Timing of estrogen therapy after ovariectomy dictates the efficacy of its neuroprotective and antiinflammatory actions
http://www.pubmedcentral.nih.gov/articlerender.fcgi?artid=1851608
http://www.pubmedcentral.nih.gov/picrender.fcgi?artid=1851608&blobtype=pdf
คือเหตุผล ที่ควร ทานอาหาร สมุนไพร บางชนิด ที่มี phytoestrogen เมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงขาดฮอร์โมน แบบ วัยหมดประจำเดือน
ตัวอย่าง งานวิจัย ปี 2548 เมื่อประสาท และ สมอง บาดเจ็บ ซึงยังมีงานวิจัย มากกว่านี้อีก มาก มาก มีทั่วโลกด้วย ตามอ่านไม่ไหวครับ
http://mulinet8.li.mahidol.ac.th/e-thesis/4436677.pdf
http://mulinet8.li.mahidol.ac.th/e-thesis/4536056.pdf
(ความรู้ต่างๆนี้ เกิดจากการที่ผม ตามรอย งานวิจัย เกี่ยวกับ สมุนไพร บางตัว ที่ทีมอาจารย์ นักวิจัย มหิดล ที่มีการวิจัยอย่างต่อเนื่อง มาหลายปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง .......... ไปไกลกว่า เรื่องมดลูก มากมากแล้ว ใครจะประยุกต์ใช้ความรู้ เข้าสู่ในคน ก็ควรละเอียดอ่อนเอาเอง
เพราะอาจเป็นช่องทางการแสวงหาประโยชน์ ชวนเชื่อในสมุนไพร เกินขอบเขตได้เช่นกัน )
7 กย 52 เพิ่มเติม จากคำแนะนำของ อ.หมอ อัจฉรา ให้สรุปความเห็น
สารออกฤทธิ์แบบ ฮอร์โมนเพศหญิง เริ่มมีข้อมูลยืนยัน จากทั่วโลก ว่า มีคุณสมบัติสารพัด มากกว่า การมีผลต่อระบบอวัยวะสืบพันธุ์
มีฤทธิ์ ลดการอักเสบ ช่วยหลอดเลือดให้ขยายตัว ช่วยลดการบาดเจ็บ การอักเสบ ต่อหลายอวัยวะ ทั้งต่อ สมอง และเส้นประสาท
ปัญหาที่เคยรู้กันมานานคือ estrogen ที่เป็นยาใช้ในวงการแพทย์มานานแล้ว มีความเสี่ยง ต่อหลายระบบเช่นกัน
นักวิจัยเชื่อกันว่า ฤทธิ์แรงเกินไป
ปัจจุบัน จึงศึกษา สมุนไพร ที่มีฤทธิ์แบบestrogen ที่มีฤทธิ์อ่อนกว่า และ ออกฤทธิ์สั้นกว่า
เป็นเรื่องที่แปลก ของ สมุนไพร ที่เราเชื่อกันว่า หรือ ใช้เป็นยาอายุวัฒนะตามภูมิปัญญา ล้วนแต่พบว่า สารแบบ phytoestrogen
ประเด็นของการวิจัยนี้ คือ เหตุใดผลดี ของ estrogen จากรายงานต่างๆ ขัดแย้งกัน ว่า มีผลดีต่างจากกลุ่มควบคุม หรือ ไม่มีผลต่างจากกลุ่มควบคุม
นำมาสู่งานวิจัยจึงพบว่า หากปล่อยให้ขาดฮอร์โมนไปนานๆ แล้ว ค่อยมาเสริม จะไม่ได้ประโยชน์
ต้องเสริมให้ตั้งแต่ที่เริ่มขาดฮอร์โมน
ในด้านของการประยุกต์ใช้ ความรู้จากการวิจัย คือ เมื่อประชาชนเริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ควรเลือกสมุนไพร ที่มีรายงานวิจัยว่า มีสารphytoetrogen ที่ปลอดภัย ราคาย่อมเยาว์ ทานเป็นอาหารเสริม การจะทานตัวไหน ก็แล้วแต่ ความชอบของแต่ละบุคคล เพราะยังไม่มีการทดลองใดบอกว่า อะไรดีกว่าอะไร
และเมื่อมีการบาดเจ็บ ของอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะในผู้ใหญ่หรือ ผู้สูงอายุ ก็ควรเลือก เสริม สารออกฤทธิ์แบบ estrogen ปัญหาคือ ยังไม่ทราบขนาดที่เหมาะสมว่า จะใช้ในคนขนาดเท่าใด จึงไม่มีแพทย์ใช้แนวคิดนี้กับในผู้ป่วยจึง
ทางเลือกหนึ่ง คือ ใช้สมุนไพร ที่อาจจะแก้ หรือ รักษา บอบช้ำ และ สมุนไพรนั้นมีสารออกฤทธิ์แบบ estrogen ด้วย และหากเป็นสมุนไพร ที่ใช้กันแพร่หลายมานาน ใช้เป็นยาอายุวัฒนะมานาน ก็อาจจะเลือกใช้... ตรงนี้เป็นเพียงสมมุติฐานใหม่ ยังไม่ใช้มาตรฐานของวงการแพทย์
ส่วนในเด็ก การได้ estrogen จะทำให้กระดูกส่วนยืดยาว หยุดยืดตัว นั้นคือ เสี่ยงตัวเตี้ย
โดยสรุป ให้เลือกใช้ ด้วยสติ และ ปัญญา ในขณะที่ยังไม่มีคำแนะนำสรุป จาก คณะนักวิจัย หรือ คณะผู้เชี่ยวชาญ