7.ตามรอย Grief คุณตาดม


ความเเน่นอนและเที่ยงเเท้ ที่สุดของชีวิต ที่ไม่มีใครหลีกหนีไปได้

         ต่อจากบันทึกที่เเล้วนะคะที่ได้ทิ้งท้ายไว้ถึงบทกลอนที่คุณตาดมได้เขียนไว้ให้เราได้เรียนรู้ ฉันคิดว่าคงไม่มีใครไม่เคยพบกับการสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียสิ่งของที่เรารัก สูญเสียบุคคลที่เรารัก แน่นอนนะคะเมื่อมีความสูญเสีย (Loss)เกิดขึ้นต้องมีความเศร้าตามมาคำว่า Grief ก็คือความเศร้าค่ะ หากไม่เศร้าถือว่าผิดปกติ เเต่ความเศร้าก็มีเวลาเป็นของมัน 3 - 6 เดือนถือว่าปกติ peak เต็มที่ไม่ควรจะเกิน 1 ปี เมื่อมีความสูญเสียเกิดขึ้นหากว่าเรียนรู้ที่จะเผชิญกับมันได้อย่างไม่หวาดกลัว คิดว่าทุกคนก็จะสามารถก้าวผ่านความทุกข์โศกจากการสูญเสียนี้ไปได้อย่างราบรื่น

        การดำเนินไปของกระบวนการความเศร้าโศกต้องผ่านการไต่บันได 4 ขั้นดังนี้นะคะ

          1 . บันไดของความงุนงง shock ยากที่จะยอมรับ

          2.  บันไดขั้นนี้โหยหาอยากได้คืน

          3.  บันไดขั้นเสียสมดุลย์และหมดหวัง

          4.  บันไดขั้นสุดท้ายเริ่มดี เริ่มปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติ สามารถดำเนินชีวิตได้โดยปราศจากผู้ที่จากไป สี่ขั้นนี้จะต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ค้างอยู่ที่ขั้นใดขั้นหนึ่ง เพราะถ้าค้างอาจแย่ค่ะ

       ดังเช่นความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับครอบครัวคุณตาดม คุณตาบอกว่าเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่มองเห็นจากส่วนหนึ่งของบทกลอนที่คุณตาเขียนเอาไว้

                         เสียหลานไปคร้งนี้ปานเสียเเก้วนามมณี  

                         ผมขอยุติไว้คันเขียนไปใจสิขาด                

                         น้ำตาไหลอาบแก้มทั้งให้นั่นผ่องเขียน

เสียหลานไปในครั้งนี้เปรียบดังเช่นสูญเสียอัญมณีที่ล้ำค่า เขียนไปก็ร้องไห้ไปปริ่มว่าใจจะขาด จึงขอหยุดการเขียนไว้ก่อน

       แต่สิ่งหนึ่งที่อยากชื่นชมคุณตาคือ คุณตาหาทางระบายความเศร้าออกโดยการเขียน เเละร้องไห้ เพราะฉะนั้นเราจะเเนะนำครอบครัวที่สูญเสียว่าไม่ต้องห้ามสำหรับคนที่จะร้องไห้ เพราะนั่นคือการระบายออกอย่างหนึ่งเรียกว่าถ้าบอกว่าอย่านะ อย่าร้อง จะเป็นการยับยั้งความเศร้าไว้ไม่ให้ดำเนินไป ( Inhibit grief )ยิ่งจะไปกันใหญ่

อารมณ์ที่เกิดขึ้นของคุณตาในช่วงที่เขียนกลอนสื่ออกมาให้เห็นถึงอารมณ์ shock คือวินาที่ที่หลานจากไป  เหมือนสูญสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าควักดวงตาของคุณตาไปได้ เเล้วแลกกับชีวิตหลานน้อย คุณตาก็คงจะยอม

                            ผมนั่นคิดถึงตอนใจลาวสิขาดดิ้น

                            มันเสียสิ้นคูสู่เเนว                                   

                            เเม่นสิเอาเลนส์แก้วในดวงตาผมออกบ่เสียดาย

                            คันให้หลานผู้ข้าคืนร่างได้ดั่งเดิม 

ถึงตอนที่เป็นอารมณ์ยอมรับ คุณตาก็สามารถยอมรับได้เเละเข้าใจถึงหลักอนิจัง  ช่วงที่คุณตาดมเขียนเป็นช่วงปีใหม่ ส่งมาให้ทีมพร้อมกับ ส.ค.ส. ปีใหม่และเเผ่น CD รำลึกถึงน้องนิ๊ง  4 เดือนหลังน้องจากไป คุณตาเริ่มก้าวเข้าสู่บันไดขั้นที่ 4 และคิดว่าการจากไปของน้องเป็นเพราะว่าตัวโรคมะเร็งนั้นรุนเเรงเกินกว่าจะเยียวยา เคมีบำบัดก็ไม่สามารถเอาชนะมันได้ สุดท้ายเราก็ต้องพ่ายเเพ้ให้กับเจ้ามะเร็งร้าย

คุณหมอเอ๊ยโลกนี้นั้น                              มันมาเที่ยงคือความตาย

บ่ว่าหญิงหรือชาย                                   บ่ห่างไลไกลเว้น

 คันเจ้ากรรมนายเวรเพิ่นได้หมายเอาไว้      อย่าหวังไลสิได้ปล่อย

"ความเเน่นอนของชีวิตทุกชีวิต มีความตายเป็นที่สิ้นสุด"

       ปัจจุบันเรายังติดตามครอบครัวอย่างต่อเนื่อง ช่วงเดือนเเรกคุณแม่มาร่วมกิจกรรมรำลึกถึงน้องผู้จากไปที่เราจัดกิจกรรมกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนผู้สูญเสียในช่วงเช้า และช่วงบ่ายพาครอบครัวไปทำบุญที่ตึกสงฆ์(เเม่น้องนิ๊งเสื้อตัวในสีดำ)และติดตามถามข่าวทางโทรศัพท์ในเดือนที่ 2 เดือนที่  6 และเดือนที่ 12 คือตามจนครบ 1 ปีน้องนิ๊งจะตามถึง 2 กันยายน 2552

บรรยากาศการทำกิจกรรมกลุ่มช่วงเช้า

 ช่วงบ่ายพาครอบครัวสูญเสียไปทำสังฆทานที่หอผู้ป่วยสงฆ์อาพาธ

ล่าสุดคุณพ่อคุณเเม่เเละน้องของน้องนิ๊ง 2 คน ได้ย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพฯ

ส่วนคุณตาก็ยังใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดมหาสารคามกับคุณยายและเริ่มทำใจได้แล้ว

 

  

         

 

หมายเลขบันทึก: 258151เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2009 13:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีคะ

น้องกุ้งคะ แม่ต้อยยุ่งกับงานจนไม่มีเวลามาอ่านเรื่องเล่าของคุณตาคมที่สูญเสียหลานรักไป

จะต้องกลับไปอ่านใหม่คะ

เเม่ต้อยคะกุงกำลังตามรอยความเสร้าคุณตาอยู่ค่ะ

เดี๋ยวกลับมาใหม่นะคะ

กุ้งสมัครเรียนหลักสูตร narrative medicine ไม่ทันค่ะแม่ต้อย

เต็มแล้วแต่ทาง พรพ.

ให้กุ้งสมัครไว้รุ่นต่อไป อุตส่าห์ขอเวรได้เเล้ว

ไม่เป็นไรค่ะ รอรุ่น 2

สวัสดีค่ะน้องกุ้ง

ป่านนี้คุณตาคงพอทำใจได้นะ

อ่านแล้วก็เศร้านะ

กินใจจังเลย...

สวัสดีค่ะ คุณสุธีรา

หลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มี หนีไม่พ้น

โชคดี มีสุขค่ะ

สวัสดีค่ะคุณภัทรานิษฐ์ ขอบคุณที่มาทักทาย

เเละมาเรียนรู้ความเศร้าค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท