ไม่เชื่อมั่น กับ นายกอภิสิทธิ์ จนกระทั่ง การจัดการระบบสุขภาพ กันยายน 52


ผมใช้หลักการ ประเมินความสามารถคน จาก มุมมองของเขา ในเรื่องที่เราชำนาญ  อย่างเรื่องสุขภาพ ผมไม่มั่นใจในความสามารถ และ วิสัยทัศน์ ของ นายก อภิสิทธิ์  เพราะฟังท่านแสดงวิสัยทัศน์ ด้านสุขภาพ มาแล้ว ก็ ไม่มีแววว่า จะเข้าท่า ในเรื่องที่เราชำนาญ

แต่ข่าวล่าสุด ที่นายก ขอเชิญ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ช่วยทำงานปรับปรุง ด้านสวัสดิการสังคม ให้มีคำตอบ ใน 1 เดือน  ว่าทำอย่างไร ให้คงมีคุณภาพ และลดค่าใช้จ่าย ที่ไม่คุ้มค่าลงได้  จะได้มีเงินเหลือ ไปลงทุนพัฒนาประเทศได้ มากขึ้น

ทำให้ชื่นชมว่า  นายก ท่านนี้  คงมี วิสัยทัศน์  หรือ  อาจจะมีทีมที่ปรึกษาที่ดี    จึงมีข้อเสนอ ออกมาอย่างที่เป็นข่าว

เป็นที่รู้กันในวงการสาธารณสุข ว่า วงการแพทย์ ประเทศไทยของ เราใช้จ่ายเงินงบประมาณ ด้านสุขภาพ ไม่เหมาะสมมากๆ 

ฐานะการเงินของประเทศ แย่ลง   ความสามารถในการหารายได้ของชาติ ลดลง   แต่การบริโภคสินค้าบริการและสุขภาพ เพิ่มขึ้นกว่า ความสามารถในการเลี้ยงตัวเองของชาติ

ที่ผ่านมา ระบบ สุขภาพ และ ระบบการเงินการคลัง ด้านสุขภาพ ของบ้านเรา  อ่อนด้อยมาตลอด  ทุกฝ่ายช่วยกันส่งเสริม ให้คนใช้ยา และ ใช้บริการ    ทั้งมาก ทั้งแพง กว่า ค่าเฉลี่ย ของประเทศอื่นๆ   โดยผลลัพธ์ทางสุขภาพของเรา ไม่ได้ดีกว่า ประเทศ ระดับเดียวกัน

ตอนหาเสียง นายก พูดแต่เรื่อง ให้เงิน อสม. แต่ไม่เคยพูดว่า  จะอุดหนุนงบประมาณ เพิ่มศักยภาพ อสม.ในการจัดการความรู้เพื่อการพึ่งตนเองให้กับชุมชน  

 ผมอยากได้ยินว่า นายกจะปั้น อสม.ให้เป็น หมอหมู่บ้านเบื้องต้น  โดยคัดเลือกเฉพาะคนที่มีน้ำใจ มีพื้นฐานดี และ สนใจ   จะให้งบประมาณอบรม และ ให้อุปกรณ์จำเป็น เพื่อเป็นหมอเบื้องต้นของหมู่บ้าน  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การฝึกให้รู้จักวิชา แพทย์แผนไทย เพื่อการพึ่งตนเอง  (ไม่ใช่ให้รู้จัก อาหารเสริม ต่างประเทศ  แล้ว ช่วยแนะนำเป็นลูกโซ่ )

ทุกวันนี้ อสม ทำทุกอย่าง   แต่ที่เริ่มมีตัวอย่างแล้ว และ ผมคิดว่าดี  คือ อสม ด้านแพทย์แผนไทย   เพราะ จะเป็นข้อต่อ ในการจัดการความรู้ภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย ให้สู่ชุมชน เพื่อการพึ่งพาตนเอง พึ่งพากันเองเบื้องต้น ก่อนไปพึ่งพา สอ.และ รพ.

หลายหมู่บ้าน ห่าง สอ. และ รพ นับ 10 กิโลเมตร   เราควรฝึกอบรม บางอสม . ให้เป็นหมอหมู่บ้านเบื้องต้น ด้านสมุนไพร  ทั้งการปลูก และ แปรรูป  และ รู้จักใช้

ควรกันเงินรายหัว ค่ายา มาจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อฝึกอบรม อสม บางคน ให้เก่ง เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน  จะดีกว่า ส่งเสริมให้ทุกคนไปรับยา ที่ สอ รพ ฟรี  จนแน่น รพ.

โครงการอย่างนี้ สมัย ป๋าเปรม เป็น แม่ทัพ ภาค ที่2 เคยทำมาแล้ว  ประเมินแล้ว ได้ผลดี  ด้วย

หวังว่า นายกอภิสิทธิ์  จะมีแผนต่อไป ในการยกระดับ การพึ่งตนเอง ด้านสุขภาพ ให้ประชาชน ยิ่งๆ ขึ้น  ให้สมกับ นายกที่พ่อเป็นอาจารย์หมอ เป็น คณบดี     เป็นนายก ที่มีคุณพ่อเคยเป็น รมช สาธารณสุข  

 นั่นคือ เป็นนายกที่มีความลุ่มลึกด้านสาธารณสุข  ดีกว่า นายก ทุกๆ คนที่ผ่านมา ในประวัติศาสตร์ประเทศไทย 

 เป็นนายก ที่มีความเข้าใจเรื่อง ชีวิต และ สุขภาพ ดีกว่า ทุก นายก ที่ผ่านมา 

เป็นนายกที่สนใจ ความเป็นมนุษย์ ที่อยู่ดีมีสุข   มากกว่า สนใจแต่ดัชนีการค้า ดัชนีเศรษฐกิจ 

พูดง่ายๆ เป็นนายก ที่สนใจการสร้างสุขภาพ การสร้างคนที่มีคุณภาพ  

 มากกว่า เป็นนายกที่ทุ่มเท กับ การรักษาโรคอย่างที่ระบบของประเทศเราเป็นอยู่ 

 ประเทศเรามีทรัพยากรและ ความรู้ด้านสุขภาพ สมุนไพร ไม่น้อย งานวิจัยก็มาก แต่ขาดการสนใจต่อยอด ใช้ประโยชน์  

ผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ   หากรู้จักใช้สมุนไพร  อาหาร การกายบริหาร การบริหารปราณ บริหารจิต  ในการดูแลชีวิตและสุขภาพ   เงินทองก็จะหมุนเวียนในประเทศ มากขึ้น   สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องรั่วไหลออกต่างประเทศน้อยลง    ประเทศเรา จะคงพัฒนาโดยรวมดีขึ้นได้อย่างจีน และ อินเดีย

ว่าแต่ว่า เมื่อไร คนไทย จะก้าวข้าม มะรุม (  ขมิ้น ฟ้าทะลายโจร  ว่านชักมดลูก บอระเพ็ด กะเม็ง.... )  ได้แล้ว หนอ 

 ผู้เรียนรู้รุ่นหลัง

 

 

หมายเลขบันทึก: 294748เขียนเมื่อ 5 กันยายน 2009 18:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 23:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เข้ามาแสดงความเห็นด้วยกับคุณหมอค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท