ทฤษฎีการพัฒนานิสิตนักศึกษา ของชิกเกอริ่ง และไรเซอร์ (Arthur W. Chickering & Reiser 1993)
การพัฒนานิสิตนักศึกษา ตามแนวคิดของชิกเกอริ่ง และไรเซอร (Arthur W. Chickering & Reiser 1993) ประกอบด้วย 7 ด้าน ได้แก่
1) การพัฒนาความสามารถ (Developing Competence) ในระหว่างที่ศึกษาในมหาวิทยาลัยนิสิตนักศึกษาจะพัฒนาความสามารถ 3 ด้าน คือ ความสามารถด้านสติปัญญา ความสามารถทางร่างกาย และความสามารถในด้านความสัมพันธกับผู้อื่น หรือด้านสังคมนิสิตนักศึกษา จะมีความรู้สึกว่าตนมีความสามารถมากขึ้น เพื่อพวกเขาได้เรียนรู้ที่จะไว้วางใจในความสามารถของตนยอมรับคำวิจารณ์จากผู้อื่น และบูรณาการทักษะต่างๆ ของเขาให้กลายเป็นความมั่นใจในตนเอง
2) การจัดการด้านอารมณ (Managing Emotions) นิสิตนักศึกษาหลายคนต้องประสบกับอารมณ์ในด้านไม่ดีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความโกรธ ความกลัว ความเจ็บปวด ความคิดถึง ความเบื่อหน่าย หรือความเครียด ผลจากการศึกษาพบว่า ความวิตกกังวล ความโกรธ ความรู้สึกหดหู่ ความต้องการ ความรู้สึกผิด และความอายนั้น เมื่อมีมากเกินไป จะมีอิทธิพลต่อกระบวนการศึกษาดังนั้น จึงต้องมีการจัดการด้านอารมณ์ที่ดี งานสําคัญในการพัฒนานิสิตนักศึกษาด้านนี้ ไม่ได้เป็นการกําจัดอารมณ์ต่างๆ เหล่านี้ แต่ว่าจะต้องตระหนักและรับรู้ถึงอารมณ เหล่านี้ว่าเป็นสัญญาณบอกสิ่งต่างๆ
3) การพัฒนาจากความเป็นตัวของตัวเองไปสู การพึ่งพาอาศัยกัน (Moving Through Autonomy Toward Interdependence) สิ่งสําคัญที่ นิสิตนักศึกษาจะต้องพัฒนาในที่นี้ก็คือ การเรียนรู้ที่จะพอใจในตนเอง มีความรับผิดชอบในการบรรลุเป้าหมายที่ตนได้เลือกไว ไม่ถูกชักนําโดยความคิดเห็นของคนอื่น การพัฒนาในด้านนี้จะต้องนําไปสู่ความเป็นอิสระทั้งทางอารมณ และในด้านความต้องการความช่วยเหลือจากภายนอก และนําไปสู่การยอมรับการพึ่งพาอาศัยกันในขั้นต่อมา
4) การพัฒนาสัมพันธภาพกับผู้อื่นอย่างมีวุฒิภาวะ (Developing Mature Interpersonal Relationships) รวมถึง การยอมรับและชื่นชมความแตกต่างระหว่างบุคคล และความสามารถในการใกล้ชิดผูกพันกับผู้อื่น การยอมรับความแตกต่าง นอกจากจะหมายถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลแล้ว ยังหมายความรวมถึงในบริบทที่มีความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมด้วย การตระหนักถึงความแตกต่าง การมีประสบการณ์ที่กว้างขวาง ความเปิดเผย ความอยากรูอยากเห็น และการเป็นปรวิสัย (objective) ไมยึดติดกับความเห็นของตน
5) การสร้างเอกลักษณเฉพาะตน (Establishing Identity) การสร้างเอกลักษณนั้น ขึ้นอยูกับการพัฒนาด้านอื่นๆ ที่กล่าวมาก่อนแล้ว คือ ความสามารถ การจัดการกับอารมณ การเปนตัวของตัวเอง และการสร้างสัมพันธภาพที่ดี การพัฒนาเอกลักษณนั้นเปนกระบวนการคนหาวาประสบการณชนิดใด ระดับใด และการทําประสบการณ์นั้นๆ บ่อยเท่าไร ที่จะทำให้เราพึงพอใจ รู้สึกปลอดภัย และมั่นใจในตนเอง
6) การพัฒนาเปาหมาย (Developing Purpose) เปนการเพิ่มความสามารถในการเปนคนที่มีความตั้งใจแน่วแน่ ความสามารถในการประเมินความสนใจและทางเลือกตางๆ โดยจะตองมีการวางแผนสําหรับการะกระทำ และมีการกำหนดสิ่งที่ควรจะทำกอนใน 3 ดาน คือ แผนและแรงบันดาลใจเกี่ยวกับอาชีพ ความสนใจสวนตัว และความผูกพันกับบุคคลอื่นและครอบครัว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการมีความสามารถที่จะเชื่อมโยงเปาหมายที่ แตกตางกันของตนใหอยูภายใตเปาหมายหลักที่ใหญกว่าและมีความหมายมากกวา และการมีความตั้งใจในการทําสิ่งตางๆ ในชีวิตประจําวัน
7) การพัฒนาความมีคุณธรรม (Developing Integrity) การพัฒนาความมีคุณธรรมนั้นใกลกับการสรางเอกลักษณเฉพาะตน และการกําหนดเป้าหมายที่ชัดเจน การพัฒนาความมีคุณธรรมประกอบด้วย 3 ขั้นตอนที่มีลําดับซอนกันอยู คือ
(1) คานิยมในดานเกี่ยวกั บมนุษยจะเปลี่ยนจากการทําตามความเชื่อต่างๆ โดยอัตโนมัติไปสูการรักษาความสมดุลระหวางความสนใจของตนเองกับความสนใจของเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆ
(2) ค่านิยมเกี่ยวกับบุคคล เป็นการยอมรับค่านิยมและความเชื่อต่างๆ อย่างมีสิตในขณะเดียวกันก็เคารพความคิดเห็นของผู้อื่น
(3) การพัฒนาความเหมาะสม หมายถึง การประสานระหว่างค่านิยมส่วนตัว กับพฤติกรรมที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม
ไม่มีความเห็น