วิหารกับวัดเป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมาแต่ครั้งโบราณ เนื่องจากวิหารเป็นสถานที่ใช้ สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของทั้งพระสงฆ์และฆราวาส นอกจากนั้นตาม หมู่บ้านต่าง ๆ จะนิยมใช้วิหารของวัดเป็นสถานที่ประชุมและจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของ หมู่บ้านด้วยเช่นกัน วิหารของวัดอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะมีความกว้างขวางใหญ่โตเพื่อสามารถ รองรับผู้คนที่มาทำบุญได้จำนวนมาก แต่ยังมีวิหารอีกแห่งหนึ่งที่มีขนาดเล็กแต่ทรงคุณค่า ด้านศิลปะและมีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี นั่นคือพระวิหารวัดพระทุ่งอ้อ
วัดพระทุ่งอ้อ ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 บ้านทุ่งอ้อ ตำบลหารแก้ว อำเภอหางดง จังหวัด เชียงใหม่ ประวัติการสร้างวัดและพระวิหารนั้น ไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามีความเป็นมาอย่างไร แต่สันนิษฐานจากโครงสร้างและศิลปะของวิหารวัดแล้ว น่าจะมีอายุประมาณ 500-600 ปี สิ่งที่ปรากฏชัดของวิหารแห่งนี้คือหน้าพระวิหารจะมี "หางบรรณ"
ซึ่งเป็นรูปแบบของศิลปะที่สืบทอดต่อจากเวียงกุมกาม ทำให้แน่ใจได้ว่าวัดแห่งนี้มีอายุ ไล่เลี่ยกับเมืองเชียงใหม่ ความโดดเด่นและสวยงามของพระวิหารอยู่ที่การประกอบไม้โดยไม่ใช้ตะปูทั้ง หลัง เป็นวิหารก่ออิฐถือปูน และใช้ไม้สักเกือบทั้งหลังสำหรับการก่อสร้าง ซึ่งจะหาดูได้ ยากตามวัดโดยทั่วไป ดังนั้นตัวพระวิหารของวัดทุ่งอ้อจึงมีขนาดเล็กกว่าวิหารทั่วไป คือ จุคนได้ประมาณ 50-60 คน ส่วนองค์พระประธานของวิหารนั้น เป็นศิลปะผสมระหว่าง พม่าและล้านนา สันนิษฐานว่าในสมัยโบราณบริเวณแถบนี้ได้มีการสู้รบระหว่างล้านนา กับพม่าบริเวณ และพม่าได้ยึดวัดนี้ไว้ จึงทำให้วัดมีศิลปะของพม่าผสมอยู่
ในสมัยก่อนที่จะมีการบูรณะซ่อมแซมพระวิหารวัดทุ่งอ้อนั้น ชาวบ้านโดยทั่วไป ไม่ค่อยให้ความสำคัญต่อความเก่าแก่และทรงคุณค่าของพระวิหารเท่าใดนัก แต่หลังจากที่ กรมศิลปากรได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซมพระวิหารแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ตื่นตัวต่อการ อนุรักษ์มากขึ้น ส่วนหนึ่งรู้สึกพอใจ แต่อีกส่วนหนึ่งไม่พอใจ ที่กรมศิลปากรซ่อมแซม โดยการนำศิลปะแบบใหม่เข้ามาเสริมแทน เช่น อิฐบริเวณด้านข้างพระวิหารได้ทุบอันเก่า ออกไป และใช้อิฐแบบใหม่เข้ามาแทน รวมถึงการใช้สีแดงทาทั่วพระวิหารซึ่งดูแล้ว เหมือนของใหม่ ทำให้หมดความขลัง แม้โครงสร้างเดิมทั้งหมดยังคงอยู่ แต่บางส่วนของ วิหารได้เปลี่ยนแปลงไปเป็นของใหม่ โดยเฉพาะช่อฟ้า และ ปั้นลม เนื่องจากของเก่าหัก ลงเหลือครึ่งเดียว แต่ก็ยังเป็นสมบัติของที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ส่วนรายละเอียดของการบูรณะซ่อมแซมพระวิหารนั้น ทางเจ้าอาวาสองค์ ปัจจุบันคือพระอาจารย์ธนธรณ์ กนฺตวีโร ได้ให้รายละเอียดดังต่อไปนี้ " วิหารของวัดทุ่งอ้อได้คงคู่กับกาลเวลามายาวนานหลายร้อยปี เก่าแก่และทรุด โทรมไปตามกาลเวลา ดังนั้นตัวอาตมาภาพเอง ได้ทำเรื่องถึงกรมศิลปากร ให้เข้ามา บูรณปฏิสังขรณ์รพระวิหารในปี พ.ศ. 2539 โดยกรมศิลปากรที่ 4 ได้อนุมัติเงินจำนวนหนึ่ง ล้านห้าแสนบาท ในการบูรณะพระวิหาร เพื่อให้คงคู่อยู่กับวัฒนธรรมของเชียงใหม่ต่อไป และเป็นตัวอย่างให้กับวัดอีกหลายแห่งที่ทำการบูรณะซ่อมแซมรื้อถอนวิหารออกไปทั้ง หลัง โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ศิลปะโบราณสูญหาย”
เท้าจตุโลกบาลทั้งสี่
หอเสี้ยววัด และธรรมมาสหลวงโบราณ
มาชม
ได้มารู้เรื่องราวศิลปะกรรมทางพุทธ
เป็นวัฒนธรรมทางเหนือที่น่าสนใจนะครับผม
โอ้บ้านผมเอง
เป็นสถานที่น่าชมอย่างยิ่ง