ครูตี๋
นาย สมรรถ ครูตี๋ เอี่ยมพานิชกุล

เอาเงินในอนาคตมาใช้


เงินกู้ ช.พ.ค.

ช.พ.ค. คือ สวัสดิการฌาปณกิจช่วยเพื่อนครูที่คุรุสภา (เดิม) ปัจจุบันคือสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ได้จัดขึ้นโดยมีครูเป็นสมาชิก ตามสโลแกนที่ว่า "สกสค. มุ่งมั่น แก้ไขปัญหา พัฒนาชีวิตครู เพื่อการเรียนรู้ของเยาวชน" และทาง สกศค. ได้จัดสวัสดิการต่างๆ มากมายให้แก่เพื่อนครู ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมากเพราะจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและปัจจุบันนี้ทาง สกศค.ยังได้ร่วมกับธนาคารออมสินจัดสวัสดิการเงินกู้ต่างๆ แก่เพื่อนครูเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ไม่ต้องไปเป็นหนี้นอกระบบก็เป็นการช่วยเหลือเพื่อนครูเช่นกัน และในขณะนี้ก็มีโครงการกู้เงิน ช.พ.ค.โครงการ 5 โดยสมาชิก ช.พ.ค.สามารถกู้เงินได้ถึง 6 แสนบาท โดยให้ผู้กู้ทุกรายต้องทำประกันชีวิต เพื่อประกันสินเชื่อกับบริษัทประกัน ในอัตราค่าเบี้ยประกันต่อคนต่อ 10 ปี ตั้งแต่ 6,200-37,200 บาท ขึ้นอยู่กับวงเงินกู้ยืม อัตราดอกเบี้ย MPL 5.85% และจะต้องหักส่งกองทุนอีก 2 กองทุน จำนวน 12,000 บาท ระยะเวลาส่งใช้ 30 ปี ก็เป็นหนทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนด้านการเงิน แต่เมื่อมองย้อนกลับไปจากการสำรวจหนี้สินของข้าราชการปรากฎว่าข้าราชกาครูมีหนี้สินมากพอสมควร ทางกระทรวงศึกษาธิการก็ได้หาแนวทางเพื่อลดภาระหนี้แก่เพื่อนครู แต่ทำไมการกู้ตามโครงการ 5 ต้องชำระเบี้ยประกันมาก หากเรากู้ 6 แสนบาท เมื่อหักเงินค่าเบี้ยปะกัน 37,200 บาท และเงินสมทบเข้ากองทุน 12,000 บาท รวม 49,200 บาท และต้องมีค่าดำเนินการที่ทางธนาคารหักเอาไว้อีกจำนวนหนึ่ง รวมแล้วถูกหักประมาณ 50,000 บาท เราจะได้รับเงินเพียง 550,000 บาท นั้นแสดงว่าวันแรกที่ทำสัญญาและได้รับเงินเราจะถูกหักเงิล่วงหน้า ประมาณ 8.35% และจากนั้นก็ส่งใช้รายเดือนๆ ละ 3 พันบาทเศษ ก็เป็นการสิ่งใช้ในอัตราที่ต่ำ แต่อย่าลืมนะครับเราต้องส่งใช้เกือบครึ่งชีวิต เมื่อรวมคำนวณแล้วล้านบาทเศษๆ เป็นการนำเงินอนาคตมาใช้ในปัจจุบันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ก็เป็นกำลังใจสำหรับที่ท่านที่กำลังยื่นเรื่องขอกู้เพราะท่านว่าท่ารัฐมนตรีศึกษา ให้ผู้ดำเนินการกลับไปพิจารณาอัตราเบี้ยประกัน และการส่งเงินเข้ากองทุน

อย่างไรก็ดีหากเรามีวินัยในการใช้เงิน รู้จักวางแผนการใช้เงิน และดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เราก็น่าที่จะพอบรรเทาความเดือดเรื่องเงินได้บ้าง เมื่อวานไปทานข้าวกับเพื่อนๆ และพี่ๆ ได้ยินคำพูดหนึ่งจากพี่รุจี ท่านกล่าวว่า "ตอนเช้าให้กินอย่างเศรษฐี กลางวันกินอย่างพอดี กลางคืนกินอย่างยาจก" (จริงๆ แล้วก็คืออยากให้เราลดน้ำหนัก) ฟังดูแล้วเข้าท่าและน่าจะใช้ได้กับทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นการลดน้ำหนักหรือการไม่ใช่จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยนั่นเอง....

คำสำคัญ (Tags): #เงินอนาคต
หมายเลขบันทึก: 268687เขียนเมื่อ 17 มิถุนายน 2009 06:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 19:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อยากจะกู้เงินแต่ไม่มีปัญญาที่จะกู้เพราะไม่มีคนคำประกันให้ ในเมื่อสกสค.มีเงื่อนไขในการหักเงินต้องหักเงินคนคำใครล่ะจะบ้ามาคำให้เรา ทั้งที่เราก็เป็นสมาชิก ช.พ.ค และหักเงินเท่ากันกับครูรัฐบาล

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท