เมื่อมีการละลาย สลายรูปแบบการดำเนินกลุ่มแบบเกร็งๆ ไปในภาคเช้า (19 พ.ค.49) แกนนำ อสม. แต่ละกลุ่มก็ได้ ลปรร. ร่วมกับอาจารย์หมอวิจารณ์ ทีม สคส. และผู้จัดคุณ"ชายขอบ" ได้แนวคิดในการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการเดินเรื่อง ที่เป็นไปอย่าง"ธรรมชาติ" โดยแกนนำ อสม. เดินเรื่องดำเนินเวทีเอง โดยพี่"พันธ์"...เป็นคุณอำนวยเวทีการเดินเรื่อง...อสม.ติดดาว(โครงการไตรภาคีฯ)
จากกลุ่มที่เป็นกลุ่มปรุงแต่ง...แปรเปลี่ยนมาเป็นกลุ่มที่เป็นธรรมชาติ อสม. เริ่มผ่อนคลายขึ้น พูดคุยขยับหน้าเข้าหากัน พูดคุย และฟังกัน โดยที่ไม่ต้องระวังต่อกรอบที่เป็นทางการว่าผิดหรือถูก บรรยากาศที่เริ่ม เริ่มโดยพี่พันธ์กระตุ้นให้ อสม. แต่ละคนที่มีผลงานเด่นออกมาผลัดกันเล่าเรื่องตนเองถึงกระบวนการทำงาน เริ่มตั้งแต่มูลเหตุแรงจูงใจที่ทำให้มาเป็น อสม. วิธีคิด วิธีการทำงาน ที่มีทั้งต่อการทำงานในส่วนตนเอง ทำงานในส่วนชุมชน ทำงานในส่วนที่ร่วมประสานกับบุคลากร
จากการเล่าเรื่องถึงมูลเหตุที่เป็นแรงจูงใจของ อสม.
ส่วนใหญ่ที่มาเป็นอาสาสมัครนั้น สรุปได้เป็นภาพรวม คือ
เริ่มแรกมีความสนใจ จากนั้นก็ตามมาด้วยความสมัครใจ
รวมถึงความรู้สึกความคิดที่อยากได้ความรู้ในเรื่องการดูแลสุขภาพ
มีหลายคนที่มีมูลเหตุจากการที่มีบุคคลในครอบครัวเจ็บป่วยหรือมีสุขภาพไม่ดี
ทำให้เกิดความรู้สึกอยากมาได้รับความรู้เพื่อนำความรู้ที่มีมาเริ่มใช้ในครอบครัวตนเอง
จากนั้นก็เริ่มมีการขยายผลไปสู่ครอบครัวเพื่อนบ้าน และชุมชน ต่อไป
เช่น "พ่อผมไม่สบายป่วยเป็นอัมพาตย์
ผมอยากมีความรู้ในการดูแลพ่อ ผมจึงมาสมัครเป็น อสม."
หรือในบางคนก็มีแรงจูงใจจากการเห็นตัวแบบที่ดีของ อสม. เป็นต้นว่า
อสม. ในหมู่บ้าน หรือมีคนในครอบครัวที่เป็น อสม. จึงทำให้อยากมาเป็น
อสม. "ฉันมีญาติเป็น อสม.
เห็นเขาทำงานฉันมองว่าได้ประโยชน์ จึงอยากเป็น อสม. ด้วย"
เหล่านี้นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการเริ่มทำบางสิ่งบางอย่าง
ในกิจกรรมที่ตนเองอยากทำ นั่นคือ การทำด้วย
"ใจ" ที่อยากทำ เมื่อเริ่มทำอะไรด้วย"ใจ"
แล้วความสำเร็จก็ย่อมมองเห็น แม้ว่าการทำงานจะมีปัญหาอุปสรรค
แต่คนทำงานก็พร้อมที่จะฝ่าฟัน เพราะว่ามี "ใจ"
นำมาแล้วเกินกว่าครึ่งในการที่อยากจะทำงาน
บรรยากาศของการเล่าเรื่องในช่วงบ่ายเดินไปอย่างเป็นธรรมชาติมาก ต่างคนต่างนำเรื่อง "ตน" มาเล่าสู่กันฟัง ขณะที่มีคนเล่าคนที่เหลือก็ช่วยกันฟัง ฟังอย่างที่อยากจะรู้ และใคร่ที่จะสนใจซักถาม ทำให้บรรยากาศในช่วงบ่ายนั้นเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างแท้จริง และเป็นเกิดอย่างที่ไม่ใช่การปรุงแต่ง โดยที่ทีมผู้จัดแทบไม่ต้องทำอะไรเลย เพราะ อสม. เขาสามารถเดินเรื่องได้เอง..อย่างเป็นธรรมชาติ