ความรู้เบื้องต้น : สัญญาฟาร์มประกัน : CONTRACT FARMING[1]
สัญญาฟาร์มประกัน : CONTRACT FARMING: คืออะไร
Contract farming แปลตรงตัวว่า การทำฟาร์มสัญญา ซึ่งหมายถึง การเลี้ยงปศุสัตว์หรือเพาะปลูกพืชที่มีการทำสัญญาซื้อขายกันโดยส่วนใหญ่จะมีการกำหนดราคาผลผลิตไว้ตายตัว ซึ่งเรียกว่า ฟาร์มประกันราคา หรือ “ฟาร์มประกัน” ในการทำสัญญาฟาร์มประกันมีคู่สัญญา 2 ฝ่าย ฝ่ายแรกเป็นฝ่ายฟาร์มเรียกว่า “ฟาร์มประกัน” ซึ่งก็คือฝ่ายเกษตรกรเจ้าของฟาร์ม ส่วนฝ่ายที่สองเป็นคู่สัญญาที่สัญญาจะซื้อผลผลิตกลับคืนในราคาประกันเรียกว่า “ ผู้รับประกัน” ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปบริษัท เช่น บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทเบทาโกร บริษัทแหลมทองสหการ เป็นต้น[2]
ในการจัดทำ Contract farming ในประเทศไทยได้มีการดำเนินการไม่น้อยกว่า 30 ปีเป็นการประกันราคาพืชผลทางการเกษตรส่วนใหญ่
ผลดี : มีปริมาณผลผลิตที่ป้อนอย่างต่อเนื่องและเพียงพอ ผู้ส่งออกสามารถวางแผนการตลาด ล่วงหน้าได้
ผลเสีย : จะต้องมีวิธีการวางแผน การดำเนินการที่ดีและมีคู่สัญญาฟาร์มประกันราคาจำนวนมาก เพียงพอ จึงจะได้กำไรและประสบความสำเร็จ
สัญญาฟาร์มประกัน(CONTRACT FARMING)กับประเทศเพื่อนบ้าน
CONTRACT FARMING เป็นนโยบายร่วมในการส่งเสริม การผลิต การค้า และการลงทุนภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ( Ayeyawady –Chao Phraya –Mekong Economic Cooperation Strategy : ACMECS ) ที่มุ่งเน้นการช่วยตัวเอง และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างประเทศกำลังพัฒนา เพื่อเพิ่มขีด ความสามารถทางการแข่งขัน สร้างฐานการผลิตชายแดนระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน ด้านการเกษตร/ อุตสาหกรรม และการบริการ สร้างงานและลดช่องว่างรายได้ของชาวไทยและประเทศสมาชิกใหม่อาเซียน ลดการเคลื่อนย้ายแรงงานผิดกฎหมาย ลดปัญหายาเสพติด สร้างความมั่นคงและมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา และพม่า ร่วมกันอย่างยั่งยืน โดยสนับสนุนให้ภาคเอกชนของไทย มีส่วนร่วมเข้าไปส่งเสริมการผลิตและรับซื้อสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านในระบบ Contract Farming และส่งออกมายังไทยภายใต้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร AISP สำหรับสินค้าเกษตร 8 รายการ ประกอบด้วย ถั่วเหลือง ข้าว มันฝรั่ง โพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวโพดหวาน ละหุ่ง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง ยูคาลิปตัส สำหรับลาวได้สิทธิพิเศษ เพิ่มในการส่งออกสินค้าเกษตรอีก 1 รายการคือ ลูกเดือย[3]
แนวทางการลงทุน Contract Farming ในพื้นที่เป้าหมาย ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
องค์ประกอบการลงทุน Contract Farming
- พื้นที่ พื้นที่ชายแดนที่มีศักยภาพ ตลอดจนพื้นที่ตอนในประเทศเพื่อนบ้านที่มีความพร้อม
- พืชเป้าหมาย สนับสนุนการลงทุนในพืชเป้าหมาย 8 ชนิด ได้แก่ ถั่วเหลือง ถั่งลิสง ละหุ่ง ข้าวโพดหวาน มันฝรั่ง มะม่วงหิมพานต์ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยูคาลิปตั ส เนื่องจากมีความเหมาะสมในการย้ายฐานการลงทุน ต้องใช้แรงงานในการเก็บเกี่ยวจํานวนมากและ เป็นพืชที่ต้องนําเข้าจากประเทศที่ 3 โดยรัฐบาลจะยกเว้นภาษีนําเข้า (ภาษี0 %) ภายใต้กรอบ AISP ตลอดจนอํานวยความสะดวกการนําเข้า ให้เกิดผลทางปฏิบัติ
- นักลงทุน ทั้งส่วนกลางและในพื้นที่ชายแดนเป้าหมาย
รูปแบบ/แผนการลงทุน
นักลงทุนเป็นผู้กําหนดแผนการลงทุน โดยจะต้องระบุพื้นที่พืช และกลุ่มเกษตรกรเป้าหมาย กระบวนการตั้งแต่การผลิตจนถึงการนําผลผลิต เข้าสู่ตลาด ตลอดจนความพร้อมในการสนับสนุนแบบครบวงจรทั้งเมล็ดพันธุ์ เงินทุนและเทคโนโลยีการผลิต โดยการกําหนดรูปแบบการทํา Contract Farming ระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องสอดคล้องกับความพร้อมของนักลงทุนไทยตลอดจนศักยภาพการรองรับใน ประเทศเพื่อนบ้าน ดังนี้
รูปแบบ 1 Contract Farming ระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยบริเวณชายแดนกับเกษตรกรประเทศเพื่อนบ้าน สามารถดําเนินการได้ทันที โดยขยายผลจากการดําเนินการที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้สามารถพัฒนาอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ พื้นที่ที่พร้อมจะพัฒนานําร่อง เช่น จ.ตาก-เมียวดี (ไทย-พม่า) จ.จันทบุรี-พระตะบอง (ไทย-กัมพูชา) จ.เลย-แขวงไชยบุรี (ไทย-สปป.ลาว)
รูปแบบ 2 Contract Farming ระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่กับเกษตรกรประเทศเพื่อนบ้าน การลงทุนรูปแบบนี้มีมูลค่าการลงทุนสูง เน้นการนําเข้าผลผลิตที่ได้มาตรฐานจํานวนมากซึ่งการสนับสนุนให้มีการเข้าลงทุนเพิ่มเติม ของเอกชนรายใหม่นอกเหนือจากเอกชนรายใหญ่ที่เข้าลงทุนอยู่แล้วในปัจจุบัน ภาครัฐจะต้องให้มีความชัดเจนทั้งด้านศักยภาพพื้นที่ คุณภาพ ผลผลิตและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและลดความเสี่ยงนักลงทุนในระยะแรก รัฐบาลไทยจะให้ความช่วยเหลือทางวิชาการกับประเทศเพื่อนบ้านให้ครอบคลุมเรื่องดังกล่าวแล้ว จึงขยายผลในการสนับสนุนภาคเอกชนเข้าร่วมลงทุนในพื้นที่ที่เหมาะสม ต่อไป
แนวทางการดําเนินการ
ระยะสั้น : ส่งเสริมการพัฒนา Contract Farming บริเวณชายแดนให้เป็นระบบและสร้างโอกาสในการขยายฐานการลงทุนในพื้นที่ตอนในประเทศเพื่อนบ้าน
(1) การยกเว้นภาษี (ภาษี 0 % ) ภายใต้กรอบ AISP ให้เกิดผลทางปฏิบัติ พิจารณายกเว้นภาษีเพิ่มเติมกรณีพืชนําเข้าไม่ได้อยู่ในกลุ่มพืชเป้าหมาย ตลอดจนปรับแก้ กฎ ระเบียบ เพื่อให้จังหวัดดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
(2) จัดตั้งคณะทํางานระดับจังหวัด สนับสนุนการดําเนินการทั้งระบบตั้งแต่จัดทําแผนการลงทุน คัดเลือก/รับสมัครผู้ประกอบการ ควบคุมการรับซื้อ รวบรวมผลผลิต และประสานงานหน่วยงานดําเนินการ อํานวยความสะดวกผ่านแดน พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนการสนับสนุนปัจจัยการ ผลิตในรูปแบบต่าง ๆ ให้เกิดผลทางปฏิบัติ
(3) การเจรจาทําความตกลงพื้นที่เป้าหมาย โดยดําเนินการควบคู่ทั้งในระดับจังหวัดและระดับรัฐบาล (G-to-G) เพื่อให้ประเทศเพื่อนบ้านพัฒนา พื้นที่เพื่อรองรับการลงทุน โดยไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุน
(4) จัดทําสัญญา Contract Farming ระหว่างเอกชนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้การเห็นชอบของรัฐบาล 2 ประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์ ประสานจังหวัดและนําเอกชนเข้าทําสัญญา Contract Farming ระหว่างเอกชนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งต้องครอบคลุมทั้งการคุ้มครองการลงทุน การอํานวยความสะดวกผ่านแดน และการสนับสนุนแรงงาน
(5) การให้ความช่วยเหลือทางวิชาการในการยกระดับคุณภาพการผลิต เร่งดําเนินการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการภายใต้โครงการพัฒนา ระบบผลิตพืชไร่โดยจัดทําแปลงสาธิตและฝึกอบรมเกษตรกรภายใน 2 ปี และขยายการสํารวจ/วิเคราะห์พื้นที่ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่รัฐบาลประเทศ เพื่อนบ้านเสนอให้พิจารณา
ระยะยาว: ขยายการลงทุนธุรกิจภาคเกษตรเชื่อมโยงระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และ ลดการนําเข้าพืชเป้าหมายจากประเทศที่สาม สนับสนุนภาคเอกชนรายใหญ่ลงทุน Contract Farming ในพื้นที่ตอนในประเทศเพื่อนบ้าน และขยายผลการเข้าลงทุนธุรกิจต่อเนื่องทางการเกษตรในประเทศ เพื่อนบ้าน
..................................................
[1] อาจารย์วรรณทนี รุ่งเรืองสภากุลและอาจารย์สิทธิพร ภู่นริศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ
[2] สำนักเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ,การเพิ่มมูลค่าการค้าของไทยกับประเทศสมาชิกใหม่อาเซียนภายใต้ Contract Farming,พฤษภาคม 2548,[Online]http://www.dtn.moc.go.th/web/8/55/628/629/Contract%20Farming.asp?G_id=629&f_id=4728และนายสัตวแพทย์ ธวัชชัย สันติกุล, Contract Farming วิธีทำธุรกิจปศุสัตว์แบบประกันราคา,[Online] http://www.ismed.or.th/knowledge/showcontent.php?id=2036
[3] อ้างแล้ว.
อ่านง่าย เข้าใจง่าย ชอบมากครับ ขอบคุณทีแบ่งปันความรู้ครับ