ประวัติความเป็นมาของกล้องถ่ายภาพ


ประวัติความเป็นมา ของกล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว
ที่มาของกล้องสะท้อนภาพเลนส์เดี่ยว (Single – Lens Reflex Camera = SLR) ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มมีการผลิตกล้องถ่ายภาพขึ้นในโลก
เป็นครั้งแรก เช่น กล้อง Obscura (Darkroom) ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 แล้ว โดยหลักการของกล้อง Obscura ในระยะแรก ๆ ก็คือ
เมื่อลำแสงจากภายนอก ผ่านช่อง เล็ก ๆ เข้าไปในห้องมืด (ซึ่งอาจจะเป็นห้องใหญ่ หรือภาในกล่องเล็ก ๆ ในเวลาต่อมา) ภาพทิวทัศน์จากภายนอก
จะฉายอยู่บนฝาผนัง หรืออีกด้านหนึ่งที่อยู่ตรงกันข้ามกับรูรับแสง ดังกล่าว หรือโดยการสะท้อนภาพลงบนโต๊ะในห้องมืดเพื่อให้จิตรกรเขียนภาพ
เหล่านั้นอีกทีหนึ่ง ต่อมาไม่นานก็มีผู้คิดนำเอาเลนส์มาใช้เปิดรับแสงแทนการใช้แต่เพียงรูรับแสงเล็ก ๆ ดังแต่ก่อนเท่านั้นจนกระทั่งประมาณราวๆ
ปี ค.ศ. 1500 เศษ ประโยชน์ของกล้อง Obscura ตามความคิดเก่าก็เหลืออยู่เพียงรูปแบบของห้องมืด และจากความคิดดั้งเดิมนั้น ก็มีผู้นำไปสร้าง
เป็นกล่องไม้ที่สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้ หรือแบบเก้าอี้เกี้ยว เต็นท์ หรือโต๊ะ ซึ่งมีกล้อง Obscura ขนาดเล็กบรรจุอยู่ภายใน เป็นต้น
เวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งถึงปลายศตวรรษที่ 16 และต้นศตวรรษที่ 17 กล้อง Obscura ได้พัฒนาเป็นกล่องยาวเรียว ด้วยขนาดที่ใช้วางบนโต๊ะได้
ใส่เลนส์ไว้ข้างหน้า และมีกระจกเงาวางเอียง 45 องศา อยู่ด้านหลังสะท้อนภาพขึ้นไปยังฉากด้านบนซึ่งมีฝาปิด เปิดได้การมองดูภาพที่จด ก็มักมีฮู้ด
(Hood) ป้องแสงจากภายนอก โดยที่จิตรกรจะวางกระดาษบาง ๆ ไว้บนกระจกจอภาพดังกล่าว แล้วเขียนภาพที่ปรากฏ
 
 	ต่อมาในราวปี ค.ศ. 1800 เศษ ก็เป็นยุคเริ่มต้นของการบันทึกภาพด้วยกล้องล้วน ๆ กับแผ่นทองเหลือเคลือบสารไวแสง Daguerreotype
ของชาวฝรั่งเศสชื่อ ดาร์แกร์ (Louise Jacques Mande Daguerre) และชาวอังกฤษชื่อ ทอลบอต (William hery Fox Talbot)
0 ผู้ค้นพบการสร้างภาพด้วยเนกาทิฟ และพอซิทิฟ ที่เรียกว่า Calotype หรือ Tallbotype ในปี ค.ศ. 1861 โธมัน ซัตตันแห่งประเทศอังกฤษ
ได้จดทะเบียนสิทะบัตรกล้อง SLR ซึ่งเป็นที่รู้จักกันมานานว่าเป็นกล้อง SLR แบบแรกโดยซัตตันได้ให้ความหายของกล้อง SLR ว่า
กระจกซึ่งวางในแนวนอกน ต่ำกว่าระดับตาของ่าน และเมื่อท่านมองลงไป ก็จะเห็นภาพสะท้อน อันประกอบด้วยความคิด และการจัดภาพที่
สมบูรณ์โดยตัวท่านเองอันถือได้ว่า เป็นจุดเริ่มต้น ของประวัติศาสตร์กล้องถ่ายภาพ
ซัตตันได้เสนอความคิดในกล้อง SLR ของตนไปยังผู้ประดิษฐ์กล้องถ่ายภาพชั้นนำสองคน ซึ่งก็มีการผลิตในเวลาต่อมาด้วยจำนวนจำกัด
เท่านั้นกล้องของซัตตันแตกต่างจากกล้อง Obscura ตรงที่สามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้ ใช้เบลโล (Obscura Below) เพื่อปรับโฟกัสมากกว่า
การเลื่อนเลนส์ที่ติดอยู่กับแผนไม้ด้านหน้าอย่างแต่ก่อน และกระจกสะท้อนภาพทำหน้าที่เป็นชัตเตอร์ไปด้วย ส่วนด้านหลังเป็นฟิล์มเพลทแห้ง
โดยขณะที่ใช้กระจกเงาเพื่อมองภาพด้านบนนั้น กระจกเงาจะบังแสงไม่ให้แสงเล็ดลอดไปถึงฟิล์มได้ ในปี ค.ศ 1727 โยฮัน เฮนริช ชุลตช์
(Johann Heinrich Schulze) ชาวเยอรมันพบสารของชอล์กกับเกลือเงินไนเตรทเมื่อถูกแสงจะทำให้ภาพเป็นสีดำ และปี ค.ศ 1777 คาร์ล
วิลเลี่ยมชีล(Carl William Scheele)นักเคมีชาวสวีเดน พบว่าแสงสีน้ำเงิน และสีม่วงของ Positiveมีผลทำให้เกลือเงินไนเตรท และเกลือเงิน
คลอไรด์เปลี่ยนเป็นสีดำได้มากกว่าสีแดง จนเมื่อ ค.ศ 1826 โจเซฟ เนียพฟอร์ เนียพซ์ ( Joesph Nicephore Niepce) ชาวฝรั่งเศส
ได้ใช้แผ่นดีบุกผสมตะกั่วฉาบด้วยสารไวแสงบีทูเมน ซึ่งมีสีขาว ใส่ในกล้อง ออบสคิวรา ถ่ายภาพทิวทัศน์จากหน้าต่างบ้านเขาเองที่เมืองแกรส
โดยใช้เวลานานถึง8ชั่วโมงเมื่อนำแผ่นดีบุกไปล้างด้วยน้ำมันจากต้นลาเวนเดอร์ทำให้ส่วนที่ถูกแสงที่เป็นส่วนPositiveแข็งตัวส่วนที่ไม่ถูกแสง
จะถูกล้างออกไปหมด เหลือแต่ส่วนที่เป็นสีดำ
เนียพซ์ เรียกกระบวนการถ่ายภาพนี้ว่า เฮลิโอกราฟ (Heliograph) มีความหมายว่า ภาพที่วาดด้วยดวงอาทิตย์หลังจากนั้นก็มีการพัฒนา
ในเรื่องของกล้องถ่ายภาพเป็นระยะ จนกระทั่ง แคลวิน แร สมิท แห่งกรุงนิวยอร์กซิต ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรในธุรกิจการผลิต และการค้า
กล้องถ่ายภาพเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1884 โดยกล้อง SLR ในสมัยนั้นยังคงใช้กระจก และชัตเตอร์ตามแบบของ ซัตตัน ซึ่งมีขนาดและสัดส่วน 
รวมทั้งส่วนที่เป็นชัตเตอร์ทั้งหมดประมาณ 2 ? x 2 1/4 นิ้ว (เป็นขนาดเดียวกับกล้อง Pilot ของปี ค.ศ. 1930 เศษ หรือ
กล้อง SLR ขนาด 35 มม. ของ Exa ในเวลาต่อมา) กล้องของ สมิท ออกจำหน่ายในปลายปี ค.ศ. 1884 ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับกล้อง Palent Monocular 
Duplex ของ E.W.Smith & Co., แห่งนิวยอร์ก ออกจำหน่ายด้วยกล้องที่ให้ภาพขนาด 3 ? x 4 ? นิ้ว ด้วยฟิล์มเพลทและเลนส์ที่ให้ความเที่ยงตรงสูง
 จำหน่ายด้วยราคาเพียง 55 เหรียญอเมริกัน ในช่วงปี ค.ศ. 18851890จะพบเห็นว่าได้มีการอ้างอิงและกล่าวถึงกล้อง Monocular Duplex ในเอกสาร
ต่าง ๆ ของอเมริกา อังกฤษ และฝรั่งเศส ในสมัยนั้น ส่วนกล้องขนาด 4 x 5 และ4 ? x 6? นิ้ว ที่ใช้ฟิล์มม้วน (Roll film) โดยบราทอีสท์แมนก็เกิดขึ้น
ในช่วงเวลานี้ (ปี ค.ศ. 1886)
	ในปี ค.ศ 1888 ยอร์จ อีสต์แมน ชาวอเมริกันได้ผลิตกล้องแบบมือถือรุ่นแรก เรียกว่ากล้องบ๊อกซ์โกดัก( Kodax Box Cmera) ใช้ฟิล์ม
เป็นกระดาษ มีลักษณะเป็นม้วนยาวถ่ายภาพได้ 100 ภาพติดต่อกันเมื่อต้องการล้างต้องนำไป ที่ล้างทั้งกล้องและในปีเดียวกัน แม็คเค็ลเบน (S.D.Mckellen) 
ชาวอังกฤษได้จดทะเบียนสิทธิบัตร กล้อง SLR ที่ใช้ กระจกสะท้อนภาพ ทำงานสัมพันธ์ กัสชัตเตอร์ แบบม้วน(Roller – blind Shutter) อันเป็นต้นกำเนิด
ของการใช้ชัตเตอร์แบบม่าน (Focal – plan Sutter)ในเวลาต่อมา โดยกล้อง Dr. hesekiel ที่ใช้ชัตเตอร์แบบเดียวกันนี้ผลิตขึ้นในปี 1895 ผลิตโดย
Dr. Hesekiel แห่งกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ที่ใช้ไม้มะฮอกกานีทำเป็นตัวกล้อง และให้ภาพขนาด9 x 12 ซม. (3 ? x 4 ? ) แต่ใช้ความเร็ว
ชัตเตอร์เพียงระดับเดียว และเป็นกล้อง SLR ที่ผลิตขึ้นในยุโรประยะแรก ๆ ซึ่งพัฒนามาจากกล้องของอบราฮัม เดิร์ค โลแมน (Abraham Dirk Loman) 
ที่ได้ลิขสิทธิ์เมื่อปี 1890 โดยที่กล้องของโลแมน (ผลิตในเมืองอัมสเตอร์ดัม) ซึ่งเป็นที่รู้จักจำหน่าย และ ใช้กันมากในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมัน 
ในปี 1890 เศษ ในชื่อว่า กล้องนักสืบ” (“Adelphi” Detective Camera)ในปี 1890 บริษัท ดับบลิว. วัตสัน และบุตรได้ผลิตกล้อง Vanneck ด้วยซัตเตอร์แบบกลไก 
ที่ทำงานด้วยกระจกเงากระดกขึ้นลงเหมือนแบบของซัตตัน ด้วยความเร็ว 1/251/100 วินามี ใช้ฟิล์มเพลทขนาด 3 ? x 4 ? นิ้ว นอกจากนี้ยังมีกล้อง SLR อื่น ๆ
 ที่น่าสนใจของยุโรปที่ผลิตออกจำหน่ายในปี 1890 เศษอีกหายแห่ง เช่น ในออสเตรเลีย เยอรมัน อังกฤษ และรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิง กล้อง Mentor Reflex 
ที่ผลิตโดยบริษัท Coltz & Breytmann แห่งเมืองเดรสเดนเยอรมัน ในปี 18971910 ซึ่งเป็นกล้อง SLR แบบพับได้ และใช้ชัตเตอร์แบบม่านผ้า ความเร็ว 
1/81/300 วินาที ใช้เลนส์ Zeiss Fressar 150 มม. F/4.5มีแผ่นไดอะแฟรม และที่ปรับโฟกัสที่ตัวเลนส์ ด้วยการพัฒนากล้อง SLR ในอเมริกา ไม่ค่อย
ได้รับการเอาใจใส่นักโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของปี 1890 เศษ ซึ่งเป็นเวลาที่ภาษีในการนำสินค้าเข้าของอเมริกาค่อนข้างสูงเพื่อการป้องกันสินค้า
ประเภทอุปกรณ์การถ่ายภาพที่กำลังเฟื่องฟู ในยุโรปขณะนั้น อย่างไรก็ตามตั้งแต่ 1890จนกระทั่งประมาณปี 1912 บริษัท Reflex Camera Co., 
ในกรุงนิวยอร์ก (ต่อมาย้ายไปอยู่ในนิวเจอซี ใช้ชื่อว่าNewark) ได้ก่อตั้งบริษัทผลิตกล้องถ่ายภาพ SLR ในเวลาต่อมา โดยรุ่นแรกๆ มักเป็นกล้อง
ที่มีขนาดใหญ่ เช่นกล้องขนาด 4 x 5 นิ้ว (ตัวกล้อง 7 x 8 x 17 นิ้ว) ต่อมาก็ผลิตกล้องที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ เนื่องจากได้มีการพัฒนากล้อง SLR 
อยู่เสมอ แม้จะเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ ปรากฏขึ้นด้วยรูปแบบเพียง 23 แบบ ที่มีการพัฒนาต่อมาโดยบริษัทผลิตกล้องในอังกฤษ เยอรมัน 
และอเมริกา ในช่วงหลังปี 1890 เศษ ซึ่งเป็นช่วงที่กล้อง SLR กำลังเป็นที่น่าสนใจ และกำลังแพร่หลายนั้น จึงทำให้กล้องที่ผลิตขึ้นมาก่อนปี 1800
 ได้กลายเป็นกล้องที่ล้าสมัย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ และน่าเชื่อถือในคุณภาพอีกต่อไป
 	ในปี 1898 วิลเลี่ยม โฟลเมอร์ (William Folmer) ได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Folmer & Schwing Mfg. Co.,(อเมริกา)และเริ่มผลิตกล้อง 
Graflex ซึ่งเป็นกล้อง SLR รุ่นแรก หลังจากที่ได้ผลิตกล้อง Graphic ออกมาหลายรุ่นแล้วดังนั้นชื่อ “Graflex” จึงน่าจะเชื่อถือได้ว่ามาจากคำว่า 
Graphic Reflex กล้อง Graflex รุ่นแรกที่ใช้ชัตตอร์แบบม่าน ซึ่งในระยะแรกมีปัญหามาก แต่ต่อมาในราวปี 1903 ก็ได้ ปรับปรุงระบบกลไก
ของชัตเตอร์ใหม่ทั้งหมดทั้งยังผลิตกล้อง Auto Graflex ในขนาดต่าง ๆ ออกมาอีก ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นกล้องของอเมริกาแบบเดียวที่ยืนหยัด
อยู่ได้จนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ส่วนกล้องอื่น ๆ ที่ผลิตในต้นศตวรรษที่ 20 นี้ คือ Borsum Reflexที่ออกแบบโดย Louis Borsum และผลิต
โดยบริษัท Reflex Camera แห่งอเมริกา ใช้ชัตเตอร์ความเร็ว31 / 1800 วินาทีใช้ฟิล์มม้วนแบบกลักขนาด 4 x 5 และ 5 x 7 และต่อมาบริษัท
เดียวกันนี้ก็ผลิตกล้อง SLRขนาดเล็ก (3 ? x 4 ? นิ้ว) ใช้เนส์แบบเสี้ยววงพระจันทร์ แบบติดตายตัว ใช้ชัตเตอร์ความเร็ว 4 ระดับคือ 1/10, 1/25, 
1/50 และ 1/100 วินาที แต่ก็ไม่สู้จะประสบความสำเร็จนัก (ราวปี 1903) ยังมีกล้อง SLRอื่นๆที่ผลิตโดยชาวอเมริกัน แต่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันนัก เช่น
 Premo Reflecting, hall’s Mirror, Mirographและ Supr Reflex ซึ่งเก่าแก่ที่สุดก็เห็นจะเป็น Premograp ( 19051908) ผลิตโดยบริษัท Rochester
Optical Co., เป็นกล้อง SLR ขนาด 4 x 5 ที่สวยงาม ส่วนเหตุผลที่มิได้ผลิตกล้องรุ่นนี้ออกมาอีกก็เชื่อได้ว่าคงเป็นเพราะบริษัท Folmer & Schwing Mfg. 
ได้ร่วมตัวบริษัท Eastman Kodak (1905)ร่วมกับบริษัท Rochester Optical (1903)จึงไม่มีนโยบายที่จะผลติหรือปรับปรุงกล้องรุ่นนี้ให้มาเป็นคู่แข่งกับ
กล้องในเครือข่ายของ Graflex ที่มีความสมบูรณ์กว่าบริษัท Hall Camera Co.,แห่งเมืองบรูคสินิวยอร์ก ได้ผลิตกล้อง SLR ขนาดเล็กแบบพับได้ คือ กล้อง 

หมายเลขบันทึก: 281233เขียนเมื่อ 29 กรกฎาคม 2009 15:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:10 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท