ชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก...อาจจะหมดลมหายใจ...ไปเมื่อไหร่ไม่อาจทราบได้
แต่ช่วงเวลาที่มีอยู่ บางครั้งเราอาจลืมที่จะเหลียวแล...ดูแลคนข้างๆ
เรา
เราอาจมัวฟาดฟัน..อะไรบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่มุ่งหวัง..
บางครั้งเราอาจลืมไปว่า..เมื่อเราหรือเขาจากไป...สิ่งที่มุ่งหวัง..หาใช่จะเป็นสิ่งที่มีค่าไม่
เราลืม..หรือไม่ว่า..เราได้ดูแลและเก็บเกี่ยว..ห้วงเวลาแห่งความสุขไว้หรือไม่
เมื่อเขาหรือเธอจากไป...เรา...จะได้ไม่ต้องมาพะวงที่จะเสียดายหรือเสียใจ
ว่า...หากย้อนเวลาได้...เราน่าจะตักตวงช่วงเวลาที่มีอยู่ด้วยกัน...อย่างมี"สุข"
เห็นด้วยค่ะ ทำปัจจุบันให้มีความสุข
เพราะไม่รู้ว่าจะมีพรุ่งนี้สำหรับเราไหม
ขอบคุณสำหรับ..การมา ลปรร.นะคะ
บันทึกเขียน "ขึ้น" เพื่อเตือน "ตน"คะ...
อาจจะไม่ได้มุ่งหวังคะว่า..เขียนขึ้นเพื่อให้ใครอ่าน
หากแต่เขียนเมื่อ get และ get เมื่ออยากเขียนคะ
บันทึก...คะ..บันทึก.."บันทึกส่วนตัว"..ที่มีอยู่ในตัว"ตน"
หาใช่...บทความ ..หรือบทอะไร..ที่จำต้องสรรหา rating.."ผู้อ่าน"
หากใคร get จะเอาไปใช้...ก็ไม่ว่า..
หากไม่ get ก็ไม่ว่าอีกเช่นกันคะ
เพราะ..นี่คือ..บันทึก..ที่บ่งบอกเรื่องเล่า..เป็นตัว"ตน"เรา
ขอบคุณนะคะ...คุณ"ชายขอบ"
ที่มาร่วม ลปรร. อย่างสม่ำเสมอ..ข้อคิดตรงนี้น่า
จะนำไปใช้ได้ในคนที่ get และอยากเขียนนะคะ
คนข้างๆ อย่างคิดว่าเป็นของๆเราเสมอ
คนข้างๆก็มีความคิด ความฝัน และแนวทางดำเนินชีวิตของเขา
หากเขาพอใจให้อยู่ห่างๆในบางเรื่อง ก็ตามใจบ้างเถอะ จะได้ไม่เสียใจทีหลังว่า ทำไมไปทะเลาะกันซะเล่า น่าจะแยกๆ ต่างคนต่างอยู่ไปนานแล้ว
คุณไร้นาม
บันทึกนี้..เขียนขึ้นเพราะ
"ลืม"..มองคนข้างๆ
บางครั้ง...บางเวลา..เหลียวแลกันดู..ดี นะคะ
เพราะนึกถึงเฉพาะ "ตน"...อยู่เรื่อยไป...
ลืมไปว่า..อ้าว!..มีใครอีกคนกับลมหายใจที่เขามีอยู่
อยู่ข้างๆ...เรานี่เอง
From Dr.Ka-poom ที่ตอบให้ คุณไร้นาม
รู้สึกดีจังเลย เมื่อรู้ว่า Dr.Ka-poom คิดอะไรได้เช่นนี้ ดีครับดี ดีจัง
คุณดอกหญ้า
มองตนและคนอื่น..
ดีคะ...หากขอมองตนก่อน
มองให้เห็น..แล้วเราจะมองเห็นคนอื่นด้วย
ไม่ได้ตั้งใจจะมากวนอารมย์คุณ Dr.Ka-poom หรอกค่ะ เพียงแต่ว่าติดตามอ่านมาหลายบันทึก เข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง อันไหนที่เข้าใจก็สามารถเก็บสิ่งดีๆ ไว้ได้ อย่างเช่นบันทึกนี้ อาจเป็นเพราะถูก "จริต" พอดีก็เลยชอบ ทราบมาว่าคุณ Dr.Ka-poom จบจิตวิทยามา เป็นคนคิดเก่งเขียนเก่ง ก็เลยแอบหวังว่า อาจจะช่วยเขียนข้อคิดดีๆ อ่านง่ายๆ ทำนองนี้ให้คนที่ชอบอ่านแต่คิดไม่เก่งเขียนไม่เป็นอย่างดิฉัน (และคนอื่นๆ ) ได้ ลืมไปว่า เป็นบันทึก "ส่วนตัว" ไม่ใช่บทความ
ขออภัยที่รบกวนค่ะ
คุณ b1
แหม! ต้องขออภัยจริงๆ..นะคะ..หากสิ่งที่คิดหรือเขียน..ทำให้ต้อง..."รู้สึก"...อะไร...หากนั่นเป็นสิ่งที่อยู่ในใจ...ที่ไม่ซ่อนเร้น(ด้วยความจริงใจ..ด้วยความจริง)
ดีใจที่มีคนติดตาม..และบอกกล่าว..หากแต่..อยากบอกว่า "ตน" คนนี้ก็เขียนไม่ "เก่ง" หรอกคะ..(ยิ้มๆ) ยิ่งต้องเขียนเป็นความเรียงด้วยแล้ว..ขอบอกตรงๆ..คะว่า " อึดอัดมาก" หากแต่ตนเองชอบเขียนบันทึก...ปกติเขียนใส่สมุด...นั่งๆ..นึกๆ..อะไรได้ก็เขียน..หากแต่วันนี้...ย้ายจากสมุดมาที่ Blog ก็แค่นั้น...
อย่างบันทึกนี้..ข้อเขียน..เขียนจากความรู้สึกไม่ได้กลั่นกรองอะไรเลย..เวลาเขียนก็เขียนจากสิ่งที่ get และเป็นสิ่งที่ตนเองฝึกฝนตนเสมอ...จึงบางครั้งอาจดูเหมือนไม่เป็นวิชาการ..เพราะ "ตัวเองก็เบื่อวิชาการ"...
ปล. คุณชายขอบบ่นเป็นคนแรกคะว่า..เขียนอะไรอ่านเข้าใจยากจัง...ทำไมไม่เขียนให้เป็นมาม่า...ดิฉันก็ตอบว่าหากใครๆ ทานแต่มาม่า..ข้าวยำก็ไม่มีใครทานสิ...คุณชายขอบเลยบอกว่า..อยากเขียนอะไรก้เขียนเถอะ...เขียนอย่างที่เราเป็น...ให้สุขใจก็พอแล้ว-แด่ กัลยมิตรทุกท่าน
เพิ่งมีเวลาเข้ามาอ่าน...เห็นด้วยกับความคิด
ขอชื่นชมกับข้อความที่ประทับใจ
..เราน่าจะตักตวงช่วงเวลาที่มีอยู่ด้วยกัน...อย่างมี"สุข" ..
สร้างสุขให้ชีวิตดีกว่าสรรหาสิ่งบันทอนใจค่ะ
คุณ"n-amile"
..เราน่าจะตักตวงช่วงเวลาที่มีอยู่ด้วยกัน...อย่างมี"สุข" ..
สร้างสุขให้ชีวิตดีกว่าสรรหาสิ่งบันทอนใจค่ะ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง...คะ
หากยามใดที่ท้อแท้หากได้ดูแลกันบ้าง
ก็ดีนะคะ