พุทธสังเวชนียสถาน (ตอนที่ ๒๒) ลัฏฐิวัน สวนตาลที่ประดิษฐานพระศาสนาในแคว้นมคธ

ลัฏฐิวัน เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ๆพระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมโปรดชาวแคว้นมคธเป็นครั้งแรก หลังจากที่โปรดบรรดาชฏิลสามพี่น้องและบริวารแล้ว  เมื่อครั้งพระโพธิสัตว์สิทธัตถะยังบำเพ็ญเพียร แสวงหาทางตรัสรู้อยู่ ได้เดินทางผ่านแคว้นมคธ ทรงพบกับ พระเจ้าพิมพิสาร พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบว่า พระโพธิสัตว์เป็นกษัตริย์ราชตระกูล ออกจากศากยราชตระกูลมาบวช ทูลเชิญ ให้ลาจากเพศบรรพชิต มาครองราชสมบัติด้วยกัน พระองค์จะทรงแบ่งราชสมบัติให้กึ่งหนึ่งเพื่อปกครอง แต่พระโพธิสัตว์ทรงปฏิเสธ เพราะการเสด็จออกบรรพชาของพระองค์นั้นเป็นเพราะเห็นโทษในกาม ทั้งกิเลสกาม วัตถุกาม ดังนั้นพระองค์จึงไม่มีความปรารถนาในสมบัติเหล่านั้น ปรารถนาเพียงโพธิญาณเท่านั้น พระเจ้าพิมพิสารทรงเลื่อมใส และทูลว่า หากได้ตรัสรู้ ธรรมนั้นแล้ว ขอให้กลับมาโปรดให้พระองค์ได้ทราบด้วย

หลังจากที่พระโพธิสัตว์ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสมัพุทธเจ้า ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 แล้วได้เสด็จไปโปรดปัญจวัคคีย์ และยสกุลบุตรที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ได้ทรงส่งพระสาวก 60 รูป (คือ พระปัญจวัคคีย์ 5, พระยสและสหายอีก 55) ออกไปประกาศพระศาสนา พระองค์ได้เสด็จไปยังบริเวณคยาสีสะประเทศ โปรดชฏฺลสามพี่น้อง คือ พระอุรุเวลกัสสปะ พระคยากัสสปะ พระนทีกัสสปะ และบริวาร 1,000 รวม 1,003 ( จำนวนรวมทั้งหมดยังเป็นปัญหาบางแห่ง แสดงว่าพระเถระสามพี่น้อง รวมกับบริวาร เป็น 1,000 บางแห่งแสดงว่าบริวาร 1,000 กับพระเถระสามพี่น้องอีก 3 เป็น 1,003 ในที่นี้ยังไม่ได้ ข้อสรุปชัดเจน จึงขอลงไว้ตามจำนวนที่คุ้นกันอยู่ คือ 1,003)

  

  โปรดชฎิลสามพี่น้อง

 หลังจากนั้นโปรดให้พระเถระอดีตชิฏลสามพี่น้อง และบริวารได้บรรลุอรหันต์แล้ว ทรงระลึกถึงคำปฏิญญาเดิม ที่ทรงให้ไว้กับพระเจ้าพิมพิสาร จึงได้เสด็จไปพร้อมกับพระสาวก 1,003 รูป สู่แคว้นมคธ และไปพักอยู่บริเวณชานเมือง แคว้นมคธ เป็นป่าตาลเรียกว่า ลัฏฐิวัน

       พระเจ้าพิมพิสารทรงทราบว่าพระศาสดาเสด็จมาโปรดแล้ว จึงเสด็จไปยังลัฏฐิวันพร้อมกับมหาชนตามเสด็จ แต่มหาชน ส่วนใหญ่ที่มาก็ยังไม่ได้ศรัทธาในพระบรมศาสดา บางส่วนศรัทธาในชฏิลสามพี่น้องอยู่แล้ว ที่ตามเสด็จมาก็เพราะ เกรง พระทัยพระราชา เมื่อเห็นพระพุทธเจ้าทรงอยู่กับอาจารย์เก่าของตน ก็คิดว่าใครหนอเป็นผู้ใหญ่กว่า พระสมณโคดมกับชฏิลสามพี่น้องใครเป็นศาสดา ใครเป็นศิษย์

พระพุทธเจ้าทรงทราบวาระจิตของมหาชนเหล่านั้น จึงได้ให้พระอุรุเวลกัสสปะทำให้มหาชนคลายความสงสัย พระเถระ จึงได้แสดงปาฏิหาริย์ เหาะขึ้นไปสู่  นภากาศสูง 7 ชั่วลำตาล เปล่งวาจาสดุดีพระบรมศาสดาประกาศว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็น พระศาสดาของเรา เราเป็นพระสาวกของพระพุทธเจ้า ทำให้มหาชนหายสงสัย หันมาตั้งใจสดับ พระธรรมเทศนา

หลังจากนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนา ตรัสอนุบุพพีกถา เป็นเบื้องต้น และทรงแสดงอริยสัจ 4 ในเบื้องปลาย ในท้ายพระธรรมเทศนา พระเจ้า พิมพิสารได้บรรลุโสดาปัตติผล มหาชนชาวแคว้นมคธทั้งหมด 12 นหุต (1 นหุต เท่ากับ 3 หมื่น) บางพวกบรรลุโสดาบัน บางพวกถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ เป็นอุบาสก อุบาสิกาเท่ากับว่า พระพุทธศาสนาได้ลงรากฐานปักมั่นคงในราชคฤห์ แคว้นมคธแล้ว ในครั้งนั้นเอง

พระเจ้าพิมพิสารทรงดำริว่าลัฏฐิวันอยู่ไกลชุมชน เป็นเขตชานเมือง พระสงฆ์และ พระพุทธเจ้าจักลำบากด้วยภิกษา ภายหลังจึงทูลถวายเวฬุวัน ป่าไผ่ในเมืองราชคฤห์ให้เป็นสังฆาราม ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นวัดแห่งแรกในพระพุทธศาสนา

                                                                                            โปรดติดตามตอนต่อไป

 

[ครูอ้อย แซ่เฮ]

สวัสดีค่ะ อาจารย์

• วันนี้มีภาพสวยประกอบด้วยค่ะ
• ครูอ้อย มาตั้งใจ นั่งแถวหน้าอ่านเลยค่ะ

[ganeshnoi07]

สวัสดีครับ  ครูอ้อย แซ่เฮ ครูสวยของ......นักเรียน

ขอบคุณที่มาแวะอ่าน วันนี้สุขภาพไ ม่ค่อยดี  

อากาศที่นี้ร้อนๆๆหนาวๆ เลยเป็นหวัดนิดหน่อยครับ

[ครูอ้อย แซ่เฮ]

• อาจารย์ ดื่มน้ำอุ่นมากๆๆนะคะ  อย่าดื่มน้ำเย็นนะคะ
• อากาศเปลี่ยนแปลง วันก่อนนี้ ครูอ้อยอยู่ต่างจังหวัด  เกือบเป็น ตาแดงน่ะค่ะ
• ครูอ้อย รีบ นำน้ำสะอาดมา แล้ว ลืมตาในน้ำ สักพัก  ก็หายค่ะ

รักษาสุขภาพนะคะ

[ganeshnoi07]

ขอบคุณครับ ครูอ้อย แซ่เฮ

ที่ใ ห้คำแนะนำครับ ช่วงนี้นักศึกษาใกล้สอบ ต้องรีบทำข้อสอบ

รักษาสุขภาพเช่นเดียวกันครับ