บรรณานุกรม (Bibliography)
บรรณานุกรม (Bibliography)เป็นหนังสืออ้างอิงที่ชี้แหล่งข้อมูล เป็นหนังสืออ้างอิงประเภทที่บอกให้ทราบว่าจะหาสารสนเทศจากแหล่งใด และจะไม่มีสารสนเทศที่ต้องการทันที แต่จะบอกแหล่งที่ให้บริการว่าสามารถสืบค้นสารสนเทศได้จากที่ใด
บรรณานุกรม(Bibliography) คือหนังสือที่รวบรวมรายชื่อหนังสือหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ เข้าด้วยกัน โดยเรียงตามลำดับอักษรตัวแรกของผู้แต่ง ถ้าเป็นชาวต่างประเทศจัดเรียงตามลำดับอักษรตัวแรกของนามสกุล รายละเอียดของแต่ละชื่อเรื่อง ประกอบด้วย ชื่อและนามสกุลของผู้แต่ง ชื่อเรื่อง สถานที่พิมพ์ สำนักพิมพ์ ปีที่พิมพ์ แต่ละรายชื่ออาจมีบรรณานิทัศน์สังเขปประกอบด้วยก็ได้ (สุทธิลักษณ์ อำพันวงศ์, 2535: 55)
บรรณานุกรม เป็นหนังสืออ้างอิงที่ให้ความรู้เกี่ยวกับรายชื่อหนังสือหรือสิ่งพิมพ์อื่นๆ ทั้งในรูปแบบของสิ่งพิมพ์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ บรรณานุกรมของแต่ละรายการส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ ครั้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์ เมืองที่พิมพ์ ปีที่พิมพ์ อาจจะมีจำนวนหน้าและราคา หรือบางครั้งอาจจะมีบรรณนิทัศน์ประกอบด้วย
ความสำคัญของบรรณานุกรม
เนื่องจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้เกิดความก้าวหน้าทางวิชาการต่าง ๆ อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว มีผลให้เกิดการผลิตสารนิเทศในรูปแบบของ สื่อสิ่งพิมพ์ตลอดจนสื่อในลักษณะอื่น ๆ เป็นจำนวนมากมายมหาศาลตามไปด้วย ดังนั้นบรรณารักษ์จึงต้องมีเครื่องติดตามความเคลื่อนไหวของสื่อสารนิเทศ เพื่อช่วยในการคัดเลือกสิ่งพิมพ์และสื่ออื่น ๆอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยในงานบริการผู้อ่านให้สามารถค้นคว้าหาสารนิเทศประกอบการศึกษา วิจัย และการหาทรัพยากรสารนิเทศได้อย่างรวดเร็วและครบถ้วน เครื่องมือดังกล่าวข้างต้นก็คือบรรณานุกรม ซึ่งมีความสำคัญต่อหน่วยงานสารนิเทศทุกประเภทในฐานะเป็นคู่มือจัดหาและคู่มือบริการที่ห้องสมุดทุกแห่งและหน่วยงานสารนิเทศทุกหน่วยจะต้องมีไว้เพื่อการปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพของบรรณารักษ์ ตลอดจนนักเอกสารสารสนเทศทุกคนจะขาดไม่ได้ บรรณานุกรมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อบรรณารักษ์ในแง่ทำหน้าที่เป็นคล้ายแผนที่นำทางของบรรณารักษ์ในการติดตามความเคลื่อนไหวในความก้าวหน้าทางวิชาการแขนงต่างๆ พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อทรัพยากรสารนิเทศทุกประเภท
ประโยชน์ของบรรณานุกรม
บรรณานุกรม เป็นหนังสืออ้างอิงที่มีประโยชน์ ดังที่พิมลพรรณ ประเสริฐวงษ์ แรพเพอร์ ได้เสนอแนะไว้ 3 ประการ คือ
1) เพื่อช่วยในการหาหนังสือเล่มที่ต้องการ (Locate) บรรณานุกรมจะเป็นเครื่องช่วยบอกให้ทราบว่าจะหาซื้อหนังสือเล่มที่ต้องการนั้นได้จากสำนักพิมพ์ใด หรือจะยืมได้จากหอสมุด แห่งใด (ในกรณีที่เป็นบรรณานุกรมที่ระบุแหล่งที่อยู่ของหนังสือเล่มหนึ่งๆ เช่น Nation Union Catalog) หรือช่วยให้ทราบว่าหนังสือหรือวัสดุที่เกี่ยวข้องในแขนงวิชาที่เราต้องการมีหรือไม่ กว้างขวางแค่ใด มีใครเป็นผู้แต่ง ผู้พิมพ์ พิมพ์เมื่อใด ราคาเท่าไหร่
2) เพื่อช่วยในการพิสูจน์ตรวจสอบ (Identify และ Verify) ว่ารายละเอียดของหนังสือเล่มหนึ่ง ๆ ซึ่งประกอบด้วยชื่อเรื่อง ชื่อผู้เขียน ปีพิมพ์ สถานที่พิมพ์ จำนวนหน้า ภาพประกอบและข้อเท็จจริงอื่นๆ เป็นไปตามนั้นจริง ๆ หรือทำให้ทราบแน่ชัดว่าบัดนี้ได้มีการพิมพ์หนังสือ ชื่อนั้น ๆ ขึ้นแล้วโดยสำนักพิมพ์หนึ่ง
3) เพื่อช่วยในการเลือกหนังสือ (Selection) สำหรับบรรณารักษ์ บรรณานุกรมจะเป็นเครื่องมือช่วยในการคัดเลือกหนังสือที่ดีมีคุณค่าเหมาะสมกับผู้ใช้ห้องสมุด สำหรับผู้ใช้ห้องสมุดทั่วๆไป บรรณานุกรมจะเป็นเครื่องช่วยให้ผู้อ่านได้เลือกหนังสือที่ดี หรือเลือกหนังสือที่เกี่ยวข้องกับแขนงวิชาที่ผู้อ่านต้องการใช้ประกอบการศึกษาค้นคว้า ทั้งนี้เพราะบรรณานุกรมโดยทั่วไปมักจะให้คำวิจารณ์หรือให้เนื้อเรื่องเกี่ยวกับหนังสือหรือวัสดุที่ได้รวบรวมไว้อย่างย่อๆ ด้วย
วิธีใช้บรรณานุกรม
1) พิจารณาดูว่าเรื่องที่ต้องการเป็นบรรณานุกรมทั่วไปหรือเฉพาะวิชา
2) พิจารณาดูว่าข้อเท็จจริงที่ต้องการเป็นบรรณานุกรมลักษณะใด
2.1) เป็นบรรณานุกรมอย่างเดียว
2.2) เป็นบรรณานุกรมที่มีบรรณนิทัศน์สังเขป
2.3) เป็นบรรณานุกรมและมีคำวิจารณ์ประกอบ
3) เลือกใช้ประเภทบรรณานุกรมให้ถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริงที่ต้องการ
บรรณานุกรมสามารถจำแนกในลักษณะต่างๆ ได้ 7 ประเภท คือ
1. บรรณานุกรมทั่วไป เป็นบรรณานุกรมที่รวบรวมรายชื่อหนังสือ หนังสือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ต่างๆ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยไม่จำกัดว่าพิมพ์ในประเทศใด หรือภาษาใด
2. บรรณานุกรมแห่งชาติ เป็นบรรณานุกรมของหนังสือและสิ่งพิมพ์ ตลอดจนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ
3. บรรณานุกรมเพื่อการค้าหรือบรรณานุกรมของสำนักพิมพ์ เป็นบรรณานุกรมที่สำนักพิมพ์ บริษัทหรือร้านค้าจัดทำขึ้น เพื่อประโยชน์ในการขายหนังสือหรือสิ่งพิมพ์เหล่านั้น
4. บรรณานุกรมฉบับพิเศษ เป็นบรรณานุกรมที่จัดพิมพ์เฉพาะในหัวข้อใดหัวข้อหนึ่ง หรือสิ่งพิมพ์ของนักเขียนคนใดคนหนึ่ง
5. บรรณานุกรมเลือกสรร เป็นบรรณานุกรมที่เลือกสรรแล้วว่าดีที่สุด
6. บรรณานุกรมเฉพาะวิชา เป็นบรรณานุกรมที่รวบรวมรายชื่อหนังสือ สิ่งพิมพ์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เฉพาะสาขาวิชาใดวิชาหนึ่งเท่านั้น
7. บรรณานุกรมของบรรณานุกรม คือ หนังสือบรรณานุกรมที่ให้รายชื่อหนังสือที่เป็นบรรณานุกรมที่มีประโยชน์ โดยมากจัดทำในแขนงวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อบุคคลในวงการอาชีพหนึ่ง
บรรณานุกรมที่ควรรู้จัก
1. บรรณานุกรมสิ่งพิมพ์รัฐบาล โดย สำนักบรรณสารการพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
2. บรรณานุกรมสิ่งพิมพ์ของกระทรวงศึกษาธิการ โดย กระทรวงศึกษาธิการ
3. บรรณานุกรมสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ เล่ม 1 โดยสำนักเลขาธิการรัฐมนตรี
สรุป
บรรณานุกรม คือ หนังสือรวบรวมรายชื่อหนังสือ แต่ละชื่อจะบอกให้ทราบชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือ สถานที่พิมพ์ สำนักพิมพ์ หรือผู้จัดพิมพ์ ปีที่พิมพ์ จำนวนหน้า ราคา บางเล่มให้รายละเอียดเรื่องย่อของหนังสือด้วย ซึ่งเรียกว่า บรรณนิทัศน์ประกอบบรรณานุกรม มีประโยชน์สำหรับใช้เป็นคู่มือจัดหาและค้นหาทรัพยากรสารนิเทศทั้งหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนังสือบรรณานุกรมบางเล่มอาจรวบรวมเฉพาะชื่อหนังสือในแขนงวิชาใดวิชาหนึ่ง หรือสถาบันใดสถาบันหนึ่ง หรือรวมรายชื่อหนังสือทั่ว ๆ ไปก็ได้
นันทา วิทวุฒิศักดิ์. สารนิเทศและการศึกษาค้นคว้า. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : ดี.ดี.บุ๊คสโตร์,2536.
สุทธิลักษณ์ อำพันวงศ์. การใช้บริการห้องสมุดและการเขียนรายงาน
การค้นคว้า. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ:ไทยวัฒนาพานิช, 2535.
สุนิตย์ เย็นสบาย. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหนังสืออ้างอิง.
พิมพ์ครั้งที่2. กรุงเทพฯ:
ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์ คณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฎ
บ้านสมเด็จเจ้าพระยา,2543.
_____ . สารนิเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า. กรุงเทพฯ : ภาควิชา
บรรณารักษศาสตร์ คณะวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบัน
ราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา,2539.
ขอบคุณคะ
ข้อมูลดีๆๆจริงเลยคะ....
งานอาจารย์ หายากจริงๆ
แล้ว บรรณานุกรมสามารถจำแนกในลักษณะต่างๆ ได้ 7 ประเภท มีแบบตัวอย่างไมครับ