แจ้งเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อำเภอไชยปราการ จ.เชียงใหม่

สืบเนื่องมาจากการบันทึกงานของผมลงใน Learners เรื่อง• เรื่องจริง...การปฏิบัติตามมาตรา 23 พรบ.สัญชาติ ปี 51 : กรณีตัวอย่างอำเภอ...ที่มิได้นำพา http://learners.in.th/blog/privateinternationallaw2551/163149 และ เรื่องจริง...การปฏิบัติตามมาตรา 23 พรบ.สัญชาติ ปี 51 : กรณีตัวอย่างอำเภอที่ active http://learners.in.th/blog/privateinternationallaw2551/165562 ก็ได้มีผู้อ่านหลายท่านสนใจ และมีการแจ้งข่าวการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าอำเภอเข้ามาเยอะมาก จึงนำมาลงใน บันทึกนี้ เพื่อเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนให้รับรู้

> Date: Fri, 17 Jul 2009 11:22:43 +0700
> From: [email protected]
> To: [e-mail]
> Subject: [learners.in.th] You've received a contact mail @ Fri Jul 17 11:22:43 +0700 2009
>
> สวัสดี ฝันกลางสายลม (pundawish)
>
> นี่คืออีเมลติดต่อจากผู้อ่าน กรุณาตอบโดยตรงไปยังผู้อ่านนั้น
> ------------------------------------------------------------
>
> ชื่อ: จีน
> อีเมล: [e-mail]
> หัวเรื่อง: อ่านแล้ว ที่พี่เขียนมันป็นเรื่องจริง
>
> ข้อความ:
> ดิฉันเป็นอีกคนที่เคยเขียนถึงเรื่องอําเภอไชยปราการ ที่ไม่ทําตามกฎมาตรา23 ซึ่งมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง นี้เป็นเรื่องจริงที่คนเกือบทั้งหมู่บ้านรู้(น่าจะมีคนไปสืบโดยไม่แจ้งอําเภอนะ ไปแกล้งถามคนที่ขอสัญชาติเขาก็จะรู้ค่ะ) แต่ไม่รู้จะทํายังไง เพราะทุกครั้งที่ฟ้องไป เขาก็จะส่งหนังสือให้ทางอําเภอและแนบสําเนาบัตรของผู้ฟ้องด้วย ทําให้เขามีโอกาศที่จะแก้ตัว และคนที่ถูกเปิดเผยตัวก็จะยิ่งลําบาก ไม่มีใครทําอะไรเขาได้เลย เขาจะปฎิเสธอย่างเดี่ยว อ้างโน่น อ้างนี้ และอ้างไม่มีเวลา อ้างมีคนมาก่อนเป็นร้อย เขาก็ยังไม่ได้ และ อ้างเอกสารผิด บ้าง โดยที่ไม่แจ้งให้เขารู้ ว่าจะต้องทํายังไร ในเมื่อเอกสารผิด คนที่ได้ช้าก็จะเป็นคนจน ทั้งที่คนที่มาหลังก็ได้กันไปเยอะ
> ทุกครั้งจะเอาเรื่อง กฎหมายมาพูด ซึ่งคิดว่าเราไม่มีความรู้มากในเรื่องนี้ บอกเขาเรียนกฎหมายมาค่ะ บัจุบันดิฉันอายุ 21ปี เกิดในไทย 100เปอร์เซนต์ เขาบอกดิฉัน ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาขอพ่อแม่เป็นคนจีน สามารถที่จะถูกไล่กลับเมื่องจีนได้ ทั้งที่ดิฉันเกิดในเมืองไทย เรียนในไทย ไปตามเรื่อง ก็จะว่า ไม่ต้องมาตามเรื่อง บ่อยๆๆ น่ารําคาญ เพราะเขางานยุ่งมากซึ่งพูดถึง และมีการพูดถึงถ้าหากมีการฟ้องศาลฟ้องอะไร ก็จะยิ่งทําให้การดําเนินงานของเขาล้าช้าขึ้น และ อาจจะถ่อนสัญชาติเราได้อีกด้วย ซึ่งดิฉันคิดว่าจริงๆๆแล้วเขาไม่มีสิทธ์ถ่อนได้เพราะดิฉันไม่ได้ทําผิดกฎร้ายแรงอะไรเลย ถึงแม้จะไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย (ถึงแม้เขาจะมีความรู้ด้านกฎหมายมาก แต่เขาก็มาใช้ในทางที่ผิด กฎหมายยังมีอยู่ไหมค่ะในสังคมไทย=_=)
>
> ------------------------------------------------------------
> อีเมลนี้ส่งมาจาก: 124.120.175.133
>
> [email protected]

 

 

 

 

สืบเนื่องมาจากการบันทึกงานของผมลงใน Learners เรื่อง

·       เรื่องจริง...การปฏิบัติตามมาตรา 23 พรบ.สัญชาติ ปี 51 : กรณีตัวอย่างอำเภอ...ที่มิได้นำพา

 

และ

·       เรื่องจริง...การปฏิบัติตามมาตรา 23 พรบ.สัญชาติ ปี 51 : กรณีตัวอย่างอำเภอที่ active

 

ก็ได้มีผู้อ่านหลายท่านสนใจ และมีการแจ้งข่าวการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าอำเภอเข้ามาเยอะมาก จึงนำมาลงใน บันทึกนี้ เพื่อเผยแพร่ต่อสื่อมวลชนให้รับรู้

[เทียนชัย วิชาพร]

http://www.archanwell.org/autopage/print.php?t=1&s_id=66&d_id=66&page=2

ผม นายเทียนชัย วิชาพร เป็นคน นครสวรรค์แต่ผมได้พาแฟนไปที่อำเภอนี้แล้วเกือบสิบปีที่ผมใช้ความพยายามให้แฟนผมสามารถอยู่และทำงานได้อย่างสะดวกและถูกต้องตามกฏหมายแต่ความเป็นจริงมันไม่ง่ายอย่างนั้นเพราะทางอำเภอไชยปราการ ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยเรื่องการขอสัญชาติผู้คนที่นั่นผมว่าหลายพันหลายหมื่นคนถ้ารวมจังหวัดอื่นๆเช่นเชียงรายแม่ฮ่องสอนและอื่นๆที่เดือดร้อนกับการต้องแบกภาระไปต่อกระดาษแผ่นเดียวเพื่อแลกกับอิสระภาพในการใช้ชีวิตและการทำงาน นั้นแต่ละครั้งมันช่างเสียเวลาเสียเงินทองมากมายในการต่อหนึ่งครั้งบางคนได้หกเดือนสี่

นี่ผมก็เพิ่งพาแฟนไปที่กระทรวงมหาดไทยแถวๆเสาหลักเมือง กทม นี่แหละครับประมาณต้นๆปี2556นี้แหละเพื่อติดตามเรื่องการขอสัญชาติให้แฟนผมเขาจะได้พ้นจากการทรมานเรื่องไร้สัญชาติสักทีผทว่าใครก้ตามที่เคยไปอยุ่ ต่างประเทศน่าจะรู้ดีว่าทรมานแค่ใหนทั้งทนต่อการดูถูกทำร้ายก้มีนี่ก็ทั้งตำรวจทหารจ้องจะจับอีกใช่ครับคนร้ายก็มีแต่อย่าลืมนะครับว่าคนดีน่าจะเยอะกว่าใช่มั้ยนี่จะพาเขาบินกลับไปหาป่าป้ามาม้าทียากเย็นจังนั่งเครื่องที่กทม  ก็ไม่ได้ต้องมีบัตรประชาชน พาสปอร์ทประเทศเขาปีหนึ่งแพงมากนะครับและเขาสามสี่ปีกลับทีพาสปอรตก็ขาดแล้วบัตรประชาชนก็ไม่มี เป็นไงครับฟังดูยุ่งยากใช่มั้ย

นี่ก็รอเขาเรียกตัวไม่เห็นเรียกสักทีอยากพาแฟนไปหายายเขายายเขาร้องไห้ตอนคุยโทรศัพเขากลัวจะอยู่ไม่ทันเห็นหน้าหลานป่าป้าก็ป่วยบ่อยนี่ผมไม่ได้พาแฟนกลับไปหาครอบครัวเขามาเกือบหกปีแล้วตั้งแต่ผมไปแต่งงานกับเขาที่ยูนานชายแดนที่มันจะเชื่อมต่อมาทางพม่าได้แหละครับเรารอความหวังกับทุกรัฐบาลแต่เขาดูเหมือนยุ่งกับเรื่องอื่นกันจังเลย

อย่ารอให้ทางบ้านเขาตายกันหมดก่อนที่พวกเขาจะได้สัญชาตินะครับเขาแค่ต้องการนั่งเครื่องบินกลับไปหาพ่อแม่เขายายเขาแก่ๆที่กำลังจะหมดลมหายใจ ไปตามการทำงานที่ไม่รู้ว่าจะได้สัญชาติเพื่อเอาไปซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไปหาคนที่เขารัก