เมื่อวันอาทิตย์ผมไปเยี่ยมแม่ยายของอธิการบดีที่โรงพยาบาล และโรงพยาบาลยะลาหาที่จอดรถยากมากแถมยังต้องจอดไกลอีก คนที่เดินไม่คล่องอย่างผมต้องอาศัยตัวช่วย ก็ต้องหวนกลับไปใช้ไม้เท้า
ระหว่างที่จอดรถอยู่ผมนึกถึงอธิการบดีของเรา ครั้งหนึ่งด้วยความรีบเร่งอะไรสักอย่างหนึ่ง ท่านจอดรถผิดที่ จราจรก็มาจับท่าน ท่านก็ยอมรับความผิดแต่โดยดี ยอมจ่ายค่าปรับทุกอย่าง แล้วพูดว่า "ขอบคุณที่รักษากฎหมาย" เป็นการชมเชยตำรวจ แต่ด้วยที่ท่านพูดไทยไม่คล่องเท่าไรก็หาคำชมเชยเท่าที่ท่านพูดได้ และที่เป็นที่แปลกใจของหลายๆ คน (ก็คิดว่าตามประสาคนไทยทั่วๆไป) ตอนนั้นท่านมีเพื่อนและเคารพท่านอยู่เป็นถึงผู้กำกับฯ ทำไมท่านไม่ใช้เพื่อนท่าน ... นั้นแหละครับลักษณะอธิการเราผิดก็ยอมรับผิด ยอมทำตามกฏหมายทุกอย่าง
วันก่อนท่านพูดในวันพบปะบุคลากรมหาวิทยาลัย ท่านก็ให้นโยบายหลายอย่าง เช่น ความรับผิดชอบของเราในฐานะมุสลิมไม่ใช่มีต่อหน้าท่านหรือผู้บริหารเท่านั้น ทุกคนจะต้องรับผิดชอบต่อหน้าอัลลอฮฺ และเรื่องหนึ่งที่ผมขอเล่าในที่นี้ คือ ความประหยัด
ท่านว่าพวกเราเป็นคนฟุ้มเฟือยมาก บางครั้งไม่ใช่เราเท่านั้น อาจจะเป็นมุสลิมทั่วโลก ซึ่งนับว่าเป็นการกระทำผิดต่อมารยาทที่ดีในศาสนาอิสลาม เช่น การอาบน้ำละหมาด เพราะตามแบบฉบับที่ดีนั้น ท่านนบี(ศ็อลฯ) ได้อาบน้ำละหมาดโดยใช้น้ำไม่เกินหนึ่งลิตร แต่พวกเราเปิดน้ำตามก็อกน้ำให้ไหลไปไม่รู้เท่าไร
อีกอย่างหนึ่งที่ท่านได้พูดึง คือ การเปิดปิดไฟฟ้าในห้องเรียนหรือที่ทำงาน ท่านว่า คนที่ไม่ประหยัดเป็นพี่น้องกับชัยฏอน(มาร) ห้องเรียนหรือห้องทำงานเมื่อไม่ทำงานแล้วก็ควรปิดทันที ไม่เฉพาะคนที่เปิดแล้วไม่ปิดเท่านั้นที่ผิด คนที่เห็นแล้วว่าเปิดไว้เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร คือ ไม่ไปปิด คนๆนั้นก็ผิดด้วย .. หลายครั้งที่ผมสังเกตเห็นว่า ไม่ว่าท่านจะเดินอยู่กับใคร ถ้าผ่านห้องใดที่ไม่ปิดไฟหรือไม่ปิดพัดลมท่านก็จะเดินไปปิดเอง ทั้งๆที่ท่านสามารถสั่งคนอื่นได้.. !!
ปิดท้ายผมขอยกอายัตที่ท่านกล่าวเกี่ยวกับการฟุ้มเฟือย
หลายสิ่งหลายอย่างที่อธิการพูดเราบางคนมักละเลยครับ ความรู้ที่ชัดแจ้งสำหรับการตักเตือนของอธิการก็ คือ หากเราเป็นมุสลิมที่เข้าใจอิสลามอย่างถ่องแท้ ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กเรื่องใหญ่เราแก้ได้แน่ครับ เช่นเรื่องที่อาจารย์เก็บมาเล่าต่อในวันนี้ถ้าเราช่วยกันทำตามแนวทาง ป่านนี้รัฐบาลก็คงไม่ต้องออกมารณรงค์ลดภาวะโลกร้อนกันครับ (วัลลอฮฺอะลัม) นับถือๆท่านจริงๆครับ
สลามครับอาจารย์ อิบรอฮีม รู้ทั้งรู้ แต่ก็ยังไม่ยังประหยัดตามแบบอย่าง ก้ต้องคุยพูดคอยตามอยู่ตลอดครับท่าน
ครับ อ.เสียงเล็กๆ และตอนนี้เวลาท่านจะคุยกับพวกเราท่านจะใช้ภาษาไทย
12 วาศิยัต(คำโอวาท)ของท่านที่ให้มาสามารถที่จะนำเสนอให้คนทั่วไปทราบ ไว้โอกาสเหมาะๆผมจะลองสรุปทีละข้อดู
แวะมาเยี่ยมเยียนครับ
วะอัยกุมุสสาลาม ครับ วอญ่า
ครับ.. ต้องพูด คุย ให้ทุกคนหันกลับมาตามซุนนะฮฺให้มากที่สุด..นั้นคือแนวทางที่สมบูรณ์ที่สุด
ขอบคุณมากครับ อ. จรุวัจน์ ที่กรุณามาเยี่ยม
อัสลามูอาลัยกุม อาจารย์
ความฟุ่มเฟือยมีเยอะมากในชีวิต และที่หลายคนลืมคิดอีกอย่างคือการบริโภคที่เกินความจำเป็น วันหนึ่งเราใช้พลังงานแค่ไม่เท่าไหร่แต่เรากลับใส่พลังงานเข้าไปเกินจำเป็นสะสมจนเกิดโทษ น่าจะลองทบทวนดูจริงมั้ย เราเห็นคนเป็นโรคเนื่องจากการกินเกินมากกว่าเห็นคนกินไม่พอ ติดตามข้อคิดข้อเขียนอาจารย์มาตลอดเพราะนั่นคือช่องทางการศึกษาหาความอย่างดีอีกทางหนึ่งสำหรับผู้ที่มีโอกาสน้อย ขอดุอาร์จากเอกองค์อัลลอฮ์ให้อาจารย์หายปกติเร็วๆ
ครับ จำได้สมัยเรียน ป.ตรี ที่ห้องอาหารเขาจะติดหะดีษๆหนึ่ง ซึ่งมีความหมายว่า ประชาชาติของฉัน(มุฮำมัด)จะไม่กินถ้าไม่หิว และถ้ากินก็จะไม่อิ่ม..
ดร.อิสมาอีล อาลี บอกว่าให้อยู่ในช่วงให้หายหิวกับอิ่มแต่ไม่ถึงกับอิ่ม
ขอชื่นชมท่านด้วยคค่ะ
ขอบคุณมากครับ
krutoi