฉาก็คงเป็นพ่อค้าคนกลาง ที่นั่งรับเงินผ่านมือไป ไม่ได้ออกแรง เป็นดาวร้ายเลย

ตามที่พี่สุฟังอ่านมานี่  คุณจะเปรียบเทียบปรัชญาชีวิต  ทุกสิ่งอย่างพึ่งพาและอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้  แต่ถ้าใครอ่อนแอก็ต้องเป็นผู้พ่ายแพ้ไป

ก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ ทุกสิ่งทุกอย่างคือการต่อสู้  นั่นคือสะพานที่โค้ง ยาวลดเลี้ยว เพื่อที่จะเป็นทางผ่านเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่เราจะข้ามไปสู่จุดหมาย ไม่อยากให้สะพานโค้งเกินไป มันลำบากเวลาขึ้น ยามขึ้นต้องใช้กำลังมากใช่ไหมคะ  แต่เวลาลงง่าย แต่บางครั้งมันง่ายก็จริง แต่ช่วงนั้น เราอาจจะหมดกำลังแล้ว หรือชราไปแล้ว จะมีประโยชน์อื่นอันใดใช่ไหมคะ

ส่วนการฉีดยาไม่ว่าฆ่าแมลง ฆ่าหญ่า อย่าประมาทในชีวิตในเรื่องใส่เครื่องมือป้องกันสารพิษด้วยทุกครั้งนะคะ แม้เราจะรู้ทิศทางลม แต่มันก็มีสิทธิ์ซึมเข้าไปสู่กระแสเลือดได้  วันละเล้กละน้อย  แล้วมันจะแสดงผลโน่น  ตอนที่เราจะข้ามสะพานถึงที่แล้ว แต่มามีอันต้องมารักษาสุขภาพกันต่อแก่คะ ปลายสะพาน แล้วมันจะมีประโยชน์อื่นอันใดละคะ

แต่อย่างไรก็ตาม ขอเป็นแรงใจ กำลังใจให้นะคะ ให้ยางราคาดีๆ  สูงๆ  ตลอดไปคะ

ขอขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยมอ่านบทความของพี่สุ  ในตอน อยากคบเพื่อนที่หลากหลายคะ

และมิตรภาพใน GTK ใม่มีการแบ่งชั้นจริงๆคะ  และเป็นแหล่งชุมนุมแห่งการเรียนรู้ห่วงใย  เป็นลานประเทืองปัญญาชั้นดี   และที่นี่เป็นแหล่งรวมมิตรภาพไร้พรมแดนเช่นกันคะ   ขอบคุณมากเลยที่คิดถึง  พี่สุติดค้นหาภาพ และแต่งกลอนอยู่ไม่ค่อยได้ไปเยี่ยมใครเป็นที่ 1 พอแต่งบทแตงบล็อคเสร็จก็มีเพื่อนเข้ามาหา พี่สุก็จะกลับคืนไปเยี่ยมเลย ทันทีที่ว่างโดยตรงไม่มีเวลา ไปหาอ่านของใครก่อนคะต้องไปหาพี่สุก่อน ใครคิดถึง ไปเลยแล้วจะตามมาตอบให้คะ  นะคะ คนดี  มอบดอกไม้แห่งกำลังใจให้กันคะ  สู้ สู้ คะ

                           

       

 

สวัสดีค่ะ คุณแสงแห่งความดี

  • ประทับใจในเรื่องราวที่เปี่ยมคุณภาพ
  • ถ่ายทอดเรื่องราวชีวิตจริงได้อย่างน่าติดตาม
  • ภาษาสวยเรียบเรียงได้ลงตัว แฝงไปด้วยปรัชญาแห่งชีวิต

..........................

  • ชอบจัง เปรียบชีวิตเป็นดั่งสะพานโค้ง
  • เกิดมาแล้ว ชีวิตมีขึ้นและลง ที่สุดก็ไม่พ้นความตาย
  • ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่…. จะใช้ชีวิตอยู่อย่างไร ให้คุ้มค่าและมีความสุข

...........................

  • ขอบคุณค่ะคุณแสงฯ ขอบคุณที่ได้บันทึกเรื่องราวดีดีแบบนี้
  • และขอบคุณที่ได้ระลึกถึง และไปเยี่ยมเยียนถามไถ่ ให้กำลังใจแป๋มเสมอมา
  • ขอบคุณคนดี คนคุณภาพคนนี้...
  • ขอบคุณ..คุณ"แสงแห่งความดี" ค่ะ.

 

 

สวัสดีค่ะ

เอากุหลาบมาฝากค่ะ

สวัสดี ครับ คุณคนไม่มีราก

การมีชีวิต..แบบของผม

การได้เรียนรู้ชีวิต..แล้วทำให้เกิดพลัง

พ่อไม่เคยสอน....แต่พ่อทำให้ดู...จากการใช้ชีวิตประจำวันของท่าน

ผมอาจเลียนแบบพ่อไม่ได้เท่าพ่อ...แต่ผมก็มีแบบฉบับในชีวิตผม

พ่อ...สอนลูกเพียงการกระทำ มากกว่าคำพูด เพราะพ่อมิใช่ ผู้มีภูมิความรู้...พ่อมิอาจพูดโดยใช้ความรู้เป็นบรรทัดฐาน ...แต่ผมก็มีพ่ออยู่ในหัวใจ  ...หัวใจของการเป็นชาวสวนคนหนึ่ง

....

....

ผมอ่านcommentของอาจารย์ ท่านหนึ่ง....ท่านให้ความคิด ...จนผมรู้สึกครับว่า...

...

พ่อของผมไม่เคยพูดเช่นนี้...แต่ผมคงเปรียบเทียบความรู้สึกของผมที่มีต่อพ่อกับอาจารย์ท่านนี้มิได้... และพ่อยังคงยืนอยู่ตรงนั้นเสมอ...เพราะพ่อมีแบบฉบับของพ่อ...

แต่อาจารย์ท่านนี้...ท่านพูดทำให้ผมรู้สึกถึงธาตุแท้ของตัวเองมากขึ้น...ท่านพูดจากภาษาที่ผมถ่ายทอด

ผมยอมรับ...ครับว่า  มันเป็นเช่นนั้น

...

ผมอ่าน comment ของท่านอยู่เป็นนาน...เพราะตัวเองมิเคยคิดลงลึกถึงเพียงนี้...

 

สวัสดีครับคุณแสงแห่งความดี

อันที่จริงเราต่างเป็นครูชีวิตให้กันและกันนะครับ ในภาษาศิลปะนั้น อย่างคุณแสงแห่งความดีเนี่ย อยู่ในช่วงที่ต้องจัดว่ากำลังมีพลังชีวิตน่ะครับ ในช่วงเวลาอย่างนี้เหมาะสำหรับการทำงานที่มีความสะท้อนและเชื่อมโยงกับความเป็นชีวิตจิตใจ มีพลังสร้างสรรค์และได้ความเป็นหนึ่งกับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มากกว่าการใช้ความสามารถของสมอง เป็นงานแบบ Reflection เหมือนเป็นลายแทงชีวิตน่ะครับ เมื่อได้ย้อนกลับมาอ่านแต่ละครั้งก็จะเห็นอีกด้านหนึ่งซึ่งเป็นพลังชีวิตที่เหมือนไม่ใช่มาจากตัวเรา ช่วงเวลาอย่างนี้ หากได้ทำงานก็จะออกมาดี และเมื่อได้นั่งอยู่กับการทำงานเชิงความคิด ก็เหมือนกับมีกำลังสติพอที่จะเป็นครูของตนเองได้ครับ

โครงสร้างชีวิตของคุณแสงแห่งความดีที่กำลังเป็นอยู่ ณ เวลานี้ เมื่อบวกกับวิธีมองโลกที่ถือเอาการใช้ของจริงในชีวิตเป็นมรรควิถีแห่งการเรียนรู้และฝึกอบรมตน และรวมเข้ากับความสามารถของคนชั้นกลางรุ่นใหม่ของสังคมซึ่งมีการศึกษาสูง สามารถทำประสบการณ์ชีวิตให้เป็นวัตถุดิบในการคิด เขียน สร้างความรู้และสร้างงานวรรณกรรมสะท้อนชีวิต เหล่านี้ เป็นความเป็นตัวของตัวเองที่น่าบ่มเพาะครับ

เป็นคนชั้นกลางที่มีโครงสร้างชีวิตเชื่อมโยงถึงภาคการผลิตที่แท้จริง ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่การสร้างสังคมที่ใช้เครื่องมือและวิธีการทางความรู้ของคนชั้นกลางของสังคมไทยที่คนส่วนใหญ่จะยังขาดอยู่มาก เช่น การเข้าถึงพื้นที่สร้างความเคลื่อนไหวทางความรู้ การเข้าถึงสื่อและพื้นที่การสร้างสรรค์ทางปัญญา การเข้าถึงกลไกและองค์กรเพื่อสร้างความเป็นส่วนรวมสมัยใหม่ ซึ่งลักษณะของคนชั้นกลางอย่างนี้ ผมคิดว่ายังขาดแคลนและเป็นตัวแบบเชิงอุดมคติของคนชั้นกลางอันเป็นที่ต้องการมากของสังคมไทย

โดยทั่วไปนั้น คนชั้นกลางของสังคมไทย พอเริ่มเข้าเรียนตั้งแต่เป็นเด็กตัวเล็กๆจนเข้าสู่ขั้นมหาวิทยาลัยและเข้าไปเป็นกลุ่มสังคมนักวิชาชีพ เจ้าของกิจการ และชนชั้นนำในภาคต่างๆของสังคมนั้น ก็หลุดออกจากความเป็นจริงของสังคมและความเป็นสังคมการผลิต

งานความคิดและการสร้างความรู้เพื่อชี้นำความเป็นไปของสังคมก็จำเป็นต้องสร้างขึ้นจากความรู้ต่อความรู้และความคิดต่อความคิด คิดและนึกเอา ซึ่งบางทีก็อาจไม่ได้มาจากโลกความเป็นจริงเพราะประสบการณ์จากความรู้โดยมากนั้น เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์ทางความคิดและผ่านประสบการณ์ของผู้อื่น เมื่อมองในแง่นี้ ก็จะเห็นบางสิ่งที่อยู่ในวิถีของคุณแสงแห่งความดีเหมือนอย่างที่มหาตมคานธีขอเรียนรู้สังคมและตนเองเสียใหม่หลังจบจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และผ่านการใช้ชีวิตจากสังคมยุโรป คือ การตรวจสอบและทดลองกับความจริงแห่งชีวิต ดูออกจะเปรียบกับตัวอย่างที่ใหญ่โตไป แต่ไม่เกินความเป็นจริงน่ะครับ

ส่วนชาวบ้านและชุมชนการผลิตจริงๆทั้งในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และการผลิตบริการสาขาต่างๆ ก็มักมีวิถีมุ่งสู่เป้าหมายทางวัตถุและสิ่งตอบแทนทางเงินตรา ขาดการเรียนรู้และทำประสบการณ์ให้เป็นทุนทางปัญญา สังคมจึงมักได้แรงงานและคนกินเงินเดือนที่มีความมั่งคั่งทางวัตถุแต่ขาดอุดมคติแห่งชีวิต เป็นวิถีชีวิตที่ขาดความลุ่มลึก ไม่มีกำลังวิจารณาณต่อสังคม และขาดความสำนึกต่อความเป็นส่วนรวมที่ใหญ่กว่าตัวเอง

หากเรียกอย่างเป็นอนุสติให้กับตัวเราเองก็คือ คนส่วนใหญ่เป็นไปตามกระแสหลักที่อยู่กันในสังคมด้วยชีวิตที่เปล่ากลวง งกเงิ่นหาเงินและแสวงหาตำแหน่งแห่งหนทางสังคมอย่างไร้ความหมาย

เลยก็สักแต่ผลิต ปฏิบัติ และดำเนินชีวิตไป แต่ขาดกำลังที่จะเรียนรู้ ยกระดับคุณภาพแห่งชีวิตและเปลี่ยนแปลงตนเองให้สอดคล้องกับบริบทใหม่ๆของสังคมโลกอยู่เสมอ

สังคมของเราก็เลยมีชนชั้นกลางที่มีทักษะเพียงเป็นแรงงานชั้นดีของกิจการสมัยใหม่และมีความสามารถเพียงเอาตัวรอดได้ก็เก่งแล้ว ส่วนชุมชน เราก็มีความเป็นชุมชนและวิถีการรวมกลุ่มก้อนของปัจเจก ที่ทำหน้าที่ผลิตงกๆและดำรงอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงตามยถากรรม ตามพื้นที่ต่างๆของประเทศ

ทั้งสองด้านที่คนส่วนใหญ่ขาดนี้ มีอยู่ในคนจำนวนหนึ่งหลากหลายสาขาซึ่งสำหรับผมแล้วก็ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวเปลี่นแปลงใหม่ๆของสังคมน่ะครับ ผมเรียกไปก่อนว่าวิถีประชาศึกษา และกำลังมีอยู่ในการดำเนินชีวิตของคุณแสงแห่งความดีน่ะครับ พออ่านงานของคุณแสงแห่งความดีก็เลยได้อรรถรสและได้พลังแห่งชีวิตอย่างที่พยายามกล่าวมานี้เช่นกันครับ ทำ สังเกต ทบทวน และบันทึกถ่ายทอดสะสมไปทีละเล็กละน้อย นอกจากจะได้แบ่งปันกับคนอื่นและสื่อสารเรียนรู้ไปกับสังคมแล้ว ก็จะเป็นวิธีดำเนินชีวิตที่มีการพัฒนาวิถีความรู้ที่น่าสนใจมากเลยครับ เหมือนเป็นการวิจัยจากชีวิตจริงเลยทีเดียว

ผมเพิ่งรู้ครับว่า....ท่านมองอะไรในตัวผม

การกราบใครสักคน....ผ่านบันทึก จึงสมควรที่จะทำได้

ผมกราบ...ความคิดของอาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์ ครับคุณคนไม่มีราก

P

 

ชีวิตที่เกิดมา...บางครั้งบางเรื่อง  ก็มิเคยได้เรียนรู้จากมุมมองชีวิต...โดยภูมิปัญญาผู้อื่น

การได้กลับมามอง...จึงมีคุณค่าแห่งการดำรงชีวิตต่อไป...

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี...ตอนนี้ยะลาฝนตกหนักทุกวันเลยค่ะ....

แต่เขาบอกว่า..ฟ้าหลังฝน..ย่อมดีเสมอค่ะ...

ได้เพียงชื่นชม เป็นกำลังใจให้กัลยาณมิตรนะคะ

ตามมาอ่านบันทึกย้อนหลังค่ะ

สวัสดี ครับ คุณ ไผ่ไม่มีกอ

วิถีธรรมชาติ สอนชีวิตให้เรียนรู้อะไรมากมายนัก

ไม่ต้องปรุงแต่งมาก

เพียงพกหัวใจที่ศรัทธา ก็ลงมือทำได้แล้ว นะครับ

ขอบคุณ คุณก้านกอ มาก นะครับ

สวัสดี ครับ คุณ tukky

สวัสดีค่ะคุณแสง...เห็นแล้วนึกถึงตอนเด็กๆเคยอยู่ทางใต้หลายปีมากค่ะ เพราะคุณพ่อรับราชการต้องย้ายตามไปตลอด เคยอยู่ ยะลา สงขลา นครศรีฯ ชุมพรจะอยู่นาน 7 ปีแนะค่ะ  มีความสุขมาก ๆ เพราะอุดมสมบูรณ์มาก

การแซมยางท่ามกลางไม้ผลแบบนี้ ผมมองว่า ได้ผล นะครับ

ต้นมังคุด ก็ยังขึ้นงามท่ามกลางต้นยางที่แทงยอดสูงเร็วกว่า มังคุด หลายเท่าตัว

ปีนี้ ยางที่แซมสวนมังคุด 4ปี แล้ว อีก ประมาณ 2 ปี ก็คงลงมีดได้

ต้นมังคุดก็ยังคงออกดอก ออกผลให้เก็บกินได้เหมือนเดิม

...

ขอบคุณ คุณ tukky มาก นะครับ

สวัสดี ครับ คุณ

P
ยางที่ปลูกอยู่ ณ เวลานี้ ชาวบ้านจะทราบว่า พันธ์ที่ปลูกส่วนใหญ่ จะมี 2 พันธ์ คือ 24 และ 600(ที่จริงน่าจะมีมากกว่านี้ นะครับ)
ความแตกต่างกันของพันธุ์ยางที่ผมกล่าวถึง
เจ้า 24 เนี่ย! ผลผลิตจะสูงมาก ในการกรีด 2-3 ปีแรก (น้ำออกดี )ที่สำคัญ ยางพันธุ์นี้
ชอบความชุ่มชื้นสูง
เจ้า 600 เนี่ย! ชาวบ้านชอบปลูก นะครับ หน้าสวย และตายน้อยกว่า
จริง ๆ แล้ว ยางแต่ละพันธุ์ก็มีจุดดีกันคนละแบบนะครับ คุณก้านกอ
หากไม่ดีจริง..ชาวบ้านก็คงไม่ปลูก หรอก นะครับ
ผมว่าจะลองหาข้อมูลจริง ๆ ของยางพารามาไว้ที่บันทึกนี้บ้าง
อย่างน้อยก็จะได้ต่อยอดความรู้ในบันทึกให้มีคุณค่าเพิ่มขึ้น
ขอบคุณนะครับ

สวัสดี ครับ คุณสามสัก

  • โอ้..สวนคุณแสงน่าอยู่มาก น๊ะ
  • ร่มรื่น ร่มเย็น....กายใจดีแท้
  • วันนี้ฝนตกแล้ว... หลังจากที่แล้งติดต่อกันนาน ประมาณ 3 อาทิตย์ เห็นจะได้

    เดินเข้าไปในสวน เดินลูบต้นยางบ้าง ต้นมังคุดบ้าง ต้นทุเรียนบ้าง

    พูดในใจกับต้นไม้เหล่านี้ ว่า..พวกเจ้าโชคดีแล้ว นะที่ฟ้าดินไม่โหดร้ายจนเกินไปนัก..เพราะน้ำในบ่อ 2-3แห้งจะขอดหมดแล้ว

    เห็นใบมังคุด ใบเงาะ ใบทุเรียนแล้วสงสาร..เหี่ยวแห้งกันถ้วนหน้า..

    คืนนี้...พวกเจ้าคงนอนกันอย่างมีความสุขแล้ว สินะ (รอดแล้วเรา) เจ้าของสวนก็ยืนยิ้มอย่างมีความสุข เช่นกัน

    เฮ้อ! ...โล่งอก..

    ยางที่หยุดไปเป็นอาทิตย์ ก็คงได้เริ่มตัดกันต่อแล้ว

    ขอบคุณ...ธรรมชาติที่ยังรังสรรค์ให้ ชาวสวนชาวไร่ได้ ยืนยิ้มกันได้อีก

    ..

    ขอบคุณคุณสามสักมาก นะครับ 

    สวัสดี ครับ คุณ

    อ้อยควั้น_ชายแดนใต้

    • แวะมาชมธรรมชาติค่ะ
    • สู้ ๆ นะค่ะ...เป็นกำลังใจให้ค่ะ

    ขอบคุณ ครับ

    ช่วงนี้ฝนทางใต้คงตกหนักเหมือนกันทุกที่ ใช่มั้ยครับ

    แต่ถึงอย่างไรก็แล้วแต่ ...ปชช. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงต้องรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิต อยู่อย่างสม่ำเสมอ นะครับ

    ด้วยความระลึกถึง ครับ

    ดีจังเลยครับ อยากให้ชีวิตเป็นแบบนี้ สักวันหนึ่งในเวลาอันไม่นาน ตอนนี้อยู่กลางเมือง ไม่รู้ว่าวันนั้นมาถึงจะอยู่รอดแบบพอเพียงสงบเย็นได้หรือไม่?

    อยู่กับธรรมชาติ

    เรียนรู้จากธรรมชาติ

    และจะได้เข้าใจธรรมชาติของสรรพสิ่งที่เรียบง่าย

    แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะเคยสัมผัสนะครับ

    ขอบพระคุณสำหรับบันทึกครับ...

    เพลงเพราะจังเลยค่ะ

    เหมาะกับ ภาพชีวิตชาวไร่ชาวสวน มาก

    ฟังแล้วรื่นรมย์ มีความสุข

    สวัสดี ครับ

    Ico48

    ต้นยางที่ปลูกแซมสวนมังคุด ปีที่4 แล้ว แต่ลำต้นโตและแข็งแรงมากเลย ครับ

    ผมมองว่า ปีหน้า คงลงมีดได้แล้ว การกำหนดกฏเกณฑ์ อะไรต่าง ๆ ว่า เมื่อไรยางจะตัดได้นั้น ทำให้ผมมองธรรมชาติมากขึ้น ครับ บางครั้งเราอาจไม่ต้องยึดติดกฎเกณฑ์ต่างๆ มากก็ได้

    ...

    ณ วันนี้ ราคายางสูงมาก ชาวสวนยาง มีฐานะมากขึ้น บางครอบครัว ผลิกฐานะจากหน้ามือเป็นหลังมือ เศรษฐฐานะสร้างคนได้ในพริบตา แต่ต้องมองต่อครับว่า เราจะยืนอยู่อย่างไรท่ามกลางเศรษกิจเช่นนี้ ต้องไม่ลืมตัว ใช้เงินไม่เป็น เงินก็จะหมดไปโดยใช่เหตุ

    ที่สำคัญ ๆ ผมมองช่องว่างระหว่างคนมีเงินกับไม่มีเงิน นับวันก็ยิ่งห่างไกลกันไปเรื่อย ๆ เลย นะครับ คุณคนไม่มีราก  สังคมเราจะเข้มแข็งได้ สังคมต้องเกื้อกูลกันด้วย

    ...

    ขอบคุณคุณคนไม่มีรากมากนะครับ

    อ่านแล้วอึ้ง ทึ่ง อิ่มเอมอย่างพี่หญิงค่ะ

    .. เป็นกำลังใจ มีพลังไต่ฝัน สักวันจะเป็นจริง ...

    ห่างหาย แต่ไม่ห่างเหิน เพลิดเพลินกับกิจกรรมที่รักชอบ

    สุขสันต์ดั่งใจปรารถนา ... ดีใจกับมิ่งมิตร ค่ะ

    ...

    ขอบคุณ คุณpoo นะครับ

    Ico48
    poo
    Ico48

    ขอบคุณ ข้อcomment ที่ครูฝากไว้นะครับ

     

    ยางที่ปลูกไว้เมื่อ 5 ปี ที่แล้ว ปีนี้ลงมีดได้แล้ว

    น้ำยางออกดีมาก   คงเป็นเพราะอากาศทางปักษ์ใต้เหมาะกับเค้าก็ได้

    ลำต้นอวบใหญ่  น้ำยางออกดี

    ขอบคุณครูมากนะครับ

     

    • สวนยางของพี่จ้างเขาปลูกเมื่อ 3 ปี ที่แล้ว จ้างเขาดูแล โดยไม่มีความรู้และไม่มีเวลาไปแวะดู  ปีนี้ลูกกลับมาบ้านจึงชวนลูกไปดูปรากฏว่าเขาปลูกแบบ"ไม่มีรูปแบบตายตัว" แต่ละแถวระยะความถี่ห่างไม่เท่ากัน  บางแถวห่างกันมาก เคยคิดจะซ่อมด้วยยางต้นใหม่กลัวว่าจะโตไม่ทันกัน  (จึงไม่ได้ปลูกอะไรเลย)
    • อ่านบันทึกนี้แล้ว จึงคิดว่าน่าจะนำไม้ผลไปแซมดู  เลยไปสังเกตตามสวนอื่นๆที่อยู่ใกล้ๆกัน เห็นว่า กล้วย มังคุด  ลองกอง  และจำปะดะ จะอยู่ร่วมกับต้นยางได้  จะจ้างเขาปลูกซ่อมอีกครั้ง (ต้องหาต้นพันธุ์ก่อน)
    • ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ

    สวัสดิีีค่ะคุณแสงแห่งความดี

    พึ่งได้เข้ามาชมสวนของคุณ   และการเล่าเรื่องราวแล้วชวนให้ติดตามมากเลยค่ะ

    คล้ายๆกับสวนที่พ่อแบ่งให้ พ่อเป็นแบบอย่างที่ดีเสมอ ไม่ค่อยพูด ทำงานทุกอย่าง สอนลูกเสมอว่าให้เรียนหนังสือได้ทำงานเพื่อเลี้ยงตัวเอง เพราะพ่อมีสมบัติให้กันไม่มาก เนื่องจากมีลูกหลายคน พ่อบอกเสมอว่า อย่าขายที่ดินที่พ่อแบ่งให้นะ เพราะโอกาสที่เราจะซื้อได้นั้นต่อไปข้างหน้าคงลำบาก  พ่อบอกว่าสมัยก่อน มาจากสงขลาขายที่นา ไร่ละ 100 บาท แต่ตอนนี้สวนยางพาราไม่ต่ำกว่าไร่ละแสน  ต่อไปจะเอาที่ไหนให้ลูกหลาน จนตอนนี้พ่อเสียชีวิตไปแล้ว

    ในสวนเมื่อก่อนพ่อเคยปลูกยางพารา แต่หาพ่อค้ารับซื้อยากมากยางพารา กิโลละ 15 บาท  เลยไว้ได้ไม่กี่ปีก่อนพายุเกย์ พ่อเลยโค่นทิ้งหมด  แล้วหันมาปลูกลองกอง แซมด้วยสะตอ  เพราะขณะนั้น ลองกองกิโลละ 150 บาท  7 ปีต่อมา ลองกองที่สวนเริ่มผลิตผล ก็ขายได้ ราคา  120 บาท อยู่ประมาณ  2  ปี  หลังจากนั้นก็ราคาต่ำลงมาเรื่อย ๆ  พ่อก็เริ่มปลูกมังคุดในสวนด้วย  พอพ่อแบ่งให้ลูก  ๆ  ก็เห็นว่าการดูแลต้นลองกองต้องใช้เวลา ต้องแต่งกิ่ง  รดน้ำ  แต่งช่อดอก และต้องห่อด้วยตาข่ายเพื่อป้องกัน นกและค้างคาวมาตีและกินลูก จึงทำให้ดูแลได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่  จึงตัดสินใจ ปลูกยางพารา ระหว่างแถวลองกอง และมังคุดอีก  ตอนแรกตั้งใจว่าจะโค่น แต่นึกถึงที่พ่ออุตส่าห์ปลูกไว้ให้ จึงเลยเอาไว้ทั้งหมดในสวน จึงกลายเป็นสวนสมรม (ทั้งร่มรื่นและรกไปพร้อมกัน) ตอนนี้ยางพาราที่ปลูกไว้ในสวนก็เข้าปีที่ 8 เปิดกรีดได้แล้ว  ลองกองและมังคุดก็ยังอยู่ได้เหมือนที่คุณแสงแห่งความดีเล่าให้ฟัง ตอนนี้พอเข้าสวนที่ไร มีความรู้สึกว่าสดชื่น  มีความสุขกับการทำสวน ถึงแม้บางครั้งจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่พอได้อาบน้ำแล้วนอนเต็มตื่นก็หายเหนื่อยเพือเตรียมต่อสู้กับงานในวันใหม่อีกครั้ง  จึงขอเป็นกำลังใจให้ชาวสวนทุกท่านนะค่ะ  


    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท