วงน้ำ SHA ที่ท่าบ่อ
รพ.สมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ จ.หนองคาย

ตะวันลับขอบฟ้า เอ่ยอำลาพร้อมจากไป


ตะวันลับขอบฟ้า

         ประตูห้องบานใหญ่ถูกเลื่อนไปข้างขวาอย่างช้าๆ    เผยให้ผู้มาเยือนมองเห็นข้างในได้อย่างชัดเจน   ด้านซ้ายมีเตียงผู้ป่วยวางเรียงกันหลายเตียง   ทิ้งช่วงห่างแต่พองามท่ามกลางความเงียบสงบ  โต๊ะพยาบาลขนาดใหญ่วางอยู่กลางห้อง   พยาบาลแต่ละคนกำลังง่วนอยู่กับการดูแลผู้ป่วย    ถัดจากโต๊ะพยาบาลไปทางด้านขวา  เป็นห้องสี่เหลี่ยมทำด้วยกระจกสี่ด้าน   ฉันเหลือบสายตามองลอดเข้าไปด้านใน  ฉับพลัน   เท้าของฉันไวเท่าความคิด  กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในห้องนั้นทันที

        ชายชรานอนเหยียดยาวอยู่บนเตียงผู้ป่วย  ในปากดูเหมือนคาบท่อช่วยหายใจ  ซึ่งต่อเข้ากับเครื่องช่วยหายใจที่ตีเป็นจังหวะ  ตามจังหวะหายใจ    สายตาของชายชรายังคงลืมโพลง   ดูไร้จุดหมาย  ยากจะอ่านความรู้สึก...ฉันจำได้ 

       คุณตาแอร์พ่อของพี่ช่วยน่ะเอง  คุณตาแอร์เป็นชายชราอายุ84ปี มาโรงพยาบาลด้วยไข้  ไอ  หอบ  แพทย์วินิจฉัยเป็น  โรคปอดบวม  หลังจากนอนรักษาได้สี่วัน  ดูเหมือนอาการของคุณตาแอร์ดีขึ้นเรื่อยๆ  แต่นั่นเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆที่ตึกVIP คุณตาแอร์ถูกย้ายเข้าห้องไอ ซี ยู ด้วยอาการหายใจ หอบอย่างเฉียบพลัน   แพทย์ช่วยโดยการใส่ท่อช่วยหายใจ และให้คุณตาแอร์หายใจผ่านเครื่องช่วยหายใจ   

พี่ช่วย..บุตรสาวของคุณตาแอร์เป็นพยาบาลหัวหน้าตึกผู้ป่วยนอก  ของโรงพยาบาลแห่งนี้  ด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานที่เป็นอยู่  ทำให้พี่ช่วยมีศักยภาพเพียงพอที่จะขอร้องให้คุณหมออายุรกรรมดูแล  แต่ดูเหมือนว่า  สถานการณ์ดูจะไม่ราบรื่นเท่าใดนัก  กับการจะเปลี่ยนมือแพทย์เจ้าของไข้    อาการของคุณตาแอร์แย่ลงๆ ทั้งที่แพทย์ได้ดูแลที่สุดแล้ว 

ฉันได้ยินคุณหมอท่านหนึ่งเล่าว่า อาจเป็นACSโรคที่ฮอตฮิตติดอันดับ   แต่ทำไมพี่ช่วยไม่พาพ่อไปหาหมอคาร์ดิโอที่ขอนแก่นนะ ทั้งๆที่พี่ช่วยเลือกได้   แต่นั่นเป็นเหตุการณ์เมื่อวาน  

วันนี้ ฉันนั่งหลับตาลำดับภาพที่ผ่านเข้ามาในห้วงของความคิด   แต่ความคิดก็หยุดลงเมื่อได้ยินเสียงรองเท้ากระทบพื้นดังก๊อก ก๊อก เสียงใกล้เข้ามาที่หน้าตึกอายุรกรรมที่ฉันนั่งอยู่    พี่ช่วยน่ะเอง!  แกเดินมาด้วยใบหน้าขาวเผือด ปราศจากเครื่องสำอาง  ผมเผ้ารุงรัง   ในเวลานี้ดูดูหม่นหมองนัก  ขอบตาแดงช้ำ  เหมือนผ่านการร้องให้มาอย่างหนัก

               อ้าว! พี่ช่วยน่ะเอง พูดพลางฉันก็ชวนแกนั่งและถามต่อว่า

               พ่อเป็นยังไงบ้าง ดูพี่ซูบไปนะ มีอะไรให้หนูช่วยมั้ย หนูยินดีช่วย  แค่นั้นเองน้ำตาพี่ช่วยก็ไหลอาบแก้ม แล้วพูดว่า

               หนูนิ่ม! ช่วยพี่ด้วย  มีเธอคนเดียวจะช่วยพี่ได้   ฉันจึงถามว่า

               พี่จะให้หนูช่วยอะไร ถ้าหนูช่วยได้หนูก็ยินดีช่วย   พี่ช่วยพูดต่อว่า

              ช่วยประสานงาน ส่งต่อพ่อของพี่หาอาจารย์เซี๊ยะที่cardiac center ด้วยระบบFast tackหน่อยสิฉันอึ้งและนั่งนิ่งพักใหญ่ ฉันรู้ดี ว่าทำไมถึงเป็นฉัน ทำไมไม่ใช่แพทย์เจ้าของไข้ แล้วนี่ฉันจะพูดอย่างไรดี ฉันกำลังจะทำเกินหน้าที่ตัวเอง ล่ะหรือ!

    เสียงพี่ช่วยดังขึ้นอีกครั้ง หนูนิ่มพี่ไม่รู้จะพึ่งใคร พี่รู้สึกเหมือนไม่มีใคร

   เท่านั้นเองหัวใจของฉันก็ พองโต  ฉันกลายเป็นคนสำคัญเพียงคนเดียวที่จะช่วยผู้หญิงที่นั่งร้องไห้อยู่ตรงหน้าอย่างนั้นเหรอ!  มันใช่เหรอ ?ฉันได้แต่พล่ำถามตัวเองและแอบดีใจลึกๆอยู่เหมือนกัน   

         ได้สิพี่ช่วย ถ้าพี่มองแล้วว่ามันใช่   หนูก็จะช่วยพี่

ฉันตอบโดยไม่คิดอะไรอีก ฉันช่วยพี่เขาจนสำเร็จ โดยส่งผลตรวจคลื่นหัวใจของคุณตาแอร์ไปที่Cardiac centerเพื่อหาลู่ทางส่งต่อและแจ้งปัญหาให้อาจารย์ทราบ   อีกประมาณ40นาที อาจารย์โทรศัพท์กลับมาบอกว่า ไม่ใช่ACS 

พี่นิ่มไม่ใช่ ACSหรอกนะ แต่Buddle blance blockน่ะพี่ ถ้าพี่จะมาผมจะเคลียร์เตียงให้ ก็มาได้เลย หรือถ้าพี่ไม่สะดวกมา ก็แจ้งแพทย์เจ้าของไข้ประสานหาผมนะพี่   หรือขอเบอร์แพทย์ท่านนั้นให้ผมที   ทุกอย่างพร้อม แต่พี่ช่วยไม่ไป

หนูนิ่ม!  พี่คิดดูอีกที สุดท้ายพ่อก็คงอยากตายที่บ้าน  ท่ามกลางญาติพี่น้อง  ลูกหลาน  แม้ว่าสิ่งที่พี่ให้พ่อจะดีที่สุด  แต่พี่รู้ว่าพ่อไม่อยากไป  พ่ออยากอยู่ที่นี่  ก็ช่างมันเถอะ....  พี่ยอมแล้ว  ขอบคุณนิ่มมากนะที่ช่วยพี่   ฉันมองพี่ช่วยด้วยความสงสารอย่างไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน   พลางนึกในใจว่า

        เออหนอ!  ........   ความสุขสุดท้ายในชีวิตของคนเรา   ก็คือการได้อยู่กับลูกหลาน ญาติสนิทมิตรสหาย  ได้นอนตาหลับในบ้านอันเป็นที่รัก  ถึงแม้จะเป็นการนอนอย่างนิรันดร์  แต่ก็เปี่ยมด้วยความสุข    ด้วยศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์    ศักดิ์ศรีของความเป็นคุณตาของหลานๆ ........... 

คุณตาแอร์เสียชีวิตในเช้าวันต่อมา  ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของลูกหลาน  ในบ้านของบุตรสาวอันเป็นแก้วตา  ดวงใจของคุณตาแอร์นั่นเอง    ขอให้คุณตาแอร์ไปสู่สุขติด้วยเถิด......................

                 

 

 

           นิ่มนวล   โยคิน

โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ

คำสำคัญ (Tags): #sha
หมายเลขบันทึก: 275358เขียนเมื่อ 11 กรกฎาคม 2009 11:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ บางครั้งก็ตัดสินใจลำบากเหมือนกันนะคะ ลูกสาวเป็นพยาบาลยังเกิดความสับสนที่จะตัดสินใจเลยค่ะ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จริงๆ ค่ะ

ขอให้คุณตาเอร์ไปสู่สุคติค่ะ

มาเยี่ยมและมาอ่านค่ะ เป็นเรื่องของการตัดสินใจที่ลำบากค่ะ

ขอบคุณนะคะที่เขียนเรื่องดีๆ มาให้อ่าน บางครั้งการตัดสินใจ ถึงแม้จะลำบากใจแต่ผลที่ได้รับกลับมามีค่ามากจริงๆค่ะ

อ่านแล้ว คิดถึงพ่อมาก ความรู้สึกของลูกทุกคนที่สูญเสียพ่อไปอย่างไม่มีวันกลับ มันคือความรู้สึกที่สุด ที่เกินคำบรรยาย หากใครที่ยังมีพ่ออยู่ให้ดูแล ได้โปรดดูแลท่านอย่างดี ด้วยความรัก ความเข้าใจ สุดท้ายสิ่งที่ท่านต้องการคือการได้รับความรัก ความใกล้ชิดจากลูกหลาน ท่านจะได้จากไปอย่างสงบสุข หลับให้สบายเถิดนะ พ่อที่รักยิ่งของลูก....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท