บุคคล 7 ประเภท


สติปัฏฐาน 4 ...ยานอันเอก

ท่ามกลางทะเลหลวงอันกว้างใหญ่ไพศาลที่มืดมิดและเต็มไปด้วยภยันตรายต่างๆรอบด้าน แสงสว่างแห่งปัญญาเท่านั้นที่จะนำสัตว์โลกขึ้นสู่ฝั่งที่ปลอดภัยได้

 

สติปัฏฐาน 4 เป็นสนามแห่งการฝึกฝนจิตเพื่อให้เกิดปัญญาญาณเป็นยานอันเอก เป็นยานที่เลิศ เป็นยานอันประเสริฐที่จะรื้อถอนสัตว์โลกให้ขึ้นฝั่งพ้นจากวังวนแห่งความทุกข์ ที่เวียนว่ายมานานแสนนาน

 

อภิธรรมปิฏก ปุคคลบัญญัติ เล่มที่ ๓๖ ข้อที่ ๒๐๓ สัตตปุคคลปัญญัติ พระพุทธองค์ทรงแบ่งบุคคลออกเป็น ๗ ประเภทดังนี้

 

๑. ผู้จมแล้วครั้งเดียว ย่อมจมอยู่นั่นเอง

คือ บุคคลผู้มีจิตประกอบด้วยอกุศล อันเป็นธรรมดำล้วนๆ

 

 

๒. ผู้โผล่แล้วจมลงอีก

คือ บุคคลผู้มีจิตประกอบด้วยธรรม คือ ศรัทธา, หิริ - ความละอายต่อบาปอกุศล, โอตัปปะ - ความเกรงกลัวต่อบาปธรรม, วิริยะ - ความพากเพียร, ปัญญา กุศลธรรม ๕ อย่างนี้ ย่อมยังประโยชน์อันสูงสุดให้สำเร็จได้แต่ไม่สามารถรักษาคุณธรรมไว้ได้ มีแต่ความเสื่อมลงในที่สุด

 

 

๓. ผู้โผล่ขึ้นมาแล้วหยุดอยู่

คือ บุคคลผู้มีจิตประกอบด้วยกุศลธรรม ๕ ประการ แต่ดำรงอยู่ ณ จุดเดิมไม่เจริญขึ้นทั้งไม่เสื่อมลง

 

๔. ผู้โผล่ขึ้นมาแล้วเหลียวมองดู

คือ บุคคลผู้มีจิตประกอบด้วยกุศลธรรม ๕ ประการ และ สามารถเจริญคุณธรรมไปถึงขั้นสูง คือ ระดับโลกุตตระ ดับกิเลว ประหารสังโยชน์ได้เป็นสมุทเฉท เป็นอริยโสดาบันบุคคล ผู้ปิดประตูแห่งอบายภูมิ เป็นผู้คงที่ที่จะตรัสรู้อริยสัจธรรมขั้นสูงสุด อันเป็นที่ดับสนิทแห่งเพลิงทุกข์ทั้งปวงจะเวียนว่ายอยู่ในภพภูมิอีกไม่เกิน ๗ ครั้ง ถึงแม้ท่านจะเวียนว่ายอยู่ แต่ก็ไม่ไปสู่แดนอบายภูมิ เพราะประตู แห่งอบายภูมิได้ปิดสนิทแล้วสำหรับบุคคลประเภทนี้ ท่านเปรียบว่า ท่ามกลางความมืดมิดแห่งอวิชชานั้น แสงฟ้าแลบแห่งปัญญาปรากฏขึ้นครั้งแรก ทำให้มองเห็นทิศทางว่าฝั่งอยู่ทิศใด


๕. ผู้โผล่ขึ้นแล้ว ว่ยข้ามไป (ว่ายเข้าหาฝั่ง)

คือ จิตระดับพระสกิทาคามีบุคคล ผู้เห็นแสงฟ้าแลบแห่งปัญญาปรากฏขึ้นครั้งที่ ๒ เห็นฝั่งนิพพานชัดแล้ว พากเพียรแหวกว่ายเข้าสู่ฝั่ง ปัญญาระดับนี้ สามารถประหารสังโยชน์ ได้ ๓ อย่าง เหมือนโสดาบุคคลและสามารถดับโลภะ โทสะ โมหะ อันเป็นส่วนหยาบๆได้ด้วย เป็นผู้ที่เวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏอีกพียงครั้งเดียวเป็นอย่างช้าก็จะขึ้นสู่ฝั่งโดยปลอดภัย

 

 

๖. ผู้โผล่ขึ้นแล้ว และ ว่ายไปถึงที่ตื้นพอหยั่งถึง

คือ จิตระดับอนาคามีบุคคล ผู้บรรลุอริยสัจธรรมครั้งที่ ๓ ผู้เห็นปรากฏการณ์ฟ้าแลบแห่งปัญญาครั้งที่ ๓ เป็นผู้ดับสังโยชน์เบื้องต่ำ ๕ ได้เป็นสมุทเฉท หากไม่บรรลุคณธรรมขั้นสุดท้ายในปัจจุบันชาติ จะถือปฏิสนธิอุบัติขึ้นบนสุทธาวาสภูมิ และ จักบรรลุธรรมขั้นสุดท้ายพร้อมทั้งปรินิพพานบนพรหมโลกนั้น ไม่กลับสู่กามภูมิอีก

 

 

๗. ผู้โผล่ขึ้น และ ว่ายข้ามไปถึงฝั่งแล้ว เป็นผู้ประเสริฐอยู่บนบก

คือ จิตระดับพระอรหันต์ เมื่ออรหัตตมัคญาณปรากฏ เปรียบได้ดังสายฟ้าที่ผ่าลงมา กิเลส ตัณหาที่เหลืออยู่ดับหมดสิ้น ม่านหมอกแห่งอวิชชาถูกกำจัดแล้ว กงล้อแห่งสังสารวัฏถูกทำลายสิ้นแล้ว เข้าถึงแล้วซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่สิ้นไปแห่งอาสวะกิเลสทั้งปวง

 

 

ที่มา : หนังสือ วิมมุตติธรรม..ท่านอาจารย์ ปิยทัสสีภิกขุ ถ้ำดอยโตน เชียงใหม่

 

 

............................................................................................

 

 

วิชาการในโลกมีมากเหลือเกิน แต่พุทธศาสนิกชนก็ควรรู้ สติปัฏฐาน ๔ ซึ่งเป็นทางสายเดียวที่จะช่วยให้บุคคลผู้มืดบอดถึงฝั่ง หมั่นศึกษา เล่าเรียนวิชานี้กันด้วยเถิด

 


ภูมิธรรมระดับพระโสดาบันถึงจะประกันได้ว่า ไม่ไปอบายภูมิ ปุถุชนผู้ใฝ่ธรรมควรพากเพียรตามกำลังความสามารถเพื่ออย่างน้อยจะถึงหลักประกัน หรือ เลื่อนชั้นตามสมควร จะได้ไม่ต้องเสียดายที่จะผ่านไปชาติหนึ่งโดยไม่ได้พัฒนาอะไรเลย

คำสำคัญ (Tags): #สติปัฏฐาน ๔
หมายเลขบันทึก: 300789เขียนเมื่อ 25 กันยายน 2009 18:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (44)

ครูอ้อยมาทักทายค่ะ อยากเป็นทั้ง 7 อย่างเลยได้ไหมคะ เยอะดี

  • ขอบพระคุณมากค่ะ พี่ศิลาเห็นภาพของขั้นการปฏิบัติเลยค่ะ
  • ชีวิตที่เหลือคิดเป็นวันละบาท เหลือไม่มากเลยนะคะ

สวัสดีค่ะ

  • ขอขอบพระคุณค่ะ
  • จะปฏิบัติได้ถึง..ประเภทไหนหนอ..เพียงได้อ่าน
  • ก็เป็นกุศลแล้วนะคะ  เพราะทำให้รู้ตัวตนค่ะ

พี่คงเป็นแบบนี้ ผลุบๆโผล่ๆ

๒. ผู้โผล่แล้วจมลงอีก

  • สวัสดีค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะ นอกจากจะพยายามให้ดีขึ้นแล้วจะนำไปบอกเล่าให้คนอื่นได้รับรู้ค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ
  • ช่วงนี้ พี่จะต้องทำการบ้าน (ของพระอาจารย์ปราโมทย์) มีสติรู้ตัวค่ะ ก็เลยไม่อยากเขียนบันทึกหรือตอบเม้นท์บ่อย ๆ  อาจจะทำให้เผลอนาน ๆ
  • ยิ่งในช่วงที่มีงานใหญ่และเสี่ยงเข้ามา ตอนนี้จะวัดเราได้ว่าเราสอบผ่านหรือไม่ด้วยค่ะ
  • แล้วคงได้ไปส่งการบ้านที่วัดสวนสันติธรรมใหม่ค่ะ
  • น้องซวงจะกลับมา G2K อีกครั้งในไม่ช้านะคะ คุยกับเขาแล้ว งานโครงการที่เขาทำอยู่ใกล้จะเสร็จเร็ว ๆ นี้ค่ะ

ถูกใจระดับที่ 7 ค่ะ

๗. ผู้โผล่ขึ้น และ ว่ายข้ามไปถึงฝั่งแล้ว เป็นผู้ประเสริฐอยู่บนบก

ขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณ ครูอ้อยนะครับที่มาเยี่ยม

ขอบพระคุณพี่ศิลาที่มาเยี่ยมนะครับ

วันนี้ผมก็ไปกราบหลวงพ่อครับ ว่าจะส่งการบ้าน พอหลวงพ่อถามใครจำเป็นค่อยถาม

มือหดทุกทีครับ

คิดเอาเองครับว่าไม่จำเป็นมาก แต่ก็ดีถ้าได้ทวนสอบ และ เผื่อจะได้การบ้านมาทำครับ

ส่งการบ้านแล้วมาบอกเล่ากันบ้างนะครับ

สวัสดีครับ

พี่ครูคิม แค่ได้อ่านก็เป็นกุศลจริงๆครับ

อาจจะยากบ้าง ไกลบ้างแต่เราก็ควรพัฒนาไปทีละขณะครับ

ขอบพระคุณครับ

ขอบพระคุณครู ป1 ครับ

สาธุครับ

ขอบพระคุณป้าแดงครับ

มีความเพียร พัฒนา เป็นสิ่งดีมากครับ

อนุโมทนานะครับ ถ้าจะนำไปบอกต่อ

ขอบพระคุณ ครูจิ๋วที่มาเยี่ยมครับ

ระดับ 7 คือ ผู้ไปถึงฝั่ง

เป็นที่สุดแห่งทุกข์

ควรเป็นเป้าหมายของทุกคนแม้จะใช้เวลานานก็ตามครับ

มาอ่านบุคคล 7 ประเภทค่ะ..."แสงสว่างแห่งปัญญาเท่านั้น...ที่จะนำสัตว์โลกขึ้นสู่ฝั่งที่ปลอดภัยได้"...ขอบคุณสาระดี ๆ ค่ะ

ขอบพระคุณ คุณนงนาทที่มาเยี่ยมนะครับ

ธรรมรักษาครับ

ไป vote น้องนัทมาเหมือนกันครับ

ขอบพระคุณ คุณ vij ที่มาเยี่ยมครับ

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

ขอบคุณบันทึกดี ๆ ครับ

จำว่าเคยผ่านตามาบ้าง

ได้อ่านเต็ม ๆ อีกครั้งครับ

อนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ

ขอบคุณ คุณหนานเกียรติที่มาเยี่ยมครับ

สวัสดีค่ะ

ชอบบันทึกนี้ค่ะ....ไม่ค่อยกล้าประเมินตัวเองเลย...

แต่...ก็จะพยายามเพื่อให้ได้เลื่อนชั้นตนเองขึ้นไปค่ะ...

และเห็นด้วยที่สุดกับที่ว่า...วิชาการในโลกมีมากเหลือเกิน แต่พุทธศาสนิกชนก็ควรรู้ สติปัฏฐาน ๔ ซึ่งเป็นทางสายเดียวที่จะช่วยให้บุคคลผู้มืดบอดถึงฝั่ง หมั่นศึกษา เล่าเรียนวิชานี้กันด้วยเถิด

ขอบคุณมากค่ะ

(^___^)

ปล.ขอโทษค่ะ ช่วยลบด้านบนด้วยค่ะ เผลอกดมือยาวเลยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ

.

สติปัฏฐาน 4 ตามที่ปรากฏในมหาสติปัฏฐานสูตรนั้น ไม่มีลำดับการปฏิบัติ จะทำตรงไหนก่อนก็ได้ หากสติปัฏฐาน 4 ที่ปรากฏในอานาปนสติสูตร มีลำดับการปฏิบัติเป็นขั้นๆไป

.

สติปัฏฐาน 4 ปฏิบัติได้ 2 โอกาส คือใน 4 อิริยาบท และในอิริยาบทนั่งสมาธิ ดิฉันมองว่าการปฏิบัติใน 4 อิริยาบท เป็นการตั้งสติเพื่อเน้นการปิดกั้นกิเลสใหม่เข้าสู่จิต พิจารณาโทษของกิเลสต่างๆที่จรเข้ามาในระหว่างวัน แล้วละวาง อันเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดกิเลสใหม่ และลดทอนกิเลสเก่า ส่วนการปฏิบัติในอิริยาบทนั่ง ซึ่งมีถึง 16 ขั้น เน้นการพิจารณาธรรมเพื่อให้เกิดปัญญาญาณขั้นต่างๆ

.

เข้าใจอย่างนี้นะคะ ถูกผิดโปรดพิจารณา

สวัสดีครับ คุณทางเดินแห่งรักที่มาเยี่ยม

ขอบพระคุณ คุณคนไม่มีรากที่มาเยี่ยมครับ

เราควรค่อยๆฝึกพัฒนาตัวเองไปตามลำดับนะครับ

เจริญในธรรมครับ

ขอบพระคุณ คุณณัฐรดาที่มาเยี่ยมครับ และ มาแลกเปลี่ยนครับ

ครับ ในอานาปานสติสูตรมี 16 ขั้นตามลำดับ

ตอนนี้ผมฝึกหมวดจิตตานุปัสสนาเป็นหลักครับ คือ คอยดูจิตที่เกิดสภาวะในชีวิตประจำวัน ตามที่เรียนมาจากครูบาอาจารย์ครับ

แต่ฝึกแบบดูจิต จนเกิดสัมมาสติ แล้วเห็นไตรลักษณ์ ก็จะค่อยๆสะสมปัญญาไปครับ

เคยลองศึกษาอานาปานสติเเหมือนกันแต่ปฏิบัติไม่ค่อยถูกครับ อาจจะไม่ค่อยตรงกับจริตของผมน่ะครับ

พอมาฝึกดูจิต รู้กายรู้สึกว่าตรงกับจริตตัวเองที่เป็นจริตทิฎฐิจริตในวิปัสสนาน่ะครับ

สาธุ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปนะครับ

P.S. อย่าลืมว่าสิ่งที่เราตามหาอยู่ต่อหน้า ต่อตาเรานี่เองนะครับ ^0^

สวัสดีค่ะ ขอบคุณบันทึกดีๆที่นำมาแบ่งปันนะคะ

กำลังพยายามฝึก กำหนดรู้ในวิถีชีวิตประจำวัน แต่ยังห่างไกลค่ะ

ลืมหายใจอยู่เรื่อย ยังไม่ก้าวหน้าเท่าใดนัก แต่ยังพยายามอยู่ค่ะ

อนุโมทนากับการฝึกด้วยค่ะ

.

ก่อนหน้านี้ การฝึกในทุกอิริยาบทของดิฉัน เมื่อมีเวทนาเกิดขึ้น เมื่อดิฉันเห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เมื่อได้สติก็ละ เวทนาก็ดับ จิตกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

.

ต่อมาจึงรู้ว่านั่นเป็นวิปัสสนูปกิเลสค่ะ คือการเพียรพยายามให้จิตปราศจากเวทนาที่เป็นโทษอยู่เสมอ สติ หรือ จิต จึงไปจดจ่ออยู่กับการนั้น จนละเลยการใช้ปัญญาไป

.

เดี๋ยวนี้ เมื่อน้อมลงสู่ไตรลักษณ์ เห็นการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปแล้ว ก็อบรมจิตต่อค่ะ โดยชี้โทษให้จิตเห็น ให้จิตค่อยๆปล่อย

.

เรียกว่า เมื่อเห็นไตรลักษณ์แล้ว ก็ใช้ปัญญาอบรมจิตต่อ ให้เกิดปัญญาเพิ่มขึ้น

.

เลยมารู้ตัวเอาทีหลัง แม้กว่าจะรู้จะนานไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่รู้นะคะ

ขออนุญาตนำไปประกอบการบรรยายในที่ต่างๆ นะครับ..

ขอบคุณครับ

ขอบพระคุณ คุณสามารถที่มาเยี่ยมนะครับ ธรรมอยู่ต่อหน้าต่อตาเรานี่เองครับ

สวัสดีครับ คุณ giant bird

เพียรฝึกไปความก้าวหน้าจะเกิดตามลำดับครับ ผมก็ยังมือใหม่ครับ

อนุโมทนาบุญด้วยครับ

สวัสดีอีกครั้งครับ คุณณัฐรดา

อนุโมทนาบุญด้วยเช่นกันครับ

สวัสดีครับ อาจารย์แผ่นดิน

ยินดีมากครับ อนุโมทนาสาธุครับ

สวัสดีค่ะ....

แวะเข้ามารับสาระดีๆ การอ่านเรื่องราวดีๆช่วยพัฒนาจิตใจ ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้ฝักใฝ่ในการทำดี

การทำดีช่วยเติมเต็มความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ....

รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

สวัสดีครับ

ก้าวย่างอย่างผู้นำ เพื่อหลุดพ้นต่อภัยแห่งวัฎฎะ

เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอบคุณครับ

ขอบพระคุณ คุณกรุณาที่แวะมาเยี่ยมนะครับ

เป็นกำลังใจให้คุณ ณัฐวรรธน์ เช่นกันนะครับ

ธรรมรักษาครับ

มาอ่าน ศึกษา ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณ คุณภูสุภาที่แวะมาเยี่ยมครับ

สวัสดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมมาอ่านศึกษาบุคล 7 ประเภท ดีมากเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ น้องPhornphon

ขอบคุณข้อคิดดี ๆ ค่ะ

กำลังพิจารณาตนเองว่าอยู่ประเภทไหนค่ะ ?

ตั้งใจไว้ว่าชาตินี้ก่อนตายอย่างน้อยควรได้คุณธรรม

ระดับต่ำสุดก็ยังดี จะได้ปิดประตูอบาย..และเกิดใหม่

อีกไม่เกิน ๗ ชาติ แค่นี้คงจะเหนื่อยล้าเหลือเกิน...

ไม่ใช่เหตุบังเอิญ...ที่ได้เข้ามาเยี่ยมน้องพรภพ...ก็นึกอยู่ว่ามีลูกศิษย์หลวงพ่อปราโมทย์ในG2K อยู่ไม่น้อย...

ยินดีที่ได้เป็นกัลยาณมิตรครับ...

พี่ยังไม่รู้ว่าจะมีโอกาสขึ้นไปถึงประเภทไหนเลย...อาจติดอยู่แค่เห็นทางแต่ไปไม่ได้ก็ได้นะ...555 

เจริญธรรมครับ

ขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้ทางธรรม

ถ้ามีโอกาส เชิญมาปฏิบัติธรรมที่วัดคลองตาลอง

อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นะค่ะ

สวัสดีคุณ ฐิตชนันท์ครับ

ไม่มีโอกาสได้ไปแถวโคราชเลยครับ

ก็อาศัยปฏิบัติในชีวิตประจำวันครับ

ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท