วันมาฆบูชา เพื่อนรุ่นที่พี่เราแวะหาก่อนกลับบ้านบอกว่าจะเกิดจันทรุปราคา ก็เลยได้ออกไปนอกบ้าน ยืนดูพระจันทร์ แต่เมฆมากจนมองไม่เห็นพระจันทร์ กลับบ้านอาบน้ำนอน เลยไม่ได้ลุกขึ้นมาช่วยจันทร์ยามถูกราหูอม
นึกถึงสมัยเด็กๆ เวลาเกิดจันทรุปราคา ทีไร เป็นถูกปลุกจากที่นอนออกมานั่งอ่านหนังสือ พ่อก็ต้องไปเคาะยุ้งข้าว คอกวัว ปลุกกันขึ้นมาจนหมดบ้าน ช่วยกันร้องตะโกน "คายโล้คาย" (ออกเสียงเป็นภาษาใต้) ช่วยพระจันทร์จากราหู บ้างก็เคาะเกราะ ตีกลอง หรือบ้านไหนมีปืนก็เอาออกมายิงขึ้นฟ้า ช่วยจันทร์...
จันทรุปราคาวันนี้ นอนหลับทับสิทธ์ ไม่ได้ลุกมาช่วยจันทร์ ไม่ได้ปลุกหนังสือ (อ่าน) ไม่ได้ทำอะไร เพราะนอนหลับ
วันเวลาเปลี่ยน อายุมากขึ้น ...การผลัดเปลี่ยนวัย การเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ เราเลยหลงลืม ลืม..หลายๆเรื่อง ที่พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษของเรา ได้เคยทำ และสั่งสอนให้เราทำ....เราหลงลืมที่จะสั่งสอนลูกหลานให้ทำต่อ ... อาจจะเพราะไม่มีเหตุผลในการอธิบาย หรืออะไรก็แล้วแต่ ...
จันทรุปราคาในช่วงหลายปีนี้จึงไม่มีเสียง "คายโล้คาย"
ว่าแต่ว่า... มีลูกมีหลานให้สั่งสอนต่อกะเขาด้วยหรือคะ?
จริงด้วยสินะ ไม่มีลูก มีแต่หลาน
ไว้วันหลังจะสอนหลานก็แล้วกัน อิอิ
ตามกระแสข่าวมาแรง ช่วง 7 ให้ดูพระจันทร์เวลา 19.30 น. ออกมาดูมีแต่ก้อนเมฆบัง อีกช่องหนึ่งให้ดูเวลา 22.30 น. มาดูอีกครั้ง แต่ไม่กล้ายืนดูพระจันทร์วันเพ็ญนาน ๆ กลัวสัญชาตญาณเดิอมออก