เมื่อคราวที่ได้ต้อนรับ “อาคันตุกะ” คือ Dr.Ka-poom ในคราวไปเป็นวิทยากรร่วม และสำรวจพื้นที่เพื่อทำวิจัย “การพัฒนาโมเดลที่ส่งเสริมการสร้างความรู้ของชุมชนในการพัฒนาสุขภาพสู่การพึ่งตนเอง” ที่พัทลุง ประมาณช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในคราวนั้นน้องเดมซึ่งได้ผูกมิตร ผูกเกลอเป็นพี่เป็นน้องกับ “พี่กะปุ๋ม” และ “น้องเดม” ก็ได้ร่วมต้อนรับด้วย
ระหว่างที่ “น้องเดม” และ “พี่กะปุ๋ม” ทำการสุนทรียสนทนา (Dialogue) กันด้วยภาษากลาง ๆ ในขณะที่คนหนึ่งถนัดภาษาอีสาน และอีกคนก็ถนัดภาษาใต้นั้น มีประเด็นหนึ่งที่พี่กะปุ๋มถามน้องเดม แล้วน้องเดมก็ตอบด้วยท่วงทีมั่นใจ...จนเกิดคำถามซ้ำว่า
...
พี่กะปุ๋ม: “รู้จริงอ่ะ”
น้องเดม: “ก็ดม ๆ เอา”
น้องเดมรีบตอบทันใดว่าเป็นภาษากลางสำเนียงใต้แบบเข้ม ๆ
พี่กะปุ๋ม: “ดม” คืออะไรเหรอ
เป็นคำสำคัญที่ผู้พี่รุกไล่ถามผู้น้อง
น้องเดม: “ดม” คือ แบบคิดอะไรได้ก็เอาเลยนั้น คิดได้ก็ตอบเลย ไม่หมัง (ลังเล) หรือจะเรียกว่า “เดา” นะ
เสียงน้องเดมตอบอย่างมั่นอกมั่นใจ เสียงดังจนผมกำลังทำกลุ่มอยู่ได้ยินอย่างชัดเจน
พี่กะปุ๋ม: อ่อ! ... แล้วไงอธิบายเสียยาว
ผู้พี่ตอบรับว่าเข้าใจ
ก่อนจะเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นกันต่อ เมื่อผมเสร็จสิ้นภารกิจแล้วก็ได้สอบถามเพื่อบันทึกไว้ เนื่องจากรู้สึกประทับใจการสนทนาภาษา อีสาน-ใต้ ก็ได้ความตามที่บันทึกไว้สรุปได้สั้น ๆ ว่า “ดม” คือ “เดา” นั่นเอง
จะมีบ้างไหมที่ทุกคน.....เกิดมาแล้วไม่เคยดมเลย
คุณดอกหญ้า
ดมไปได้เลย น้องเดมสนิทและเข้ากับใครได้ง่าย ๆ แต่น้องเดมจะกลัวครูภาษาอังกฤษอย่างเดียว เขาบอกว่าพูดไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ใช่ไม่รู้เรื่องตามความหมาย "กางหราง" ที่คุณดอกหญ้า ได้ให้ไว้ครับ แต่ไม่รู้เรื่องเพราะเดมฟังไม่รู้เรื่อง (ฮา)
คนบ้านไกล
ผมไม่แน่ใจนะหากถามถึงทุกคน แต่ผมคนหนึ่ง "ดม" บ่อยแน่ (ยิ้มเลยครับ) เหมือนเดมว่า ไม่หมัง(ลังเล) คิดได้ก็เอาเลย