การวิจัย

การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ก่อน และ หลังการเรียนรู้ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (5E) Comparison of Learning Achievement and Thinking Skills of Mathayom Suksa 2 Students Taught Through Inquiry Cycle.

ปีที่เผยแพร่  ปีการศึกษา  2551

บทคัดย่อ
     จากรายงานการวิจัยของกระทรวงศึกษาธิการสรุปได้ว่า  นักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและมัธยมศึกษาตอนปลายมีศักยภาพสูงสุดด้านทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม และมีศักยภาพต่ำสุดด้านทักษะพื้นฐานที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ในอนาคต โดยเฉพาะทักษะการคิด และกรมวิชาการ ได้เสนอแนะให้ครูควรจัดกระบวนการเรียนการสอนโดยเน้นการใช้ทักษะกระบวนการต่างๆ เพื่อฝึกให้ผู้เรียนรู้จักคิดวิเคราะห์มากกว่าเน้นเนื้อหา   ผู้วิจัยจึงได้ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ก่อนและหลังการเรียนรู้ด้วยกระบวนการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้  ( 5 E ) มีวัตถุประสงค์  คือ 1)เพื่อศึกษาการปฏิบัติการจัดการเรียนรู้เน้นทักษะการคิดของนักเรียน2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิดก่อนและหลังการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างคือ  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2/6และ2/8 ปีการศึกษา  2550 โรงเรียนนวมินทราชูทิศ  พายัพ   จังหวัดเชียงใหม่ จำนวน  68  คน   เครื่องมือที่ใช้คือแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5 E) เรื่องร่างกายของเรา แบบทดสอบแบบอัตนัยเชิงสถานการณ์จำนวน15 ข้อ ผลการวิจัยพบว่าค่า   ก่อนเรียน = 19.90   ค่า   หลังเรียน  41.22  ค่าS.D.ก่อนเรียน=  3.84 ค่า S.D.หลังเรียน= 4.65 ค่าC.V.= 11.36 %   สรุปได้ว่า
     1.  การปฏิบัติการจัดการเรียนรู้เน้นทักษะการคิดของนักเรียน   โดยจัดกิจกรรมการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ ( 5 E)  การจัดกิจกรรมการเรียนรู้  การใช้สื่อ  และวิธีสอนมีประสิทธิภาพในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิดของนักเรียน 
     2.   คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการคิด  เรื่องร่างกายของเราหลังการทดลอง สูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01**