ในกระบวนการให้คำปรึกษา จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากขาดการสร้างสัมพันธภาพที่ดี ระหว่างผู้ให้คำปรึกษากับผู้รับคำปรึกษา เพราะเหตุใดจึงกล่าวเช่นนี้?
เพราะ "สัมพันธภาพ" เป็นสิ่งซึ่งแสดงถึง การเริ่มเปิดเผยตนเองที่จะรู้จักกันระหว่าง "ผู้ให้" กับ "ผู้รับ" นั่นถือว่าเป็นหน้าต่างที่เริ่มเปิดไปสู่การเกิดความไว้วางใจ เพียงแค่ได้สบตากันครั้งแรก หากสัมผัสได้ถึงความจริงใจ นั่นก็ถือว่าสำเร็จไปแล้วเกินครึ่ง หากแต่จะยิ่งกระชับความสัมพันธ์ให้ขยับเพิ่มขึ้น ก็ต้องเริ่มเพิ่มเติมที่ภาษาพูด ภาษาท่าทางประกอบกับแววตาที่เป็นมิตร
สัมพันธภาพนั้นสำคัญอย่างไร?...ในการช่วยเหลือพูดคุยทางด้านจิตใจนี้ ค่อนข้างสำคัญมาก เพราะสัมพันธภาพที่ดี ย่อมจะนำมาซึ่งการเปิดเผยตนเอง...และบอกเล่าสู่กันฟังระหว่างผู้ให้คำปรึกษาและผู้รับคำปรึกษา เพราะการให้คำปรึกษานั้นเรามุ่งเน้นเพื่อให้ผู้รับคำปรึกษา เกิดความเข้าใจตนเอง เข้าใจที่เป็นความเข้าใจลึกถึงเหตุที่มาแห่งความทุกข์ที่เกิดขึ้น และมองเห็นถึงสาเหตุ เรื่อยไปจนมองเห็นถึงแนวทางในการแก้ไข"ทุกข์"นั้นด้วยเช่นกัน อีกทั้งช่วยส่งเสริมความเข้าใจให้ถึงในระดับการเข้าใจผู้อื่น และเข้าใจสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบ"ตนเอง" เพิ่มมากขึ้น เพื่อจะได้มองเห็นความเป็นไปได้อย่างถ่องแท้ได้ตามความเป็นจริง
ดังนั้น ผู้ให้คำปรึกษา สิ่งสำคัญที่ควรทำอย่างยิ่งเมื่อได้เจอผู้มารับคำปรึกษานั่นคือ ท่าทีที่เป็นมิตร ที่ทำให้ผู้รับคำปรึกษา รู้สึกและสัมผัสได้ว่า...เขาสามารถไว้วางใจและเล่าเรื่องราวอะไรให้ฟังได้...โจทย์นี้ไม่ยากสำหรับผู้ให้คำปรึกษา เพราะเมื่อใดก็ตามที่ผู้ให้คำปรึกษารู้สึก "จริงใจ" อย่างแท้จริงที่จะพูดคุยรับฟัง เรื่องเล่าของผู้มารับคำปรึกษา สัมพันธภาพที่ดีก็ย่อมสามารถก่อเกิดขึ้นได้อย่างที่ไม่ยากนัก
อ่านบันทึกฉบับนี้แล้วนึกถึง "โจฮารี่วินโดว์"
ที่เคยถามDr.ka-poom ไว้
ผมไม่ถนัดในเรื่องการใช้ทฤษฏีนัก แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงได้เข้าใจ
"โจฮารี่วินโดว์" และนำมาใช้อยู่สม่ำเสมอ
หากเราต้องการให้เขาเปิดใจ
เราก็จำเป็นต้องเปิดใจเราด้วยเช่นกัน.....
ต่างฝ่ายต่างเปิดใจโดย"เต็มใจ" และ"จริงใจ"
จะทำให้การให้คำปรึกษาลุล่วงไปได้ ปัญหาก็คลี่คลาย