ฟังข่าว คนตกงานทั่วโลก แต่ยาไทยยังหล่นเต็มป่า ข้างถนน ไม่มีผู้ใหญ่คิดบริหารชาติ และภูมิปัญญา อย่างเร่งด่วน เสียโอกาส
กระทรวงสาธารณสุข และ มหาวิทยาลัย ควรให้งบประมาณ เร่งการผลิตยาสมุนไพร ที่ได้มาตรฐาน ให้คนไทยได้กินใช้ ในโอกาส ดี นาทีทองนี้ ที่คนตกงานมาก มีกำลังการเก็บยามาแปรรูป
มีแผนที่แหล่งทรัพยากร ยาไทย ที่ไหน ก็บอกให้คนที่ตกงานไปช่วยเก็บ แล้วส่งต่อมาแปรรูป ที่ โรงพยาบาลบางแห่ง ในเครือข่าย ส่งต่อไปแปรรูป กับ คณะเภสัชศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยในภูมิภาคต่างๆ
พร้อมกันนั้น ก็ให้ อาจารย์เภสัชศาสตร์ จัดอบรมความรู้ แพทย์ที่สนใจใช้ยา สมุนไพร จะได้สั่งให้ผป.ที่สนใจใช้
อีกทางหนึ่งให้กระจายยาผ่าน ร้านยาในชุมชน ในเครือข่าย และ หากแสดงบัตรประชาชน อย่างเดียว จะได้ยา ไม่เกิน จำนวนที่กำหนด เช่น 2-4 สัปดาห์ หากมีใบสั่งแพทย์มาพร้อมบัตรประชาชน ก็จะได้ยาไม่เกินคราวละ 2 เดือน
เรื่องเล่าวันนี้ มีลูกคนไข้มาเล่าเรื่อง พ่อ ที่รักษาโรคมะเร็งปอด ในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัย มีอาการไอจากก้อนมะเร็งไปเบียดกด ระคายหลอดลม ผป.ส่องกล้องตรวจแล้ว ตัดชิ้นเนื้อแล้ว ยืนยันเป็นมะเร็งปอดแน่นอน
ผป. อายุมากแล้ว 75 ปี ไม่เลือก ผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัด
สุดท้ายไป เลือก แพทย์แผนไทย ได้รับคำแนะนำ
งดของแสลง 1 เนื้อไก่ 2 กล้วย 3 ผลไม้ที่มีเมือกมาก
สิ่งที่กินได้ ผลไม้ที่มีเมือกน้อย
สมุนไพร ให้หา มะขามป้อม ดีปลี ทานปรับเปลี่ยน ตามฤดูกาล ขนาดไม่ตายตัว
ในฤดูหนาว ทานดีปลี เพิ่ม สักหน่อย 2-3 ดอก และ ลดลงในฤดูร้อน เหลือ 1-2 ดอก
ฤดูหนาว ทานมะขามป้อม พอประมาณ 3 ผล ต่อวัน และ เพิ่มมากขึ้น ในฤดูร้อน 6 ผล
แล้วหายาอายุวัฒนะไทยๆ กินผสมไปด้วย หน่อย
ผลปรากฎว่า คุณพ่อ อาการไอ หายทุเลา หน้าตาสดใส แม้ไม่หายจากโรคมะเร็งปอด แต่สุขสบาย เป็นที่พอใจ คุณพ่อไปวัดเก็บมะขามป้อม มาทานเอง ไป ตลาดซื้อหา ดีปลี มาแปรรูป ตากแห้งบดผงทาน
เพราะสมุนไพรไทย ดีดี ที่ทานแล้วได้ผล รพ.ไม่มีให้ ก็ดีไปอย่างคุณพ่อ กระตือรือล้น พึ่งพาตนเอง
โชคดี อาจารย์หมอโรคปอด ไม่ห้ามการทานสมุนไพร ซึ่งหาอาจารย์แพทย์เช่นนี้ได้ยาก และ อาจารย์ยังนัดติดตามอาการผป.
ไม่มีความเห็น